ตอนที่ 26 ห้องทดลองในตึก
เขามองไปที่ไฟสีแดงจากระเบิดและเสียงกรีดร้องของผู้คน พร้อมกับสัญญาณเตือนดังไปทั่ว
ไนเรลรีบวิ่งไปโดยที่หยิบดาบคู่เขางูไปด้วย ส่วนเมสันก็เข้าไปหลบอยู่ในร้านของตนเอง เพราะคิดว่าเขาไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เขาวิ่งไปตามทางที่มีแสงไฟจากหลอดไฟที่กะพริบไปมา เนื่องจากแรงระเบิดบางส่วนทำให้ไฟช๊อต
ต้นเหตุดูเหมือนจะมาจากตัวอาคาร ผู้คนหนีตายกันอย่างวุ่นวาย ที่เกิดเหตุห่างจากเขาแค่ไม่กี่ร้อยเมตร
ซอมบี้สองตัวกำลังวิ่งตามผู้คนมาด้วยความหิวกระหาย ไนเรลใช้ดาบตัดหัวของซอมบี้ คมดาบตัดผ่านคอหอยทะลุท้ายทอย หัวของพวกมันขาดลง
คนที่อยู่บริเวณรอบที่เห็นเขาก็เหมือนมองเห็นความหวังรีบเขามาขอความช่วยเหลือ
นั้นทำให้มีซอมบี้อีกหลายตัววิ่งตามมา แต่มันก็ถูกเขาฆ่าตายอย่างรวดเร็ว หนึ่งการฟันต่อซอมบี้ 1 ตัว
ในระหว่างนั้นเองก็มีมนุษย์ชั้นสูงอีกหลายคนเขามาจัดการกับซอมบี้เช่นกัน และในนั้นก็เอวา มนุษย์ชั้นสูง ผู้มีความสามารถ [มีดสายลม B] และเจค ผู้มีความสามารถ [เร่งความเร็วระยะสั้น B]
เอวา เคยวาดแขนของเธอ ก็สามารถผ่าร่างของซอมบี้ออกเป็นสองส่วน ที่ไกลออกไปเจคเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วใช้ปืนยิงจ่อไปที่เบ้าตาของซอมบี้ กระสุนระเบิดสมองพวกซอมบี้อย่างง่ายดาย
หลังจากเกิดเรื่องแค่ 3 นาที ตำรวจและกำลังทหารก็เข้ามาปิดล้อมพื้นที่ 300 เมตรจากปตึกศูนย์กลางการระบาด
“ประกาศให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่กลับเขาไปหลบอยู่ในบ้าน” ข้อความนี้ประกาศออกมาหลายครั้ง เหตุเพราะพวกทหารต้องการแยกซอมบี้จากคนธรรมดา เพื่อที่จะลดการติดเชื้อและกำจัดพวกมัน
ในตอนนี้ไฟได้ดับลงไปอย่างสมบูรณ์เหลือแค่ไฟสปอตไลต์จากกองกำลังทหารและ เฮลิคอปเตอร์ที่ส่องลงมาจากบนท้องฟ้า
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนของพวกทหารและตำรวจดังมาอย่างต่อเนื่อง
เขาเป็นมนุษย์ชั้นสูงคนแรกที่เข้ามาถึงตัวอาคาร ไนเรลจัดการซอมบี้ที่แต่งชุดยาม 2 สองตัว และเข้าไปด้านใน
ภายในเป็นห้องสำนักงานธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่เป็นของบริษัทพาราซัส ตึกนี้มี 5 ชั้น ด้านในมีซอมบี้อยู่ไม่กี่ตัว ไนเรลสามารถจัดการมันอย่างไม่ยากเย็น แต่ตึกทั้งชั้นก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ
“หรือว่าเราจะผลาดยางอย่างไร” ไนเรลรีบวิ่งลงมาที่ชั้นล่างและเริ่มค้นหาโดยรอบอย่างระเอียดจนเจอเข้ากับประตูลับที่พาไปสู่ชั้นใต้ดิน
มันอยู่ด้านหลังของชั้นภายในห้องเก็บของ ประตูมันไม่ได้ล๊อคเขาจึงเปิดออกเดินเข้าไป ด้านในเต็มไปด้วยเลือด มีซอมบี้อยู่บ้างส่วนใหญ่เป็นพวกนักวิจัย
“ที่นี่เป็นห้องทดลอง…” ไนเรลจัดการซอมบี้ที่ข้างทางสองสามตัวเท่านั้น เพราะตัวที่เหลือส่วนใหญ่ถูกขังอยู่ในห้องปฏิบัติการ
