ตอนที่ 59 ระดับสีเขียว(รีไรท์)
ไนเรลยังคงสภาพของร่างไททันไว้อยู่ ขณะมองไปที่เหล่าผู้พิทักษ์และนักล่าที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยความกลัวที่ไม่อาจปิดมิดได้ในสายตา ถึงแบบนั้นพวกเขาก็มีความเคารพให้เห็นมากกว่าความหวาดกลัว
เพราะอย่างไรไนเรลก็เป็นผู้นาของพวกเขา เป็นประธานสมาพันธ์นักล่า
ในตอนนี้ตัวไนเรลที่เปลือยเปล่าอยู่นั้นก็เผยให้เห็นคริสตัลสีเขียวที่อยู่กลางหน้าอกของเขา ทุกคนมองไปที่คริสตัลวิวัฒนาการชิ้นที่สองนั้น พวกเขารู้ได้ทันทีว่านี้คืออีกหนึ่งความลับของไนเรล ทุกคนได้แต่ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร เพราะพวกเขารู้ว่าสิ่งไหนควรพูดและสิ่งไหนไม่ควรพูดออกมา
“เธอกลัวฉันไหม?” ไนเรลมองไปที่เอวาขณะที่เธอเดินเข้ามาใกล้เขา
“นายก็ยังคงเป็นไนเรลเหมือนเดิม มีอะไรต้องกลัว” เธอเดินเข้ามาหาไนเรลขณะที่จับไปที่มือของเขา พร้อมกับยิ้มออกมา
“ขอบใจนะ”
หลังจากนั้นไนเรลก็หันไปกล่าวกับเซนที่เดินเข้ามา “นายไปบอกดามินให้เอาแก่นพลังงานขั้น 3 มาให้ฉัน 10 ชิ้น และขั้น 4 ที่มีอยู่ 2 ชิ้นมาด้วย อ้อขอเสื้อผ้าด้วยและเครื่องวัดระดับพลังงานด้วย”
ไนเรลขอออกไปในทันทีเพราะตอนนี้ที่ตัวของเขายายาใหญ่เครื่องวัดระดับพลังงานในเซลล์ก็พังไปแล้ว
“ส่วนคนอื่น ๆ ให้แบ่งกันไปปิดล้อมพื้นที่นี้ทั้งหมด ปล่อยข่าวออกไปว่านักฆ่าเงาร่วมมือกับจีซัสคนของหน่วยดาบบุกเข้ามาขโมยต้นคริสตัลวิวัฒนาการ คนอื่น ๆ ถูกจับกินหมดส่วนนักฆ่าเงาหนีออกไปได้ และแจ้งเรื่องการบุกเข้ามาครั้งนี้ให้กับทางรัฐบาลโดยใช้ศพของจีซัสเป็นหลักฐานขอค่าชดเชยให้กับทางสมาพันธ์นักล่าด้วย”
“แล้วงานประมูลในตอนเช้านี้ละ” เอวาถามออกมา เพราะเหตุการณ์นี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเรื่องงานประมูลและการตกลงในความร่วมมือหลาย ๆ อย่างกับบริษัทที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม
“มันจะจัดขึ้นเหมือนเดิม”
หลังจากที่เขากล่าวเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันออกไป ที่อาณาเขตทั้งหมดของสมาพันธ์นักล่านั้นก็ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาจนดูเหมือนว่าจะเกิดสงครามไม่มีผิด
นักล่าที่ผ่านไปเมื่อได้เห็นแบบนี้ก็เกิดการอยากรู้อยากเห็นพากันไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็รู้ว่า มีคนบุกเข้าไปในสมาพันธ์นักล่าเพื่อขโมยต้นคริสตัลวิวัฒนาการแต่พวกนั้นกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
ทุกคนตายทั้งหมด ส่วนคนที่มีพลังสูงอย่างนักฆ่าเงาก็หลบหนีไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส
หลายคนได้แต่งงว่าใครคือนักฆ่าเงา แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็มีคนที่พอจะรู้ข้อมูลของนักฆ่าเงาออกมาเปิดเผยพวกเขา ก็ทั้งตกใจที่ตัวตนแบบนั้นเข้ามาในเมืองย่อย 101 และก็ตกใจยิ่งกว่าที่ไนเรลประธานของสมาพันธ์นักล่าที่มีระดับแค่ สีน้ำตาลสามารถจัดการกับนักฆ่าเงา ระดับสีเขียวได้
