ในตอนเช้าของวันถัดมา
ดงซูบินเองก็กำลังนั่งอยู่บนโซฟาเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอก
โดยมีฉูยวนที่ทำตัวเหมือนเธอเป็นจะต้องเป็นคนที่จะไปทำการสอบเสียเอง เธอดูประหม่ามาก:“ ซูบิน! ระหว่างที่นายกำลังจะตอบคำถามช่วยดูเวลาในการสอบด้วยนะว่าจะทำมันได้ทันไม หากนายไม่รู้คำตอบก็ให้เดาแบบสุ่มๆไปเลยและไปยังคำถามต่อไป ฉันได้ยินมาว่าการสอบครั้งนี้มีเวลาน้อยมาก คนส่วนใหญ่จะทำไม่ทันกัน โอ! นายเอาดินสอไปแล้วใช่ไม? อย่าลืมพกดินสอติดตัวไปด้วย แล้วยางลบกับดินสอ 2B ล่ะ? นายนำบัตรประจำตัวของนายไปรึยัง? เอาให้แน่ใจนะว่านายจะไม่ลืมเอาอะไร?” ฉูยวนเองก็ช่วยดงซูบินจัดการแต่งตัวของเขาและเช็ดรองเท้าด้วยผ้าชุบน้ำอีกทีหนึ่ง
ดงซูบิรเขาตกใจมาก“ หยุด! หยุด! เดียวฉันช็ดมันเอง”
ฉูยวนเธอเองก็ยังคงเช็ดรองเท้าอย่างระมัดระวังต่อไปและพูดเบา ๆ :“ การสอบเริ่มตอน 9.00 น. นายควรใช้โอกาสนี้เพื่อทบทวนข้อสอบในนาทีสุดท้าย”
ฉูยวนเธอนั้นทำตัวเหมือนพี่สาวของเขา
แม่ของดงซูบินก็เดินออกจากห้องครัวพร้อมถุงๆหนึ่ง “ แม่เอาผลไม้กับน้ำไว้ในถุงเผื่อลูกจะหิวระหว่างทาง”
มีน้ำแร่หนึ่งขวดและลูกแอปเปิ้ลอยู่ในกระเป๋า ฉูยวนเองก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วพูดว่า:“ ป้าลวน! หนูจะไปที่สถานที่จัดสอบพร้อมกับซูบินหลังจากสอบภาคเช้าเสร็จ หนูจะพาเขาออกไปทานอาหารกลางวัน เราจะไม่กลับมาทานอาหารกลางวันที่บ้านเนื่องจากมันไกลจากที่สอบอยู่มาก และอีกอย่างซูบินเองยังคงที่จะต้องสอบตอนบ่ายต่อ”
แม่ของดงซูบินเลยถามว่า:“วันนี้หนูไม่ไปทำงานหรอ?”
ฉูยวนเองจึงตอบว่า:“ วันนี้หนูหยุดพักหนึ่งวัน”
แม่ขอดงซูบินพูดต่อว่า:“จริงๆหนูไม่จำเป็นต้องหยุดงานหรอก แม่ไปกับเขาได้”
ดงซูบินพูดเพิ่มเติมขึ้นมา:“ ใช่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องมากับฉันหรอก”
“ เจ้าตัวร้าย!” ฉูยวนจับแก้มของดงซูบินอย่างสนุกสนาน “พี่สาวของเธอจะดูแลเธอเอง คุณป้าพักผ่อนเถอะค่ะ ช่วงนี้อากาศมันร้อนเดียวจะเป็นความดันเปล่าๆถ้าไป พักผ่อนอยู่ที่บ้านตามสบายนะคะ”
“ เอ่อ!…….” แม่ของดงซูบินเองก็สนิทกับฉูยวนและไม่ได้โต้แย้งเพิ่มเติม:“หนูฉูยวน! ป้าต้องขอโทษที่รบกวนหนูอีกแล้ว ถ้าอย่างงั้นซูบินลูกแม่ขอให้ลูกทำให้ข้อสอบให้สุดความสามารถของลูกเลยนะ”
ดงซูบิน พยักหน้า:“ ครับ”
โรงเรียนมัธยมปักกิ่งหมายเลข 15
หลังจากเลี้ยวจากถนนซีฉี่ แล้วจะเห็นป้ายแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่หน้าประตูโรงเรียน – สถานที่สอบของข้าราชการพลเรือนโรงเรียนมัธยมปักกิ่ง หมายเลข 15 นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนสู่ภายนอกที่ระบุว่า“ โปรดแสดงบัตรประจำตัวประชาชนและจดหมายตอบรับของคุณ” และ“ ทำการสอบให้ดีที่สุด” มีคนมากมายที่ยืนอยู่ข้างนอก ผู้ปกครองบางคนอยู่ที่นั่นเพื่อส่งลูกของพวกเขาสำหรับการสอบนี้และภรรยาบางคนก็ส่งสามีเช่นกัน แม้แต่ครอบครัวที่มีสมาชิกมากกว่า 10 คนก็กำลังรอลูกอยู่
เด็ก ๆ เป็นความหวังของพ่อแม่ หากพวกเขาสามารถเป็นข้าราชการพลเรือนได้ ผู้ปกครองของพวกเขาจะภูมิใจในตัวพวกเขา
