re zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง
ตอนที่ 72 หมดแรง(NC 18+)
ไนเรลที่ตอนนี้โดนความสามารถ [ล่อลวง s] และ คําพูดของราชินีนิมฟ์ก็ยิ่งไปกระตุ้นความบ้าคลั่งที่อยู่ภายในจนเขาไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ความปรารถนาที่อยู่ภายในจิตใจของเขาก็ระเบิดออกมาในทันที
ไนเรลที่รู้ว่าตนนั้นคงไม่สามารถหยุดความปรารถนาของตนได้แล้ว แต่เขาก็ไม่คิดที่จะให้ราชินีนิมฟ์ผู้ก่อเรื่องเป็นฝ่ายจูงจมูก คุมเกมอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน
“ในเมื่อเธอต้องการฉันก็จะจัดให้” ไนเรลพูดออกมาด้วยความคลั่ง ฉีกกระชากเสื้อผ้าที่ตนพึ่งจะได้หยิบมาใส่ใหม่ตอนที่พึ่งจะฟื้นขึ้นมาก่อนไปหาราชินีนิมพ์
ร่างของไนเรลที่พลิกตัวขึ้นมาด้านบนพร้อมกับกดราชินีนิมพ์ไว้ใต้ตัวของตนเองอย่างรุนแรง
“อ้า…” ราชินีนิมพ์ร้องออกมา ขณะที่ไนเรลใช้มือข้างหนึ่งจับแขนทั้งสองข้างที่ขาวราวกับหยวกกล้วยกดไปด้านบนเหนือหัวของเธอ
ใบหน้าไนเรลที่ก้มลงแนบชิดกับหน้าที่ยั่วยวนของราชินีนิมพ์ ปากของเขาประกบลงไปที่ริมฝีปากที่หอมหวานดุดน้ําผึ้งป่า เสียงที่หอบหายใจของทั้งสองยิ่งเพิ่มบรรยากาศภายในห้องไปจนถึงขีดสุด
“อืม…อ้า” เสียงของราชินีที่ร้องออกมาด้วยความพึงพอใจกับการกระทําของไนเรลยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นในใจของเขา
ลมหายใจของไนเรลที่ลูบไล้ไล่ไปตามตัวของราชินีนิมพ์ตั้งแต่ซอกหูและลําคอที่น่าหลงใหลลงไปที่เนินเขาขนาดใหญ่
เสื้อผ้าที่ผูกติดปิดบังเลือนร่างของเธอไว้ทําให้ไนเรลที่ตาแดงก่ําถึงกับออกอาการหยุดหงิดออกมา มีอีกข้างของไนเรลที่จับเนินเขานั้นอยู่ได้ดึงเสื้อผ้าเหล่านั้นออกอย่างรุนแรง เผยให้เห็นดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่ปลายสุดของยอดเขา
มันเป็นดังดอกไม้บานที่เชิญชวนผึ้งเพศผู้เข้าไปดอมดมน้ําหวานที่ติดอยู่ตามเกสรของบุปผาสีนวลชมพูทั้งสองดอกนั้น
ผึ้งปาที่ไม่สนใจสิ่งใดอย่างไนเรลตอนนี้ ก็ไร้ซึ่งความเกรงกลัวได้ใช้ลิ้นเข้าไปกวาดต้อนน้ําหวานในเกสรเหล่านั้นในทันที
ราชินีนิมฟ์ที่ดิ้นจนมือทั้งสองข้างที่โดนมัดพันธนาการไว้โดยมือมารของไนเรลหลุดออก เธอกอดไปที่แผ่นหลังที่ที่กว้างใหญ่ของเขาและกดศีรษะของไนเรลอย่างรุนแรง
“อ้า…” เสียงที่สั่นเคลือของราชินีนิมพ์ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขาทั้งสองข้างที่เริ่มรัดเอวของไนเรลไว้แน่น แต่ดูเหมือนไนเรลจะไม่พอใจกับการกระทําเหมือนดังพยัคฆ์ที่ไม่พอใจกับการแค่ลูบไล้ขนแกะตัวน้อย เขาต้องการจะกลืนกินเธอทั้งตัว
ราชินีนิมฟ์ที่สัมผัสได้ถึงมือที่ซุกซนของไนเรลและการกระทําที่เขาจะพยายามเป็นฝ่ายคุมเกมแทน เธอที่เป็นถึงราชินีของเผ่านิมพ์ก็ไม่มีทางยินยอมได้อยู่แล้วจึงจับไปที่ใบหน้าของไนเรลที่และกัดไปที่หูของเขาอย่างรุนแรง พร้อมกับพยายามพลิกตัวกลับไปด้านบน
ปัง!
