ตอนที่ 56 นักฆ่าเงา
ก่อนหน้านั้นหลายวันที่สำนักงานย่อยบริษัทพาราซัส ประจำเมืองย่อย 101 ที่ห้องประชุมใหญ่
“ตอนนี้การเติบโตของสมาพันธ์นักล่ามีผลกระทบมากเกินไปต่อแผนการของบริษัทเรา”
“จริงเพียงแค่ไม่กี่วันพวกเขาก็มีสมาชิกเพิ่มนับแสนคน พวกเราต้องทำอะไรสักอย่าง สามารถให้คนของเราในรัฐบาลจัดการได้หรือไม่”
“รัฐบาลไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาทำข้อตกลงบางอย่างไว้ เท่าที่สืบมามันคือ ผลคริสตัลวิวัฒนาการ”
“บ้าเอ๊ย พวกรัฐบาลได้สิ่งตอบแทนไปพวกมันถึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นพวกสมาพันธ์นักล่า พวกเราสามารถทำอะไรได้หรือไม่ พวกมันวางขายผลคริสตัลกันหน้าตาเฉยจนตอนนี้หลาย ๆ บริษัทที่โดนพวกเราบีบบังคับก็หันกันไปลงทุนกับสมาพันธ์นักล่าแล้ว”
“ไม่ต้องเป็นห่วง…ฉันมีแผน” ผู้จัดการของสำนักงานย่อยยิ้มออกมาพร้อมกับเรียกจีซัสออกมา
“ท่านมีอะไรเรียกใช้ผม” จีซัสกล่าวออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะเขาพึ่งจะถูกตำหนิมาจากรัฐมลตรีพาลเมอร์จนโดนตัดแก่นพลังงานที่จะได้รับไป หลังจากรู้ว่ามันเป็นเพราะไนเรลเรียกร้องแกนพลังงานในส่วนของเขา จีซัสก็รู้สึกเกลียดชังไนเรลเป็นอย่างมาก อีกอย่างตอนนี้ตระกูลของเขาก็มีคนที่มีความสามารถระดับ S ถือกำเนิดขึ้นมาทำให้ทางตระกูลเริ่มลดการสนับสนุนของเขาลง
ตอนนี้จีซัสจึงต้องหันมาพึ่งพาราซัสแทน แต่ถึงแบบนั้นชื่อเสียงของเขาก็ไม่ดีเพราะการที่ทำให้ตัวอย่างทดลอง หมายเลข 0 โดนฆ่าตัดหัวตายไปต่อหน้าต่อตาอีกทั้งแม้แต่ซากศพก็เอากลับมาไม่ได้
ยิ่งเขาคิดก็ยิ่งแค้นมากขึ้น ทุกอย่างเป็นเพราะชายคนนั้น ไนเรล อาโรเดีย เขาจะต้องฆ่ามันให้ได้ เพื่อระบายความโกรธในใจและก็ดูเหมือนว่า ผู้จัดการสำนักงานย่อยจะรู้ถึงความเคียดแค้นของจีซัส
“ทางบริษัทมีภารกิจให้นายทำ”
“ภารกิจ”
“ใช่ ภารกิจรอบเข้าไปในสมาพันธ์นักล่า ขโมยต้นคริสตัลวิวัฒนาการ และผลคริสตัลวิวัฒนาการมา และถ้าเป็นไปได้ก็ฆ่าไนเรล อาโรเดียซะ อย่าได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้” ผู้จัดการสำนักงานย่อยมองไปที่จีซัสด้วยสายตาบอกว่า ภารกิจในครั้งนี้คือการลบล้างความผิดของเขา
แต่ก่อนที่เขาจะได้ดีใจ ผู้จัดการก็พูดขึ้นมาอีก “ถึงแบบนั้นครั้งนี้นายจะไม่ได้ควบคุมทีมแต่จะเป็นคนที่สำนักงานใหญ่ว่าจ้างมาทำการควบคุมภารกิจในครั้งนี้”
“คนที่สำนักงานใหญ่ว่าจ้างมา” จีซัสพูดออกมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยแต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่าง มีคนยืนอยู่ด้านหลังของเขา
“ใช่ เขายืนอยู่ด้านหลังนาย”
ทันทีที่ที่ได้ยินว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลังเขา จีซัสก็หันกลับไปมองด้วยความกลัวในทันที เขาเห็นชายคนหนึ่งที่ค่อย ๆ เดินออกมาจากเงาอย่างช้า ๆ จีซัสรับรู้ได้ในทันทีว่าชายคนนี้มีระดับพลังที่สูงกว่าเขา
การที่ชายคนนี้มายืนอยู่ด้านหลังของเขาได้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย นั้นหมายความว่าชายคนนี้สามารถลอบฆ่าเขาได้โดยที่เขาไม่สามารถสู้กลับไปได้เลย