เขาเข้าไปในห้องปฏิบัติการหนึ่งเนื่องจากของที่อยู่ในห้องทดลอมันคือ แก่นพลังงาน ATP สามชิ้น
“แก่นพลังงานระดับ 2” เขาเก็บมันทันที
ไนเรลคำนวณดูแก่นพลังงานทั้ง 3 นั้นน่าจะเพิ่มพลังงานในเซลล์ให้เขาได้ 200 หน่วยเลยทีเดียว
เขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย จนเจอห้องปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดภายในมีหลอดทดลองขนาดใหญ่ตั้งอยู่จำนวนมาก ในหลอดมีซอมบี้ที่ยังมีชีวิตอยู่
บางตัวพวกมันดูเหมือนจะมีสติปัญญาบ้างเล็กน้อย
ด้านข้างมีเตียงที่มีร่างของมนุษย์อยู่แต่ดูเหมือนพวกเขาจะถูกมัดและเฉือนเนื้อให้กับซอมบี้ที่อยู่ในหลอดทดลองพวกนั้นกินทั้งเป็น
“บัดซบ พวกพาราซัสโง่เง่า” ไนเรลด่าออกไปทัน เมื่อเขาเห็นห้องนี้ก็เดาได้ว่าพวกมันทดลองซอมบี้และมนุษย์
การทดลองเกี่ยวกับมนุษย์นั้นผิดกฎหมาย พวกนี้ใช้โอกาสในช่วงเวลานี้ในการทดลอง แต่นี้ไม่สิ่งที่เขาโกรธที่สุด สิ่งที่โกรธที่สุดคือพวกนี้มันโง่ถึงขนาดสร้างและเลี้ยงดูซอมบี้ที่มีสติปัญญา
และดูเหมือนว่าจะมีตัวที่หลุดออกไปได้ เขามองดูไปที่หลอดที่เขียนว่า ตัวทดลอง หมายเลขศูนย์
“ดูเหมือนมันจะหนีไปได้…แต่ก็คงจะยังอยู่ในตึกนี้”
ดาบคู่เขางูแทงไปที่หัวของซอมบี้ที่อยู่ในหลอดทดลอง จากนั้นเขาก็จัดการเผาเอกสารและของทั้งหมด เพื่อที่จะไม่ให้มีใครนำพวกมันไปใช้
แม้แต่กับรัฐบาลเองก็ตาม
ในขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ยืนอยู่ด้านหลังจากความสามารถ [ตรวจจับความร้อน C] มันคือเด็กชายตัวน้อยอายุประมาณ 7 ขวบใส่เสื้อสีขาวชุดที่เหมือนกับซอมบี้ในหลอดทดลอง มีเลขศูนย์ปักอยู่ที่เสื้อตรงหน้าอก
“ซอมบี้สติปัญญาขั้น 2”
ไม่รอช้าไนเรลใช้ดาบฟันไปที่มันในทันที
บูม !
แต่ในตอนนั้นเองที่ผนังด้านบนก็พังลงมา มันคือซอมบี้ปีก ขั้น 3 มาขวางเขาและซอมบี้สติปัญญาไว้
“ย้าาา!” เขาใช้ดาบฟันไปที่มันในทันที แต่แค่แรงกระพือปีกของมันก็ทำให้ตัวเขากระเด็นออกมา แขนที่เหมือนปีกของมันสะบัดฟาดไปที่เขาอย่างแรง
“ซวยละ” เขารีบใช่ร่างของกิ้งก่าในทันที ความแรงของมันทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปกว่า 10 เมตรชนผนังห้อง
มันไม่ได้จัดการเขาต่อเพราะซอมบี้สติปัญญาเรียกมันกลับไป
ซอมบี้ปีกพาซอมบี้สติปัญญา หรือตัวทดลองหมายเลขศูนย์ ชนกับกำแพงด้านบนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
เขารีบลุกขึ้นมาเสื้อผ้าส่วนใหญ่ขาดแต่เพราะเขากลายร่างทันจึงไม่เป็นอะไรมานัก
ตัวตึกเริ่มสั่นไหว ไนเรลวิ่งออกไปที่ด้านนอกในทันทีก่อนที่ตึกมันจะถล่ม เมื่อออกมาพ้นระยะตึกก็ถล่มลงมา ถ้าเขาหนีออกมาไม่ทันมีหวังไว้ถูกฝังทั้งเป็นแน่นอน
บนท้องฟ้า เฮลิคอปเตอร์ที่พยายามจะยิงมันด้วยปืนกล แต่ด้วยความคล่องแคล่วของมันจึงสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายๆ
ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นกลุ่มของมนุษย์ชั้นสูงที่แต่งตัวคล้ายๆ กัน
