ตอนที่ 11 นิเรียโดนกัด
การเดินทางในช่วงเช้าเป็นไปอย่างราบรื่น ๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่จะมีคนขอติดรถพวกเขาไปด้วย แต่ไนเรลก็ปฏิเสธแล้วบอกกับพวกนั้นไปว่าเขาจะเดินทางไปทางตะวันออก ไม่ได้ไปที่ค่ายลี้ภัย
แต่บางครั้งคนพวกนั้นก็ไม่เชื่อ ดังนั้นเขาจึงใช้ปืนขู่พวกนั้นไปบ้างเป็นบางครั้งบางครั้ง และสำหรับใครที่พยายามจะปล้นพวกเขา ไนเรลก็ยิงพวกนั้นโดยไม่สนใจว่าจะเป็นจะตาย ทันที
“พี่ชายพวกเราจะไปหาปู่ใช่หรือไม่?” นิเรียถามด้วยความตื่นเต้น
ตอนที่เธอเล็ก ๆ เธอสนิทกับปู่มากแต่เมื่อ 4 ปีก่อนปู่ของเธอก็ถูกจับตัวไป และขังอยู่ที่คุกเอลมิน่าในเมืองซานติเกียทำให้เธอไม่เคยไปเจอกับปู่อีกเลย
“เราจะไปช่วยปู่กัน” ไนเรลหันมายิ้ม
ช่วงเย็นเขาขับรถจนมาถึงถนนหลวงอีกเส้นที่มุ่งหน้าสู่ซานติเกีย มันเป็นถนน 4 เลนที่คู่ไปกับทางรถไฟสองสาย
ตอนนี้เย็นแล้วพวกเขาจึงจอดพักกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ดูเหมือนมันจะกลายพันธุ์จนมีขนาดใหญ่เหมือนตึกหลังหนึ่งเลยทีเดียว
ไนเรลสำรวจรอบข้างอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย
ในชีวิตที่แล้ว เขามุ่งหน้าไปที่ค่ายลี้ภัยทันทีหลังจากที่พากันหนีออกมาจากเมืองหลวง จึงทำให้เขายังไม่เคยมาเส้นทางนี้ และเขาก็ไม่ได้จดจำได้ทุกรายละเอียด
โดยเฉพาะการเดินทางไปช่วยปู่ของเขาในครั้งนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่แล้ว เขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่ถ้าเขาเลือกที่จะทำแต่สิ่งที่รู้เช่นนั้นทุกอย่างมันก็คงจะเหมือนเดิม
ทั้งสี่คนก่อกองไฟเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นในตอนกลางคืน เขาใช้รถจอดชิดกับต้นไม้เป็นกำแพงป้องกันไว้สองด้านและนั่นทำให้เขาแค่ต้องระวังในอีกสองด้านของที่พักเท่านั้น
เขาให้นิเรียและดาลิธพักในรถ
ส่วนเขาและดามินก็นั่งและนอนข้างกองไฟโดยใช้ถุงนอนที่ไนเรลได้เตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว เพื่อที่จะได้ผลัดกันเฝ้าเวรยามในตอนกลางคืน
พอผ่านไปสักพักไนเรลก็ขอตัวนอนก่อนเพราะเขาเหนื่อยกับการขับรถมาทั้งวัน
ดังนั้นคืนนี้ดามินจึงต้องเฝ้ายามกลางคืนคนเดียว เเต่ผ่านไปสักพักนิเรียก็ลงมาจากรถและมานั่งข้างที่นอนพี่ชายของเธอ เนื่องจากเธอนอนไม่หลับ
เธอมองไปที่พี่ชายของเธอที่หลับอยู่อย่างเงียบ ๆ
ดามินเองก็ไม่ได้พูดอะไรเขาเพียงแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูว่ามันมีสัญญาณไหม เขาแค่จะหาอะไรอ่านค่าเวลา แต่แล้วโทรศัพท์ของเขาก็แบตเตอรี่หมดซะก่อน
นิเรียจึงหันไปพูดกับดามิน “พี่ชายเก็บหนังสือไว้ในลิ้นชักในรถลองไปหาดูสิ”
ดามินจึงลุกขึ้นไปหาหนังสือตามที่นิเรียบอก
แต่ในระหว่างที่ดามินลุกออกไปหาหนังสืออยู่ ไนเรลที่นอนหลับอยู่ก็ฝันร้ายขึ้นมา เขาเหมือนกับกำลังจะจมลงไปในน้ำและละเมอพูดออกมาด้วยความกลัว “สเตล่า…ทำไม! ทำไม! เธอถึงทำแบบนี้!!!”
