ตอนที่ 16 ฝูงปลาบึกยักษ์กลายพันธุ์
พวกเขาออกเดินทางต่อไปตามเส้นทางที่เจคอบบอก มันใช้เวลาสักพักพวกเขาก็มาถึงทางแยกและมุ่งหน้าสู่เมืองเล็ก ๆ ข้างแม่น้ำ เส้นทางนี้เจคอบบอกว่าพ่อของเขาที่เป็นคนขับรถส่งสินค้าจะมาบ่อย ๆ เพราะมันตรงไปที่เมืองซานติเกียได้โดยตรง ส่วนทางที่ไนเรลไปนั้นมันเป็นทางที่รถไฟใช้กัน
เขาสงสัยว่าทำไม เจคอบเด็กน้อยหัวขโมยถึงรู้เส้นและจำทางพวกนี้ดีนะทั้งที่อายุยังน้อย แต่เจคอบก็ตอบกลับมาประโยคหนึ่งว่า “เขาอยากเป็นคนขับรถบรรทุกแบบพ่อที่เป็นฮีโร่ของเขา”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น เขาก็คิดถึงคำพูดหนึ่งที่ว่า ‘คนเราถ้าทำในสิ่งที่รักและชื่นชอบ เขาจะเก่งในด้านนั้น ๆ และอายุก็ไม่ใช่ข้อจำกัด’
ใช้เวลาเดินทางไม่นานพวกเขาก็มาถึงสะพานแต่มีรถจอดไว้อยู่เต็มไปหมด
ตามที่เจคอบบอกแค่ข้ามสะพานนี้ไปแค่ไม่กี่กิโลก็ถึงเมืองแล้ว ไนเรลใช้กล้องส่องทางไกลที่ไปขอยืมมาจากเจ้าของรถบ้าน
“ที่สะพานมีรถที่จอดขวางทางเต็มไปหมดแต่มันไม่มีซอมบี้ น่าจะยังพอเดินข้ามไปได้” เขาพูดแล้วส่งกล้องให้นิเรียและคนอื่นเพื่อใช้ส่องดูที่สะพาน
“เราจะทิ้งรถไว้ที่นี่ แล้วข้ามไปพรุ่งนี้” เขาบอกกับทุกคน
แต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนเปิดวิทยุของรถบ้านขึ้นมา
“ทุกคนมาฟังนี่เร็ว มีช่องสัญญาณฉุกเฉินของทางรัฐบาล พวกเขาว่ามีค่ายลี้ภัยของเขตตะวันออก” คนที่อยู่บนรถบ้านพูดขึ้น
“จริงด้วยพวกเขายังบอกอีกว่าจะเริ่มสร้างเมืองใหม่ พวกเราไปที่นั้นกันเถอะ”
ตอนนี้เสียงในกลุ่มเริ่มแตกออกเป็นสองทางแล้ว คนที่อยู่ในรถบ้านต้องการจะเดินทางไปที่ค่ายลี้ภัยและหวังว่าจะมีโอกาสเดินทางไปที่เมืองใหม่ที่ทางรัฐบาลสร้าง
ขณะที่ทุกคนเถียงกันอยู่นั้น ไนเรลก็กล่าวออกมา “ใครจะไปก็ไป ฉันไม่ได้บังคับใครให้อยู่ แต่แฮรี่จะต้องอยู่ที่นี่”
หมอแฮรี่เหมือนจะพูดอะไรแต่เมื่อเห็นสายตาไนเรลเขาก็เงียบ ตอนที่จะออกมาเขาก็ขอให้ไนเรลช่วยคนพวกนี้แล้ว ตอนนี้เขาก็ต้องอยู่กับกลุ่มของไนเรลตามที่เขาเคยพูดเอาไว้
หลังจากตกลงกันเขาก็แบ่งอาหารกระป๋องให้พวกนี้บางส่วน เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายอาหารกระป๋องเหล่านี้ เพราะเขาคงขนไปไม่หมด
เนื่องจากเขาจะทิ้งรถไว้และเดินข้ามสะพานไปแทน ดังนั้นของที่เอาไปด้วยได้จึงมีจำกัด
หลังจากที่แยกกลุ่มออกมา เขาตัดสินใจหาที่พักกันก่อนและพรุ่งนี้เช้าค่อยข้ามสะพานมันจะปลอดภัยกว่า
ไนเรลและพวกเจอบ้านหลังเล็ก ห่างจากสะพานแค่ไม่ถึง 100 เมตร บ้านหลังนี้ดูเหมือนจะเป็นบ้านของชาวประมงริมแม่น้ำ
