ตอนที่ 47 มังกรจากฟากฟ้า
ใบไม้รอยสักสองใบได้เติบโตขึ้นมาจนเต็มที่แล้ว ใบหนึ่งเป็นความสามารถ [ปีกแห่งความตาย B] ส่วนอีกใบหนึ่งเป็นความสามารถ [ร่างไททัน B] ทั้งสองความสามารถคือสิ่งที่ได้จากการกินซอมบี้ปีกและซอมบี้ไททัน ซึ่งเป็นความสามารถประเภทกลายร่าง
ถึงแบบนั้นมันก็เป็นระดับ B ต่างจากความสามารถที่ได้จากซอมบี้สติปัญญาที่เป็นความสามารถแค่ระดับ F
แต่มันก็ไม่แปลกเพราะความสามารถของซอมบี้สติปัญญานั้นเป็น ประเภทจิตใจ ที่มีความน่ากลัวและอันตรายกว่ามาก เพราะการควบคุมและโจมตีจิตวิญญาณนั้นมันคือสิ่งที่เหนือกว่าร่างกายมากนัก
นอกจากสองใบไม้รอยสักที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว มันกับมีอีกหนึ่งใบที่ยังก่อตัวไม่เสร็จนั้นก็คือ ใบไม้รอยสักของซอมบี้เงาเนื่องจากว่าจำนวนของซอมบี้เงามันน้อยเกินไป
แต่ใบไม้รอยสักมันไม่ใช่ทั้งหมดที่ได้ในครั้งนี้เพราะสิ่งที่ได้คือพลังงาน ที่อาจจะมากกว่าการกินแก่นพลังงานทั้ง 6 ชิ้นไปตอนที่เร่งการเจริญเติบโตของต้นคริสตัลวิวัฒนาการซะอีก
พลังงานที่อยู่ภายในที่แม้แต่เซลล์ของเขาก็ดูดซับไม่ทัน มันเริ่มที่จะปะทุขึ้นมาเรื่อย ๆ
คำราม!
ไนเรลร้องคำรามออกมาด้วยความอัดอั้นของพลัง มันเหมือนจะไปขยายทุกส่วน ทุกอารมณ์รวมถึงความบ้าคลั่งด้วย
ตอนนี้จิ้งจกหางหอกหายจากอาการปวดหัวที่ถูกโจมตีจากซอมบี้สติปัญญาแล้ว มันมองไปที่ไนเรลที่ร้องคำรามอยู่
จิ้งจกหางหอกคิดว่านี่คือการท้าทายมันโดยตรง จึงใช้หอกกระดูกของมันโจมตีไปที่ไนเรลในทันที หมายจะใช้โอกาสนี้ในการฆ่าไนเรล เพราะผิวหนังบางส่วนของไนเรลหลุดออกมาเลยให้เห็นเนื้อสีแดงฉานดังโลหิต
ฉึบ!
หอกกระดูกปักเข้าไปที่บาดแผลเหล่านั้นในทันที
“อ๊าก!!!”
ไนเรลร้องออกมาด้วยความโกรธที่ถูกลอบโจมตีจากข้างหลัง ความบ้าคลั่งที่อยู่ในดวงตาของเขาเพิ่มมากขึ้นราวกับจะก่อตัวเป็นวัตถุขึ้นมาในทันที เลือดที่ไหลออกมามันไม่ได้ลดความบ้าคลั่งของเขาลงเลยแต่มันกับเพิ่มขึ้นไปอีก
ไนเรลหันมามองจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ด้วยดวงตาที่ดุร้าย จิ้งจกหางหอกที่เห็นแบบนั้น เซลล์ทั้งหมดในร่างกายของมันก็ร้องเตือนซึ่งอันตราย และสัญชาตญาณมันบอกให้หนีไปไม่งั้นตายแน่
จิ้งจกหางหอกวิ่งหนีทันที มันเคยมีบทเรียนจากตอนสู้ที่น้ำตกแล้ว ที่คู่ของมันไม่ยอมเชื่อสัญชาตญาณจนนำไปสู่ความตาย
ถึงแม้มันต้องการจะแก้แค้นแต่ถ้าตาย ก็ไม่ต้องพูดถึงการแก้แค้นอีกเลย มันคิดว่าต้องให้ตัวเองแข็งแกร่งกว่านี้ก่อนเมื่อถึงตอนนี้มันจะกลับมาแก้แค้น
แต่มันหารู้ไม่ว่าโอกาสนั้นมันได้หายไปตั้งแต่ที่มัน ยิงหอกกระดูกใส่ไนเรลแล้ว
ไนเรลใช้ขาหน้าทั้งสองข้างดึงหอกกระดูกที่แทงอยู่ตามบาดแผลออก เลือดที่ไหลออกมาตามบาดแผลเยอะมากขึ้นจนดูน่ากลัวแต่เขาไม่ได้สนใจ กลับมองไปที่จิ้งจกหางหอกที่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเองที่แผ่นหลังของเขาค่อย ๆ มีกล้ามเนื้อและกระดูกงอกออกมา จนผ่านไปไม่กี่วินาที ปีกที่ใหญ่กว่า 200 เมตรทั้งสองข้างก็งอกออกมา มันเหมือนดังปีกของมังกร รวมทั้งสองข้างปกคลุมพื้นที่กว่า 500 เมตร
