ตอนที่ 25 ซอมบี้กลางค่าย
เขามองไปที่หญิงสาวเธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น แต่ถึงแบบนั้นสภาพของเธอก็ดูจะหิวโซเป็นอย่างมาก ไกลออกไปมีเด็กสาวตัวน้อยยืนเกาะอยู่ข้างกำแพงด้วยความหิว
เธอมองไปที่แม่ของเธอด้วยความหวังว่าจะกินได้ตั๋วอาหารสักเล็กน้อยเพื่อไปซื้อข้าวกิน
“น้องชายสนใจไปกับพี่สาวคนนี้สักคืนมั้ย แค่ 300 ตั๋วอาหาร” เธอพยายามที่จะยั่วยวนเขาด้วยเสียงที่มีเสน่ห์อันเย้ายวนแบบผู้ใหญ่
ราคาที่เธอขอนั้นเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของค่าแรงต่ำสุดของคนใช้แรงงาน
ไนเรลชี้ไปที่เด็กสาวที่อยู่ด้านหลังและกล่าวออกมา “นั้นลูกคุณหรือ?”
“ไม่ใช่!” หญิงสาวรีบปฏิเสธทันที ด้วยความกลัวที่ว่าถ้าไนเรลรู้ว่าเธอ มีลูกแล้วเขาจะปฏิเสธ
ทันทีที่สาวน้อยได้ยินแบบนั้นก็ร้องไห้และวิ่งออกมาจากที่ซ่อนมากอดแม่ของเธอเพราะกลัวว่าจะโดนทิ้ง
หญิงสาวที่เห็นแบบนั้นก็ทนไม่ได้กอดเด็กน้อยไว้อย่างอ่อนโยน เธอรักลูกของเธอมาก
ในเวลาปกติเธอเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลลูกอยู่บ้านเท่านั้น ส่วนสามีเป็นคนทำงานเลี้ยงครอบครัว แต่ตอนนี้สามีของเธอกลายเป็นซอมบี้และตายไปแล้ว
ช่วงหลายวันที่ผ่านมาตอนมาถึงค่ายเธอยังพอมีของติดตัวบ้าง แต่ในวันนี้ทั้งตั๋วอาหารและอาหารหมดแล้ว เธอจึงไปหางานแต่ก็ไม่มีที่ไหนรับผู้หญิงแบบเธอที่ทำงานบ้านเป็นอย่างเดี่ยว
อีกทั้งข้าวต้มที่รัฐบาลแจกมันก็ไม่ได้ทั่วถึง ด้วยความที่ทนดูลูกสาวหิวไม่ได้ เธอจึงได้แต่เลือกกัดฟันและมาขายบริการแลกกับตั๋วอาหาร
และลูกค้าคนแรกที่เธอเลือกก็คือไนเรล เธอพอรู้จักคริสตัสบนหน้าผากของเขาว่ามันคือเครื่องหมายของมนุษย์ชั้นสูง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบเธอซะแล้ว
ไนเรลมองไปที่สองแม่ลูกจากนั้นเขาก็กล่าวกับเธอ “เอาเงินนี่ไป ถ้ายังหางานไม่ได้ก็ไปหาฉันที่นี่”
เขาหยิบตั๋วอาหารออกมา 500 และบอกที่อยู่กับเธอ ตอนนี้เขามีบ้านแล้ว ดังนั้นมันก็ควรที่จะมีคนดูแล เพราะทั้งบ้านก็มีแต่ผู้ชายอยู่ส่วนนิเรีย น้องสาวของเขาคนที่ทำงานบ้านเป็นคนเดียวก็พักอยู่กับหน่วยโล่
ตอนนี้เขาก็คิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะเหมาะสม แต่เขาก็ทำได้แค่ยื่นโอกาสให้เธอเท่านั้น ซึ่งทางเลือกก็ยังเป็นของเธอ
ไนเรลหันหลังและเดินไปต่อ
