ตอนที่ 33 ซวยแล้วซวยอีก
ไนเรลมองไปที่เอวาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เธอมีความแน่วแน่เป็นอย่างมาก รวมถึงนักล่าอีกทั้ง 16 คนด้วยเช่นกัน
“การก่อตั้งสมาพันธ์นักล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลจะต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน ถึงจะก่อตั้งได้สำเร็จคนที่เป็นประธานสมาพันธ์ก็ต้องรับแรงกดดันที่มหาศาลจากทุกฝ่าย”
“ที่สำคัญใช่ว่านักล่าทุกคนจะยอมรับ”
ทุกคนได้ยินดังนั้นลังเลเล็กน้อย เอวากัดริมฝีปากของเธอและกล่าวออกมา “เพราะงั้นพวกเขาถึงต้องการให้นายเป็นประธานสมาพันนักล่า ตอนนี้ในค่ายลี้ภัย 101 นั้น นักล่าที่สามารถต่อกรกับพวกระดับสีน้ำตาลได้นั้นก็มีแค่นายอีกอย่าง”
“ฉันรู้นายนั้นก็เป็นคนของตระกูลชั้นสูงเช่นกัน รัฐบาลต้องไม่ทำอะไรที่เกินเลยไป เพราะถึงอย่างไรรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับตระกูลชั้นสูงอยู่ไม่มากก็น้อย”
ไนเรลคิดทันทีถ้าเขาเป็นประธานสหพันธ์นักล่านั้นมันก็ถือเขาได้ควบคุมนักล่าที่อยู่ในสังกัด อำนาจและอิทพลของนักล่าในอนาคตนั้นมีมากจนน่ากลัวแต่กับไม่มีใครคิดจะรวบรวมคนเหล่านี้ในชีวิตที่แล้วของเขา
เพราะส่วนใหญ่ทุกคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับค่าย หรือเป็นคนของรัฐบาล ตระกูลชั้นสูง หรือไม่ก็บริษัทที่มีอิทธิพลต่าง ๆ
แต่ถ้าเขาก่อตั้งสหพันธ์นักล่าขึ้นมาละก็จะสามารถดึงคนเหล่านี้มารวมกัน และที่สำคัญไม่ต้องจำกัดว่าใครเป็นใครขอแค่ปฏิบัติตามกฎของสหพันธ์ก็พอ
ส่วนแรงกดดันจากรัฐบาลหรือใครก็ตามนั้นเขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย ถ้าพวกมันไม่มีก็ความตายก็ให้พวกมันเข้ามา
“ตกลง แต่เรื่องนี้รอให้กลับไปที่ค่ายลี้ภัย 101 ก่อนค่อยพูดคุยรายละเอียดอีกที” ไนเรลตอบตกลงทันที ในชีวิตนี้เขาต้องการอำนาจแบบนี้ บางทีนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ใช้ต่อกรกับยักษ์เถื่อนและอสูรก็ได้
หลังจากที่ได้รับคำตอบยืนยันจากไนเรลพวกเขาก็แยกกันไปพักผ่อนเนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีอาหารอะไรมาด้วยทำให้ทุกคนเลือกที่จะนอนเพราะขอแค่หลับก็ไม่ต้องทนหิว
ในขณะที่ไนเรลนั้นหยิบหัวของซอมบี้แล้วแยกตัวออกไปเพียงลำพัง เขาหายไปไม่นานประมาณ 5 นาทีก็กลับเข้ามาตอนนี้หัวของซอมบี้ได้หายไปแล้วในขณะที่หน้าอกของเขามีใบไม้ใบเล็กงอกออกมาแต่ครั้งนี้มันแตกต่างจากใบอื่น ๆ เพราะสีของมันนั้นเป็นสีทองแต่ใบของมันเล็กมาก
พลังที่เขาได้มาใหม่นี้คือ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ E] เป็นพลังประเภทจิตใจ มันไม่ใช่การควบคุมซอมบี้แต่เป็นการควบคุมมนุษย์ น่าจะเป็นเพราะว่าเขานั้นเป็นมนุษย์ความสามารถจึงมีผลกับแค่มนุษย์ ซึ่งระดับที่ควบคุมได้ต้องเป็นคนที่มีระดับต่ำกว่าเขา มีระดับต่ำเท่าไหร่เขาก็ควบคุมได้มากเท่านั้น
แต่ถ้าใครที่มีความสามารถประเภทพลังจิตใจที่สูงกว่าหรือเท่ากับ E มันก็ไร้ผล เพราะมนุษย์ชั้นสูงพวกนี้นั้นสามารถต้านทานความสามารถในประเภทเดียวกันได้