ไนเรลและราชินีนิมฟ์ที่กลิ้งตัวกันไปมา โดยที่ไม่มีใครยอมปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามชนะพวกเขาก็ชนเข้ากับผนังของห้องที่สร้างจากการสานของกิ่งก้านใบไม้อย่างสวยงาม ก็เกิดเป็นรูบุบลงไปตามแรงแขนของไนเรล
ทั้งราชินีนิมฟ์และไนเรลนั้นจัดได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขั้น 4 ด้วยกันทั้งคู่ หนึ่งมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียว หนึ่งอสูรนิมฟ์ขั้น 4 หนึ่งผู้มีพละกําลังมาก กับอีกหนึ่งมีพลังจิตใจมหาศาลและยังเกิดมาจากธรรมชาติแห่งผืนป่า
ดังนั้นทุกการกระทําที่ปลดปล่อยออกมาจากหนึ่งคนหนึ่งตนจึงรุนแรง แม้แต่แรงปรารถนาในจิตใจก็ไม่อาจยับยั้งได้
เสียงของไนเรลและราชินีนิมฟ์นั้นดังมากจนนิมฟ์ที่อยู่ในเผ่าตนอื่นๆนั้นก็พากันได้ยิน แต่ที่น่าแปลกกับไม่มีนิมฟ์ตนไหหนมีอารมณ์ หรือความเขินอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
อันเนื่องมาจากว่าเผ่านิมพ์แบบพวกเธอถ้าเลือกหนึ่งในเพศชายมาเป็นคู่คนแล้ว ก็จะรักและยอมมีความสัมพันธุ์รวมกับแค่คู่ของตนเท่านั้น ส่วนตนอื่นๆจะไม่สนใจในคู่ของนิมฟ์ตนอื่นๆ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคู่ที่ราชินีนิมฟ์ที่สูงส่งเลือกด้วยตนเองนั้น พวกเธอไม่มีความคิดเกินเลยไปเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว
พวกเธอถือกําเนิดจากมารดา เผ่าพันธุ์สายเลือดคือทุกสิ่ง ส่วนคู่ของตนนั้นมีได้เพียงหนึ่ง
แสงแดดที่เริ่มคล้อยลงแต่เสียงที่อยู่ภายในยังไม่หยุดลง ไนเรลที่มีพละกําลังมากแม้แต่ราชินีนิมฟ์ที่กระหายในตัวของเขา เธอก็เริ่มที่จะรับกับความรู้สึกของไนเรลที่ปลดปล่อยมาสู่ตัวของเธอไม่ไหว
“อ้าาา!” ราชินีนิมพ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปนความสุขและความเหนื่อยล้า เธอได้แต่คิดว่าทําไม่ชายหนุ่มคนนี้ถึงมีแรงมากมายขนาดนี้
ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่จะเป็นเช่นนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่สูญเสียทุกคนไนเรลก็ไม่เคยปลดปล่อยความปรารถนาในเรื่องบนเตียงกับใครอีกเลย อีกทั้งสิ่งเลวร้ายที่ตามหลอกหล่อนเขามันก็ยิ่งไม่ทําให้เขามีความรู้สึกเหล่านั้นได้ อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่ว่าไนเรลไม่มีอารมณ์ แต่เป็นเพราะเขาเลือกที่เก็บงํามันไว้ในส่วนลึกของจิตใจโดยไม่รู้ตัว
แม้แต่ช่วงที่เขาและเอวาที่ริมแม่น้ําหรือในห้องที่สมาพันธ์นักล่า เขาก็หักห้ามไม่ทําเรื่องแบบนั้นกับเอวา
แต่ในตอนนี้การที่ราชินีนิมพ์ได้เป็นผู้กะเทาะผิวเปลือกโลกในจิตใจ จนภูเขาไฟที่กักขังไว้ปะทุออกมาไม่มีออะไรหยุดยั้งมันได้ มันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องรุนแรงเป็นอย่างมาก
ไนเรลที่ขณะนี้เป็นเหมือนกับคราวบอยหนุ่มในโลกที่ป่าเถื่อนได้ดึงเส้นผมที่เป็นเหมือนดังเบี้ยมาของราชินินิมฟ์ ม้าปาสีขาวและบอบบางที่ไม่หวาดกลัวชายหนุ่มอย่างไนเรลก็เข้าต่อด้านนั้นยิ่งทําให้ไนเรลควบมันไปไม่หยุด