ใช้เวลาไม่นานเขาก็มาถึงร้านที่เมสันเปิดอยู่ มันเป็นร้านที่อยู่ซอยที่ลึกมาก แต่น่าแปลกใจกลับมีคนต่อคิวเยอะพอสมควร
คนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นพวกใต้ดินจากท่าทางและการแต่งตัว
ไนเรลไม่ได้สนใจที่จะต่อคิวเขาเดินเข้าไปโดยตรงจนหลายคนไม่พอใจ
“เฮ้ยไม่เห็นหรือไงวะว่ามีคนยืนต่อเเถวอยู่” นักเลงหนึ่งในนั้นยื่นมือไปจับที่ไหล่ของเขาและพยามยามกระชากตัวเขาถอยมาอย่างหาเรื่อง
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ปล่อยมือซะ” ทันทีที่เขาพูดออกมาก็เหมือนกับไปเหยียบหางหมาของจ่าฝูงเข้า คนในกลุ่มของชายคนนั้น เดินมาล้อมเขาทันที
ชายฉกรรจ์ 5 คนล้อมเขาไว้ตรงกลางอยู่คนเดียว
“ฉันขอเตือนว่าให้พวกนายหลบไปซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ไนเรลยังคงพูดอย่างใจเย็น
“มึงตาบอดหรือไงวะพวกกูมี 5 คนนะเว้ย” หนึ่งในนั้นพูดออกมาพร้อมกับเปิดให้เห็นคริสตัลบนหน้าผากที่เป็นสีขาว
เขามีความสามารถ สนับสนุน
[ผิวหนังเพลิง] ทำให้ผิวหนังร้อนได้เหมือนไฟ
“ผิดแล้วแค่ 1 ต่อ 1 เท่านั้น” ไนเรลพูดด้วยความมั่นใจ
เขาไม่รอช้าใช้ขาถีบเข้าไปที่ข้อพับของชายคนหนึ่งจนขาหักผิดรูป ล้มตัวลงไปร้องอยู่น่าสมเพช
และเขาก็หันไปต่อยที่ท้องชายคนนั้นจนกระเด็นไปชนกับกำแพง สลบไปทันที
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ทั้ง3 คนก็รีบเข้าไปช่วยแต่ว่าก็โดนเตะสลบไปอีกคน ตอนนี้เหลือแค่สองคน
“บัดซบ ลองเอาหมัดนี่ไปกิน” ชายที่มีพลัง ต่อยไปที่เขา แค่มันผ่านหน้าก็รู้สึกได้ถึงความร้อนบางส่วน หมัดเสื้อผ้าเขาเล็กน้อยมันถึงกับเป็นรอยไหม้
“ฮ่า ๆ เสร็จละ” ชายคนนั้นหัวเราะอย่างสะใจ เขาไม่คิดว่าไนเรลเลือกที่จะรับหมัดนี้ ทันทีที่หมัดเขาโดนกับมือไนเรลจะต้องกลายเป็นเนื้อสุกอย่างแน่นอน
แต่มันก็ทำได้แค่นั้น เพราะหมัดที่สองที่ชายคนนั้นปล่อยมา ไนเรลก็แค่เปลี่ยนผิวหนังตรงบริเวณมือเป็นเกล็ดกิ้งก่า เขาจับไปที่หมัดที่พุ่งเข้ามา และใช้เท้าแทงไปที่กล่องดวงใจอย่างแรง
ตุบ! เสียงของชายคนนี้ล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมกับน้ำลายฟูมปาก
ส่วนอีกคนด้วยความกลัวจึงถอยหลังวิ่งหนี
โป๊ง! …
แต่ก็โดนเมสันที่ไม่รู้โผล่มากจากไหนใช้กระทะตีไปที่หัวอย่างแรงจนชายคนนั้นสลบไป
