Ranker’s Return – ตอนที่ 11

ฮยอนนูขยี้ตาของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ตอนนี้เขาปรารถนาอย่างสุดหัวใจว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
 
“ไม่นะ!”
 
‘ขอร้องล่ะ อย่าทำกับฉันแบบนี้เลย!’
 
ฮยอนนูอยากจะให้ใครสักคนมาสะกิดบอกว่า ‘ตื่นสิ! นายกำลังฝันร้ายอยู่นะ’ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าสัตว์เลี้ยงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าจะเป็น ‘หมีเท็ดดี้ ใช่แล้วล่ะ! หมีเท็ดดี้’ รูปร่างของมันไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาหมีทั่วไปเลย สิ่งที่เห็นถึงกับทำให้ฮยอนนูหมดเรี่ยวหมดแรง ‘นี่มันไม่ใช่ความจริง! ต้องเป็นความฝัน ต้องเป็นความฝันแน่นอน!’ เขาคุกเข่าลงแล้วค่อย ๆ หลับตาอธิษฐานให้สิ่งนี้เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
 
“นี่ไม่ใช่ความฝันหรอกนะ”
 
“??” ฮยอนนูลืมตาขึ้นโดยฉับพลันทันทีที่เขาได้ยินเสียงพูดมาจากไหนสักแห่ง
 
“ลืมตาขึ้นมาได้แล้ว เจ้าโง่นี่…” เจ้าหมีเท็ดดี้ที่อยู่ตรงหน้ากำลังพูดกับเขา
 
“นี่นายพูดได้ด้วยเหรอ?”
 
“อะไรกัน…นายคิดว่าฉันจะพูดไม่ได้งั้นเหรอ?” เจ้าหมีเท็ดดี้ถามกลับ หลังจากนั้นมันก็พูดเสริมขึ้นมาว่า “พอฉันปรากฏตัวออกมาก็คุกเข่าทำความเคารพกันเลยงั้นเหรอ? ยอดเยี่ยมมากเจ้ามนุษย์!”
 
ฮยอนนูอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองกำลังคุยอยู่กับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหมีเท็ดดี้ที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ยอมให้ฮยอนนูมีเวลาได้อึ้งเลยสักวินาทีเดียว มันยิงคำพูดที่ทำให้จิตใจของฮยอนนูย่ำแย่ลงไปอีกเป็นการซ้ำเติม “จากนี้ไปนายคือข้ารับใช้ของฉัน เอาล่ะ รีบ ๆ พาฉันไปด้วยได้แล้ว เจ้ามนุษย์โง่”
 
ในขณะที่มันกำลังพูดอยู่นั้น เจ้าหมีเท็ดดี้ก็กระโดดขึ้นมานั่งบนไหล่ของฮยอนนูพร้อมทั้งเอามือกอดหัวของเขาไว้
 
“ไปลุยกันเถอะ…เจ้ามนุษย์!”
 
ฮยอนนูทำตามคำพูดของเจ้าหมีเท็ดดี้โดยไม่รู้ตัว ทว่าหลังจากที่ได้สติคืนมาแล้ว เขาก็รีบโยนมันลงไปที่พื้นทันที
 
“เจ้าตุ๊กตาหมีบ้านี่! ไม่รู้เลยสินะว่ากำลังเล่นกับใครอยู่…”
 
ฮยอนนูเดินลากคอเจ้าหมีเท็ดดี้เข้าไปในตรอกแบบเงียบ ๆ หลังจากผ่านไปสิบนาทีพวกเขาก็เดินออกมาจากตรอก ท่าทีของเจ้าตุ๊กตาหมีตัวนี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เจ้าหมีเท็ดดี้มีท่าทีที่เป็นมิตรกับฮยอนนูมากขึ้นจนเขาเองยังรู้สึกประหลาดใจ  อย่างไรก็ตามการใช้ถ้อยคำและโทนเสียงที่มันพูดกับเขาก็ยังย่ำแย่เหมือนเดิม
 
“ไอ้เจ้านายท่านคนนี้น่าจะตบผู้หญิงที่เดินผ่านไปผ่านมาได้แบบไม่ลังเลเลยสินะ” เจ้าตุ๊กตาหมีเท็ดดี้บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างกับว่าฮยอนนูจะไม่ได้ยินสิ่งที่มันบ่นเขาอย่างนั้นแหละ…
 