เสียงที่บ่งบอกถึงการปลดปล่อยของไนเรลที่ดังออกมาเป็นครั้งคราวทุกๆผิวน้ํากระเพื่อมจากกลางสระถึงชายขอบริมสระ ยิ่งนาน เวลาของแต่ละครั้งก็นานขึ้น
จากช่วงเวลาที่แสงแดดขึ้นกลางท้องฟ้าจดจนแสงจันทร์อยู่กลางผิวน้ํา ไนเรลผู้ที่จัดการราชินีนิมฟ์ไม่หยุดก็สลบไปบนร่างของราชินีนิมฟ์ที่ตอนนี้ก็หลับใหลไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้
ตัวของไนเรลที่ตามแผ่นหลังมีรอยเล็บรากผ่านเป็นทางยาว รอยสีแดงและรอยกัดที่เกิดขึ้นทุกๆครั้งที่ราชินีนิมฟทนไม่ไหว ปรากฏขึ้นให้เห็นอยู่บนร่างกายที่มีแต่มัดกล้ามของไนเรล
ที่ตอนนี้ยังคงนอนทับร่างของราชินินิมพ์ไว้ใต้ตนเอง ได้แสดงถึงชัยชนะที่ว่าแม้ตนจะไม่สามารถหลุดจากการล่อลวงของราชินีนิมพ์ได้ แต่ตนก็ยังเป็นผู้ชายที่กดข่มเธอได้อย่างอยู่หมัด
หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆหลับไปด้วยความเหนื่อยจนถึงขีดสุดจากศึกหนักที่เกิดขึ้นและแล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปทั้งแบบนี้
เช้าวันต่อมาไนเรลที่ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดร้าวไปทั้งตัวไม่ว่าจะเป็นบาดแผลที่ยังไม่หายดีของตนเองหรือแม้แต่ช่วงร่างที่ใช้มากเกินไป
“เห้อ…” ไนเรลนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็ได้แต่คิดว่าตนเอง ทําอะไรลงไป ถึงแม้จะบอกว่าเขาโดนความสามารถ [ล่อลวง S] ของราชินินิมฟ์ ไม่สิต้องเป็นหญิงสาวที่เขาพึ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวัน
ตัวเขาที่ไม่สามารถควบคุมความปรารถนาที่จะทําเรื่องอย่างว่ากับเธอไม่ได้ก็ตาม แต่ดูเหมือนความรู้สึกในส่วนลึกของเขา ไนเรลจะยังรับรู้และจําเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แม้แต่ครั้งสุดท้ายที่เขาจัดหนักจนทั้งเธอและเขาหมดสภาพมันก็ยังคงเป็นความรู้สึกที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากไม่ห่างหายไปไหน
ไนเรลรู้สึกสับสนกับความสัมพันธุ์ของเขาและราชินีนิมฟ์ที่ตอนนี้ หลับอยู่ในอ้อมแขนของตนเองไม่ได้
เขามองไปที่ใบหน้าที่นิ่งสงบที่มีแสงแดดที่สร่องผ่านเข้ามาในห้องที่มีแต่รูและผนังที่พลังลงเป็นจุดๆไป ก็ได้ที่ยิ้มเจื่อนๆ ใช้มือจับไปที่หน้าผากลูบไล้ไล่ลงมาที่หว่างคิ้วและปลายจมูกที่สมบูรณ์แบบของเธอสัมผัสกับริมฝีปากที่อวบอิ่มคู่นั้นที่เผยให้เห็นฟันสีขาวสวย แต่อยู่ๆเธอก็กัดลงไปที่นิ้วของเขาไนเรลรีบดึงกลับในทันที
ไนเรลมองไปที่อีกครั้งและได้แต่คิด ตนเองที่เป็นผู้ชายที่หยาบกร้าน ก็ยังไม่คิดว่าจะมีหญิงสาวที่ถึงแม้จะไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นอสูรนิมฟ์ที่สวยงดงามไม่แพ้หญิงสาวมนุษย์คนใดก็ตามมาหลงรัก ไม่สิมาหลงใหลและอยากได้สายเลือดของเขา
ถึงแม้มันจะไม่ได้เกิดจากความรักแต่เขาก็ได้ทําเรื่องอย่างว่ากับเธอไปแล้ว ไนเรลก็ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบและอ้างเหตุผลอะไรไม่ได้
เขาจะต้องทําในสิ่งที่ผู้ชายทุกคนควรทําคือดูแลและปกป้องผู้หญิงของตน