นี่คือการใช้สองความสามารถกลายร่าง [กิ้งก่ายักษ์ B] และ [ปีกแห่งความตาย B] พร้อมกันครั้งแรกของเขา ไม่สิต้องของโลกใบนี้เพราะไม่เคยมีใครคอบครองความสามารถมากกว่าหนึ่งมาก่อนเหมือนกับไหนเรล
เพียงแค่การกระพือปีก 1 ครั้งก็สร้างลมพายุหมุวนพัดซอมบี้ธรรมดาจนพวกมันปลิวไปคนละทิศคนละทาง แรงลมพายุก็ยังสั่งไปถึงผู้คนที่อยู่บนกำแพงจนผู้คนต้องหาที่หลบกันในทันที
พวกเขาพยายามลืมตามองไปที่ใจกลางของพายุ ซึ่งมีมักกรที่กำลังกลางปีกบิน ทุกคนได้แต่อ้าปากค้างไปอีก จนพวกเขาเริ่มเชื่อแล้วว่าไหนเรลต้องเป็นคนที่มีสายเลือดมังกรแน่นอน
“มังกร!!!”
“พระเจ้ามังกร นี่ นี่มันคือมังกรจริง ๆ”
“บุตรแห่งมังกร….”
ไนเรลลอยขึ้นจากพื้นดินอย่างช้า ๆ เพียงแค่การกระพือปีกครั้งเดียว และการกระพือปีกครั้งที่สองตัวของเขาก็หายไปจากจุดเดิมไปโผล่อยู่บนหัวของจิ้งจกหางหอกในทันที
คำราม!!!
เขาทิ้งตัวลงเหยียบไปที่จิ้งจกหางหอก ซึ่งทำให้มันร้องคำรามออกมาด้วยความหวาดกลัว
มันไม่เข้าใจว่าทำไมไนเรลที่เป็นแค่ขั้น 3 ถึงได้มีพลังมากขนาดนี้ มันไม่ยอมรับที่สิ่งมีชีวิตที่มีระดับกว่ามันถึงกล้าทำกับมันแบบนี้ เยียบมันไว้แทบเท้า มันพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะหลุดออกมาให้ได้
ไนเรลมองไปที่มันด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ตอนนี้สติของเขาแทบจะหลงเหลืออยู่สิ่งเดียวนั้นก็คือ ฆ่าเจ้าจิ้งจกนี้ซะ
ทันใดนั้นตัวของเขาก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น จาก 200 เมตร ไป 300 เมตร ไป 400 เมตร จนกระทั่งมันหยุดลงที่ 600 เมตร
แรงที่กดไปที่ร่างของจิ้งจกหากหอกก็มากกว่าเดิม ตอนนี้นี่คือร่างที่ใช้ความสามารถ [กิ้งก่ายักษ์ B] [ปีกแห่งความตาย B] [ร่างไททัน B] [พละกำลัง 50 เท่า B] 4 ความสามารถระดับ B หลอมรวมกัน มันทำให้เขามีความสามารถต่อสู้ข้ามขึ้นไปได้ไกลมาก ซึ่งเข้าไม่ได้ต่างจากมังกรยักษ์ที่แท้จริงในตำนานเลย
พลังที่เออล้นออกมามันเหมือนกับว่า เขาสามารถพิชิตได้ทั้งท้องฟ้าและผืนดิน
คำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ไนเรลกลางปีกที่กลางกว่า 1 กิโลเมตรและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที เพียงแค่กระพือปีกไม่กี่ครั้งทั้งตัวเขาและจิ้งจกหางหอกที่ถูกกรงเล็บของเขาจับขึ้นมาด้วย มันร้องออกมาด้วยความกลัว
จากความสูงกว่า 3 กิโลเมตรถ้ามันตงลงไปจะต้องตายอย่างแน่นอน และแล้วสิ่งที่มันกลัวก็เกิดขึ้น ไนเรลปล่อยตัวมันลงไปในทันจิ้งจกหางหอกร่วงหล่นจากท้องฟ้า แต่มันยังไม่หมดแค่นั้นเพราะไนเรลได้ทิ้งตัวดิ่งตามมันลงมาจากนั้นก็จับไปที่หัวของมันให้หม่งโลก
