ตอนที่ 7 ฆ่ามนุษย์ชั้นสูง(รีไรท์)
เขาหาเสื้อมาใส่ทับไปอีกชั้นด้วยกลัวว่าจะมีใครเห็นคริสตัลที่หน้าอก และก็ออกมารวมกลับทุกคนที่ห้องนั่งเล่น
แต่เมื่อเข้ามาเขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่หดหู่เป็นอย่างมาก จึงหันไปถามน้องสาวของเขา
“น้องสาว ทุกคนเป็นอะไร?”
นิเรียที่ตอนนี้สีหน้าแสดงความกังวลและหันมาพูด “พี่ชาย…พ่อกับแม่จะเป็นอะไรไหม”
เธอชี้ไปที่ทีวีที่ตอนนี้กำลังนำเสนอข่าว ถึงเหตุการณ์ซอมบี้ฆ่าล้างมนุษย์อยู่โดยภาพนี้เป็นภาพสดที่ถูกถ่ายทอดสดทางเฮลิคอปเตอร์ของเมืองหลวงแห่งนี้
ซึ่งแม้กำลังทหารจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
การระบาดของซอมบี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยความโกลาหลในการแย่งอาหาร การปล้นและการก่อจลาจลเกิดขึ้นไปทั่วทุกแห่งของเมืองหลวง และเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายในประเทศไทกีล่า
ดังนั้นนิเรียเธอจึงกังวลมากเกี่ยวกับพ่อและแม่
ไนเรลยิ้มพร้อมกับบีบไปที่จมูกของเธอพร้อมกับพูดออกมา “ไม่ต้องกังวล! เราอย่าลืมสิว่า! พี่ได้โทรบอกให้พ่อกับแม่ซื้ออาหารและอาวุธเก็บไว้แล้วบ้างแล้ว พ่อกับแม่จะต้องไม่เป็นอะไร อีกอย่างพ่อกับแม่ก็เป็นชนชั้นสูงพวกเขาต้องมีคนมาคุ้มครองพาออกไปอย่างแน่นอน”
นิเรียรีบใช้มือปัดมือของไนเรลที่บีบจมูกของเธอออกจากนั้น “พี่หนูเชื่อพี่”
ภายในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าเธอไม่เชื่อพี่ชายของเธอแล้วเธอจะไปเชื่อใคร ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่ชายของเธอจะเปลี่ยนไปในช่วงล่างหลัง ถึงขนาดที่ว่าตอนนี้เธอเชื่อฟังเขาทุกคำพูด
“อืมไปนอนเถอะ เดี่ยวพี่ออกไปจัดการพวกข้างนอกก่อน” ไนเรลกล่าวและหยิบดาบยาวทังสเตนเดินออกไป
ตอนนี้มันเป็นเวลา 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วดังนั้นจึงมืดเล็กน้อยแต่ก็ยังมีแสงจากหลอดไฟอยู่บ้าง
เขาเดาว่าไม่นานไฟ ก็คงจะดับและการสื่อสารก็จะถูกตัดขาด ตอนนี้สัญญาณโทรศัพท์ไม่สามารถใช้ได้แล้ว ต่อไปก็คงจะเป็นสัญญาณโทรทัศน์
แล้วจากนั้นที่เหลืออยู่ก็จะเป็นแค่สัญญาณวิทยุที่ยังออกอากาศฉุกเฉินอยู่
ไนเรลมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคิดว่า ‘ในค่ำคืนนี้จะมีอีกสักกี่คนที่ต้องจบลง แต่เขาเดาว่ามันจะไม่น้อยอย่างแน่นอน’
หลังจากเดินมาถึงหน้าบ้านเขาก็หยิบดาบมาและแทงใส่ซอมบี้ที่กำลังกระแทกประตูลูกกรงเหล็กและพยายามเข้ามาในบ้าน
เขาใช้ดาบยาวทังสแตนแทงมันทีละตัวจนตายหมด
ซากศพของซอมบี้ 10 กว่าตัวกองกันอยู่หน้าบ้าน เขาทิ้งมันไว้แบบนั้นเพราะตอนนี้มันมืดแล้วจึงไม่เหมาะที่จะออกไปเก็บซากซอมบี้ไปทิ้ง
“ไว้รอเช้าก็แล้วกัน ค่อยให้คารอนและดามินมาเก็บ” ไนเรลสะบัดดาบยาวเพื่อให้เลือดและเศษเนื้อที่เกาะอยู่หลุดออก แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ไนเรลกลับมาแล้ว เขาก็เข้าไปนอนในห้องของตัวเองทันที ความเงียบก็ปกคลุมบ้านทั้งหลัง
เช้าวันต่อมาเมื่อเขาตื่นก็ได้ยินเสียงซอมบี้ที่อยู่หน้าบ้านมันกำลังร้องด้วยความหิวกระหาย เมื่อเขาเลิกผ้าม่านห้องของตัวเองที่อยู่บนชั้น 2 ออกเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นว่าทุกคนกำลังผลัดกันใช้มีดพกทังสแตนเเทงซอมบี้ทีละตัวทีละตัวอยู่