แต่ที่ทําให้พวกเขากลัวเข้าไปอีกคือไนเรลได้กินผู้บุกรุกไปหลายคน
“ปีศาจ ประธานสมาพันธ์นักล่าเป็นปีศาจ”
“ใครกันที่กล้าเข้าไปกระตุกหนวดเสือแบบนั้น สมควรแล้วที่จะถูกกิน”
หลังจากเรื่องนี้กระจายออกไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตมันก็กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนได้แต่กล่าวถึง โดยเฉพาะเหล่าแม่ ๆ และคนเฒ่าคนแก่ที่ใช้ขู่เด็ก ๆ นอกจากซอมบี้ที่กินคนก็จะใช้ไนเรลหลอกว่าถ้าไม่กินผักจะโดนปีศาจไนเรลจับกิน และมันก็จะใช้ได้ผลทุกครั้ง แต่บางคนก็มองไนเรลเป็นไอดอลโดยเพราะเหล่านักล่า และบางคนก็ต้องการจะลองต่อสู้กับเขาเพื่อชื่อเสียงของตนเอง ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ก็จะเกิดขึ้นในภายหลังจากนี้
ในขณะเดียวกันหลังจากที่ทางรัฐบาลได้รับเรื่องว่าคนของหน่วยดาบ จีซัสได้ร่วมมือกับนักฆ่าเงาบุกเข้าไปที่สมาพันธ์นักล่าโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและพยายามขโมยต้นคริสตัลวิวัฒนาการและลอบสังหารไนเรล แต่กลับถูกฆ่าตาย พร้อมกับที่สมาพันธ์นักล่าเรียกร้องค่าชดเชยอีก ทางรัฐบาลเมืองย่อย 101 ก็พากันวิ่งวุ่นชุลมุนและประกาศออกมาว่าจีซัสได้ถูกปลดออกจากหน่วยดาบไปตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วฐานที่หลบหนี้จากการปฏิบัติหน้าที่ ทางรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีในครั้งนี้
ซึ่งอยู่ ๆ ทางสมาพันธ์นักล่าก็ยอมรับเหตุผลนี้ไปอย่างดื้อ ๆ ซะงั้น แต่เบื้องหลังรัฐบาลเมืองย่อย 101 นั้นต้องเจ็บปวดกับการจ่ายค่าชดเชยอยู่พอสมควร
ส่วนที่สํานักงานย่อย บริษัทพาราซัสประจําเมืองย่อย 101 ก็มีการประชุมด่วนเพราะข่าวการโจมตีที่ล้มเหลวได้มาถึงพวกเขาแล้ว
ทางพาราซัสได้ทําลายหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคนทั้งหมดที่บุกรุกเข้าไปที่สมาพันธ์นักล่าทิ้งทันทีเพื่อไม่ให้สืบเรื่องสาวมาถึงพวกเขาได้ พวกเขาไม่ได้กลัวไนเรลที่จะสืบเรื่องมาถึง เพราะเมื่อเทียบกันแล้วไนเรลก็มีดีแค่ต้นคริสตัลวิวัฒนาการ
แต่ที่พวกเขากลัวคือรัฐบาลอาจจะให้ข้ออ้างนี้ในการกดดันและจัดการกับพวกเขาได้ จนถึงอาจจะสืบไปถึงการร่วมมือบางอย่างก็เป็นได้
เรื่องที่เกิดขึ้นวุ่นวายข้างนอกนั้นไม่ได้ส่งผลต่อไนเรลที่ตอนนี้อยู่ที่ใต้ต้นคริสตัลวิวัฒนาการเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาเองก็พอจะเดาถึงผลกระทบจากข่าวที่ปล่อยออกไปได้
ตอนนี้ไนเรลกําลังจัดการกินแก่นพลังงานทั้งหมดที่อยู่ในมือเพื่อยกระดับพลังงานในเซลล์ให้ถึง 1000 หน่วยและก้าวข้ามไปเป็นระดับสีเขียว ซึ่งแก่นพลังงานที่มีอยู่ตรงหน้าของเขานั้นมันเกินซะยิ่งกว่าพอ ที่เหลือก็ต้องมาลุ้นเอาว่าเซลล์และยืนในร่างกายของเขาพร้อมที่จะขึ้นสู่ระดับสีเขียวแล้วหรือไม่
