ในตอนบ่าย.
เวลา 14:30 น.
ดงซูบินเดินขึ้นมาที่ห้องพักฟื้นของเขาด้วยอาการหอบขณะที่เขาแบกเหรียญกองใหญ่กลับมาด้วย เขาทิ้งเหรียญกองใหญ่ไว้ที่พื้นข้างเตียงต่อหน้าชายชราและลูกชายของเขา เสียงดังกริ๊ก……เสียงดังก้อง……เหรียญเหล่านี้มีเสียงดังเมื่อมันหล่นลงบนพื้น
ชายชราคนนั้นตกตะลึง:“ หลานชายไปทำอะไรมา?”
ดงซูบินที่กำลังเหนื่อยอยู่ในตอนนั้นหันมาหาชายชราแล้วยิ้มออกมา:“ ผมลงไปซื้อเหรียญโบราณมา”
ลูกชายของชายชราจึงถามเขาต่อไปว่า “ ทำไมนายถึงซื้อเหรียญมามากมายขนาดนี้กัน”
“ เหอ……ผมแค่ซื่อมาเล่นๆเฉยๆ” ดงซูบินมองเห็นโน๊ตบุ๊คซัมซุงเด็กผู้ชายคนนั้นข้างเตียงของเขา ดงซูบินจึงถามว่า:“ พี่ชาย! ผมขอยืมโน๊ตบุ๊คเข้าไปอ่านเว็บไซต์ได้ใช่ไหม หากพี่ชายไม่ได้ใช้โน๊ตบุ๊คตอนนี้ผมขอยืมใช้มันสักแปบจะได้ไหม?”
ลูกชายของชายชราจึงหันไปถือโน๊ตบุ๊คขึ้นมาและยื่นไปที่ดงซูบิน:“ แน่นอน! ได้เลยสิ.”
“ขอบคุณครับ.”
“ ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวของนายช่วยพ่อของฉันเทน้ำและล้างพวกถ้วยช้อนต่างๆตอนที่ฉันไม่อยู่ ฉันตั้งหากที่จะต้องขอบคุณ”
เพื่อป้องกันไม่ให้พยาบาลและแพทย์ซุบซิบเรื่องของเขา ดงซูบินจึงไม่กล้าที่จะเทเหรียญทั้งหมดออก เขาวางกองหรียญไว้ที่มุมข้างเตียงและหยิบเหรียญออกมาทีละนิดเพื่อนับมัน หลังจากการนับเหรียญไปแล้วดงซูบินก็โมโหขึ้นมาทันที่ ‘1,400 เหรียญอะไรกัน มันมีไม่ถึง 1,000 เหรียญในกองนี้เลย เวรเอ๋ย’
ก่อนที่ดงซูบินจะเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เขาเริ่มที่จะดูรูปเหรียญโบราณในอินเทอร์เน็ตและเปรียบเทียบกับเหรียญที่เขามี
เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวกับวัตถุโบราณดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงเป็นทางออกของเขา
เวลาผ่านไป 5 นาที……
10 นาที……
20 นาที……
ขณะที่ดงซูบินตรวจดูเหรียญแต่ละเหรียญอยู่นั้น เขาก็ตระหนักได้ว่ามีเหรียญมากมายที่ตรงกับอินเทอร์เน็ตอยู่ในกองเหรียญของเขา
มันมีเหรียญที่เป็นที่ต้องการของนักสะสม เช่น ชองหนิงโปเปา, ไก่หยวนทงเปา, ซวนเหอตงเปา, เหรียญโลหะและทองแดงผสมอซึ่งอยู่ในกองเหรียญของเขา
ดงซูบินเริ่มอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการสะสมเหรียญในเว็บไซต์และฟอรัมต่างๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็แยกเหรียญออกมาเป็นชุดๆ เหรียญไหนมีมูลค่ามากก็ถูกหยิบออกเพื่อให้สังเกตได้ง่าย เขาเรียงลำดับตามราชวงศ์ เช่น ซ่ง ถัง และตามประเภทเหรียญ เหรียญส่วนใหญ่มีค่าไม่มากนัก อย่างมากมันมีมูลค่าไม่กี่หยวนต่อเหรียญ บางเหรียญไม่มีแม้แต่มูลค่า
ดงซูบินเลือกเหรียญที่ไร้ค่าเหล่านั้นแล้วนำไปใส่ในถุงอื่น
1 เหรียญ……
10 เหรียญ……