มันมี 2 ห้องนอน 1 ห้อง นั้งเล่นและห้องน้ำอีกหนึ่ง ด้านหลังมีบ่อน้ำบาดาลขนาดเล็กอยู่
“พี่ชายพอมีน้ำบาดาลอยู่” นิเรียพูดด้วยความดีใจเธออยากอาบน้ำมากหลังจากเจอเรื่องแย่ ๆ มา
แต่เมื่อเปิดดูก็มีซอมบี้สามีภรรยาอยู่ในบ่อ
เมื่อพวกมันเห็นไนเรลก็ร้องคำรามด้วยความหิวกระหาย เขาจึงช่วยให้มันพ้นทุกข์
และทุกคนก็ได้แต่หาผ้าชุดน้ำเพื่อเช็ดตัวและใบหน้าสักเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นก็ไปรวมกันที่ห้องโถงเพื่อพักผ่อน
วันนี้มันหนักมากสำหรับพวกเขา ทุกคนกินอาหารกระป๋องกันที่ข้างเตาผิง
ส่วนไนเรลก็อาศัยความชำนาญของตนในการจัดการกับร่างของต่อหัวเสือกลายพันธุ์ทั้ง5 ตัว เนื้อของพวกกลายพันธุ์มันเน่ายาก สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน แต่เขาก็ยังเอาพวกมันมาย่างแบบรมควันที่เตาผิงให้แห้ง เวลาจะหยิบกินจะได้สะดวก
“พี่ชายจะกินมันจริง ๆ เหรอ” นิเรียไม่ค่อยรู้สึกดีกับพวกต่อหัวเสือกลายพันธุ์มากนักเนื่องจากพวกมันฆ่าเพื่อนของเธอ
“แน่นอน” หลังจากที่พูด เขาก็หยิบเนื้อชินที่ดีที่สุดขึ้นมากินอย่างหน้าตาเฉย เนื้อมีความมัน และนุ่มมาก “อืม…อร่อยดีหนิ”
ไนเรลส่งเนื้อให้น้องสาวของเขา นิเรียก็เป็นมนุษย์ชั้นสูงเช่นกัน ดังนั้นเธอก็ควรที่จะกินพวกเนื้อกลายพันธุ์ให้มาก เพื่อที่จะได้พัฒนาเป็นขั้นต่อไป “น้องต้องกินมาก ๆ เนื้อพวกนี้มีประโยชน์กับคนแบบพวกเรา”
จากนั้นเขาก็บอกว่าบางส่วนให้กับทุกคน แต่เขาก็เตือนว่าอย่ากินเนื้อกลายพันธุ์นี้เยอะเกินไป มันจะให้โทษมากกว่าประโยชน์
หลังจากนั้นเขาก็กลับมานั่งกินเนื้อต่อหัวเสือกลายพันธุ์ของตัวเองต่อ
ถึงแม้ต่อทั้ง5 ตัวจะมีเนื้อไม่เยอะ ส่งเมื่อรวมกันแล้วก็ได้ประมาณ 90 กิโล
กินข้าวกินก็ยิ่งรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เขากินเนื้อไปถึง 4 กิโลแล้วก็เริ่มโครงรู้สึกอิ่ม ๆ จึงหยุดเพื่อรอให้ความสามารถ [ดูดซับความสามารถ???] จัดการเนื้อกินลงไปเสร็จซะก่อน
เขาก็ไปหาอะไรทำค่าเวลาโดยการจัดการเช็ดทำความสะอาดดาบ และปืนของตัวเอง
ส่วนนิเรียและดามินก็ช่วยกันจัดการกับปืนสไนเปอร์ M-21 ปืนลูกโม่และของบางส่วนของเขา
“พี่ไนเรลระเบิดพวกนี้จะทำอย่างไร” ดามินถามขณะที่ชี้ไปที่ระเบิดมือ 4 ลูกที่ได้มาพร้อมกับปืนสไนเปอร์
“อืม…แบ่งไปคนละลูกก็แล้วกัน” ไนเรลกล่าว
ทุกคนได้มาคนละหนึ่งลูกเว้นเจคอบ โดยไนเรลให้เหตุผลว่าเขายังเด็กเกินไป เจคอบดูจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็รู้สึกกลัวไนเรล พี่ชายผู้น่ากลัวของลูกพี่นิเรียเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นสักพัก ไนเรลก็กลับมา และกินเนื้อต่อหัวเสือกลายพันธุ์อีกหลายครั้ง เนื้อถูกกินไปถึง 30 กิโลกลัม