นิเรียยืนอยู่ด้านข้างใช้ปืนลูกโม่จ่อไปที่ซอมบี้ เพื่อระวังเผื่อเกิดเหตุการณ์ในกรณีฉุกเฉินขึ้นเธอจะได้ฆ่าซอมบี้ได้ทันที
ดาลิธดูจะตั้งใจอย่างมาก ส่วนไมน่านั้นก็กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ตลอดเวลาคนสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถฆ่าซอมบี้ได้แม้แต่ตัวเดียว
พวกผู้ชายที่เห็นอย่างนั้นก็จัดการปิดงานซอมบี้ที่อยู่หน้าประตู
หลังจากนั้นทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องครัวเพื่อรับกินอาหารเช้ากัน ขอถามก็ได้รู้สาเหตุว่าที่ทุกคนนั้น ทำไมถึงดูกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ มันก็เป็นเพราะว่าตอนนี้การสื่อสารทั้งหมดถูกตัดขาดไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ตอนที่เขาหลับไปแล้ว
ไนเรลมองไปที่ตาของพวกเขา พี่ไม่ได้นอนทั้งคืนเพื่อติดตามสถานการณ์จากรัฐบาล
“วันนี้พี่จะออกไปข้างนอกอีกไหม?” นิเรียถาม
ทันทีที่เธอถามทุกคนก็หันมามองไนเรลดูสายตาเดียวกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะออกไปข้างนอกเพื่อดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร
“วันนี้เหรอ คงจะไปตอนสาย ๆ” เขาคิดสักพักและตอบ
วันนี้เขาอยากจะรอออกไปล่าสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นดู เผื่อเขาจะสามารถกินมันและได้ความสามารถใหม่ ๆ มา
“งั้นหนูไปด้วยได้ไหม?” นิเรียกล่าวด้วยสายตาขอร้อง แต่ทันใดนั้น คารอนและดามินก็จะขอไปด้วย
ดูเหมือนว่าทุกคนก็อยากจะออกไปดูว่าข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง ยกเว้นก็แต่ไมน่าที่ตอนนี้นิ่งเงียบอยู่
“จะไปก็ได้อยู่ แต่ต้องมีคนอยู่เฝ้าที่นี่” เขาพูดพร้อมกับรอฟังว่าใครจะอาสาอยู่เฝ้าบ้าน
ทุกคนมองหน้ากันเองไปมา ทันใดนั้นไมน่าก็พูดออกมา “ฉันจะอยู่เฝ้าให้เอง”
“งั้นเดี่ยวผมอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง” คารอนรีบอาสาออกมา เขารู้สึกเป็นห่วงไมน่าเป็นอย่างมาก เพราะเพิ่งจะเสียเพื่อนรักอย่างซินน่าไป จึงกลัวว่าเธอจะคิดอะไรไม่เข้าท่าก็ได้
“อืม” ไมน่าพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ แล้วก็น่ากินอาหารของเธอต่อ
“งั้นเป็นอันตกลงตามนี้รีบกันแล้วก็ไปเตรียมตัว” แต่ยังไม่ทันที่ไนเรลจะพูดจบดีนัก อยู่ ๆ ไฟก็ดับลง
“เกิดอะไรขึ้น” คารอนถามออกไป
“น่าจะไฟดับนะ” ไนเรลตอบขณะที่ตักอาหารในจานใส่ปาก ตอนนี้พวกเขายังมีอาหารสดที่แช่แข็งไว้อยู่บ้าง จึงทำให้ทำอาหารกินได้อยู่
“เป็นไปไม่ได้ โรงงานไฟฟ้าน่าจะถูกควบคุมโดยทหารแล้วนี่ ตามที่ข่าวออก เพราะฉะนั้นไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟดับได้” ดามินรีบท้วงทันที
“แล้วถ้าโรงงานไฟ้ฟ้าหายไปแล้วละ” ไนเรลกล่าวและลุกออกไป
ทุกคนฟังแล้วก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย และคิดว่าพวกเขาคงไม่มีไฟฟ้าใช้อีกแล้วนับจากนี้
เมื่อถึง 9:00 โมงเช้า ทุกคนก็ออกมาจากบ้านและเคลียซอมบี้ระหว่างทางต้องเป็นบางครั้งเพื่อไม่ให้มันไปรวมตัวกันอยู่ที่หน้าบ้านของพวกเขา