ด้วยน้ำหนักตัวของไนเรลที่หนักมากกว่า 3000 ตันที่ดิ่งลงมาพร้อมกับจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ แรกปะทะมันไม่ได้ต่ำกว่าอุกกาบาตที่หล่นลงจากท้องฟ้าเลย
ผู้คนที่อยู่ทั้งในและนอกกำแพงจากมองขึ้นไปบนต้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว ถ้าเจ้าสิ่งนั้นตกลงมาที่พวกเขาละก็คงจะไม่เหลือแม้แต่กระดูกไว้ดูต่างหน้าแน่นอน
ทุกคนได้แต่หมอบลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว
บูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งมาตามพื้นดินอากาศพัดเขาทั้งพื้นดิน และต้นไม้ปลิวกระจายออกเป็นวงกว้างในทันทีมันรุนแรงมากแม้แต่กำแพงเหล็กสูงกว่า 5 เมตรก็ยังแทบจะไม่สามารถต้านได้
กำแพงสั่นสะเทือนและเริ่มล้มลงในทันที
“หนีเร็ว ถอยออกไปจากตรงนี้”
“ระวังกำแพง หลบเร็ว”
“นี่คือภัยพิบัติ เทพเจ้ามังกรลงโทษพวกเรา เทพเจ้าลงโทษพวกเรา”
“ฮือ ๆ งือ ๆ แม่จ๋า แม่หนูกลัว”
แรงสั่นสะเทือนนั้นกระทบต่อทุกสิ่งที่อยู่ในระยะ 100 กิโลเมตรทุกคนสามารถรู้สึกได้ถึงมัน
ตัวอาคารที่สั่นสะเทือน ถึงแม้พวกมันจะไม่ถล่มลงมาแต่ก็เกิดรอยแตกราวจำนวนมาก
ผู้คนวิ่งหนีตายกันในทันที ไม่ว่าจะเด็กและผู้ใหญ่ คนแก่ที่ได้แต่สวดอ้อนวอนต่อทุกสิ่งที่พวกเขาเชื่อ แต่แล้วหลังจากแรงสั่นสะเทือนนั้นทุกอย่างก็เงียบสงบลงในทันที
เอวาและผู้พิทักษ์สมาพันธ์ รวมทั้งนักล่าทุกคนพวกเขาไม่มีใครที่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ต่างก็พากันลุกขึ้นมา ทุกคนต่างนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าเหลือเชื่อเกินไป จนแม้แต่พวกเขาก็คิดว่านี่คือความฝัน
แต่ดูเหมือนพวกเขาจะนึกถึงบางอย่างได้
“ไนเรล!”
“ท่านประธาน”
ทุกคนนึกขึ้นได้ว่าไนเรลเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ทุกคนรีบพากันวิ่งออกไปตรงจุดที่ไนเรลร่วงหล่นลงมา
เอวาที่ตอนนี้รีบวิ่งออกไปในทันที ผู้พิทักษ์และคนของสมาพันธุ์ก็เช่นเดียวกัน นักล่า ทหาร พลตรีและประชาชนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงประตูตะวันออก ไม่ว่าใครก็ตามที่ยังสามารถขยับตัวได้พวกเขาต่างก็วิ่งออกไปดูไนเรลเช่นกัน
ด้านนอกมันมีหลุมขนาดใหญ่และซากศพของซอมบี้จำนวนมหาศาล ตรงกลางยังคงมีฝุ่นที่ปกคลุมอยู่ เอวาสไลด์ตัวลงไปตามเนินที่กว้างกว่า 1 กิโลเมตร
พลตรีที่ตามมาก็ต้องตกใจ และคิดว่าโชคดีที่ไนเรลและจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ตกห่างจากค่ายลี้ภัย 101 ไปไกลพอสมควรไม่อย่างนั้นเข้าไปอยากจะคิดถึงผลที่ตามมา
เมื่อฝุ่นเริ่มเบาบางลงทุกคนก็เห็นซากของจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพแหลกเหลวจนไม่สามารถจำมันได้เลยแม้แต่น้อย
“นี่คือจิ้งจกนั้นหรือ”
“ดูกระดูกที่แตกละเอียดของมันสิ”
“แล้วท่านประธานอยู่ไหน”
“อยู่นั้น”