ถ้าเป็นคนปกติคงไม่สามารถกินเนื้อสัตว์ที่มากถึง 30 กิโลกรัมได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่เขากลับทำมันได้ น่าจะเป็นเพราะว่าความสามารถในการดูดซับของเขา
เมื่อทดลองใช้ดูปลายนิ้วทั้ง10 ของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหล็กในของต่อหัวเสือ
[นิ้วเหล็กในพิษ (ต่อหัวเสือกลายพันธุ์) A]
เปลี่ยนนิ้วให้เป็นเหล็กในต่อหัวเสือ แต่ทุกอย่างก็มีข้อจำกัด เมื่อใช้ครบ 10 นิ้วต้องรอ 24 ชั่วโมงเพื่อใช้ใหม่
เขาคิดว่าความสามารถนี้น่าจะอยู่ในระดับ A จากประสบการณ์ของเขา
ตอนนี้เขามีความสามารถที่ถึงตายเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้ว ด้วยความสามารถทั้งหมดของเขาที่มีอยู่ตอนนี้ มันน่าจะพอจัดการกับซอมบี้ขั้นที่ 2 ได้แล้ว
และอีกอย่างตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงในร่างกายแล้ว เขาใกล้ที่จะวิวัฒนาการ เลื่อนไปเป็นระดับ สีเทาแล้ว
ที่ผ่านมาเขากินเนื้อกลายพันธุ์จำนวนมากพอสมควรมันจึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เขาจะเลื่อนระดับได้เร็ว
และส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากความสามารถ [ดูดซับความสามารถ ???] ของเขาที่ช่วยให้กินได้เยอะขึ้นและดูดซับสิ่งที่กินเข้าไปทั้งหมด
ส่วนนิเรียที่คอยเป็นห่วงพี่ของเธออยู่ด้านข้าง เพราะพี่ชายของเธอกินเยอะเกินไปแล้ว เธอกลัวว่าเขาจะไม่สบาย
และที่เธอเป็นเช่นนั้นก็เพราะยังไม่รู้ว่าพี่ของเธอมีถึงสองคริสตัลวิวัฒนาการ 2 ความสามารถหลัก
เช้าวันต่อมาพวกเขาก็เก็บของและเตรียมตัวไปที่สะพานแต่วันนี้มันมีหมอกหนามากปกคลุมสะพาน
“หมอกหนาอีกแล้ว” ดามินเริ่มไม่ชอบหมอกแล้วเพราะพวกมันมักพาความซวยมาเสมอเหมือนบนถนน เมื่อสองวันก่อน
“ยังไงเราก็ต้องไป” ไนเรลเดินน้ำหน้าออกไปก่อน โดยมีนิเรียตามหลัง เจคอบ หมอแฮรี่และคนสุดท้าย ดามินที่แบกปืนสไนเปอร์คอยดูข้างหลัง
เขาแบกกระเป๋าเป้ที่ใหญ่พอสมควรแต่น้ำหนักของมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะเขามีความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B]
แบกของที่หนักกว่าน้ำหนักตนเองได้ถึง 2.5 เท่าได้สบาย หรือจะ 5 เท่าถ้าเขาใช้ความสามารถจนสุด นั้นคือ 375 กิโลกรัมเขาก็ทำได้
เมื่อเดินเขามาในสะพานข้ามแม่น้ำที่มีทางเดินให้คนเดินสองฝั่งตรงกลางเป็นถนน 2 เลนให้รถข้าม ตัวสะพานยาวประมาณ 500 เมตร