ตอนนี้แสงแดดส่งมาบ้างเล็กน้อยเนื่องจากบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นควัน ที่ลอยออกมาจากในตัวเมือง พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่องจากไปไกล
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดังมาจากการระเบิดของแก๊ส ถังน้ำมัน หรือว่าระเบิดของกำลังทหารที่ฝ่าเข้าไปเมื่อวาน
ไนเรลเดินอ้อมและหลีกเลี่ยงถนนใหญ่เนื่องจากว่าตอนนี้มีซอมบี้มารวมตัวกันอยู่หลายร้อยตัว เหตุการณ์ทหารยิงกับซอมบี้เมื่อวานที่ถนนใหญ่
“พี่ชาย เราจะไปกันที่ไหน?” นิเรียถามขึ้นมา
“เราจะไปล่าสัตว์กลายพันธุ์กัน พวกเรามนุษย์ชั้นสูงต้องการเนื้อกลายพันธุ์เพื่อเป็นพลังงานให้กับร่างกายที่ต้องการพลังงานที่สูง” ไนเรลอธิบาย
แต่ทันใดนั้นก็มีชายสองคนออกมาขว้างทางพวกเขาไว้ พร้อม กับซอมบี้ที่ถูกล่ามโซ่รถติดกับปลายไม้ไว้ 2 ตัว
ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าโจรมีผ้าคาดหัวอยู่ก็กล่าว “หยุด พวกเจ้าจะไปไหนเด็ก ๆ?”
ไนเรลมองไปที่ชายคนนั้นแล้ว อยู่ก็รู้สึกอยากกินขึ้นมา มันมาจากคริสตัลกลางหน้าอกอีกแล้ว นั้นทำให้ความรู้สึกแปลกใจอย่างมากทำไมเขารู้สึกอยากกินชายคนนี้
“มีอะไรตาลุงหัวงู?” ยังไม่ทันทีไนเรลจะตอบ ดาลิธก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน
ดาลิธดูจะกล้าไม่กลัวใคร เนื่องจากเธอฆ่าซอมบี้ได้เมื่อเช้านี้ จึงดูมั่นใจเป็นอย่างมากและไม่กลัวซอมบี้ทั้ง2 ตัว ที่ถูกต้องอยู่กับล่ามอยู่กับโซ่เหล็กเลยแม้แต่น้อย
“ใจกล้าดีนะ แม่หนูน้อยมานี่มะ” ดวงตาของตาลุงเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน ๆ และมองไปที่ดาลิธ เมื่อเธอมองเข้าไปที่ตาคู่นั้น
ทันใดนั้นร่างกายของดาลิธก็เหมือนจะขยับไปเอง และเดินเข้าไปหาตาลุงอย่างช้า ๆ ดวงตาของเธอว่างเปล่า
“แย่แล้ว! มนุษย์ชั้นสูงที่มีพลังประเภทจิตใจ” ไนเรลรีบตะโกนออกมา
ดูเหมือนว่าตาลุงคนนี้จะเป็นมนุษย์ชั้นสูงเช่นเดียวกัน ผ้าที่คาดอยู่บนหัวนั้น ก็เหมือนจะไว้ปกปิดคริสตัลที่อยู่บนหน้าผาก
ก็ไม่แปลกเพราะตัวของเขาและนิเรียเองก็หาอะไรมาปิดไว้อยู่
ไนเรลใส่หมวกเพื่อบังมันไว้ส่วนนิเรียใช้เส่นผมของเธอบังไว้ เหตุที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะ
พึ่งจะเกิดเหตุการณ์ซอมบี้และการกลายพันธุ์เพียงไม่กี่วันเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ชั้นสูง จึงยังไม่เป็นที่รู้จักและการที่อยู่ ๆ มีคริสตัล ปรากฏขึ้นมาบนหัว พวกที่มีพลังจึงกลัวว่าจะดูเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกกลายพันธุ์ไม่ต่างจากซอมบี้
“โอ้ ไอ้หนุ่ม แกก็เป็นแบบเดี่ยวกับฉันงั้นหรือ? มาติดตามฉันดีกว่ามา ฉันจะขึ้นเป็นราชาของประเทศนี้และฆ่าซอมบี้ทั้งหมดแกว่าไง ฉันคือพระเจ้า แล้วสาว ๆ สวย ๆ จะเป็นของแกตามที่ต้องการ” ตาลุงพูดออกมาเสียงที่ดังมากจนน้ำลายกระเด็นไปทั่วพร้อมกับดึงผ้าที่คาดหัวออก
เผยให้เห็นเห็นคริสตัลรูปหยดน้ำที่อยู่บนศีรษะ ซึ่งก็ตรงกับความคิดของเขาที่ว่าคือมนุษย์ชั้นสูงที่มีพลังประเภทจิตใจ
“ปัญญาอ่อน” ไนเรลพูดออกไปและสั่งน้องสาวของเขาทันที “น้องสาวจัดการ”
นิเรียไม่ได้ยินสัญญาณเธอก็หยิบปืนลูกโม่ที่อยู่ข้างๆ เอวทั้งสองข้างออกมาแล้วยิงทันทีด้วยความเร็ว
ปัง!