“ถึงขนาดกล้าทำแบบนี้กับทายาทแห่งเกาะบุงบุงอย่างเราได้ เหมาะแล้วกับการเป็นไอ้เจ้านายท่านของฉัน”
 
ฮยอนนูค่อย ๆ เดินตามหลังเจ้าตุ๊กตาหมีตัวนี้ไปแบบเงียบ ๆ เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เจ้าหมีเท็ดดี้พูด ที่ฮยอนนูไม่ได้พูดอะไรตอบโต้ก็เพราะว่าเขากำลังตรวจสอบข้อมูลของเจ้าตุ๊กตาหมีตัวนี้อยู่นั่นเอง
 
[หน้าต่างข้อมูลสัตว์เลี้ยง]
 
[ชื่อ: ??? ]
 
เลเวล: 5
 
เผ่าพันธุ์: ตุ๊กตาหมี
 
ฉายา: ทายาทแห่งเกาะบุงบุง
 
ค่าสเตตัส: พละกำลัง 15 พลังโจมตีทางกายภาพ 30 ความว่องไว 15 พลังเวทมนตร์ 50
 
ทายาทแห่งเกาะบุงบุงผู้มีความสามารถพิเศษทางกายภาพในรูปเดียวกันกับหมี และพลังเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งอันเป็นลักษณะเด่นของเผ่าพันธุ์นี้ การกระทำที่แสดงออกมาของมันบ่งบอกถึงความรักต่อตัวผู้เป็นเจ้าของอย่างมาก แม้ว่าจะดูตรงข้ามกับนิสัยที่ชอบพูดจาอย่างยโสโอหังก็ตาม
 
ค่าความสัมพันธ์: 0
 
ทักษะที่มี: การเคลื่อนที่ของหมี, คำอวยพรแห่งป่า
 
“ว้าว!…” ฮยอนนูรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นค่าสเตตัสของมัน มาตรฐานของเจ้าหมีเท็ดดี้ตัวนี้จริง ๆ แล้วอาจสูงกว่าที่เขาคาดคิด เนื่องจากค่าสเตตัสพื้นฐานของมันสูงกว่าปกติ อีกทั้งยังมีจุดเด่นและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมและเป็นประโยชน์อย่างมาก ‘ดูดี ๆ แล้ว เจ้านี่ก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่’
 
“ไอ้เจ้านายท่าน รีบ ๆ พาฉันไปด้วยได้แล้ว!”
 
จะเสียอย่างเดียวก็เรื่องนิสัยชอบพูดจาโอหังของมันนี่แหละ…“จากนี้ไปชื่อของนายคือทังอีก็แล้วกัน”
 
[ชื่อได้รับการเปลี่ยนจาก ??? เป็นทังอี]
 
[ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น 5]
 
“ทังอีงั้นเหรอ? ฉันชอบชื่อนี้นะ ไอ้เจ้านายท่านตั้งได้ดีจริง ๆ” ในที่สุดเจ้าตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ก็มีชื่อเป็นของตัวเองว่าทังอี มันกล่าวชื่นชมฮยอนนูพร้อมทั้งเต้นโบกไม้โบกมือไปมาเป็นการแสดงออกว่าตัวเองชอบชื่อที่ฮยอนนูตั้งให้
 
‘ใช่แล้ว! ชื่อของแกคือทังอี หมีจอมขี้เกียจทังอียังไงล่ะ’
 
ฮยอนนูจงใจใช้คำที่มีความหมายแฝงตั้งชื่อให้กับมันและมองเจ้าตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
 
***
 
สิ่งที่ยองซานเห็นเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นนั้นช่างดูน่าอภิรมย์เสียจริง ทั้งโทรทัศน์และโน้ตบุ๊คต่างก็ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ ในขณะที่เพื่อนสนิทของเขากำลังหลับเป็นตายอยู่บนโซฟา
 