เนื่องด้วยหน่วยโล่ถูกส่งออกไปที่ภารกิจเส้นทางรถไฟ ดังนั้นหน่วยนี้ก็คงจะเป็นหน่วยดาบ
ในตอนนั้นเองชายที่เป็นหนึ่งได้เดินออกมาจากในกลุ่ม เขาคือ จีซัส ลำดับ 1 ของหน่วยดาบค่ายลี้ภัย 101 ยกมือขึ้น ทันใดนั้นละอองน้ำ และความชื้อโดยรอบ ที่อยู่ในอากาศรวมตัวกันเป็นหอกน้ำเเข็งยิงไปที่ปีกของซอมบี้ปีก
ฮ๊ากกกก!!! ปีกของมันเกือบขาด แต่มันก็ร่อนหนีออกไปได้
ดูเหมือนว่าปีกของซอมบี้จะบาดเจ็บมาก
“ตามมันไปเร็ว!!!” ไนเรลรีบบอกกับคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะถูกหน่วยดาบล้อมไว้และไนเรลก็เช่นกัน
“จัดการปิดพื้นที่ จัดการซอมบี้ทุกตัวและควบคุมทุกคน ฉันต้องการที่จะสอบปากคำทุกคนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น” จีซัสพูดออกมาอย่างวางอำนาจ
คนในหน่วยดาบทำตามที่เขาบอกทันทีพวกเขากระจายตัวกันไปจัดการกับซอมบี้และปิดล้อมพื้นที่โดยมีตำรวจและทหารที่เข้ามาช่วย
ส่วนพวกที่เหลือก็เข้ามาล้อมมนุษย์ชั้นสูงไว้
“เดี่ยวพวกเราเป็นนักล่านะ”
“พวกนายจะทำอะไร”
“ปล่อยนะพวกฉันก็แค่มาช่วยจัดการกับซอมบี้ก็แค่นั้นเอง”
“หลบไป” ไนเรลพยายามที่จะออกไปเพื่อตามล่าซอมบี้สติปัญญาตัวนั้นไป เพราะเขารู้ว่าถ้ามันไปรวมกับฝูงซอมบี้ได้ละก็ค่ายนี้จะต้องจบสิ้นแน่
เขายังไม่อยากมีปัญหากับพวกหน่วยดาบดังนั้นจึงต้องบอกดี ๆ
แต่หนึ่งในสมาชิกของหน่วยดาบเดินออกมาด้วยท่าทีที่เหนือกว่า เขาก็คือไอแซค มนุษย์ชั้นสูง ระดับ สีเทา ผู้มีความสามารถด้านสนับสนุน [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A]
ไอแซคเดินมาทางกลุ่มของมนุษย์ชั้นสูงที่ไนเรลยืนอยู่ด้วยท่าทีลำคาน
“ไอ้พวกสวะของมนุษย์ชั้นสูง นี่เป็นคำสั่งของท่านจีซัส พวกแกกลับกล้าขัดงั้นหรือ” ไอแซคพูดออกมาโดยที่ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย สำหรับเขาแล้วมนุษย์ชั้นสูงพวกเหล่านี้ก็เป็นแค่พวกสามัญชนที่โชคดีที่มีพลังก็เท่านั้น
และที่สำคัญพวกมันยังเป็นพวกชั้นต่ำต่างจากเขาที่เป็นชนชั้นสูงซึ่งเป็นคนของหน่วยดาบ คนพวกนี้ควรที่จะมารับใช้พวกเขามากกว่าแทนที่จะไปเป็นพวกนักล่าอะไรนั้น
สำหรับความคิดของไอแซคนั้นก็ไม่แปลกมากนักที่ชนชั้นสูงอย่างเขาจะมีความคิดแบบนี้ เพราะในรอบแรกของการกลายพพันธุ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนของตระกูลชนชั้นสูงทั้งสิ้น
ทำให้ชนชั้นสูงส่วนใหญ่คิดว่าการที่ตนได้พลังนี้มาเพื่อปกครองคนธรรมดาพวกนี้
นักล่าหลายคนได้ยินชื่อของจีซัสก็กลัวขึ้นมาโดยเฉพาะพวกที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีขาว
“หลบไปซะ พวกเราต้องรีบไล่ตามซอมบี้สติปัญญานั้น จะปล่อยให้หนีไปไม่ได้เด็ดขาด” ไนเรลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และพยายามผลักหนึ่งในหน่วยดาบที่ขวางทางเขาอยู่