ต้องไม่ลืมว่าเขามีความสามารถประเภทพลังธาตุ ไม่ใช่ประเภทสนับสนุนที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น แค่มีดธรรมดาก็สามารถฆ่าเขาได้
“ทุกอย่างพร้อมใช่หรือไม่” ชายคนนั้นไม่ได้หันไปมองจีซัสเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
“พร้อมแล้ว ส่วนชายที่ยืนด้านข้างนายคือจีซัสคนที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้” ผู้จัดการชี้ไปที่จีซัส
“ถ้างั้นก็เจอกันก่อนวันประมูล” หลังจากนั้นชายคนนั้นก็หายไป
หลายวันต่อมาหลังจากนั้นก็ถึงวันที่นัดหมายคนทั้งหมด 9 คนที่มาพร้อมกับจีซัสคือมือดี ระดับสีน้ำตาล และเพียงแค่ไม่กี่นาทีชายคนนั้นก็ปรากฏตัวจากเงามืดอีกครั้ง
ในหลายวันที่ผ่านมาจีซัสได้พยายามสืบหาข้อมูลของชายคนนี้ก็รู้ถึงซื่อเสียงของเขาแบบคราว ๆ เขาเรียกตัวเองว่า “นักฆ่าเงา”
ลอบฆ่าคนสำคัญอย่างไม่ทิ้งร่องรอยมาหลายศพ ไม่มีใครที่เห็นหน้าของเขาเพราะคนส่วนใหญ่ที่เห็นตายไปหมดแล้ว
แต่ที่สามารถระบุว่าเป็นฝีมือของเขานั้นก็เป็นเพราะว่าด้านหลังของศพจะมีสัญลักษณ์ฝ่ามือสีดำและหัวใจแหลกละเอียดทุกศพ มีหลายคนที่สันนิษฐานว่าพลังของนักฆ่าเงานั้นคือการเคลื่อนตัวผ่านเงามืดที่เขาสัมผัสถึง และการฆ่าเหยื่อก็คือการใช้เงาเคลื่อนผ่านไปตามบาดแผลและโจมตีอวัยวะภายในโดยตรง เพราะตรงที่รอยฝ่ามือเงาทิ้งไว้นั้นมันมีบาดแผลที่เหมือนโดนเข็มขนาดเล็กอยู่ทุกศพ
จีซัสมองไปที่นักฆ่าเงาอย่างหวาดระแวง ดวงตาภายใต้หน้ากากของนักฆ่าเงามองไปที่จีซัสอย่างด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกดุดน้ำแข็งขนาดที่ว่าเขาผู้ที่มีพลังของน้ำแข็งยังต้องหนาวสั่น
“ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันได้แล้ว” ชายคนนั้นกล่าวออกมาขณะที่ยกมือขึ้นเงามืดรอบข้างก็ห่อหุ้มทุกคนไว้และเคลื่อนที่ผ่านมุมมืดพาคนทั้งหมดหายไปในทันที
ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีนักฆ่าเงาก็พาทุกคนผ่านเข้ามาในสมาพันธ์นักล่าได้อย่างไร้ร่องรอย
เมื่อทุกคนออกจากเงาพวกเขาก็เห็นต้นมันโลหิตที่ปลูกไว้จำนวนมากและถัดไปเป็นต้นคริสตัลวิวัฒนาการเป้าหมายของพวกเขา ที่สะท้อนแสงจันทร์ส่องแสงสวยงาม แต่เมื่อมองดี ๆ จะเห็นว่าที่ใต้ต้นคริสตัลวิวัฒนาการกลับมีชายคนหนึ่งที่ยืนรอพวกเขาอยู่
“ไนเรล!” จีซัสเห็นก็รู้ทันทีว่านั้นคือไนเรล ต่อให้ไนเรลจะโดนเผาเป็นถ่านเขาก็จำได้
ไนเรลมองไปที่พวกเขาอย่างระวังตัว การที่คนถึง 10 คนรอบเข้ามาได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นนั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นคาปิบาร่าที่บอกกับแมวน้อยว่ามีคนรอบเข้ามาละก็ไนเรลก็คงไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อมองดี ๆ ก็เห็นว่าหนึ่งในนั้นคือจีซัส
“จีซัสนี่มันหมายความว่าอย่างไร? รัฐบาลต้องการเปิดศึกกับสมาพันธ์นักล่า?” ไนเรลถามออกไปในทันที อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าจีซัสเป็นคนของพาราซัสและในครั้งนี้เขาก็คงมาในฐานะคนของพาราซัส แต่ที่เขาถามเพราะต้องการถ่วงเวลาและสังเกตท่าทีของชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า