“นี่! ตื่นได้แล้ว!” ยองซานใช้เท้าเตะไปที่ฮยอนนูผู้ซึ่งกำลังนอนแผ่หลาอยู่บนโซฟาเบา ๆ ทว่ากลับไม่มีการตอบรับใด ๆ จากฮยอนนู ผ่านไปไม่กี่อึดใจในที่สุดฮยอนนูก็ตอบรับยองซานด้วยน้ำลายที่ไหลยืด “ทังอี…ฉันจะตายอยู่แล้ว…ทังอี…”
 
“จะตายงั้นเหรอ? นี่นายฝันถึงอะไรกันเนี่ย เจ้าบ้าเอ๊ย! รีบ ๆ ตื่นเร็วเข้า…”
 
พอเห็นฮยอนนูกำลังหลับสบายและจมอยู่ในฝันแสนสุขแล้ว ยองซานก็ยอมแพ้ที่จะปลุกเพื่อนสนิทของตน เขาดันตัวฮยอนนูให้ไปอยู่มุมโซฟาแล้วเปิดดูโน้ตบุ๊คของฮยอนนู
 
“วิธีเลี้ยงสัตว์เลี้ยงงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้…เจ้านี่เนี่ยนะ…?”
 
ยองซานเข้าใจถึงสถานการณ์ทันทีหลังจากที่เห็นบทความที่ฮยอนนูอ่าน ฮยอนนูได้ไข่สัตว์เลี้ยงมาแล้ว เมื่อเขาคิดถึงเรื่องของฮยอนนูแล้ว จิตใจของยองซานก็เต็มไปด้วยความรู้สึกสารพัด เขากลัวว่าฮยอนนูอาจจะพลาดโอกาสครั้งเดียวที่ได้มาไป
 
“ฮึ่ย…นายนี่นะ!” ยองซานเตะไปที่ฮยอนนูอีกครั้ง
 
“ทังอี…เก็บมันขึ้นมาซะ…งืม…”
 
***
 
ฮยอนนูนั่งดูกระดานสนทนาของเกมอารีน่าจากโน้ตบุ๊คของเขาทั้งคืน เหตุผลคือเขาต้องการหาพื้นที่ล่าที่ตรงต่อความต้องการเขา อย่างไรก็ตามเงื่อนไขที่เขาตั้งขึ้นมาทำให้การหาพื้นที่ล่าให้ได้ตรงความต้องการนั้นเป็นไปได้ยากพอสมควร
 
เงื่อนไขแรกคือมันจะต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่มีผู้เล่นคนอื่นอยู่เลย เงื่อนไขที่สองคือศัตรูที่อยู่แถวนั้นจะต้องเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ เงื่อนไขที่สามคือศัตรูที่ประมือด้วยจะต้องไม่เป็นศัตรูที่โจมตีจากระยะไกล และเงื่อนไขสุดท้ายคือศัตรูจะต้องมีเลเวลต่ำกว่าห้าสิบ
 
มีพื้นที่ล่าอยู่สองแห่งที่ผ่านเงื่อนไขที่กล่าวมาทั้งหมดและตรงต่อความต้องการของเขา พื้นที่ล่าแห่งแรกคือดันเจี้ยนโครงกระดูก มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยทหารโครงกระดูกเดินป้วนเปี้ยนอยู่ทั่วบริเวณ ในขณะที่พื้นที่ล่าแห่งที่สองคือทางตะวันตกสองแห่งของป่าดำซึ่งอัศวินดาร์กเอลฟ์ที่ฮยอนนูเคยต่อสู้ด้วยในโหมดฝึกฝนมักจะปรากฏตัวที่นี่ ท้ายที่สุดแล้วพื้นที่ล่าที่ฮยอนนูเลือกก็คือ…
 
“ไอ้เจ้านายท่าน ที่นี่มันคือที่ไหนกัน?”
 