ตาลุงมนุษย์ชั้นสูงรีบใช้ตัวของซอมบี้เข้ามาขวางลูกกระสุนไว้ทันทีแต่เขาคงคิดไม่ถึงว่าไม่ได้มีเพียงแค่ไนเรลที่เป็นมนุษย์มนุษย์ชั้นสูงเหมือนกันกับเขาแต่ยังมีนิเรียที่มีความสามารถ [ดวงตาเทพ S] อยู่อีก 1 คน
แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยิงไปที่จุดตายของตาลุง กระสุนยิงไปที่ไหล่ขวา แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้เขาเสียสมาธิในการควบคุมดาลิธ
“อ้าา” ดาลิธได้สติก็ตกใจเพราะเธอเกือบเดินไปให้ซอมบี้กัดซะแล้ว เธอรีบถอยหลังออกมาด้วยความกลัวทันที
“อ้าก ๆ ” ตาลุงอีกคนตอนนี้ก็พึ่งรู้สึกตัวว่าถูกยิงที่ไหล่ เลือกไหลออกราวกับน้ำ เขาจับไปที่หัวไหล่ของตัวเองด้วยความเจ็บปวด ตาลุงมนุษย์ชั้นสูงรีบปล่อยมือจากที่จับโซ่ที่ล่ามซอมบี้อยู่และวิ่งหนีทันที
ขณะนั้น ตาลุงมนุษย์ชนสูงก็ใช้โอกาสนี้หันไปมองนิเรีย ทันใดนั้นนิเรียก็ ขยับตัวไม่ได้ซอมบี้รีบวิ่งเขาไปกัดเธอทันที
แต่ในจังหวะนั้น ไนเรลก็ใช้ดาบยาวเหวี่ยงตัดหัวซอมบี้ ขาดไป 1 ตัวและใช้ปืนยิงไปอีก 1 นัด ซอมบี้ทั้ง 2 ตัวล้มลงทันที
ไม่เห็นดังนั้นตาลุงมนุษย์ชั้นสูง ก็เปลี่ยนเป้าหมายการควบคุมมาที่ไนเรล ดวงตาสีเขียวของเขามองไปที่ไนเรลทันที
แต่แน่นอนว่าไนเรลเคยเผชิญกับมนุษย์ชั้นสูงที่มีพลังประเภทจิตใจมามากมายในชีวิตที่แล้ว
เขาจึงหลับตาลงที เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมจากนั้นก็ยิงไปทางตำแหน่งที่ตาลุงอยู่ กระสุนยิงเข้าไปที่ท้องน้อยอย่างรุนแรงจนทะลุออกไปด้านหลังเป็นรูโหว่
“อั๊ก ๆ” ร่างของตาลุงล้มลงพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
ไนเรลเดินไปโดยมองแค่ที่พื้นเท่านั้นเพื่อไม่ให้โดนควบคุม จากนั้นก็ใช้ปืนจ่อไปที่หัวของตาลุง
“ปล่อย ๆ ข้าไปเถอะ เราแค่เข้าใจผิดก็แค่นั้นไม่เห็นต้องฆ่ากันเลย”
ทันใดนั้นดาลิธก็พูดออกมา “พี่ไนเรลเขาเป็นคนนะ? ถ้าพี่ฆ่าจะกลายเป็นฆาตกร…”
ก็ยังพูดไม่ทันขาดคำ เธอก็วิ่งเขามาหาไนเรลทันทีพร้อมกับมีดทำครัวขนาดเล็กที่เธอเอามาด้วย
“ดาลิธทำอะไรนะ?” ดามินที่ยืนด้านข้างก็พยายามจะดึงเธอ
ปัง! ปัง!