ดงซูบินและฉูยวน ยืนอยู่นอกโรงเรียนหลังจากลงจากรถแท็กซี่
ทันใดนั้นดวงตาของคนที่ยืนรออยู่ด้านนอกก็หันกันมาที่ ฉูยวน
ฉูยวนเองเธอดูสวยมากและไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เธอจะดึงดูดสายตาผู้ชายทุกคน เธอเคยชินกับเรื่องนี้และเธอก็พูดเหมือนแม่ของดงซูบิน:“ อย่ากังวลนายแค่พยายามทำให้ดีที่สุด หากนายทำได้ ฉันจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ให้นายเอง นายชอบอาหารตะวันตกหรืออาหารจีนล่ะ โอ้! นายยังจำสิ่งที่ฉันบอกนายบนรถแท็กซี่ได้ไหม นายต้องมั่นดูเวลาการสอบไว้ การสอบนี้มีแบบเลือกตอบเพียง 2 ชั่วโมง นายต้องวางแผนเวลาของนายอย่างรอบคอบด้วยนะ”
ดงซูบินยิ้มแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า:“ ใช่! ฉันจำได้แล้ว ฉันไม่สามารถเอามือถือเข้าไปยังงั้นฉันขอฝากมันไว้กับเธอล่ะกันนะ”
ทันใดนั้นมีคนเรียกชื่อฉูยวนจากด้านหลัง พวกเขาหันหลังกลับและเห็นป้าซูและเสี่ยวตง
“ ฉูยวน! เธอก็มาที่ด้วยหรอ? อ้าว นั้นซูบินหรอนั้น?” พวกเขาแตกต่างจากผู้ปกครองคนอื่น ๆ ป้าซูดูสงบและผ่อนคลาย ดูเหมือนว่าเธอจะมีความมั่นใจว่าลูกชายของเธอจะทำได้“ นั่นเยี่ยมมาก! เมื่อเสี่ยวตงและซูบินไปสอบเราก็สามารถไปดื่มชาด้วยกันได้ นานมากแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน” เธอหันไปหาดงซูบิน “ ทำให้ดีที่สุดน่ะ” แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น เธอก็ไม่เคยคาดหวังว่าดงซูบินนั้นจะสอบข้อเขียนได้ ขนาดลูกชายของเธอยังต้องมาสอบครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง มันแถบเป็นไปไม่ได้เลยที่ซูบินจะสอบผ่านในครั้งแรก?
เสี่ยงตงเองก็ไม่สนใจดงซูบินเลย เขาหัดพูดกับฉูยวน:“ พี่สาวฉู! ทำไมคุณถึงมากับหมอนี้?” เขาเองไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมฉูยวนต้องมาสนิทกับครอบครัวของดงซูบิน เพราะเธอไม่เคยเป็นอย่างงี้มาก่อน
ดงซูบินกำลังคิดในใจของเขา ‘ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่กับฉัน หมอนี้จะคิดว่าเธอจะมาที่นี่กับนายรึยังไง?’
ฉูยวนมีทัศนคติที่ต่างจากซูบิน เธอตอบอย่างเฉยเมยกับแม่และลูกชายคู่นั้นและหันไปหาดงซูบิน เธอยื่นถุงผ้าเล็ก ๆ ไว้ในมือของเขา “ ฉันได้รับสิ่งนี้มาจากใครบางคน มันจะทำให้นายโชคดีในวันนี้”
ดงซูบิน รู้สึกกังวลกับฉูยวน สำหรับเขาเองเขาหันกลับมาอย่างช้า ๆ และเดินผ่านประตูโรงเรียนเข้าไป
โรงเรียนมี 3 อาคารและสถานที่ทดสอบอยู่ทางทิศตะวันตกของอาคาร
เมื่อดงซูบินเข้ามาในอาคารเขาสังเกตเห็นว่าเสี่ยวตงเดินอยู่ใกล้ๆเขา เขาหันไปหาเสี่ยวตงและถามว่า:“นายเกือบจะได้คะแนนเต็มในการสอบระดับชาติเมื่อปีที่แล้วหรอ? มันมีคำถามเชิงตรรกะอยู่กี่ข้ออ่ะ?” ทั้งคู่มีความขุ่นเคืองกันและดงซูบินก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะดีกับเขา
เสี่ยวตงมองหน้าเขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดและตอบกลับอย่างไม่เป็นมิตร:“ มีอะไรผิดปกติอย่างงั้นหรอ? นายอิจฉา?”