พวกเขาเดินข้ามสะพานไปอย่างระมัดระวัง ในระหว่างทางก็สังเกตรถที่จอดทิ้งไว้อยู่ในสะพานไปด้วย มีศพที่ตายอยู่ในรถไม่ได้ไปหลายคัน น่าแปลกกับที่ไม่มีซอมบี้อยู่ในบริเวณนี้เลย
ถ้ากะจากปริมาณรถหน้าจะมีซอมบี้อยู่ราว ๆ 1000 – 2000 ตัว แต่พวกมันไปไหนหมดเขาก็ไม่สามารถรู้ได้
ไนเรลที่เห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ระวังตัวเป็นอย่างมาก เขาได้แต่คิดในใจ ‘พวกมันน่าจะไปรวมตัวกันอยู่ที่ไหนสักพัก’
และในตอนนั้นเองเจคอบก็สะกิดเรียกนิเรียให้ดูบางอย่างในแม่น้ำ “ลูกพี่วาฬ”
ทุกคนหันไปมองทางที่เจคอบพูด มันจะมีวาฬอยู่ที่นี่ได้อย่างไรในเมื่อแม่น้ำสายนี้เป็นน้ำจืดทุกคนก็คิดเช่นนั้นแต่เมื่อมองไปก็ต้องตกใจ ประมาณ 100 กว่าเมตร แหวกว่ายอยู่ในน้ำเป็นฝูงขนาดยักษ์
“สุดยอดฝูงวาฬ” ดามินและนิเรียดูจะตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นอะไรแบบนี้
“มันไม่ใช่วาฬแต่เป็น ปลาบึก ปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พวกมันน่าจะกลายพันธุ์จึงทำให้มีขนาดตัวใหญ่ขนาดนี้” ไนเรลอธิบายพร้อมกับนึกถึงข้อมูลของพวกมัน
ปลาบึกกลายพันธุ์ มันมีความยาวประมาณ 100-150 เมตร มีปากที่ขนาดใหญ่มาก ซึ่งมันชอบกินสาหร่ายที่ขึ้นอยู่ตามก้อนหินใต้น้ำเป็นอาหาร มันรักสงบ ตื่นตกใจง่าย
เหตุผลที่เขาจะรู้ข้อมูลจำนวนมากก็เพราะว่า พวกมันมักจะถูกล่าไปเป็นอาหารแจกจ่ายในเมืองต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง
เนื่องจากขนาดตัวที่ไหน ทำให้มันเคลื่อนที่ช้า แล้วมันเป็นสัตว์กินพืชทำให้มันไม่ค่อยมีนิสัยดุร้าย จึงตกเป็นอาหารที่ล่าได้ง่ายและให้ปริมาณเนื้อที่เยอะ ในเวลาต่อมามนุษย์นิยมล่าพวกมันเป็นอย่างมาก
หลังจากที่พวกเขามองฝูงของปลาบึกยักษ์กลายพันธุ์ว่ายผ่านไปจนสุดสายตา ก็ออกเดินกันอีกครั้ง
ใช้เวลาไม่นานก็ข้ามสะพานนี้ไปได้ แต่ว่าบนเส้นทางก็ยังเต็มไปด้วยรถจำนวนมหาศาล พวกเขายังต้องเดินกันอีกไกล แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของซอมบี้แม้สักตัว
ส่วนสัตว์เลี้ยง สัตว์กลายพันธุ์ในบริเวณนี้เขาคิดว่าพวกมันคงถูกซอมบี้จับกินไปหมดแล้ว
พวกเขาใช้เวลาตลอดช่วงเช้าในการเดินเข้าไปทางเมือง และแล้วก็เริ่มมีตึกอาคารและบ้านที่เพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก
“ระวังตัวไว้ด้วย” เมื่อเข้าบริเวณย่านการค้า ไนเรลก็บอกกับทุกคน
คุกที่เข้าจะเป็นคุกใหญ่ของเมืองแห่งนี้ ตามที่เขาเคยทราบมาตอนที่ปู่โดนจำคุกแห่งนี้มีนักโทษประมาณ 10,000 คน และผู้คุมอีก 300 คน นั้นหมายความว่าผู้คุม 1 คนต่อนักโทษ 34 คน