ทุกคนรีบหาตัวไนเรลกันในทันที และแล้วก็เจอเขาที่ตอนนี้สภาพบาดเจ็บหนักนอนตัวเปลือยเปล่าอยู่บนซากของจิ้งจกหางหอก เอวาที่มาถึงก่อนเป็นแรงรีบเข้าไปประคองศีรษะของไนเรลด้วยความเป็นห่วงใน โดยไม่ได้สนใจว่าตอนนี้ไนเรลนอนตัวเปลือยอยู่ เพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงไนเรลอย่างมาก
“ไม่ นายอย่าเป็นอะไรนะ” เธอพูดออกมา เพราะไนเรลไม่หายใจ เอวาก็รีบก้มลงฟังเสียงเต้นของหัวใจไนเรลในทันที
“ท่านประธานเป็นอย่างไรบ้าง?” เซนที่เดินเข้ามาช่วยเอวาในทันทีพร้อมกับใช้ผ้าที่ไม่รู้ว่าเขาหามาจากไหน ห่มไปที่ร่างเปลือยเปล่าของไนเรล
“เขายังไม่ตาย แต่เขาหายใจช้ามาก มันเกิดอะไรขึ้น?” เธอพูดออกมา พร้อมกับมองไปที่หน้าอกของไนเรลด้วยความสงสัย
เพราะที่หน้าอกของเขามีคริสตัลที่เหมือนกับเมล็ดพันธุ์พืชขนาดเท่ากำปั้นอยู่มันล้อมรอบไปด้วยรอยสักใบไม้ที่สวยงามเป็นอย่างมาก
เธอจำได้ว่าตอนที่เจอไนเรลตอนที่ออกมาจากห้องอาบน้ำนั้น มันมีผ้าขนหนูที่อยู่บนไหล่ของเขาปิดไว้อยู่จึกมองไม่เห็น อีกอย่างตอนนั้นเธอก็ไม่ได้สังเกต
“สวยงาม” นี่คือสิ่งที่เอวาและเซนคิด มีแค่พวกเขาสองคนที่เห็น
“ผู้พิทักษ์ทั้งหมดกันพื้นที่รอบ ๆ ทันทีห้ามให้ใครเข้ามาใกล้” เซนหันไปสั่งผู้พทักษ์ทันที เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครเห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าอกไนเรลอีกอย่างตอนนี้ไนเรลยังไม่รู้สึกตัวเขากลัวว่าจะมีคนรอบทำร้ายไนเรลได้ เพราะถึงอย่างไรไนเรลก็แข็งแกร่งและเป็นภัยตัวคนบางกลุ่มแน่ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นโอกาสเหมาะในการจัดการกับภัยคุกคามนี้ทิ้ง
ผู้พิทักษ์ที่เลืออยู่แค่ 50 คนกระจายตัวออกล้อมรอบไว้ในทันทีแม้แต่กำลังทหารพวกเขาก็ไม่ให้ผ่านเข้าไป
“พวกแกจะทำอะไรหลบไปนี่คนพลตรีนะ”
หนึ่งในร้อยเอกพูดออกมาในทันที แต่แล้วพลตตรีก็ได้ยกมือห้ามเอาไว้
ในตอนนั้นเองที่ร่างของไนเรลก็ร้อนออกมา มันเหมมือนกับมีพลังงานจำนวนมหาศาลกำลังปะทุอยู่ภายใน
“เกิดอะไรขึ้น” เอวาพูดออกมาด้วยความร้อนรน แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที อยู่ ๆ รอบตัวของไนเรลก็มีต้นหญ้า ดอกไม้ หรือแม้แต่ต้นไม่ที่หักโค้นเหลือแต่ตอก็พามกันเจริญเติบโตงอกขึ้นมาเป็นวงกว้าง
มันขยายออกเป็นเหมือนกับการกระเพื่อมของน้ำ ซากศพของซอมบี้ที่อยู่ตามพื้นเริ่มย่อยสลายและแห้งลงไปกลายเป็นฝุ่นผง
“เกิดอะไรขึ้น”
“ผืนป่า กำลังมีผืนป่าเกิดขึ้นมา”
“นี่มัน นี่มันปราฏิหารย์”
ทุกคนมองดูไปด้วยความเหลือเชื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงแค่ 1 วันนี้มันเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างพวกเขาจะรับไหวได้ และแน่นอนพวกเขาก็รู้ว่าตัวการคือใคร ทุกคนมองไปที่ไนเรลที่สลบไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยผ้าและผืนป่ารอบข้างในทันที