“เอาใครสั่งกระทะไว้ มาเอาไป มันตีขึ้นมาด้วยเล็กกล้าตามที่ขอไว้” เมสันยังหยิบปืนประดิษฐ์ขึ้นมาอีก 2 กระบอกออกมาให้ลูกค้าที่ยืนรอ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้แต่กลับไปเพราะของที่สั่งเมสันยังทำไม่เสร็จ
เขารู้สึกแปลกใจที่เมสันกล้าสร้างปืนขึ้นมา
หลังจากนั้นไนเรลและเมสันก็เข้าไปด้านใน มันมีเครื่องมือช่างหลาย ๆ อย่างที่เขาก็ใช้ไม่เป็นว่างอยู่ด้านใน
ห้องนี้ใหญ่มากพอสมควร แต่มันก็เต็มไปด้วยของจำนวนมาก จนทำให้มันดูแคบ
“คุณไม่กลัวว่าพวกตำรวจของค่ายจะมาจับเอาเหรอ” เขาพูดออกมาขณะที่เดินดูรอบ ๆ
“ไอ้หนู นายจะไปรู้อะไร ที่นี่มันกินกันตั้งแต่หางยันหัว ฉันก็แค่แบ่งเปอร์เซนต์ให้หัว แค่นี้หางมันก็ไม่มายุ่งแล้ว” เมสันอธิบาย พร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟา เขาก็ไปนั่งด้วยเช่นกัน
“ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่?”
“ผมจะให้คุณช่วยสร้างของให้หน่อย”
“ไม่ฟรี”
“แน่นอน”
หลังจากนั้นทั้งเขาก็บอกถึงของที่จะให้เมสันทำ ซึ่งเขาก็ดูจะมีแรงทำงานขึ้นมาทันที แต่ว่าด้วยความที่ไนเรลไม่ได้เอาของพวกนั้นมา ดังนั้นเขาและเมสันก็กลับไปที่บ้านไนเรลทันที
เมสันเห็น เขากับเขี้ยว และหนังของงูยักษ์รีบเอาพวกมันกลับไปทันที สำหรับนักสร้างอาวุธอย่างเขานั้น การที่เห็นของแปลกใหม่แบบนี้คือสิ่งที่เขาตามหามานาน
หลังจากนั้นไนเรลและเมสันก็ตกลงกันโดย เขาจะทำอาวุธกับชุดจากหนังงูให้เขาจำนวนเท่ากับทุกคนในกลุ่มของเขา ส่วนหนังงูที่เหลือจะเป็นค่าตอบแทนเมสัน
“แค่สามวันก็สร็จแล้ว” เมสันพูดพร้อมกับเอาของทั้งหมดไป
เช้าวันต่อมาสองแม่ลูกก็มาหาเขาที่หน้าบ้าน ไนเรลก็ให้เธอเข้าไปในบ้านและเเนะนำกับทุกคน
เธอมีชื่อว่า ลูน่า และลูกของเธอชื่อ โคลอี้
หลังจากนั้นดามินก็ออกไปที่สำนักงานกลางของค่าย เขาได้งานเป็นคนดูแลเอกสารจ้างงานอยู่ที่นั่น เจคอบก็ไปที่ค่ายทหารเพื่อขอสมัครอีกครั้ง แต่เด็กแค่ 10 ขวบอย่างเขานั้นโอกาสในการที่ทางนั้นจะรับก็น้อยมาก
แต่มันก็ไม่แน่ในช่วงวิกฤตแบบนี้ เพราะดูเหมือนกำลังทหารจะขาดแคลนอยู่เสมอ ไนเรลก็ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงมากนักเพราะเจคอบดูจะเป็นเด็กที่โตกว่าปกติอยู่แล้ว
ส่วนไนเรลก็ตรงไปที่สำนักงานนักล่าเพื่อลงทะเบียนออกไปนอกเมืองอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เจ้าแมวน้อยไม่ได้ตามมาด้วยเพราะมันบอกว่าง่วงนอน แต่เขาดูแล้วเหมือนมันจะได้ของเล่นใหม่มากกว่านั้นก็คือเด็กสาวตัวน้อยที่พึ่งมาอยู่บ้าน