ไนเรลกลืนแก่นพลังงานที่มีอยู่ทั้งหมดในทันที่เหมือนกับในทุก ๆ ครั้ง พลังงานที่เริ่มหมุนวนและหลอมละลายกระจายไปยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไนเรลได้ดูดซับแก่นพลังงานไปเป็นจํานวนจนเซลล์ในร่างกายของเขามีพลังงานสูงถึง 4500 หน่วยแล้ว แต่เขาพัฒนาการได้เร็วแบบบ้าคลั่งนี้ก็ต้องขอบคุณเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่คอยจัดการพลังงานให้กับตัวเขา
เซลล์ในร่างกายของไนเรลเริ่มดูดซับพลังงานและยกระดับตัวเองขึ้นมาอย่างช้า ๆ แม้แต่เครื่องวัดระดับพลังงานที่ไนเรลได้ให้เซนเอามาให้ใหม่ก็มีตัวเลขที่แสดงพุ่งขึ้นสูงเรื่อย ๆ
4500…4600…4700…4800…4900…5000…และในที่สุดมันก็ผ่านไปที่ 5700 หน่วยจึงหยุดลง
“ต้องขอบคุณแก่นพลังงานของชายที่ชื่อไรอันอะไรนั้น” เนื่องจากที่ผ่านมาดชแก่นพลังงานจํานวนมากถูกเขาใช้และบางส่วนก็แจกจ่ายให้กับคนของสมาพันธ์และผู้พิทักษ์ไปมันจึงทําให้เขายังไม่มีแก่นพลังงานพอในการยกระดับพลัง
ไนเรลกํามือของเขาแน่นที่เต็มไปด้วยพละกําลังพร้อมกับมองไปที่บาดแผลตามร่างกายที่ค่อย ๆ สมานกันอย่างช้า ๆ จนสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ถึงมันจะไม่สามารถหายได้ในทันที แต่ไนเรลก็สามารถคืนสภาพร่างเดิมได้แล้ว โดยที่ไม่เป็นอันตราย
ร่างกายของไนเรลกลับมามีขนาดเท่าเดิม หลังจากนั้นเขาก็ใส่เสื้อผ้าที่เซนน้ำมาให้มันเป็นชุดที่เรียบง่ายแต่สุภาพและดูดี
ไนเรลคิดว่าเขาควรที่จะทดลองให้พลังของนักฆ่าเงาดู ทันทีที่เขาก็โดดเข้าไปในเงามันก็เหมือนกลับเข้าไปในมิติที่เต็มไปด้วยความมืดมิด แต่เขาไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเดินไปสุดปลายทางของพื้นที่เขาก็ออกมาโผล่อยู่ที่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร
ในระยะ 100 ที่เงาเชื่อมต่อกันเขากลับให้เวลาเดินไม่ถึง 1 วินาที
“นี่มันสุดยอด” ไนเรลได้แต่เอ่ยปากชมออกมา มันเหมาะสมแล้วที่จะเรียกว่าความสามารถระดับ S
แต่ก่อนที่เขาจะได้ทําอะไรก็เห็นถึงของบางอย่างมันคือกองสิ่งของที่ดูเหมือนว่าจะเป็นของนักฆ่าเงา
หลังจากที่เขาตายของที่เก็บไว้ในเงาก็ถูกผลักออกมาจากเงาของเขา
ไนเรลไม่ได้แปลกใจเพราะตอนที่เข้าไปในเงามันก็เป็นเหมือนกับมิติที่ความสามารถ [เงา S] เปิดขึ้นมา เขาก็พอจะเดาได้ว่ามันคงสามารถใช้เก็บของได้เหมือนกับที่นักฆ่าเงาใช้เงาของตัวเองพาคนทั้ง 9 เข้ามาในเงาของตนเองและเคลื่อนที่ผ่านเงามาที่สมาพันธ์นักล่า
แต่แน่นอนว่าเงาที่เก็บจะต้องเป็นเงาของตนเองที่เชื่อมต่อกับพลังเงาอยู่ตลอดเวลา
“ดูเหมือนว่าจะได้ของดีมาด้วย” ไนเรลรู้สึกพอใจกับความสามารถเงาเป็นอย่างมาก
