คุณภาพของต้นไม้แห่งชีวิต
ซือเฟิงนั้นไม่รู้ว่าซีเว่ยใช้วิธีการตรวจสอบแบบไหน เธอถึงรู้ว่ากิ่งหลักนี้เหี่ยว แต่อย่างไรก็ตามสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำของเขานั้น มันไม่ใช่สกิลตรวจสอบแบบธรรมดา และด้วยสกิลนี้ เขาจะสามารถเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดของมันออกมาได้มากขึ้นมาก ดังนั้นเขาจึงอาจจะยังพอมีโอกาสในการเลี้ยงดูและทำให้กิ่งหลักนี้เติบโตเป็นต้นไม้แห่งชีวิต
ขณะที่ซือเฟิงทำการใช้สกิลนี้ตรวจสอบ แถบดาวโหลดสามสิบวินาทีก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของเขา
แม้แต่กิ่งหลักของต้นไม้แห่งชีวิตที่เหี่ยวไปแล้วก็ยังน่าอัศจรรย์แบบนี้เลยงั้นหรอ ?! ซือเฟิงจ้องมองไปที่กิ่งหลักในมือเขาด้วยความประหลาดใจ
สำหรับไอเทมระดับอีปิค สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำของเขานั้น มันใช้เวลาในการตรวจสอบและประเมินราวยี่สิบเอ็ดถึงยี่สิบสองวินาทีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามการตรวจสอบและประเมินกิ่งหลักนี้ต้องใช้เวลาถึงครึ่งนาที ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่ากิ่งหลักของต้นไม้แห่งชีวิตนั้นมีค่ามากกว่าไอเทมระดับอีปิคด้วย
นอกจากนี้นี่ยังเป็นเพียงกิ่งหลักจากต้นไม้แห่งชีวิต มันยังไม่ใช่ต้นที่แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นซีเว่ยยังได้ยืนยันว่ากิ่งหลักนี้เหี่ยวไปแล้ว ซึ่งมันก็หมายความว่า มันไม่น่าจะมีค่าเท่ากับกิ่งที่ยังมีชีวิต และไม่เหี่ยว ….
ใน God domain เผ่าเอลฟ์นั้นถือว่าต้นไม้แห่งชีวิตเป็นต้นไม้ศักสิทธิ์ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ดีไวน์อาติแฟคที่แท้จริง แต่ความสามารถและมูลค่าของมันนั้นก็ใกล้เคียง
แม้จะไม่มีพลังชีวิตเหลือแล้ว แต่กิ่งหลักในมือของเขาที่เหี่ยวแล้วก็ยังมีพลังมากกว่าไอเทมระดับอีปิค ซึ่งก็พิสูจน์ถึงศักยภาพของมันได้เป็นอย่างดี
ขอร้องเถอะ อย่าให้มันเป็นแค่ขยะเลย !!! แม้ว่ามันจะไม่มีพลังชีวิตเหลือแล้ว แต่ก็ให้มันมีอัตราการเหี่ยวน้อยกว่าเก้าสิบห้าเปอเซ็นต์ที !!! ซือเฟิงภาวนาในใจอย่างเงียบๆ ในขณะที่เขามองดูแถบโหลดค่อยๆถูกเติมเต็มไปเรื่อยๆ
ต้นไม้แห่งชีวิตนั้นแม้มันจะมีมูลค่ามาก แต่มันก็ไม่ใช่ไอเทมที่พิเศษไปเลย เพราะมหาอำนาจหลายกลุ่มในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาล้วนได้รับมันมา แต่อย่างไรก็ตาม มันมีแค่มหาอำนาจเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูต้นไม้แห่งชีวิตของพวกเขาเอง
โดยธรรมชาติแล้ว อัตราการเหี่ยวมันก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกัน
จากการวิจัยของมหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงนั้น ทั้งกิ่งหลักและกิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิตจะไม่มีโอกาสรอดใดๆเลย หากอัตราการเหี่ยวมันมากกว่าเก้าสิบห้าเปอเซ็นต์ไปแล้ว และยิ่งมีอัตราการเหี่ยวต่ำเท่าไหร่ โอกาสที่จะเลี้ยงดูให้มันเติบโตได้ก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
กิ่งหลักโดยทั่วไปที่ไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่ มันจะมีอัตราการเหี่ยวอยู่ที่ประมาณแปดสิบเปอเซ็นต์ หรือสูงกว่านั้นนิดหน่อย ซึ่งกิ่งหลักในมือของซือเฟิงก็ควรจะเป็นแบบนั้นด้วยเช่นกัน ….