ดงซูบินเย้ยหยัน:“ มีอะไร? นายหึงหรอ?”
เสียวตง:“ นายต้องการเป็นข้าราชการใช่ไม บางทีในชีวิตต่อไปของนาย นายต้องการเดิมพันเพื่อดูว่าใครจะเข้าสู่หน่วยงานของรัฐก่อนกัน”
ดงซูบินรู้สึกได้ถึงเลือดที่เดือดขึ้นหน้าของเขา:“ โอเค! เราจะได้เห็นดีกัน!”
เสี่ยวตงยังคงพูดจาเย้ยหยันต่อจากนั้นก็เดินไปที่ห้องของเขา เขาเตรียมพร้อมสำหรับการสอบนี้โดยเฉพาะการทดสอบแบบเลือกตอบ เขามั่นใจว่าเขาจะทำคะแนนได้ดีและไม่มีทางแพ้ให้กับดงซูบินที่พึงมาสอบเป็นครั้งแรก
ดงซูบินไม่ได้มองหาห้องของเขาเอง เขายืนอยู่ที่นั่นดูเสี่ยวตง เมื่อเขาอยู่ห่างออกไปประมาณ 7 ถึง 8 เมตรดงซูบินก็เริ่มตามเขาไป เขามองไปที่ด้านหลังของเสี่ยวตงอย่างประหม่า เขาเฝ้าดูขณะที่เสี่ยวตงกลับตัวและเข้าไปในห้องตามทางเดินดงซูบิน หยุดและมองหาหมายเลขห้องของเขา เขาเดินเข้าไปใกล้และมองดูที่นั่งของเสี่ยวตง อืมม … กลางแถวที่ 2 ไม่ไกลจากประตู
เสี่ยวตงเห็นดงซู่ปิงยืนอยู่ข้างนอกห้องและขมวดคิ้ว:“ คุณต้องการอะไร”
ดงซูบินยิ้ม:“ ไม่มีอะไรเลย ฉันแค่อยากรู้ว่านายนั่งอยู่ตรงไหน”
“ นั่นเกี่ยวข้องกับนายอย่างไร” เสี่ยวตงจ้องมองเขา “ เราทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกัน นายคิดที่จะลอกคำตอบของฉันหรอ?”
ดงซูบินยักไหล่:“ อาจจะ…. ระวังแผ่นคำตอบของนายไว้”
“ นายเป็นบ้าหรอเนี่ย” เสี่ยวตงเพิกเฉยเขาและเริ่มเตรียมเครื่องเขียนของเขา
หลังจากออกจากห้องของเสี่ยวตงแล้วดงซูบิน ก็เริ่มมองหาห้องของเขาเอง ห้อง026 นั้นคือห้องของเขานั้นอยู่ขึ้นไปสองชั้นจากชั้นของเสี่ยวตง
ดงซูบินเองเจอที่นั่งของเขาในห้องของเขามันเป็นแถวที่สามจากผนัง
ผู้ตรวจสอบเข้าห้องสอบและสังเกตผู้สมัครทุกคนในห้อง เขาต้องการให้แน่ใจว่าไม่มีใครนำอุปกรณ์โกงมา
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้หน้าต่างก็เหงื่อออกเยอะมาก
หญิงสาวในแถวหน้ารู้สึกกระสับกระส่ายอย่างไม่สบายใจ
ชายคนหนึ่งนั่งที่ด้านหลังของห้องกำลังตบหน้าของเขาด้วยมือทั้งสอง
ดงซูบินเองก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดภายในห้อง เขามองไปรอบ ๆห้องที่เต็มไปด้วยการถอนหายใจ เขาสงบสติอารมณ์และกล่าวคำอธิษฐานอย่างเงียบ ๆ ในใจเขาคิดว่า“ ในที่สุดนี่คือวันที่ฉันรอมานาน โปรดให้คำถามง่ายๆมานะ……”