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น และดาลิธก็หยุดวิ่งใส่ไนเรลพร้อมกับสิ้นเสียงปืน
เสียงปืนที่เกิดขึ้นมาจากการที่ไนเรลยิงไปที่หัวของตาลุงมนุษย์ชั้นสูงจนเป็นรูถึง 2 นัด
ไนเรลส่ายหัวพน้อมกับเก็บปืนลงและพูดออกมาว่า “พลังประเภทจิตใจอยู่กับแกช่างเสียของจริง ๆ”
ดาลิธ เธอดูจะงงๆ อย่างมาก เธอทำอะไรลงไป ไม่ใช่ว่าเธอแค่จะพยายามห้ามไม่ให้ไนเรลฆ่าคนไม่ใช่หรือ
เธอทิ้งมีดที่อยู่ในมือทันทีด้วยความตกใจ มันคือมีดที่ดาลิธแอบหยิบออกมาไว้ใช้ในการป้องกันตัว
“พี่ไนเรล ฉัน…ฉันไม่ได้…”
เพี๊ยะ!
ไนเรลไปตบหน้าดาลิธในทันที “จำไว้เป็นบทเรียน”
ที่จริงไนเรลรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเขาพยายามบอกกับทุกคนว่าโลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ให้ยอมรับความจริง แต่ดาลิธก็ยังใช้วิธีการคิดแบบเดิม ๆ ตัดสินและก็เกือบที่จะฆ่าเขาเพราะความเห็นใจที่มีต่อศัตรู
“คนที่ไม่อยู่กับความเป็นจริง ก็จะตายในที่สุด” ไนเรลกล่าวพร้อมกับก้าวข้ามศพของตาลุงไม่ต้องส่งไปอย่างเย็นชา “ซอมบี้ทั้ง 2 ตัวนั้น คือคนที่พวกมันจับมาและบังคับให้กลายเป็นซอมบี้”
เขาชี้ไปที่ศพของซอมบี้ เขาเดาว่าพวกมันน่าจะพึ่งเป็นซอมบี้ได้ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ พวกมันน่าจะถูกควบคุมร่างกายโดยมนุษย์ชั้นสูงคนนั้น แล้วเดินไปให้ซอมบี้กัดเองเลยด้วยซ้ำ
เขาทิ้งศพของมนุษย์ชั้นสูงคนนั้นไว้อย่างนั้น คริสตัลที่อยู่บนหน้าผาเมื่อเจ้าของร่างกายไปมันก็ค่อย ๆ สีซีดจางลงไป
ถึงแม้ว่าพลังประเภทจิตใจจะล่อลวงเขาอย่างมาก อีกทั้งดูเหมือน คริสตัลกลางหน้าอกมันก็อยากให้เขากินแต่ไนเรลก็ไม่คิดที่จะกินเนื้อพวกเดียวกันอีก
เขาพยายามห้ามตัวเอง และเดินออกมา แล้วพอจะสรุปได้ว่ามันไม่ใช่เขาอยากกินแต่มันเป็นเพราะว่าในสายตาของเขาทุกสิ่งที่พัฒนาการคืออาหาร
มันเหมือนกับว่าเขาคือนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่ทำไมเขาถึงไม่อยากกินนิเรียที่เป็นมนุษย์ชั้นสูง ที่วิวัฒนาการเช่นเดียวกัน
‘หรือมันอาจจะเป็นเพราะว่าสัญชาตญาณบอกว่าเธอคือน้องสาวของเรา’ ไนเรลคิดขณะที่เดินอยู่
“พี่ชายเราจะไปที่ไหนต่อ?” นิเรียที่ยืนอยู่ ด้านข้างถามออกมา
“เราจะไปตามฆ่าอีกคน เพื่อตัดปัญหาในอนาคต” เขาตอบพร้อมกับเดินตามรอยเลือดไป
ดามินและดาลิธ เดินห่างออกจากไนเรลเล็กน้อยด้วยความกลัว เพราะถึงอย่างไรไนเรลก็พึ่งฆ่าคน ฆ่าคนจริง ๆ โดยเฉพาะดาลิธ ถึงเธอจะเป็นคนกล้า แต่เมื่อเห็นว่ามีคนถูกฆ่าตายต่อหน้าก็ถึงกลับท้องไส้ปันป่วนทันทีเมื่อนึกถึงภาพนั้น
แต่กลับต่างจากนิเรียทำก็ทำตัวเหมือนปกติ เพราะคิดว่าที่ไนเรลทำก็เพื่อปกป้องเธอก็เท่านั้น