ไนเรลออกไปไม่ไกลมากนักในครั้งนี้เขาแค่จะไปสำรวจดูพวกไฮยีน่าที่มาดักปล้นเขา แต่ออกไปไม่นาน เขาก็เจอเข้ากับซอมบี้จำนวนมาก พวกมันเดินกันอยู่ใน ป่า และตามถนนเต็มไปหมดทุกที่
เขาจึงจัดการและล่า ถอยออกมาในระหว่างทางก็เจอกับรถทหารที่ออกไปจัดการกับซอมบี้ฝูงนั้น
“ดูเหมือนว่าอีกไม่นานซอมบี้จะมารวมตัวกันมากขึ้น” ไนเรลคาดการสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำตอนนี้มีซอมบี้จำนวนมหาศาลกำลังมุ่งหน้าออกจากเมืองตรงไปยังพวกเขา
หลังจากจัดการกับ พังพอนขนเหล็กกลายพันธุ์ขั้น 1 ลงอย่างง่ายดาย เขาก็กลับเข้าค่ายไป
………………………………………
นิเรียตอนนี้อยู่ในหน่วยของโล่ที่มีสมาชิก 50 คน ทั้งหมดเป็นมนุษย์ชั้นสูงเธอถูกจัดให้ไปคุ้มกันทหารที่ออกไปเคลียเส้นทางรถไฟ ซึ่งในตอนเย็นเธอก็กลับไปหาพี่ชายของเธอแต่ก็ไม่เจอกัน
“พี่ชายไปไหน?” นิเรียถาม เจคอบที่กำลังเซ็ง ๆ อยู่ แต่ก่อนที่เจคอบจะตอบเธอก็เหลือบไปเห็น ลูน่าและโคลอี้ที่พึ่งเข้ามาอยู่ใหม่
นิเรียถึงกับสตั้นไปในทันที ในหัวของเธอคิดว่า ‘แค่ไม่อยู่กับพี่ชาย ไม่กี่วัน พี่ชายถึงกลับแอบไปมีกิ๊ก แล้วยังมีลูกด้วยกันอีก 1 คน’
นิเรียชี้ไปที่พวกเธอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอรีบเข้าไปหาเจ้าแมวน้อยและโวยวายว่าทำไมไม่ยอมดูพี่ชายไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอ่อยพี่ของเธอ
แต่เจ้าแมวน้อยก็ขี้เกียจเถียงและคิดว่า ‘นิเรียเป็นอะไร ที่มะลิชอบคุยและอยู่ใกล้ไนเรลก็เพราะว่าเขาหาอาหารเก่ง ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้นสักหน่อย’
ในตอนนั้นเองในที่สุดไนเรลก็กลับถึงที่พัก เขาก็เห็นน้องสาวที่น่ารักของเขา จึงเข้าทักทายแต่เธอก็ทำท่าโกรธใส่
“น้องสาวพี่เป็นอะไร ใครทำให้โกรธ?”
แค่เธอไม่ยอมคุยกับเขา เขาก็เลยไปถามเจ้าแมวน้อยและแน่นอนมันก็ขอเนื้อพังพอนขนเหล็กกลายพันธุ์ขั้นที่ 1 เป็นค่าตอบแทน
แมวน้อยก็เลยบอกเรื่องที่นิเรียมาบ่นให้ฟัง ไนเรลก็อดขำออกมาไม่ได้
ตอนเย็น ดามินก็กลับมาจากทำงานทุกคนก็ได้กินข้าวกันพร้อมหน้า
นิเรียจะยังดูโกรธเขาอยู่แต่เมื่อไนเรลอธิบายว่าเขาแค่ช่วยสองคนนี้มาก็เท่านั้นและไม่ได้เป็นอะไรกัน
“พี่ให้ ลูน่ามาเป็นแม่บ้านคอยดูแลบ้านก็แค่นั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แล้วเด็กคนนี้ลูกใคร หรือว่าไม่ใช่ลูก….”