นิเรียรีบจับไปที่มือพี่ชายของเธอด้วยความเป็นห่วง เมื่อมือของนิเรียสัมผัสไปที่มือพี่ชายของเธอ
เขาก็ดึงมือของเธอเข้ามากอดทันทีราวกับว่ากลัวมันจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น
ดามินที่ตกใจกับเสียงละเมอของไนเรลเขาก็รีบมาดู แต่เมื่อเห็นว่าทุกอย่างยังคงปกติดีอยู่เขาก็กลับไปเอาหนังสือที่อยู่ในลิ้นชัก ในรถที่ซึ่งตอนนี้ดามินกำลังหลับและเขาก็หยิบหนังสือออกมาจากลิ้นชักหน้ารถ
ระหว่างที่อ่านอยู่เขาก็มองไปที่สองพี่น้องที่ดูจะรักกันมาก โดยเฉพาะไนเรลที่จะเป็นห่วงนิเรียมาก
ถึงขนาดที่ว่าแค่ไมน่าว่านิเรีย ไนเรลก็ถึงกลับไล่เธอไปทันที เขาเชื่อว่าถ้าใครทำร้ายนิเรียละก็ไนเรลก็คงจะฆ่าทิ้งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เช้าวันต่อมาหมอกลงหนามากเป็นพิเศษ ไนเรลตื่นขึ้นมาก็พบว่านิเรียนอนหลับอยู่ข้างเขา ดังนั้นเขาจึงเอาผ้าห่มของเขาไปห่มให้เธอ
ไนเรลมองไปรอบ ๆ ก็เจอดามินที่นั่งหลับไปพร้อมกับหนังสือการทำกับดักสัตว์ป่า เขาจึงเดินเข้าไปปลุก
“ดามิน ตื่นได้แล้ว!”
ดามินที่ตกใจตื่นจนทำหนังสือหล่น เขาขยี้ตาตัวเองเล็กน้อยและมองไปที่รอบด้านก็เห็นว่าไนเรลเป็นคนที่ปลุกเขา
“ผมขอโทษ…” ดามินกล่าวขอโทษที่เขาดันเผลอหลับไปซะได้ ไนเรลเดินไปหยิบฝืนมาใส่กองไฟที่กำลังมอดดับลง
หลังจากนั้นเขาก็สำรวจรอบด้านตอนนี้แค่คืนเดียวรอบด้านก็มีต้นไม้ใบหญ้างอกออกมากระจายเต็มไปหมด
ต้นไม้ใบหญ้านั้นมีขนาดใหญ่และแปลกตาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะสีของใบไม้ที่ไม่ใช่แค่สีเขียวอีกต่อไป
ดา มินเองก็พึ่งจสังเกตและตกใจพอสมควรและเขาก็คิด ‘นี่ฉันหลับไปแค่แปปเดี่ยวเองหรือว่าหลับไปเป็นปีกันแน่’
หลังจากเวลา 8 โมงกว่า ๆ หมอกก็จางลงบ้างแล้วแต่ก็ไม่มากนัก พวกเขาก็ออกเดินทางต่อ
ในระห่างทางที่ขับรถอยู่ดี ๆ ไนเรลก็เหยียบเบรกและดับเครื่องทันที
ด้วยความเร็วของรถ ดามินที่หลับจากการที่อดนอนเฝ้าเวรยามเมื่อคืน หน้าก็กระแทกกับกระจกหน้าต่างรถด้านข้างอย่างแรง ถึงกับสดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะการเบรกรถของไนเรลทันที
“โอ๊ย…เกิดอะไรขึ้น?” เขาถามออกมา แต่ก็ไม่มีใครตอบ มีแค่ไนเรลที่ส่งสัญญาณ! ให้เขาเงียบ