“หวังว่าเธอคงจะให้อภัยฉันนะ” ไนเรลที่พึมพําออกมาเหมือนกับจะพูดกับหญิงสาวที่อยู่ในความทรงจําที่เขาทั้งรักและเกียจในเวลาเดียวกัน
“อืออ…เจ้าตื่นแล้ว เช่นนั้นทําไมไม่ปลุกเรา” ราชินีนิมพ์ที่ตอนนี้ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ เธอมองไปที่ไนเรลด้วยสายตาที่ปกติ แตกต่างจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างมาก เธอถามออกมาอย่างเป็นกันเองโดยที่ไม่มีความเขินเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไร เกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
“เธอยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก ยังไม่ยอมขอโทษเรื่องที่วางยาฉันเมื่อวานนี้อีก”
“จะต้องขอโทษอะไร ก็ถ้าไม่ทําแบบนั้นเราจะรับน้ําแห่งชีวิตของเจ้าเพื่อสืบสายเลือดเจ้าให้กับเผ่านิมฟ์ของเราได้อย่างไร?” ราชินีนิมฟ์ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และมองไปที่เขาอย่างไม่เข้าใจ ราวกับจะบอกว่า ถ้าไม่ทําเรื่องแบบนั้นแล้วจะให้เธอทําแบบไหน” พร้อมกับที่มองลงไปที่ด้านล่างที่ล่อนจ้อนของเขา
ไนเรลที่เห็นสายตาแบบนั้นก็พูดไม่ออก…เธอไม่คิดหรือว่าสิ่งที่ทําเมื่อวานนี้มันไม่ถูกต้องหรือไง
แต่ราชินีนิมฟ์พูดต่อไปอีกว่า “เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล เราจะดูแลเด็กน้อยที่เกิดมาจากสายเลือดของเจ้าอย่างดี เธอจะเป็นเผ่านิมพ์ที่แข็งแกร่งเหนือทั้งเราและนิมพ์ตนอื่นๆอย่างแน่นอน เป็นราชินีตนต่อไป เมื่อได้ความสามารถ [เร่งการเจริญเติบโตของพืช A] ของเจ้า หลอมรวมกับความสามารถ [การตอบรับของธรรมชาติ S] ของเรา
ไนเรลฟังสิ่งที่เธอพูดก็ได้แต่ยิ้มรับเท่านั้น เขาจะไปทําอะไรได้ ดูเหมือนเธอมั่นใจเหลือเกินว่าจะท้องอย่างแน่นอน
แต่แล้วเขาก็เกิดความสนใจสิ่งหนึ่งนั้นก็คือความสามารถ [การตอบรับของธรรมชาติ S] ที่เธอพูดถึง
“เธอช่วยบอกเรื่องของความสามารถ [การตอบรับของธรรมชาติ S] ให้ฉันฟังได้หรือไม่”
“ไม่ได้…เจ้าไม่ใช่เผ่านิมฟ์” ราชินีนิมฟ์ปฏิเสธออกมาในทันที
ไนเรลที่อยากรู้จนสุดขีดเพราะเขาก็สนใจความสามารถนี้อยู่มาก จึงจัดการทําให้เธอยอมพูดออกมาในทันที “ได้ดูสิว่าเธอจะยอมพูดหรือไม่”
“อ้าาา…”
หลังจากนั้นเสียงที่ยั่วยวนใจของราชินีนิมฟ์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ตั้งตัว
“ไม่”
“ไม่”
“ยอม..ยอมแล้ว เราบอกแล้ว” หลังจากที่ปฏิเสธไปก็ไม่มีความหมาย ผ่านไปสักพักราชินีนิมฟ์ที่ขอร้องให้หยุดและยอมบอกกับไนเรลด้วยความเหนื่อยหอบ
“ถ้าข้าบอกเจ้า เจ้าต้องบอกก่อนว่าสิ่งนี้คืออะไร” เธอที่ใบหน้าแนบอยู่ที่หน้าอกของเขาอย่างอ่อนแรง พร้อมกับใช้นิ้วหมุนวนไปที่เมล็ดพันธุ์ชีวิตที่หน้าอกของเขา
“รีบบอกมาเถอะ ส่วนสิ่งที่อยากรู้นั้น? รู้ไปก็เป็นอันตรายกับเผ่าพันธุ์ของเธอเปล่าๆ”
“ก็ได้” ราชินีนิมฟ์คิดสักพักก็ยอมตกลงและไม่ถามถึงเรื่องเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการอีก เพราะจากการที่เธอสัมผัสกับมันด้วยการรับรู้ที่อ่อนไหวของนิมฟ์เธอก็รู้ว่ามันไม่ใช่ของธรรมดา และยังดูมีพลังอํานาจจนหน้ากลัวอีกด้วย