50 เหรียญ……
นี่เป็นงานที่เหนื่อยและน่าเบื่อมาก มันต้องใช้ความอดทนสูง
หลังจากเรียงเหรียญตลอดบ่าย รถเข็นอาหารก็มาถึงหน้าห้องพักฟื้นตอนนี้มันถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว
ดงซูบินหยุดนับเหรียญชั่วครู่เพื่อพักสมองของเขา และทานอาหารเย็น หลังอาหารเย็นเขายังคงร่อนเหรียญเพื่อหาเหรียญที่มูลค่าต่อไป
330 เหรียญ……
350 เหรียญ……
410 เหรียญ……
เขาได้นำเหรียญที่ไม่มีมูลค่ามากกว่า 500 เหรียญออกไปจากกอง เหลือเพียงประมาณ 300 เหรียญเท่านั้นที่พอจะมีมูลค่าอยู่บาง
เมื่อถึงเวลา 19.30 น. ฉูหยวนก็โทรมาหาดงซูบิน และบอกกับดงซูบิรว่าเธอยังทำงานอยู่ เธอคงจะไม่ได้กลับไปหาเขาในเย็นวันนี้ พรุ่งนี้เช้าเธอจะแวะไปหาดงซูบินแทน ซึ่งดงซูบินเองก็บอกว่าถ้าเธอยุ่งก็ไม่ต้องมาก็ได้ แต่ฉูหยวนไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นและวางสายไป
คืนนั้นลูกชายของชายชราไม่ได้ออกไปทำธุระ เขายังคงอยู่ที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วยกับพ่อของเขา ทำให้ดงซูบินขอยืมโน๊ตบุ๊คของเขาเพื่อค้นหาข้อมูลต่อไป เขาเองก็ใจดีให้ยืมและบอกให้ดงซูบินใช้มันได้เต็มที่ และบอกว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าอินเทอร์เน็ต เพราะเขาจะได้เงินพวกนั้นคืนจากบริษัทอยู่แล้ว ทำให้ดงซูบินนั้นขอบคุณเขาอีกครั้ง ก่อนที่ดงซูบินจะคิดในใจว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องเพื่ออนาคตต้องได้ใช้มันแน่ๆ
ดงซูบินนั้นเป็นคนใจร้อนและไม่ใช่พวกที่มีนิสัยแบบดินผอกหางหมู เขาตัดสินใจที่จะกรองหาเหรียญตลอดทั้งคืน ซึ่งเขาคิดว่าเขาคงนอนไม่หลับเว้นแต่เขาจะพบเหรียญที่มีมูลค่า
ดังนั้นเขาจึงค้นหาเหรียญเหล่านั้นอย่างหนัก ต่อไป…….
580 เหรียญ……
650 เหรียญ……
670 เหรียญ……
เหรียญที่เหลือค่อยๆถูกจัดอย่างช้าๆ ตัวอย่างเช่น ชองหนิง โปเปา ไก่หยวนทง เปาซวน เหอตงเปา เหรียญประเภทนี้มีหลายรูปแบบ มันมาในยุคที่แตกต่างกันและมาจากการปกครองในแต่ล่ะช่วงของประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันด้วย มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกความแตกต่างของเหรียญเหล่านี้ได้ในทันทีที่เห็นมัน
ดงซูบินเริ่มตรวจสอบเหรียญทีละเหรียญพร้อมไปกับรูปภาพบนอินเทอร์เน็ต
‘อืมม……เหรียญนี้มาจากราชวงศ์ชิง มีการหมุนเวียนของเหรียญจำนวนมากในตลาด ผ่าน……’
‘โอ้! เหรียญนี้มีรอยบิ่นและสนิมเยอะเกินไป แม้ว่าเหรียญประเภทนี้จะมีค่า แต่ก็ราคาก็ไม่สูงมากนัก ผ่าน ……’
3 ชั่วโมงต่อมา เขายังไม่พบเหรียญที่มีค่าใด ๆเลย