เขารู้สึกคุ้นเคยกับชายคนนี้มาก ผ้าคลุมสีดำ หน้ากากที่ปิดบนใบหน้าและออร่าที่ปล่อยออกมา
“นักฆ่าเงา” ไนเรลระมัดระวังในทันทีเมื่อรู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร
แต่ดูเหมือนนักฆ่าเงาจะไม่ให้โอกาสเขาเพราะทันทีที่จีซัสยืนยันว่าเขาคือไนเรล นักฆ่าเงาก็ส่งสัญญาณในทุกคนลงมือทันที ส่วนตัวเขาก็หายไปอย่างไรร่องรอย
จีซัสและคนอีก 8 คนเคลื่อนที่ตรงมาหาไนเรลในทันที แต่ก่อนที่ไนเรลจะได้ทำอะไรแมวน้อยก็พูดออกมาอย่างตื่นเต้น “เมี้ยวๆ มี้ ง้าวว มี้ ม้าวววว (ได้เวลาทำงานแล้ว ลุยเลยธีโอ) ”
ไนเรลได้ยินดังนั้นก็เข้าใจมันทันที งานที่มันหมายถึงก็คือการจัดการกับผู้บุกรุกพวกนี้ ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาแมวน้อยจะรู้สึกเบื่อเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันพลังของมันเพิ่มมากขึ้นก็คงอยากที่จะยืดเส้นยืดสายบ้าง
แมวน้อยไม่ได้รอเจ้าคาปิบาร่าธีโอ แต่มันกลับเดินออกไปหยุดไม่ไกลจากโจรทั้ง 9
ดวงตาของแมวน้อยค่อย ๆ หมุนวนเป็นดั่งภาพเงาที่ล่อลวงได้ทุกสรรพสิ่งเพียงแค่จ้องมอง
จีซัสมองไปที่แมวน้อยด้วยสีหน้าสงสัย แต่เมื่อเห็นว่ามันเป็นลูกแมวพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ จีซัสสร้างหอกน้ำแข็งจำนวนมากกว่า 3 อันและโจมตีไปที่ไนเรลในทันที
แต่เมื่อเขาจะยิงหอกน้ำแข็งออกไปก็ปรากฏว่ามันดันกลายเป็นงูไปแล้ว
“บัดซบงู นี่มันเกิดอะไรขึ้น” จีซัสรีบทิ้งงูที่อยู่ในมือด้วยความตกใจ งูที่หล่นลงมาเลื้อยหนีออกไปในทันที แต่อยู่ ๆ พื้นที่โดยรอบก็เริ่มเปลี่ยนไป
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ระวังแมวนั้นไม่ใช่แล้วธรรมดา”
คนที่มีความสามารถประเภทจิตใจรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาโดนพลังของแมวน้อยเข้าให้แล้ว ถึงพวกเขาจะรู้ก็แต่มันสายไปเสียแล้ว เพราะภาพทุกอย่างรอบตัวของพวกเขามันกลายเป็นเขาวงกตไม่มีที่สิ้นสุด รอบข้างมีแต่กำแพงหินสูงใหญ่
“เร็วรีบหาทางออก”
“ไม่ ต้องให้คนที่ไม่โดนสะกดจิตเป็นคนปลุกพวกเรา หรือไม่ก็ต้องตามหาจิตของเจ้าแมวสีขาวตัวนั้นและฆ่ามันให้ได้”
“งั้นจะรออะไรอยู่รีบไป”
พวกจีซัสที่ตกอยู่ภายใต้พลังของแมวน้อย ไม่ว่าพวกเขาจะวิ่งหาแมวน้อยมานานแค่ไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของแมวสีขาวนั้นเลยแม้แต่น้อย
“บัดซบนี่ก็สามชั่วโมงแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้จะต้องเช้าก่อนแน่ ๆ เมื่อถึงตอนนี้มีหวังได้โดนล้อมจับแน่นอน”
“มันจะต้องอยู่ที่ศูนย์กลางของเขาวงกตแน่นอน ไปทางนั้น” แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้เดินต่อไปอยู่ ๆ พื้นที่พวกเขายืนก็กลายเป็นหนองน้ำขึ้นมากะทันหัน หลังจากนั้นก็มีใบหน้าและร่างของซอมบี้โผล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
“ฆ่ามันเร็ว ๆ ก่อนที่พวกเราจะโดนฆ่าตาย”
“ไม่มันมีเยอะไป อ๊ากๆ”