ดามินมองไปที่ข้างหน้า มันมีท่อขนาดใหญ่ที่พาดผ่านถนนอยู่ เขาจึงหยิบแว่นขึ้นมาใส่และมองดูอีกที
แต่เมื่อมองดูดี ๆ มันกลับไม่ใช่ท่อ แต่เป็นงูเหลือมขนาดใหญ่ ยาวกว่า 30 เมตร กำลังเลื้อยผ่านถนนที่เต็มไปด้วยรอยแตกจากรากของต้นไม้
หลังจากรอให้มันเลื้อยผ่านไปแล้วสักพักไนเรลก็ขับรถต่ออย่างระมัดระวัง และเขาก็ต้องหยุดรถอีกรอบ
ตอนนี้ทางข้างหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยรถยนต์ที่ขวางทางอยู่ ถ้าเป็นแค่รถเขาก็คงจะพอหลบทางออกไปได้บ้างแต่มันมีหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทรุดตัวของแผ่นดินจนตัดถนนทั้งสองข้างออกจากกัน
“ลงไปดูกัน”
พวกเขาลงจากรถเพื่อไปดูว่าจะพอมีเส้นทางให้ข้ามไปได้ไหม แต่ดามินง่วงเป็นอย่างมาก เขาจึงไม่ได้ลงไปและนอนในรถต่อ
ทั้ง3 คนเดินผ่านรถที่จอดทิ้งไว้ในถนนอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้นบริเวณที่ดาลิธเดินผ่าน ก็มีซอมบี้ที่อยู่ในรถตรงเบาะคนขับพยายามจะกัดเธอ แต่ด้วยความที่มันถูกหลังด้วยสายเข็มขัดนิรภัยจึงไม่สามารถกัดเธอได้
ดาลิธจึงใช้มีดสั้นทังสแตนที่เคยเป็นของคารอนแทงไปที่กกหูของซอมบี้ แต่ด้วยความซวยจังหวะที่เธอดึงมีดออกศีรษะของซอมบี้หล่นไปโดนแตรรถยนต์จนเสียงดังกังวานไปทั่วบริเวณ
แตร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“รีบหยุดเสียงนั่นเร็ว!” ไนเรลรีบบอกเธอด้วยความรีบร้อนแต่มันก็ไม่ทันซะแล้ว
เพราะต่างมีซอมบี้เดินออกมาจากสายหมอกด้านข้าง พวกมันเดินตามเสียงของแตรรถที่ดังอยู่
ดาลิธรีบขยับศพของซอมบี้ออกจากแตรรถเสียงที่ดังจึงหยุดลง
“รีบกลับไปที่รถก่อน” ไนเรลและนิเรียรีบวิ่งกลับไปที่รถ
“ดาลิธละ!” ดามินตื่นเพราะเสียงแตร เห็นไนเรลและนิเรียวิ่งมาหนีมาเขาก็ถามหาดาลิธเพราะไม่เห็นเธอ
ไนเรลหันไปด้านหลังที่ตอนนี้ดาลิธยังคงติดอยู่ท่ามกลางเสียงของซอมบี้
“นิเรีย น้องเอาสไนเปอร์ขึ้นไปบนหลังคา ส่วนการใช้ก็แบบที่ทหารพวกนั้นสอน”
“ส่วนดามินไปหลบอยู่ในรถคอบดูรอบ ๆ ไว้ ถ้าซอมบี้เขามาก็บอกนิเรีย”
จากนั้นเขาก็หยิบดาบยาวทังสแตนและปืนวิ่งกลับไปช่วยดามิน
มันมีซอมบี้ราว ๆ 50 ตัวที่กระจายกันอยู่รอบ ๆ
มันเริ่มที่จะได้กลิ่นเนื้อสด ๆ ของดาลิธที่เเอบหลบอยู่ใต้รถยนต์คันที่เธอใช้มีดฆ่าซอมบี้ไป
ไนเรลค่อย ๆ หลบและจัดการซอมบี้ที่ขวางทางอย่างรวดเร็ว เขาใช้ความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B] ตำแหน่งดาบทังสแตนแต่ละครั้ง
พลังของมันนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดว่ามันจะทรงพลังได้ถึงขนาดนี้
มดนั้นสามารถยกของที่หนักกว่าน้ำหนักตัวของตนเองได้ถึง 50 เท่า ตอนนี้มันถูกใช้โดยไนเรลที่มีน้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม นั้นหมายความว่าเขาสามารถใช้พลังยกของหนักได้ถึง 3.75 ตัน
แต่ก็ใช่ว่าเขาจะสามารถใช้มันได้อย่างอิสระ เพราะพลังงานในเซลล์ของเขาที่ผลิตได้นั้นมีจำกัด
เขาสามารถใช้มันได้สูงสุดก็แค่ 5 เท่า เท่านั้น และสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องไม่กินแรงคือ 2.5 เท่า แต่มันก็เพียงพอในการตัดหัวของซอมบี้ ขั้น 1 ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยแรงที่เขาคุมไม่อยู่ จึงฟันพลาดดาบตัดหัวของซอมบี้ไปติดเข้ากับเหล็กประตูของรถ
ทันใดนั้นก็มีซอมบี้อีกตัวที่ได้ยินเสียง วิ่งเข้ามาจะกัดเขาจากด้านหลัง
ปัง! มันถูกยิงโดยนิเรีย แต่ด้วยความที่เธอยิงปืน M-21 เป็นครั้งแรกมันพลาดเป้าไปโดนแค่หน้าอกของซอมบี้เท่านั้น
ซอมบี้ตัวนั้นลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง และร้องคำรามด้วยความโกรธ
อ๊าคคค!!!
ไนเรลจึงใช้ปืนลูกโม่ ขนาด 500 แม็กนั่ม ที่อยู่ข้างเอวชักออกมายิงที่หัวของมัน
ปัง!!! ….
ด้วยระยะที่ใกล้แค่เมตรกว่า ๆ มันจึงแรงถึงขนาดสมองซอมบี้ระเบิดกระจายไปทั่ว
ร่างของมันหงายล้มลงแต่ซอมบี้ที่ตอนแรกลุมร้อมดาลิธอยู่มันก็หันความสนใจมาที่ไนเรล
ค๊าก!!! อ๊าคค!!!
พวกมันร้องคำรามและวิ่งมาที่ไนเรลจำนวนมาก ซอมบี้ที่อยู่ข้างทางก็วิ่งออกมาจากหมอกมากขึ้น
“ซวยแล้ว!”
ไนเรลรีบดึงดาบที่ติดกับประตูรถออก และฟันไปที่พวกมันอย่างต่อเนื่อง ส่วนนิเรียก็ยิงไปที่ซอมบี้เพื่อเคลียเส้นทางให้กับพี่ชายของเธอ
ทันใดนั้นที่ด้านหลังก็มีซอมบี้ตัวหนึ่งปีนขึ้นมาบนหลังรถและกัดไปที่ขาข้างซ้ายของเธอ
“อ้าา” นิเรียร้องด้วยความเจ็บ ดามินที่ตอนนี้กำลังใช้มีดปักไปที่หัวของซอมบี้อยู่ก็รีบวิ่งมาช่วยเธอทันที
เขาดึงขาของมันลงมาแต่มันก็กัดไม่ยอมปล่อยจนเนื้อของนิเรียแทบจะหลุดออกมา
นิเรียกัดฟันพร้อมน้ำตาดึงปืนลูกโม่ออกมายิงไปที่หัวของมัน
ปัง!