ไนเรลถึงกับบีบจมูกเธอไปหนึ่งที “จะบ้าเหรอเด็กนี่ตั่ง 5 – 6 ขวบแล้วนะ อีกอย่างพี่ก็พึ่งรู้จักเธอ”
นิเรียได้ยินดังนั้นก็คิดขึ้นได้ว่าพี่เธอจะเอาเวลาไหนไปทำลูก แต่แล้วเธอก็หน้าแดงและรีบเปลี่ยนหัวข้อทันที
“พี่พรุ่งนี้หนูต้องเดินทางโดยรถไฟไปคุ้มกันทหารที่เคลียร์เส้นทางรถไป 5 วัน”
ไนเรลที่ฟังดังนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที “ปฏิเสธไป”
“หนูตัดสินใจลงชื่อไปแล้วอีกอย่างเส้นทางที่เคลียร์ก็คือเส้นทางหลักที่ตรงไปสู่เมืองใหม่ ที่พ่อกลับแม่ซึ่งหนูทำเรื่องว่าจบภารกิจนี้แล้วจะไปหาพ่อกับแม่”
หลังจากนั้นนิเรียก็เล่าให้ฟังว่าเธอใช้ช่องทางของกองทัพเพื่อติดต่อพ่อกับแม่ได้แล้ว
หลังจากนั้นนิเรียก็กลับไปเตรียมตัว ไนเรลกำลังคิดว่าเขาจะทำอย่างไรต่อดีจะไปเป็นพวกทหารในกองทัพหรือไม่เพราะเขาเป็นห่วงนิเรีย
สุดท้ายเขาก็ยังคงแผนเดิมอยู่นั้นก็คือการเป็นนักล่าและยกระดับพลังให้ได้มากที่สุด
สามวันต่อมา….
เย็นวันนี้เป็นวันที่ไนเรลนัดกับเมสันไว้ เขาก็เดินไปตามเส้นทางเดิม เมื่อมาถึงที่ร้านตอนนี้ก็มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเคย
“ฮ่า ๆ ฮ่า มาดูนี่สิเขาสัตว์ที่นายเอากลับมามันมีความคงทนและเเข็งแรงเป็นอย่างมาก” เมสันส่งดาบยาวสองเล่มมาให้เขา
“นี่มัน” ไนเรลถึงกับเหลือเชื่อมองไปที่ดาบยาวที่เมสันทำขึ้นมาทันที ใบดาบโค้งตามลักษณะของเขาเล็กน้อย ตัวด้ามของมันสามารถต่อกันเป็นดาบเล่มเดี่ยวได้ ทำให้เหมือนกับรูปตัว S ไม่มีผิดเขารู้สึกชอบเป็นอย่างมาก
“ส่วนตัวหนังงูเมสันได้ใช้คนรู้จักให้ช่วยตัดเย็บมันจนเป็นเสื้อเกาะอ่อนและทำเป็นเสื้อคลุมที่กันกระสุนได้ แต่ถึงอย่างไรแรงกระแทกก็ยังมีอยู่” เมสันอธิบาย
คลื่น ๆ ตูม
แต่ทันใดนั้นก็เกิดแรงระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น ทั้งไนเรลและเมสันรีบหยุดสิ่งที่ทำวิ่งออกมาดูด้านนอกทันที
เหตุระเบิดเกิดห่างจากพวกเขาไปไม่ไกลมากนัก ผู้คนวิ่งหนีกันวุ่นวาย ตามหลังมาด้วยซอมบี้
เสียงเตือนภัยดังไปทั่วทั้งค่ายทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” ทั้งไนเรลและเมสันถามออกมาพร้อมกัน ที่นี่มันอยู่ในค่ายที่มีกำแพงล้อมรอบแล้วซอมบี้มาจากไหน