ในความรู้สึกของเขาพลังความสามารถนี้ยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก ความสามารถแบบนี้ไม่น่าจะมีระดับแค่นี้
“คงต้องกินซอมบี้สติปัญญาที่มีระดับสูงกว่านี้”
ไนเรลพูดออกมาด้วยความหิวกระหาย เขามองว่าซอมบี้พวกนี้ไม่ใช่พวกที่มาจากมนุษย์แต่เป็นคนละเผ่าพันธุ์ไปแล้ว
ถ้าซอมบี้สติปัญญาตัวอื่น ๆ มาเห็นและได้ยินคำพูดของไนเรลพวกมันจะต้องคลุ้มคลั่งและไล่ล่าเขาแน่
มีอย่างที่ไหนอาหารพวกนี้คิดจะหันมากินผู้ล่า ซึ่งนี่ก็คงจะเป็นความคิดของพวกซอมบี้มันอย่างแน่นอน
แต่ถึงมันจะคิดแบบนั้นไนเรลก็บอกไปแค่ว่า ใครเป็นเหยื่อใครก็ต้องรอดูกันไป
ไนเรลหาที่นั่งพักแยกออกมา จากนั้นก็หยิบแก่นพลังงานออกมา นี่คือแก่นพลังงานที่ได้มาจากห้องทดลองของบริษัทพาราซัส
เขาค่อย ๆ กลืนแก่นพลังงานทั้ง 3 ลงไปทันที พลังงานที่อยู่ภายในค่อย ๆ ละลายหลอมรวมเข้ากับเซลล์ในร่างกายของเขา
ระดับพลังงานภายในเซลล์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขในเครื่องวัดระดับพลังงานในเซลล์ของเขาเพิ่มขึ้นไปหยุดอยู่ที่ 390 หน่วย
ความเหนื่อยล้าที่ได้รับเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว รอยแผลเล็ก ๆ หลายแห่งค่อย ๆ ตกสะเก็ดหายไปอย่างช้า ๆ
ที่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพลังงานในเซลล์เพิ่มขึ้น ระดับพลังชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อายุขัยของมนุษย์ชั้นสูงระดับสีขาวนั้นคือ 120 ปี ในขณะที่สีเทาจะมีอายุขัยอยู่ที่ 150 ปี ถ้าเขาเลื่อนไปเป็นระดับสีน้ำตาลระก็เขาจะมีอายุขัยของเซลล์ถึง 200 ปีหรือเท่ากับ 2 ช่วงอายุขัยของคนปกติ ตามทฤษฎีแล้วถ้าพลังงานในเซลล์มากขึ้นก็สามารถที่จะมีชีวิตอมตะได้เลย
นี่คือเหตุผลที่ว่าทุกคนถึงอยากไขว่คว้าในพลัง เพราะคำว่าชีวิตอมตะสำหรับมนุษย์นั้น มันคือสิ่งที่พวกเขาตามหามาทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าจะโลกใบไหนก็ตาม
ตอนนี้เขารู้สึกว่าพลังได้กลับมาเติมเต็มเป็นที่เรียบร้อย
แสงของวันใหม่ได้สาดส่องผ่านต้นไม่ที่สูงใหญ่หลายร้อยเมตรลงมาที่ พวกเขาได้เก็บของและออกเดินทางสักพักแล้วแต่คนส่วนใหญ่ก็รู้สึกหิวเป็นอย่างมากจน เนื่องจากยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน
ที่สำคัญเขาสอบถามแล้วจึงรู้ว่าทหารกว่าครึ่งที่รอดมานั้นส่วนใหญ่เป็นแค่ทหารใหม่ที่พึ่งรับเข้ามาหลังจากเกิดการระบาดของเชื้อซอมบี้
เนื่องจากทหารแต่ละค่ายลี้ภัยนั้นไม่เพียงพอเพราะทหารจำนวนมากกว่าครึ่งภายในประเทศไทกีล่ากลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว
ทหารเก่าส่วนใหญ่จะได้ปรับยศขึ้นไปและแทนที่ด้วยทหารใหม่ ถึงแม้ทหารเหล่านั้นจะไม่ตรงตามคุณสมบัติของยศทหารก็ตาม แต่ทางกองทัพก็ไม่มีทางเลือก
ไนเรลไม่ได้แปลกใจในเรื่องนี้เพราะในชีวิตที่แล้วทางกองทัพก็ใช้วิธีการแบบนี้เช่นกัน
หลังจากที่เดินมาเกือบ 1 ชั่วโมงพวกเขาก็เจอเข้ากับพื้นที่แปลกประหลาดสีขาวที่กว้างกว่า 100 เมตร
“นี่มัน ไข่” ไนเรลกล้มลงไปหยิบมันขึ้นมาทันที ไข่แต่ละใบมีขนาดประมาณกำปั้น
“ไข่….”