“แกกล้ามาก…สำหรับคนที่เข้าใจยากมันต้องโดนสั่งสอนแบบนี้” ไอแซคไม่รอช้าต่อยเข้าไปไนเรล
ด้วยหมัดที่เสริมด้วยความสามารถ [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A] มันทรงพลังเป็นอย่างมาก จนเกิดเสียงขณะที่หมัดปล่อยออกมา
“ถอยออกมาเร็ว”
“หมัดนั้นทรงพลังเกินไป”
“หยุดนะ…หน่วยดาบทำเกินไปแล้ว”
นักล่าโดยรอบถึงกับตกใจกลัว ในนั้นยังมีพวกตำรวจและทหารที่เป็นคนธรรมดาอยู่ด้วย พวกเขาถึงกลับสงสารเด็กหนุ่มคนนนี้ที่ไปยั่วยุไอแซค
ทั้งเอวาและเจคก็เห็นเช่นกันเขาพยายามเข้าไปช่วย เพราะถึงอย่างไรไนเรลก็เป็นนักล่าเช่นพวกเขา แต่ก็มีคนที่รู้สึกสะใจเช่นกันนั้นก็คือบิลชายหน้าหมี ที่โดนไนเรลแตะจนสลบไปนั้นเอง
ไนเรลเห็นหมัดที่ไอแซคต่อยมา เขาก็ใช้ความสามารถ [กิ้งก่ายักษ์ B] เปลี่ยนแขนเป็นอมุษย์ร่างกิ้งก่าร่วมกับความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า B] เพื่อรับหมัดนั้น
“โง่เง่าต้องการวัดพละกำลังกับข้างั้นเหรอ” ไอแซคใส่กำลังออกไปเต็มแรงในทันที
ตูม ! หมัดของไอแซคและไนเรลปะทะกันอย่างแรง ลมและฝุ่นกระจายออกมาโดยมีทั้งสองเป็นจุดศูนย์กลาง
จากแรงปะทะกันก็มีร่างของคนหนึ่งที่กระเด็นถอยไปชนเข้ากับกองของซากตึกที่ถล่มลงมา
ทุกคนในที่นี้คิดว่าไนเรลไม่ตายก็ต้องพิการแต่พวกเขาคิดผิดคนที่กระเด็นไปนั้นกลับเป็นไอแซค
ส่วนไนเรลนั้นเขายังยืนปกติดีไร้รอยขีดข่วน
“นั้นมันความสามารถประเภทกลายร่าง” ทั้งเอวาและเจคไม่คิดว่าไนเรลจะมีความสามารถประเภทกลายร่างตอนแรกที่เขาเห็นไนเรลที่สำนักงานนักล่าจัดการกับบิลชายหน้าหมีจะเป็นประเภทลึกลับหรือไม่ก็ประเภทสนับสนุน เช่นพวกพละกำลังมากกว่า
“มันคือร่างอะไรกันแน่ถึงมีพละกำลังมากขนาดนั้น”
“มันต้องเป็นร่างมังกรแน่ ๆ ไม่งั้นพละกำลังมันไม่มีทางเหลือกว่าความสามารถของไอแซคผู้ที่มีความสามารถ [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A] ”
“ไม่รู้ว่าใช่มังกรหรือไม่แต่เชื่อว่าต้องเป็นความสามารถไม่ต่ำกว่าระดับ A”
มนุษย์ชั้นสูงที่อยู่โดยรอบเริ่มพูดคุยกันในทันทีโดยลืมไปแล้วว่าพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์อะไร
พวกเขาหารู้ไม่ว่าความสามารถที่ไนเรลใช้เป็นแค่ระดับ B เท่านั้นแต่มันคือผลของสองความสามารถที่เข้ากัน จนสามารถข้ามขีดจำกัดของความสามารถได้
“ไอ้ลูกสุนัข แก…” ไอแซคที่ตอนนี้รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับถุยดินที่อยู่ในปากออก
เขาไม่อาจยอมรับได้ว่าจะโดนไนเรลต่อยจนกระเด็นด้วยหมัดเดี่ยวทั้งเขายังแพ้ให้กับในสิ่งที่เขาถนัดอีกนั้นคือ ด้านพลังกำลัง
ไอแซคกำหมัดด้วยความโมโหปล่อยจิตสังหารและวิ่งเข้าไปหมายจะฆ่าไนเรลทิ้ง ไนเรลเองก็ตั้งท่าเตรียมสู้เช่นกัน ถึงเขาไม่อยากจะฆ่าคนแต่ก็ใช่ว่าจะฆ่าไม่ได้
แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา
“หยุด!!! ไอแซค นายกำลังทำอะไร!” จีซัสก็เดินเขามามองไปที่ไอแซคและถามออกมา