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ดงซูบินเริ่มหาวและกำลังจะยอมแพ้ แต่เขากับสังเกตเห็นเหรียญทองแดงที่เป็นสนิมอยู่ในเหรียญที่เหลืออยู่ เหรียญนี้เรียกว่า“ เจียงหยวนเปา” เขาตรวจสอบมันผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งดูเหมือนมันมีมูลค่าสูงที่สุดในเหรียญทุกประเภท โดยมูลค่าของมันแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิตเหรียญและขนาด ความแตกต่างของความกว้างของเหรียญด้วย ดงซูบินจึงหยิบเหรียญนั้นแล้วลองเปรียบเทียบกับคำอธิบายบนเว็บไซต์ ‘ไม่ใช่นี่… .. ไม่ใช่อันนี้แน่ๆ……มันไม่ตรงกับอันนี้ด้วย……’
หลังจากมองภาพทั้งหมดในเว็บไซต์เขาไม่สามารถพบเหรียญใด ๆ ที่เหมือนกับเหรียญที่เขาถืออยู่
เขาลองไปดูที่เว็บไซต์อื่นและพยายามระบุหาเหรียญในมือของเขา เขาเข้าหาเว็บไซต์ประมูลและเห็นคำอธิบายของเหรียญที่ตรงกับที่เขามีอยู่ในมือของเขาในตอนนี้
เหรียญจากราชวงศ์ซ่งใต้ เหรียญ10 แบบเจียนหยวนเปา มีรูสี่เหลี่ยม เส้นผ่านศูนย์กลาง 54 มิลลิเมตร
จากภาพสี คำอธิบายและเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบจะเหมือนกับเหรียญที่เขาถืออยู่ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือภาพในเว็บไซต์ประมูลนั้นสมบูรณ์แบบ ไม่มีสนิมบนเหรียญเลย แต่เหรียญของดงซูบินนั้นมีสนิมเพียงเล็กน้อย
ดงซูบินเลื่อนลงเพื่อดูราคาที่ประมูล มันทำให้เขาตกตะลึงในทันที
ราคาเริ่มต้น: 30,000 หยวน
ราคาซื้อขาย: 62,000 หยวน
‘โอ้ไม่นะ! ราคามันสูงมาก!’
‘ใช่แล้ว! นี้ต้องเป็นเหรียญที่อยู่บนเว็บแน่ๆ’
‘นี้น่าจะต้องเป็นหนึ่งในเหรียญที่อาจารย์เฉิงหยิบขึ้นมา!’
ดงซูบินเขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเขาจ้องไปที่ราคาทำประมูลบนเว็บไซต์ เขาคิดว่าเหรียญจะมีมูลค่าประมาณ 8,000 ถึง 10,000 หยวน ใครจะคิดว่าเหรียญจะมีมูลค่ามากกว่า 60,000 หยวน ‘รอก่อน……ราคาของการประมูลน่าจะสูงขึ้นเนื่องจากยังมีค่าคอมมิชชั่นและค่าใช้จ่ายอื่นอีก มูลค่าที่แท้จริงควรต่ำกว่า 60,000 หยวน แต่เหรียญนี้อาจเป็นเหรียญปลอมก็ได้ เพราะมันมีเหรียญปลอมอยู่มากมายในตอนนี้ แต่ก็ไม่น่าจะใช่เหรียญปลอม แม่ว่าอาจารย์เฉิงจะดูโง่ๆ แต่เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหรียญโบราณนะ’
ดงซูบินวางเหรียญไว้และตรวจสอบเหรียญที่เหลือบนอินเทอร์เน็ตต่อไป
เหรียญที่เหลือมีมูลค่าเพียง 1 ถึง 2 หยวนต่อเหรียญเท่านั้น
ดงซูบิน นำเหรียญทั้งหมดไว้ในผ้าและมัดไว้ใต้เตียงของเขา เขาหยิบเหรียญเจียงหยวนเปาออกมาเพื่อตรวจดูมันอย่างใกล้ชิด ‘อาจารย์เฉิงคนนั้นเขาหยิบมันขึ้นมาถึง 9 เหรียญเมื่อวานก่อน เพื่อพยายามหลอกพ่อค้าและลูกค้าคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆคือเหรียญเจียงหยวนเปาสินะ’
‘ฮ่า ๆ ๆ ๆ …… ฉันทำสำเร็จแล้ว……’
หมายเหตุของนักแปล:
รายชื่อเหรียญโบราณของจีน