“เวรเอ๊ย กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไปซะ” จีซัสรีบใช้พลังออกมาในทันที พื้นที่รอบข้างกลายเป็นน้ำแข็งรวมทั้งซอมบี้ทั้งหมดด้วยเช่นกัน แต่มันก็เปล่าประโยชน์เขาสามารถยื้อเวลาได้แค่ไม่ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่พลังของเขาจะหมดลง
“อ๊าก…ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!” และตกคนก็ถูกฆ่าตาย
แต่เมื่อพวกเขาลืมตาขึ้นก็กลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้งหนึ่ง “เดี๋ยวนี่มันเกิดอะไรขึ้น”
จีซัสและคนอื่น ๆ มองไปกำแพงของเขาวงกตที่เหมือนกับตอนเข้ามา “บ้าน่านี่มัน….พวกเรากลับมาที่เดิมหลังจากตาย”
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินตามหาแมวน้อยต่อ แต่ก็ติดเข้ากับกับดักไม่ว่าจะเป็นสัตว์กลายพันธุ์ แผ่นดินไหว ทรายดูด ฝูงแมลง หนอน แก๊สพิษ และก็แม้แต่การโดนกลุ่มชายฉกรรจ์รุมฉีกกระชากเสื้อผ้า…
“ไม่…หนีเร็ว…อ๊าก”
“ฉันยังไม่อยากตาย…ช่วยด้วย”
“นี่มันอย่านะ…อ้า…หยุดสิวะ…อ้า…ไอ้พวกโรคจิต…อ้า”
พวกเขาไม่รู้ว่าตายมากี่สิบครั้งแล้ว โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายที่โดนผู้ชายพวกนั้น… แค่คิดก็ทำให้พวกต้องเอามือจับไปที่ก้นด้วยความหวาดกลัว
ในขณะที่แมวน้อยกำลังมองดูทุกอย่างด้วยความสนุกสนานอยู่ที่ใจกลางของเขาวงกต สิ่งที่แมวน้อยสร้างขึ้นมานั้นก็มาจากการที่มันดูหนังกับจูเรียมาบ่อย ๆ
ในขณะที่โลกแห่งเขาวงกตทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ด้านนอกพึ่งจะผ่านมาไม่ถึงหนึ่งนาที
ไนเรลมองไปที่แมวน้อยและคนทั้ง 9 ที่ตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว บางคนก็เหมือนคนบ้าร้องออกมาไม่หยุด บางคนก็หายใจด้วยความเหนื่อยหอบ ถึงเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในนั้นแต่พวกเขาคงเจอกับประสบการณ์ที่น่าขนลุกอย่างแน่นอน
ถึงแบบนั้นไนเรลก็ไม่มีเวลามาให้ความสนใจกลับพวกเขามากนัก เพราะตอนนี้ยังมีชายอีกคนที่เขาต้องรับมือ
“ข้างหลัง ตาย!” ไนเรลรู้สึกได้ถึงคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา ใช้ดาบฟันกลับไปในทันที
แต่มันกลับไม่มีใคร
“แปลก มันรออะไร หรือว่า…” ไนเรลดูเหมือนจะนึกบางอย่างได้ เขารีบวิ่งไปที่ต้นคริสตัลวิวัฒนาการในทันทีและก็เห็นว่า นักฆ่าเงากำลังจะถอนแกนกลางของต้นคริสตัลวิวัฒนาการ
แต่ก็ไม่แปลกเพราะเป้าหมายหลักของภารกิจในครั้งนี้คือต้นคริสตัลวิวัฒนาการ ส่วนการที่จะฆ่าไนเรลคอยทำหลังจากนี้ก็ได้ นี่ก็คือความคิดของนักฆ่าเงา
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ไนเรลวิ่งไปด้วยความเร็วสูงด้วยความสามารถ [ราชานักวิ่ง C] ตรงไปหานักฆ่าเงาทันที พร้อมกับดาบหนักที่ฟันออกไป
ตูม!
ไนเรลฟันไปที่นักฆ่าเงาในทันที แต่นักฆ่าเงาก็หลบหายไปในเงามืดอย่างง่ายดาย
นักฆ่าเงามาปรากฏตัวห่างออกไป 10 เมตรมองไปที่ไนเรลด้วยความไม่สบอารมณ์
“กล้ามาก ตอนแรกข้ากะว่าจะฆ่าเจ้าทีหลัง แต่ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายงั้นก็ฆ่าเจ้าก่อนก็แล้วกัน”
“ถ้ามีความสามารถก็ลองดู” ไนเรลมองไปที่นักฆ่าเงาอย่างท้าทาย พร้อมกับจับดาบในมือแน่น