จากนั้นเขาก็กลับไปที่ตึกของสมาพันธ์นักล่าเพราะตอนนี้มันเป็นเวลาเช้าแล้ว ใกล้จะได้เวลาของการประมูลแก่นพลังงาน
หลังจากที่เขาเดินเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ก็เห็นว่าทุกคนมาพร้อมกันแล้วบางคนก็แปลกใจ เพราะคิดว่าท่านประธานไนเรลจะต้องรักษาตัวอีกหลายวันจากบาดแผลที่เกิดขึ้น
ไนเรลนั่งลงที่ตําแหน่งประธานจากนั้น ซี่โร่ก็แสดงเวลานับถอยหลังของนาฬิกาในการเปิดการประมูล
การประมูลจะเป็นในรูปแบบของออนไลน์คนที่ต้องการเงิน G ก็สามารถที่จะใช้วัตถุ เช่นแก่นพลังงาน เนื้อสัตว์ ทองคํา วัตถุดิบ แร่ หรือแม้แต่กู้ยืมจากสมาพันธ์นักล่าได้ เพื่อที่จะนําไปใช้ในการประ
โดยตอนนี้ทางรัฐบาลกลางเองก็ได้มาทําขอตกลงแล้วเช่นกันว่าจะยอมรับการมีอยู่ของเงิน G แต่ต้องให้ทางรัฐบาลตรวจสอบ และมีส่วนในการจัดการกับมันด้วย
ไนเรลก็ไม่ได้ปฏิเสธ โดยสมาพันธ์นักล่าก็ได้จ้างตัวแทนที่มีความสามารถในการจัดการเรื่องนี้เข้ามาจัดการเจรจา และภายหลังก็ได้ข้อตกลงกัน
หลังจากข้อตกลงนี้เงิน G ก็ยิ่งได้ถูกยอมรับเป็นวงกว้างโดยเฉพาะเหล่านักล่าที่ยึดถือมันเป็นเงินกลางควบคู่ไปกับเงินเหรียญของไทกีล่าที่รัฐบาลได้พิมพ์ออกมาใหม่ โดยพวกเขาลดบทบาททองคําที่ปกติเป็นเงินสํารองระหว่างประเทศไปเป็นแก่นพลังงานและผลคริสตัลวิวัฒนาการแทน นั้นทําให้เงินเหรียญไทกีล่าได้ฟื้นค่าเงินกลับมาได้
โดยอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ 1G ต่อ 100 เหรียญไทกีล่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะไนเรลไม่ได้ยอมให้เงินเหรียญแลกเป็นเงิน G โดยตรงแต่อัตราแลกเปลี่ยนนี้คือการที่นักล่าน้ำเงิน G ออกไปซื้อขายกันเองกับเงินเหรียญไทกีล่า และไนเรลก็ไม่ได้ห้ามด้วยเช่นกัน
ซึ่งเมื่อเทียบกับการซื้อเนื้อธรรมดาสัก 1 กิโลกรัมแล้วมันใช้เพียงแค่ 10 G เท่านั้น
การประมูลนั้นไม่มีอะไรยุ่งยาก ก็แค่เสนอราคาและทุกการเสนอราคาจะต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 G
การประมูลจะสิ้นสุดตอนเที่ยงวันตรง แต่นี่แค่ 6 โมงเช้าหลังจากการเปิดประมูลไปแค่ 30 นาที ราคาของผลคริสตัลวิวัฒนาการที่ออกมาประมูลทั้ง 100 ชิ้นก็พุ่งสูงไป 35,000 G แล้ว โดยเฉพาะผลคริสตัลที่ให้ความสามารถประเภทกลายร่างที่มีอยู่แค่ 10 ชิ้นนั้นราคามันมากกว่า 60,000 G แล้ว
ต้องรู้ก่อนว่าที่ราคามันมากขนาดนี้นั้นก็เป็นเพราะว่าผลคริสตัลประเภทที่ให้ความสามารถกลายร่างนั้นหายากเป็นอย่างมาก และที่สําคัญไปกว่านั้นแม้แต่รัฐบาลหรือคนอื่น ๆ ก็ครอบครองเพียงแค่ต้นคริสตัลวิวัฒนาการที่ให้ผลคริสตัลวิวัฒนาการประเภทความสามารถ พลังธาตุและสนับสนุนเท่านั้น
นั้นทําให้พวกเขาอยากที่จะครอบครองผลคริสตัลวิวัฒนาการประเภทกลายร่างเป็นอย่างมาก
เพราะพลังของมันนั้นในบางแง่มุมก็เหนือชั้นกว่าผลคริสตัลวิวัฒนาการอีกสองประเภทอยู่มาก ซึ่งตัวอย่างก็มีให้เห็นนั้นก็คือไนเรลที่ใช้ความสามารถกลายร่างเป็นมังกรจัดการกับซอมบี้นับแสนด้วยตัวคนเดียวตามความเข้าใจของพวกเขา