“เรียกฉันแค่นายท่านเฉย ๆ ได้มั้ย!? ที่นี่คือป่าดำ พวกเรามาที่นี่เพื่อล่าพวกดาร์กเอลฟ์ไงล่ะ”
 
ฮยอนนูตัดสินเดินทางมายังป่าดำทางตะวันตกซึ่งมักจะเจอพวกดาร์กเอลฟ์ เขาคิดว่าพวกดาร์กเอลฟ์น่าจะจัดการได้ง่ายกว่าทหารโครงกระดูก และเมื่อได้ลองต่อสู้ดูแล้ว ฮยอนนูก็รู้ว่าความคิดของตัวเองนั้นเป็นความคิดที่ถูกต้องเสียด้วย
 
[คุณได้ฆ่าอัศวินดาร์กเอลฟ์]
 
[ได้รับค่าประสบการณ์]
 
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
 
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
 
“อั่ก!…ข้าแพ้ให้กับมนุษย์อย่างเจ้าเนี่ยนะ…” อัศวินดาร์กเอลฟ์พูดจาตัดพ้อในขณะที่มันกำลังจะตาย ขณะเดียวกันฮยอนนูเองก็สะบัดเลือดออกจากดาบปลายมนอันแหลมคมของเขาด้วยท่าทีเฉยชา ตอนนี้ร่างไร้วิญญาณของพวกดาร์กเอลฟ์จำนวนมากต่างนอนกระจัดกระจายอยู่รอบกายของฮยอนนู
 
“โอ้โห ทังอี นายนี่สุดยอดไปเลย!”
 
“อะแฮ่ม! ตอนนี้นายเข้าใจแล้วหรือยังล่ะ? ว่าทำไมนายถึงต้องพาฉันไปด้วย”
 
ในขณะที่ฮยอนนูกล่าวชมอยู่นั่นเอง ทังอีก็ตบอกของตัวเองที่มีความสูงแค่ห้าสิบเซนติเมตรเท่านั้น ฮยอนนูอดยื่นมือไปลูบหัวของทังอีเป็นการชื่นชมไม่ได้ บัฟเสริมพลังจากทังอีมีประโยชน์กับเขามากจริง ๆ ทักษะการเคลื่อนที่ของหมีช่วยเพิ่มค่าพละกำลังและพลังโจมตีทางกายภาพให้ ในขณะที่ทักษะคำอวยพรแห่งป่าก็ช่วยเพิ่มพลังป้องกันและการฟื้นฟูพลังชีวิตแบบต่อเนื่องให้เขา การเสริมพลังนี้แข็งแกร่งกว่าการเสริมพลังจากอาชีพนักบวชที่มีระดับเดียวกันเสียอีก
 
[ทักษะ: การเคลื่อนที่ของหมี]
 
[เพิ่มพละกำลังและพลังโจมตีทางกายภาพแบบเดียวกับพลังของหมี]
 
รูปแบบ: บัฟเสริมพลัง
 
ความล้ำค่า: แรร์
 
ระดับประสิทธิภาพของทักษะ: F
 
เพิ่มค่าพละกำลังและพลังโจมตีทางกายภาพของเป้าหมาย 5% เป็นเวลา 5 นาที
 
คูล์ดาวน์: 1 นาที
 
[ทักษะ: คำอวยพรแห่งป่า]
 
[มอบพลังจากป่าให้กับผู้ใช้]
 
รูปแบบ: บัฟเสริมพลัง
 
ความล้ำค่า: แรร์
 
ระดับประสิทธิภาพของทักษะ: F
 
เพิ่มค่าพลังป้องกันของเป้าหมาย 5% และฟื้นฟูพลังชีวิต 0.1% ต่อวินาทีเป็นเวลา 5 นาที
 
คูล์ดาวน์: 1 นาที
 
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความสามารถจากทักษะระดับ F เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่าในอนาคตเมื่อระดับประสิทธิภาพของทักษะพัฒนาสูงขึ้นกว่านี้แล้ว พลังที่แท้จริงของทักษะจะเป็นอย่างไร

Ranker’s Return

Ranker’s Return

“คุณต้องการสร้างตัวละครใหม่หรือไม่?” เขาคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด! เขาคือผู้ครองอันดับ 1 ในทุกสถิติ! เขาคือ เมลีก็อด (Meleegod) ผู้เล่นในตำนานแห่งเกมวิชวลเรียลลิตี้ชื่อดังของยุค “อารีน่า” (Arena) กว่า 2 ปีที่ชื่อของเขาถูกลบเลือน ตำนานของเขาเริ่มจางหาย ทว่าตอนนี้เขากลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยกอบกู้ครอบครัวที่ล้มละลายของเขา เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งอีกครั้ง ตำนานบทใหม่ของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset