ตอนที่ 12 หลอกมาฆ่า
หลังจากที่หนีเข้าไปในกำแพงบ้านพัก ทั้งสามคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไนเรลหันไปดูแผลของนิเรียที่นั่งอยู่ด้านข้างทันที
“ขอพี่ดูแผลหน่อย”
ไนเรลจับไปที่ขาของนิเรีย แผลของเธอลึกพอสมควร แต่เลือดมันหยุดไหลแล้ว ถึงแบบนั้นรอบบาดแผลก็ยังเขียวและคล้ำเป็นอย่างมากจากเชื้อซอมบี้ที่ได้รับมา
ร่างกายของเธอกำลังต่อสู้กับมันอย่างหนัก
ไนเรลรู้ว่าน้องสาวของเขาก็มีภูมิต้านทานต่อเชื้อซอมบี้ ขั้น 1 เพราะเธอเป็นมนุษย์ชั้นสูง ระดับสีขาว
“อ้า!” นิเรียร้องออกมาเบา ๆ และกัดฟันแน่น
เขาบีบไปที่แผลเพื่อให้เลือดบริเวณปากแผลไหลออกมา เลือดสีดำที่ค่อย ๆ ไหลออกและสักพักก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็หยุด
จากนั้นเขาก็หากล่องประถมพยาบาลที่อยู่ในรถเอาผ้าพันแผลพันไว้ “อย่าพึ่งให้พวกนั้นเห็นแผล”
พวกนั้นที่ไนเรลกล่าวก็คือคนในรีสอร์ตบ้านพักแห่งนี้
เนื่องจากเขากังวลว่าคนพวกนี้จะคิดว่านิเรียโดนกัดแล้วจะกลายเป็นซอมบี้
ก๊อก ๆ
และในตอนนั้นเองก็มีคนเดินมาเคาะกระจกรถ ไนเรลหันไปบอกกับสองคนว่า “อยู่บนรถก่อน”
ทั้งสองคนพยักหน้าให้กับไนเรล และเขาก็เปิดประตูลงจากรถไป
“คุณเป็นใคร?” ยามถามออกมาด้วยความระวัง
แต่ก่อนที่ไนเรลจะตอบ คนหลายคนก็เข้ามารุมล้อมถามคำถามกับเขา “คุณมาที่นี่ มาช่วยพวกเราใช่หรือไม่?”
“ที่เมืองเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ทหาร คุณเป็นทหารที่มาช่วยเราใช่ไหม?”
“พี่ชายมีอาหารหรือไม่?”
“โลกภายนอกเป็นอย่างไรบ้าง เมืองหลวงยังดีอยู่ไหม?”
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้รับข่าวสารจากโลกภายนอกเลย ขณะที่เขาถูกยิงคำถามใส่อย่างต่อเนื่อง คนที่เหมือนจะเป็นผู้นำร่างผอมสูงก็เดินเข้ามาหาเขา
“สวัสดดี ผมโจ คุณเป็นคนที่ยิงปืนที่ถนนใช่หรือไม่” เขาถามออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ทุกคนที่เห็นว่าโจพูดก็เงียบเสียงลง
“ใช่พวกเราเอง ผมจะขอหลบที่นี่สักพักได้หรือไม่ถ้าผมหาเพื่อนเจอแล้วจะรีบออกไปทันที” ไนเรลเริ่มเข้าประเด็นทันที
“ได้แต่ผมต้องการเก็บค่าที่พัก เอาเป็นอาหาร 50 เปอร์เซ็นต์ที่พวกคุณมีและกระสุนกับปืน 1 กระบอก”
“10 เปอร์เซ็นต์กับกระสุน 30 นัด” ไนเรลกล่าวด้วยท่าทีเเข็งกร้าว
“15 เปอร์เซ็นต์กระสุน 40 นัด” บ๊อบต่อรองอีกรอบ
ไนเรลคิดสักพักก็ตกลง ทั้งสองยื่นมือออกมาจับกันทันที โจยิ้มออกมาอย่างเจ้าเลห์และกล่าว “คุณจะไปพักที่บ้านด้านหลังก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้นเราจะขอตรวจร่างกายพวกคุณก่อนเพื่อที่จะดูว่าพวกคุณไม่ได้โดนกัด”
ในระหว่างที่คนเดินไปตรวจนั้นนิเรียก็พยายามซ่อนแผลของเธอ ขณะที่คนตรวจจะดูที่ขาของเธอ ไนเรลก็เข้ามาขวางไว้และหยิบอาหารกระป๋อง 2 ลังส่งให้กับเขาทันที
เมื่อคนที่ตรวจเห็นอาหารพวกนั้นเขาก็รับไปทันที ด้วยความโลภ ดูเหมือนว่าที่นี่จะขาดแคลนอาหารพอสมควร
โจที่คิดว่าลูกน้องของตนตรวจเสร็จและยกอาหารเดินมา เขาเปิดกล่องดูก็ถึงกลับดีใจ ที่เห็นอาหารกระป๋องพวกนั้น
เนื่องจากในรีสอร์ตแห่งนี้จะซื้ออาหารมาเก็บไว้สัปดาห์ละครั้งแต่วันที่เกิดเรื่องก็เป็นวันที่ต้องไปซื้ออาหารพอดี ทำให้พวกเขา ไม่สามารถเข้าไปซื้ออาหารในเมืองมาได้
ตอนนี้อาหารที่มีก็เริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆ แล้ว
“นี่กระสุนที่พวกคุณต้องการ” ไนเรลส่งกล่องกระสุนปืนให้โจ ตอนนี้ทำให้พวกเขาเหลือกระสุนปืน มันคือกระสุนปืนลูกโม่ของเขาที่มีอยู่ 300 นัด ตอนนี้มันเหลือแค่ 200 กว่านัดแล้ว
“พวกคุณทำตัวตามสบายเลย ผมขอตัวก่อน” โจยิ้มและกล่าวพร้อมกับยกอาหารกระป๋องและกล่องกระสุนไป
แต่ก่อนที่โจจะเดินไป ไนเรลก็ถามออกมา “แถวนี้มีใครอีกไหม? นอกจากกลุ่มพวกคุณ”
“ทำไมเหรอ?” แจสเปอร์ถาม
ไนเรลอธิบายว่าคนในกลุ่มของเขาได้หนีจากซอมบี้ไปกับพวกนั้น ตอนที่ปะทะกับฝูงซอมบี้ที่ถนน
โจมองไปที่ไนเรลอยู่สักพักก็กล่าวออกมา “มีอยู่อีกกลุ่มพวกมันฆ่าคนที่รีสอร์ตแห่งนี้ ขโมยอาวุธ อาหารและหนีเข้าไปในป่า ตอนนี้ผมก็ตามล่าพวกมันอยู่เหมือนกัน”
ไนเรลฟังแบบนั้นก็คิดอยู่ในใจ แต่เขาก็ไม่ได้เชื่อคำพูดโจทั้งหมด ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเขากับคิดว่าโจนั้นโกหกบางอย่างอยู่
อาจจะเป็นเพราะเขาอาจจะเจอคนที่เป็นแบบโจมาเยอะ คนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองโดยไม่สนใจใคร และอีกอย่างถ้าพวกนั้นขโมยอาวุธไปจริง ๆ ทำไมตอนที่พวกมันช่วยดาลิธถึงไม่ยอมใช้
เขามองไปที่ยามที่อยู่รอบ ๆ ปืนพวกนี้มันเป็นอาวุธสงครามทั้งนั้น รีสอร์ตที่ไหนกันถึงมีอาวุธเยอะขนาดนี้
เมื่อไปรอบข้างคนที่นี่ก็ดูจะมีท่าทางแปลก ๆ ราวกับว่าต้องการจะพูดอะไรสักอย่าง
………………………………
ไนเรล นิเรียและดามินไปพักบ้านที่อยู่ท้ายสุดของรีสอร์ตแห่งนี้ ภายในบ้านนั้นดูหรูหราเป็นอย่างมาก แต่มันก็สมแล้วที่เป็นที่พักของพวกคนรวย
เขาไม่ได้ขนของอะไรลงจากรถเพราะแค่จะค้างอยู่ที่นี่สัก 3 วันเพื่อหาดาลิธและเส้นทางอ้อมหลุมที่ถนนไปเท่านั้นและถ้าไม่เจอเธอใน 3 วันเขาก็จะเดินทางต่อทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา
คืนนี้พวกเขาไปพักในบ้าน ก็มีคนปืนรัวบ้านเข้ามา คนที่เห็นก็คือนิเรียมันยากมากที่ใครจะหลบรอดจากสายตาของเธอ ถ้าเธอใช้ความสามารถ [ดวงตาเทพ S] อยู่
ทั้งสามคนแอบมองดูหัวขโมยว่าจะทำอะไร
หัวขโมยที่ดูไม่เป็นมืออาชีพผู้นี้กำลังแอบขโมยอาหาร แต่ด้วยความที่อาหารอยู่ในรถ ดังนั้นหัวขโมยจึงพยายามงัดหน้าต่างเขาไป แต่มันล๊อคหมดทุกบาน
นิเรียที่เห็นแบบนั้นก็สงสารหัวขโมยตัวน้อย เธอจึงหยิบอาหารแอบเดินไปที่ด้านหลังส่งอาหารให้กับเด็กชายที่เป็นหัวขโมย
“เอ้านี่เนื้อกระป๋อง” เธอยืนเนื้อกระป๋องให้กับเด็กชายอายุ 9 ขวบ
เด็กคนนั้นถึงกลับสดุ้งด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบเนื้อกระป๋องที่อยู่ในมือของนิเรียพร้อมกับวิ่งออกไปด้วยความเร็ว แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุดล้มลง กระป๋องเนื้อหลุดมือกลิ้งไปชนกับรั้วประตู
เด็กชายรีบลุกขึ้นมาด้วยความทุลักทุเลหยิบเนื้อกระป๋องวิ่งออกไป
ไนเรลเดินออกมาเขาไม่ได้ว่านิเรียเพียงแค่ลูบหัวเธอเท่านั้นและก็เดินกลับเข้าไปนอน
เช้าวันต่อมา ไนเรลก็ออกไปตามหาดาลิธโดยให้นิเรียเพื่อพักถึงแม้ว่าแผลที่ขาของเธอเริ่มปิดแล้วก็ตามและดามินอยู่ที่บ้านพักเพื่อเฝ้าของเพราะเขาไม่ได้เอารถไป
ขณะที่เขากำลังจะออกมาโจก็เสนอให้ว่าให้น้องชายของเขา ที่ชื่อเก็นและคนของเขาอีก 2 คนไปช่วยตามหาด้วยเพราะถ้าเจอพวกคนที่ขโมยของไปก็จะได้จับตัวกลับมาด้วย
ไนเรลก็ไม่ปฏิเสธเพราะการที่มีคนรู้จักพื้นที่แถวนี้ไปด้วยก็ดี
พวกเขาเดินออกไปอย่างเงียบเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจต่อซอมบี้ ตอนนี้เส้นทางต่าง ๆ เริ่มที่จะถูกธรรมชาติยึดครองไปแล้ว มันเริ่มรกและดูน่ากลัวราวกับป่าดงดิบมากขึ้น
คนที่นำทางก็ใช้มีดถางป่าอย่างต่อเนื่อง ถึงจะบอกว่าเป็นการคุ้มกันแต่เขารู้สึกว่ามันเหมือนการคุมตัวออกไปฆ่าซะมากกว่า เพราะเขาถูกล้อมหน้าล้อมหลังไว้หมด
“พวกคุณรู้ไหมว่าคนพวกนั้นอยู่แถวไหน?” ไนเรลถามออกมาขณะที่เดินตามพวกนั้นไป เขาก็สั่งเกตุมีดสั้นทังสแตนที่เหน็บอยู่ข้างเอวของเก็นไปด้วย
“พวกนั้นน่าจะอยู่อีกฝั่งของถนนแถวนั้นมีหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่แต่ว่ามันก็มีฝูงซอมบี้เยอะอยู่เหมือนกัน พวกเราไปไม่ได้ไม่งั้นคงตามไปจัดการพวกนั้นแล้ว”
“พาฉันไปที่นั่นได้ไหม?” เขาถามเพราะว่าอยากจะไปเห็นด้วยตาของตนเอง
ทั้งสามคนมองหน้าไปมาและตกลงที่จะพาเขาไป
เมื่อข้ามออกมาถนนก็มีซอมบี้บางส่วนที่ดูเหมือนจะเดินไปมาทางที่เขาอยู่ แต่เมื่อมองดี ๆ พวกมันก็ไม่ได้เดินมาหาทั้ง 4 คนแต่เดินไปที่รีสอร์ตแทน
พวกเขารอมันเดินผ่านไปจากนั้นก็ค่อย ๆ แอบไปที่ถนนและข้ามฝั่งไป แต่หมอกที่หน้าก็ทำให้พวกเขาค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆ
ขณะที่เดินไนเรลก็สังเกตต้นไม้รอบ ๆ ไปด้วย ‘พวกมันกลายพันธุ์จนเกือบจะหมดแล้ว’ เขาคิดในใจ
หลังจากที่เดินมาได้ 5 กิโลเมตร เขาก็เข้ามาในป่าลึกเรื่อย ๆ
เพื่อนของหนึ่งในสามคนนั้นถามคนที่นำทางว่า “นายมาถูกใช่ไหมเก็น”
“ถูกสิฉันจะเข้ามาซื้อเนื้อสัตว์จากหมูบ้านทุกอาทิตย์หลับตาเดินยังถูกเลย” เก็นที่เพื่อนเรียกพูดออกมาด้วยความมั่นใจ
“ทำไมหญ้ามันขึ้นสูงขนาดนี้เนี่ย อาทิตย์ที่แล้วมันยังไม่มีหญ้าพวกนี้เลย” ชายอีกคนบ่นด้วยความหงุดหงิดออกมา
“เอาน่าเดี่ยวมันก็จบ” เก็นกล่าวออกมาขณะมองไปที่ไนเรล
ไนเรลได้ยินแต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ เขามองไปที่ท้ายทอยของเก็น ช่วงที่เก็นนำทางอยู่และฝันไปที่ต้นหญ้าเพื่อถางทาง เขาก็สังเกตเห็นแมลงที่มันบินออกมาเกาะที่คอของเก็น
มันเหมือนกับแมลงวันตัวใหญ่ แต่ไม่ใช่มันคือแมลงปรสิต ไนเรลรีบสำรวจตัวเองทันทีว่ามีเกาะไหมและเขาก็เจออยู่ตัวหนึ่งจึงบี้มันทิ้งทันที
แมลงปรสิตที่อยู่ที่คอของเก็นค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปจนไปถึงหูของเขาจากนั้นมันก็ไข่ออกมาเป็นตัวอย่างช้า ๆ โดยที่เหยื่อของมันคือเก็นไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย
และไนเรลก็ไม่เตือนเขาเพราะเขารู้สึกว่าทั้งสามคนไม่ได้หวังดีต่อเขา เจตนาฆ่าของทั้งสามนั้นดูเด่นชัดเป็นอย่างมาก
หลังจากที่มันไข่ออกมาแล้วก็บินหนีไปทันที แต่ก็ถูกเก็นตบได้ก่อน
เพี๊ยะ!
“หึ เจ้าแมลงวันเกาะอยู่ได้” เก็นบี้มันอย่างสะใจ
“ใกล้ถึงหรือยัง?” เขาถามออกมา
“ถึงแล้วข้างหน้านี่เอง” เก็นเปิดใบไม้ขนาดใหญ่ออกมาเผยให้เห็นหมู่บ้านชนบทขนาดเล็กที่ดำรงชีพด้วยการล่าสัตว์และการตัดไม้
ด้านในของหมูบ้านเต็มไปด้วยซอมบี้จำนวนมหาศาล ไนเรลรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากทำไมที่นี่ถึงมีซอมบี้เยอะขนาดนี้และบางตัวก็ยังมีตำรวจรวมอยู่ด้วย
เพื่อนของเก็นที่คุยกับเขาตอนแรกก็ยกปืนขึ้นมาและเล็งไปที่พวกมันอย่างช้า
“จะทำอะไร?” เก็นถามออกมา
“ก็จะยิงพวกมันไง! มีอะไร?” ชายหัวร้อนกล่าว
“เดี่ยวพวกมันก็แห่กันออกมาหรอก เอาแบบนี้ดีกว่าให้ใครไปล่อพวกมันออกมาเป็นไงแล้วเราค่อยแอบเข้าไป” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ทั้งสามคนก็มองไปที่ไนเรล
“เดี่ยวฉันไปเอง” ไนเรลอาสาทันที เขาก็อยากรู้เช่นกันว่าพวกมันจะทำอะไร
ซอมบี้พวกนี้มันมีเยอะพอสมควร เขาก็อยากจะรู้ว่าพวกนี้จะเข้าหมู่บ้านยังไง และพวกคนที่ช่วยดาลิธทั้ง 2 คนใช้ทางไหนและหนีเข้าไปในหมู่บ้านได้อย่างไร
พวกนั้นน่าจะมีทางเขาอื่นที่พวกนี้ไม่รู้แน่ ๆ
ทั้งสามคนมองไปที่ไนเรลพวกเขาไม่ได้หวังว่าเขาจะสามารถล่อพวกมันออกมาได้อยู่แล้วเพราะพวกมันก็เคยลองเมื่อสองวันก่อน
ขณะที่ไนเรลลงไปที่ด้านล่างทางหมู่บ้านอย่างช้า เขาก็สั่งเกตุเห็นท่อระบายน้ำมันใหญ่น่าจะพอให้คนมุดลงไปได้
เก็นและพวกที่แอบอยู่ข้างทางหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดเพลงโยนไปทางในเรล
“พวกนายทำอะไร” เขาที่แทบจะยืนอยู่กลางถนนแล้วจึงดูเด่นเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังแกล้งถามด้วยความกลัว
“ก็มึงช้า พวกเราก็เลยช่วยให้ไง ฮ่า ๆ ” ทั้งสามคนเล็งปืนไปที่ไนเรลและพูด “เร็วรีบวิ่งล่อพวกมันออกไปไม่งั้นจะโดนกินก่อนนะ”
ดูเหมือนพวกมันจะสนุกกันที่เห็นคนถูกซอมบี้กิน
ซอมบี้ที่ได้ยินเสียงเพลงจากโทรศัพท์ก็เดินตามเสียงออกมาพวกมันมีเป็น 100 ตัว
ไนเรลแกล้งทำเป็นกลัวจากนั้นก็วิ่งไปทางทั้งสามคน
“ไอ้เวรนี่วิ่งไปอีกทางสิวะ” ชายหัวร้อนด่าไนเรลให้วิ่งออกไปอีกทางและยิงใส่ไนเรล แต่ด้วยฝีมือในควาแม่นยำอันต่ำต่อยของมันจึงยิงไม่ถูก ไนเรลรีบหลบหลังต้นไม้ทันที
ซอมบี้ที่ได้ยินเสียงปืนก็ร้องคำรามวิ่งมาตามเสียง ราวกับมันได้กลิ่นเลือด แต่ก็ไม่แปลกเพราะกินเลือดนั้นมาจากหูของเก็นที่ตอนนี้เลือดค่อย ๆ ไหลออกมา
“เก็นหูนายเลือดไหล” อีกสองคนที่อยู่ด้านข้างทักเก็นแต่ดูเหมือนเก็นจะมึน ๆ หัวและเริ่มชักกระตุกล้มลงและกระอักเลือดออกมามันเป็นเศษเนื้อ
“เฮ้ยเป็นอะไรวะ” ทั้งสองคนที่ตกใจรีบลากเก็นหนีจากซอมบี้ที่กำลังใกล้เข้ามาเพราะเสียงปืน
แต่ไนเรลที่อาศัยจังหวันนั้นวิ่งออกหน้าทั้งสามคนไป เพื่อนของเก็นทั้งสองที่เห็นว่าท่าไม่ดีแล้วก็รีบพากันหิ้วปีกเก็นวิ่งตามไนเรลไป
หลังจากที่พวกเขาวิ่งหนีตายกันมาพ้นก็พยายามมองหาไนเรล
“ไอ้เด็กบ้านั้นไปไหนแล้ววะ” ชายหัวร้อนพูดออกมาพร้อมหอบหายใจ
เก็นที่ตอนนี้เลือดออกสองข้างหูก็เริ่มได้สติมองไปทั้งสองคน “ช่วยด้วย ๆ ปวด ปวดหัว…”
แต่ก่อนที่พวกเขาจะเดินกันต่อไนเรลที่ไม่รู้โผล่ออกมาจากไหนก็ยิงไปที่ชายอีกคน
ปัง!
เสียงปืนดังพร้อมกับร่างที่ล้มลง ชายหัวร้อนถึงกับหน้าซีดตกใจ ที่เห็นเพื่อนอีกคนตายไปต่อหน้า เขาก็รีบหลบหลังต้นไม้ด้วยความกลัวทันที
ตอนนี้ด้านหน้ามีไนเรลด้านหลังก็มีซอมบี้ที่ไม่รู้จะตามมาตอนไหนแต่เสียงของพวกมันก็ดังใกล้เข้ามาทุกที
“เฮ้ย ไอเวร แกจะทำอะไรวะ!!! พวกเราอุตส่าห์ช่วยแกตามหาเพื่อนนะ” ชายหัวร้อนตะโกนจับปืนแน่นเขามองซ้ายมองขวาเพื่อที่จะหาว่าไนเรลอยู่ตรงไหน