“แม่เจ้า มีแต่ไข่เต็มไปหมดเลย”
“ทะเลไข่ ฮ่า ๆ สวรรค์ต้องตอบแทนที่พวกเราฆ่าซอมบี้บัดซบพวกนั้นแน่ ๆ ถึงได้ประทานไข่มามากขนาดนี้”
“เร็วรีบไปเอาพวกมันมาทอด”
ทหารหลายคนรีบวิ่งเขามาหยิบมันไปทันที พวกเขาหิวจนไม่สนใจแล้วว่าไข่เหล่านี้จะเป็นของใครอะไร เพราะอย่างไร ไข่เหล่านี้ก็คงจะไม่ต่างจากไข่ไก่
“เดี๋ยว… ทุกคนอย่างพึ่งไปยุ่งกับไข่พวกนี้”
แต่ในตอนนั้นเองที่ไนเรลห้ามไว้ เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเอามาก ๆ สัญชาตญาณบอกเขาว่าไข่เหล่านี้นั้นอันตรายเป็นอย่างมาก
เจ้าของที่วางไข่พวกนี้นั้นมีอยู่สองพวกคือ พวกที่อาศัยอยู่เป็นฝูงตัวอาจจะไม่ใหญ่ แต่มีจำนวนที่มาก
และสองคือพวกที่ตัวใหญ่มาก ๆ แค่ 1 ท้องก็สามารถวางไข่ได้มากขนาดนี้
แต่ไม่ว่าแบบไหน พวกมันก็ต้องไม่ชอบใจแน่ ๆ ที่ไข่ถูกขโมย
นักล่าบางส่วนรีบวางไข่ลงทันที แต่ก็ยังมีนักล่าและทหารบางคนที่เก็บมันขึ้นมาเพราะพวกเขาคิดว่าไนเรลตื่นตัวไปเอง
ไนเรลรีบใช้ความสามารถ [ตรวจจับความร้อน C] เขามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เจอกับอะไร
“แปลกไม่มีอะไรเลย หรือว่าเราคิดไปเอง”
“คุณเจออะไรไหม?” จ่าคูเปอร์เดินเข้ามาหาไนเรล ในขณะที่ทหารส่วนใหญ่ก็เริ่มเก็บไข่กันแล้วพวกเขาอยากที่จะกินมันเต็มที่
“พวกเราต้องออกจากที่นี่ ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่ามันไม่ปลอดภัย”
“ไม่ปลอดภัย!!! แค่เพราะลางสังหรณ์งั้นหรือ นายบ้าหรือเปล่า”
“พวกเราหิวจะตายแต่บอกให้ทิ้งไข่พวกนี้และออกไปงั้นหรือ”
ในตอนนั้นเองที่ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา
เมื่อก่อนขาเป็นอันธพาลแต่เพราะไม่มีทางเลือกจึงเข้าร่วมกองทัพ ตอนนี้เขาเบื่อที่จะต้องฟังคำสั่งของพวกทหารเก่าพวกนั้น โดยเฉพาะเจ้าคูเปอร์ที่เมื่อก่อนก็เป็นพลทหารแบบเดียวกับพวกเขาแต่เพียงเพราะมันเข้าร่วมกองทัพมาก่อนจึงได้รับการปรับเลื่อนยศให้เป็นจ่าในขณะที่เขาต้องเป็นพลทหารต่อไป
ทหารอันธพาลคนนั้นพูดออกมาไม่เกรงกลัวไนเรลแม้แต่น้อยเพราะคิดว่าตนเองนั้นเป็นทหารจึงจะทำอะไรก็ได้
“หืม……” ไนเรลหันไปหรี่ตาลงมองไปที่ทหารคนนั้น
“ถ้าเจ้าอยากกินก็กินไป พวกเราไปกันเถอะ” ไนเรลเดินออกไป เขาไม่อยากลดตัวไปคุยกับคนแบบนี้
“เดี่ยวสิเฮ้ย ไอ้ลูกสุนัข” ทหารอันธพาลกำลังจะเรียกไนเรล แต่เขาโดนตบเข้าไป
เพี๊ยะ!