ในช่วงที่เกิดเรื่อง เขาหวังว่าสถานการณ์ภายในคุกจะไม่เลวร้ายนัก
ส่วนเขารู้ได้อย่างไรว่าปู่ของเขายังไม่ตายนั้นก็เป็นเพราะว่าเขาเคยเจอเอกสารในชีวิตที่แล้ว ว่าปู่ของเขาส่วนในงานวิจัยที่เมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น ส่วนเขาได้เอกสารมาได้ไงงั้นก็คงจะบอกว่ามันเกี่ยวกับ ผู้หญิงที่เป็นฝันร้ายของเขา สเตล่า
ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากคุกไปแค่ 2 กิโลเมตรแล้ว
“ทำไมที่นี่มันเงียบอย่างนี้?” หมอแฮรี่พูดออกมาเพราะเขารู้สึกว่ามันเริ่มแปลก ๆ แล้ว
ทันใดนั้นไนเรลก็รีบยกมือทำเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบลงก่อน
พวกเขาพยายามเอียงหูฟังเสียงที่ลอยมาตามอากาศ มันมีเสียงเหมือนกับเสียงคนจำนวนมากดังมาไกล ๆ เหมือนแมลงวันฝูงใหญ่ที่บินไปมา
เมื่อทั้งกลุ่มเดินหลุดออกจากตึกที่บังพวกเขาจากเสียงพวกนั้นก็ต้องตกใจ ซอมบี้ ซอมบี้จำนวนมหาศาลกินพื้นที่กว่า 1 กิโลเมตร พวกมันล้อมรอบ คุกไว้อยู่ตรงกลาง
“ถอยเร็ว” ไนเรลพูดด้วยเสียงที่เบาที่สุดรีบพาทุกคนออกจากบริเวณนั้นทันที
พวกเขารีบหาตึกสูงและเข้าไปในนั้น “เข้าไปหลบในนั้นก่อน”
เเกก ๆ!
เมื่อเข้าไปในตึก 4 ชั้นมันเป็นภัตตาคารอาหารหรู พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากในห้องครัวมันคือซอมบี้พ่อครัว 3 ตัว
พวกเขารีบจัดการมันอย่างง่ายได้โดยใช้แค่ดาบสั้นและมีดสั้นทังสแตน เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเสียงดังดึงดูดซอมบี้ที่อยู่ด้านนอก
หลังจากนั้นพวกเขาก็ขึ้นไปบนดาดฟ้า
มองจากชั้น 4 ลงไปในเมืองด้านล่างมันเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อมาก เมืองที่ถูกทำลาย ตึกถล่มถนนที่พัง กลุ่มควันที่ลอยมาจากอาคารที่ถูกไฟไหม้ มันผ่านเพียงไม่กี่วันต้องรอพรุ่งนี้ก็ยังมีอยู่จำนวนมหาศาล
ตอนนี้ขณะเดียวกันก็มี ต้นไม้ ใบหญ้า ตะไคร่น้ำขนาดใหญ่ปกคลุมตามตัวอาคารบ้างแล้ว
ตูม! ปัง! ตูม! ปัง!
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากคุก ที่มีกำแพงล้อมรอบสูงถึง 10 เมตร เสียงปืนดังออกมาเป็นระยะดูเหมือนว่าจะมีคนรอดอยู่
พวกเขาน่าจะยึดคุกและใช้มันเป็นป้อมปราการต้านพวกซอมบี้
“พวกเขาจะทนได้อีกไม่นาน ถ้ามีซอมบี้ขั้น 2 หรือ ขั้น 3 ปรากฏตัวขึ้น” ไนเรลพูดพึมพำออกมา
ตอนนี้เขาต้องหาทางเข้าไปช่วยปู่ให้ได้ก่อนที่พวกซอมบี้จำนวนมหาศาลนี้จะฝ่าเข้าไปในคุกได้
หลังจากคิดอยู่สักพักก็เกิดไอเดียขึ้นมา ‘ท่อน้ำทิ้งขนาดใหญ่ ยังไงมันก็ต้องเชื่อมไปถึงทางอาคารชั้นใต้ดินของคุก’