หัวของมันระเบิดออกกระเด็นเลอะไปทั้งตัวของดามิน
ไนเรลที่ได้ยินเสียงของนิเรียร้องก็ถึงกับตกใจเขารีบวิ่งกลับไปที่รถออฟโรดทันที
โดยไม่สนใจช่วยดาลิธอีก แต่ถึงแบบนั้นซอมบี้ ในบริเวณที่เธออยู่ก็ถูกดึงดูดไปหาพวกไนเรลจนเกือบจะหมดแล้ว
และในตอนนั้นเองเธอก็เห็นว่าที่ข้างทางมีคนสองคนเรียกเธอให้หนีไปทางนั้น พวกเขากำลังจัดการซอมบี้ 2 ตัวด้วยความยากลำบากเพื่อให้เธอหนีมาทางนี้ได้
ดาลิธที่ตอนนี้ลังเลอยู่ว่าจะวิ่งไปทางไหน แต่เธอก็ตัดสินใจวิ่งไปทางที่ผู้ชายสองคนนั้น เพราะทางไนเรลนั้นเต็มไปด้วยซอมบี้
เมื่อไนเรลกับมาถึงที่รถเขาก็รีบจัดการซอมบี้ที่อยู่รอบด้านทิ้งทันที เขาฆ่าพวกมันอย่างบ้าคลั่ง
ในจังหวะนั้นเอง ดามินก็เห็นว่าดาลิธวิ่งหนีออกไปข้างทางกับชายสองคนที่ช่วยเธอไว้
“ดาลิธทางนี้!!! ๆ” แต่ดาลิธก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยินเขา และตอนนั้นซอมบี้ก็เขามาจะพยายามลุมกันเขาดามินจึงต้องจัดการพวกมันก่อน
ไนเรลก็หันมาพูดกับดามินว่า “เอาตัวเองให้รอด รีบไปพานิเรียลงมา”
แต่ดูเหมือนว่านิเรียจะแข็งแรงและฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย เธอกระโดดลงมาจากรถและลงมาช่วยไนเรลฆ่าซอมบี้ที่อยู่รอบ ๆ
‘เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่’ เขามองไปรอบ ๆ เพื่อพยายามหาทางฝ่าออกไปและในตอนนั้นเขาก็หันไปเห็นว่าข้างทางมันมีเส้นทางที่แยกออกไปอีก ดูเหมือนมันจะเป็นถนนที่ไปรีสอร์ตบ้านพักตากอากาศนอกเมือง
“รีบกลับไปขึ้นรถเร็ว” ไนเรลสั่งจากนั้นเขาก็จัดการซอมบี้รอบ ๆ อีก 4 ตัว ทุกตัวถูกฟันหัวขาด
จากนั้นเขาก็กลับไปขึ้นรถและรีบขับรถออกไปทันที ชนซอมบี้จนกระเด็นไปอีกสองสามตัวรถก็เสียหลักเล็กน้อยแต่เขาก็พอขับประคองไปต่อได้
เขาขับไปได้ประมาณ 300 เมตรก็เห็นรั้วประตูที่ปิดไว้อยู่ ดังนั้นเขาจึงจะขับพุ่งชนมัน
แต่เขาก็เห็นคนสองคนที่ตอนนี้ เล็งปืนมาที่รถของพวกเขา
“หยุด!!!” พวกนั้นบอกให้เขาหยุด
“เปิดประตู ผมขอเข้าไปหลบในนั้นหน่อย ผมมีอาหารให้แลกกับการเข้าไปในนั้น” ไนเรลพูดขอดี ๆ เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะมีปัญหาเช่นเดียวกัน
ทั้งสองคนที่เฝ้าประตูอยู่หันซ้ายมองขวากันไปมาและก็ยอมเปิดประตูให้เขาเข้ามา
ไนเรลไม่รอช้าขับรถเขาไปทันที
ซอมบี้ที่อยู่ด้านหลังพวกมันก็กระจายตัวออกไปเมื่อไม่เห็นพวกไนเรลแต่ก็มีบางส่วนเดินตามไปทางที่ไนเรลขับรถหนีมา