ไนเรลตบไปโดยที่ใช้ความสามารถพละกำลัง ร่างของทหารคนนั้นถึงกับกระเด็นตามแรงตบไปหล่นทับลงไปที่รองไข่สีขาวจนพวกมันแตกเลอะ ไปทั้งตัวของทหารอันธพาล
“แก…” ทหารอันธพาลชี้ปากกระบอกปืนไปที่ไนเรลด้วยความเจ็บปวด
“หยุด นายคิดจะทำอะไร? อยากขึ้นศาลทหารงั้นหรือ” จ่าคูเปอร์พยายามเข้าไปห้ามทหารอันธพาล
“อย่าคิดว่าเป็นทหารแล้ว จะไม่กล้าฆ่า” เขาพูออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เสียงคำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ในตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ ก็มีเสียงคำรามดังออกมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง แค่หัวที่มันโผล่ออกมาก็เลยยอดไม้ไปแล้ว
ทุกคนถึงกับถอยหลังทันทีด้วยความกลัว ร่างกายของมันนั่นยาวถึง 20 เมตร
“นั้นมันจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ รีบหนีออกไปเร็ว” ไนเรลรีบถอยออกมาทันที เอวาและนักล่าคนอื่น ๆ ก็เช่นกันพวกเขาตอบสนองได้ไว้กว่าทหารหลายคนที่กำลังเก็บไข่อยู่มาก
จ่าคูเปอร์เองก็ได้ไนเรลช่วยไว้โดยเขาถูกไนเรลดึงออกมา
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
ทันทีที่เขาถอยออกมาพ้นระยะของทหารอันธพาล หอกกระดูกก็ถูกสลัดออกมาจากห่างของเจ้าจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ขั้น 4 อย่างรวดเร็ว
หอกปักทะลุร่างของทหารอันธพาลตายไป ทหารหลายคนที่หลบไม่ทันก็โดนหอกกระดูกแทงทะลุไปเช่นกัน
“นี่มัน…นี่มัน”
“หนีเร็วที่มันสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์”
พวกไนเรลนั้นวิ่งไปไกลแล้วใครจะไปสู้กับสัตว์กลายพันระดับ 4 กัน แม้แต่ซอมบี้สติปัญญาขั้น 3 ก็คงต้องคิดแล้วคิดอีกอย่างแน่นอน
จิ้งจกกลายพันธุ์หลังจากที่สลัดหอกกระดูกออกจากหางของมันแล้ว หอกกระดูกที่หางของมันก็งอกออกมาใหม่ได้อย่างน่าอัศจรรย์
ที่คือการวิวัฒนาการของมัน เปลี่ยนจากหางที่สลัดทิ้งเพื่อหลบหนี กลายเป็นอาวุธหอกกระดูกที่น่ากลัว
มันมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่วิ่งสองขาและมองไปที่ไข่ที่ตอนนี้แตกไปหลายฟองและยังมีบางส่วนที่ถูกขโมยไปอีก
“คำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
มันร้องคำรามด้วยความโกรธ และตามตัวขโมยไข่ไปทันที
“บัดซบใครที่เอาไข่มันมาทิ้งไปเร็ว” ไนเรลที่เห็นมันวิ่งตามมาเขาก็รีบตะโกนบอกทันที
แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะหนึ่งในทหารถูกจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์กินทั้งเป็นลงไป
“เพราะเจ้าจิ้งจกพวกนี้มันกำลังจะแก้แค้นฉัน”
ทหารสื่อสารคนนั้นที่วิ่งช้าที่สุดเพราะที่หลังของเขามีเครื่องมือสื่อสารมาด้วย เขาสะดุดล้มลงและพยายามหนีตายอย่างสุดชีวิต
“อย่า ๆ อย่ากินฉัน ฉันจะไม่ฆ่าจิ้งจกอีกแล้ว…อ๊ากกกก”
ถึงจะเป็นแบบนั้นจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ก็ไม่ได้สนใจและกินเขาลงไปทันทีในคำเดียว
“แย่แล้วทหารสื่อสารโดนกินไปแล้ว เครื่องระบุตำแหน่งก็โดนกินเข้าไปด้วย”
“ช่างเครื่องระบุตำแหน่งไปก่อน หนีเอาตัวรอดก่อน”
ตูม!!!!
แต่แล้วในตอนนั้นเองที่เสียงดังมาจากอีกทางของป่า มันคือจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์อีกตัวที่วิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
“บัดซบ นั่นมันอีกตัว”
“มันมีตัวเมียก็ต้องมีตัวผู้ ซวยแล้วไง”
ไนเรล และพวกวิ่งสุดชีวิตหนีจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ขั้นที่ 4 ทั้งสองตัว เขาต้องรีบหาทางหนีพวกมันให้ได้ไม่งั้นได้เป็นอาหารเช้าของจิ้งจกพวกนี้แน่