ไนเรลมองไปที่ราคาและคิดว่าถ้าเขาเอาผลคริสตัลวิวัฒนาการ ประเภทจิตใจหรือลึกลับออกไปประมูลราคาของมันจะมากขนาดไหน แต่เขาก็คงคิดว่าประเภทลึกลับคงจะถูกรัฐบาลทุ่มทุนทั้งหมด ซื้อมันไปแน่นอน
เพราะความสามารถประเภทจิตใจถูกจัดให้เป็นความสามารถต้องห้ามที่ต้องได้รับการเฝ้าระวังสูง
ส่วนประเภทลึกลับก็มีทั้งความอันตรายและไม่อันตรายต่างกันไป รัฐบาลกลางคงไม่ยอมให้พลังเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ๆ แน่นอน
แต่ไนเรลก็คิดแบบเดียวกับทางรัฐบาลถ้าจะให้คนอื่นได้ไปสู้ใช้กับคนของตนเองดีกว่า ดังนั้นเขาจึงเก็บผลคริสตัลวิวัฒนาการ จิตใจและลึกลับไว้เป็นความลับให้มีแค่คนในของสมาพันธ์นักล่าเท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ของมัน
หลังจากเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วการประมูลก็สิ้นสุดลง โดยสมาพันนักล่าสามารถปิดการประมูลขายผลคริสตัลวิวัฒนาการทั้ง 100 ผลได้ราคาสูงถึง 7,500,000 G หรือคิดเป็นเงินเท่ากับ 750,000,000 เหรียญไทกีล่า ซึ่งสามารถซื้อเนื้อธรรมดาได้ถึง 750 ตันเลยทีเดียว
เพียงแค่ทุกคนเห็นก็รู้ได้ทันทีถึงความต้องการของผลคริสตัลวิวัฒนาการเหล่านี้จะทําให้มีมากแค่ไหน พร้อมกับที่เห็นถึงอนาคตของสมาพันธ์นักล่าที่จะสามารถขึ้นไปเทียบชั้นได้กับบริษัทข้ามชาติอย่างพาราซัสอย่างแน่นอนในเวลาไม่นาน
ถึงแม้การประมูลจะสิ้นสุดลงไปแล้วแต่มันก็มาพร้อมกับข้อเสนอของบริษัทที่ติดต่อเข้ามาหลังไมค์จํานวนถึงความร่วมมือและข้อตกลง
บางคนมาเพราะเห็นถึงศักยภาพของการเติบโตของสมาพันธ์นักล่า
ไนเรลที่ไม่ได้สนใจไนเรื่องนี้ก็ยกหน้าที่พวกนี้ให้คนอื่น ๆ จัดการในทันที เนื่องด้วยสมาพันธ์นักล่านั้นรู้อยู่แล้วว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นพวกเขาจึงจากบุคลากรที่มีความสามารถด้านนี้มาโดยเฉพาะเข้ามาจัดการรับมือกับเรื่องพวกนี้
คนพวกนี้ไม่ได้หายากอะไร เพราะทันทีที่เกิดเรื่องวันสิ้นโลก ความสามารถของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการมากนัก แม้แต่ความสามารถของช่างเชื่อมโลหะยังถูกมองว่ามีค่ามากกว่าพวกเขาซะอีก
นั้นทําให้หลายคนต้องอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ พอรู้ว่าสมาพันธ์นักล่าต้องการคนแบบพวกเขาหลายคนก็แทบจะวิ่งไม่คิดชีวิตรีบมาสมัครในทันทีเพราะกลัวว่าตําแหน่งจะเต็มซะก่อน
ไนเรลเดินออกมาเพื่อไปหาเมสันช่วยทําของบางอย่างให้เพื่อเตรียมตัวที่จะออกเดินทางตามแผนที่วางเอาไว้เพราะมันก็ช้ามากแล้ว เขากลัวว่าของที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลอาโรเดียจะถูกทําลายไปกับธรรมชาติที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ในโลกแบบนี้ซะก่อน