ซือเฟิงนั้นรู้ดีว่ากิ่งหลักที่มหาอำนาจต่างๆในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาได้รับมานั้นส่วนใหญ่จะไม่มีพลังชีวิตเหลือแล้ว อย่างไรก็ตามกิ่งหลักแบบนี้มันก็มีค่ามากอย่างไม่น่าเชื่อ และตราบใดที่มันสามารถเติบโตได้ มันก็จะมีค่ามากพอๆกับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานหลายชิ้นเลย
เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานนั้นจัดเป็นสมบัติที่หายากและมีค่าอย่างมากใน God domain และแม้แต่ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา โดยเฉลี่ยกิลชั้นสูงส่วนใหญ่ก็มีพวกมันไม่ถึงสิบห้าชิ้นด้วยซ้ำ
กิลชั้นสูงในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงนั้น หลังจากผ่านไปสิบปี พวกเขาส่วนใหญ่ควบคุมเมืองอยู่ในหลายอาณาจักร และมีสมาชิกนับล้านคน แต่กระนั้น พวกเขาก็ได้รับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เวลานั้นผ่านไปอย่างช้าๆ ขณะที่ความกังวลของซือเฟิงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแต่ละวินาทีค่อยๆผ่านไป
สิบวินาที … ยี่สิบวินาที …
ในขณะที่ซือเฟิงกำลังจ้องมองไปยังกิ่งหลักในมือเขาอย่างตั้งใจ ซีเว่ยก็พูดขึ้น
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฮีฟเว่นเบลดรอดพ้นจากการถูกสังหารหมู่ครั้งใหญ่มาได้ก็เพราะการที่คุณมาถึงในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหากคุณสนใจ เรายินดีจะแลกเปลี่ยนกิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิตกับไอเทมระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยหนึ่งชิ้นนะ” ซีเว่ยกล่าวขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงอย่างรู้สึกแย่
สภาสิบแปดปีกนั้นได้ช่วยฮีฟเว่นเบลดไว้อย่างมาก เพราะหากทีมของซือเฟิงมาถึงช้ากว่านี้อีกแค่ไม่กี่นาที ฮีฟเว่นเบลดจะสูญเสียทุกอย่างแน่นอน และเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีเลยที่ค่าตอบแทนที่สภาสิบแปดปีกได้รับเป็นแค่กิ่งหลักของต้นไม้แห่งชีวิตที่เหี่ยวไปแล้ว
“ไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ ผู้บัญชาการซีเว่ย ข้อตกลงคือข้อตกลง ในความเป็นจริงสภาสิบแปดปีกนั้นได้รับประโยชน์อย่างมากจากการทำธุรกรรมครั้งนี้ และการจะเลี้ยงดูกิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิตขึ้นมาให้ได้นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งฮีฟเว่นเบลดนั้นก็ได้รับความสูญเสียไปอย่างหนักแล้วในซากปรักหักพังโมลเทน หากคุณขายกิ่งด้านข้างอื่นมาอีก มันจะไม่ต่างจากคุณเสียเวลาไปโดยสิ้นเชิงเลย” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว ขณะที่เขาปฎิเสธข้อเสนอที่เป็นเจตนาดีของซีเว่ย “เอาแบบนี้เป็นยังไง ? หากคุณมีวัสดุหายากที่ต้องการขาย สภาสิบแปดปีกยินดีจะซื้อมันในราคาตลาด”
กิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิตนั้นมีมูลค่าเท่ากับไอเทมระดับอีปิคเลเวลหนึ่งร้อยหลายชิ้น หากเขายอมรับข้อเสนอของซีเว่ย สภาสิบแปดปีกจะทำกำไรได้อย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตามกิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิตนั้นไม่ได้มีความสำคัญกับซือเฟิงมากนักเลย ดังนั้นแทนที่จะมามัวทำกำไรจากการซื้อขายครั้งเดียว เขาสู้ทำการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฮีฟเว่นเบลด และสภาสิบแปดปีกดีกว่า
ฮีฟเว่นเบลดนั้นเป็นทีมนักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับห้าบนเกาะดราก้อนฮาร์ท และแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเทียบกับมหาอำนาจต่างๆได้ แต่มันก็ไม่ควรมองข้ามความสามารถของพวกเขาในเรื่องกองทัพเรือ นอกจากนี้ฮีฟเว่นเบลดยังมีทีมนักผจญภัยอีกหลายสิบทีมอยู่ใต้อาณัติ ซึ่งโดยรวมแล้วมันทำให้ฮีฟเว่นเบลดสามารถเข้าถึงทรัพยากรของท้องทะเลได้มากพอๆกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเลย
ในขณะที่ God domain กำลังดำเนินไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะเริ่มหันความสนใจมายังท้องทะเลกันมากขึ้น เพราะท้ายที่สุด God domain มีพื้นที่เป็นมหาสมุทรมากกว่าผืนดิน แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วสภาสิบแปดปีกจะสามารถสร้างกองทัพเรือที่แท้จริงของตัวเองได้สำเร็จ แต่กิลก็สามารถจะรักษาทรัพยากรที่มีอยู่ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมด้วยความสามารถทางกองทัพเรือที่น่ากลัวมากของวอร์บลัด ทำให้
สตาร์ลิ้งเลือกจะเป็นพันธมิตรกับพวกเขา
หากสภาสิบแปดปีกสามารถเป็นพันธมิตรกับฮีฟเว่นเบลดได้ และได้รับแหล่งวัสดุที่มั่นคง การร่วมมือกันครั้งนี้จะคุ้มค่ามากกว่ากิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิต กิ่งหนึ่งมาก ….
“เอาล่ะ ถ้าคุณยืนยันแบบนั้น จากนี้ไปเราจะขายวัสดุหายากทั้งหมดที่เราหาได้ให้กับสภาสิบแปดปีกในราคาตลาด” ซีเว่ยกล่าวเห็นด้วยอย่างประหลาดใจ เธอไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะปฎิเสธข้อเสนอของเธอ กิ่งด้านข้างของต้นไม้แห่งชีวิตยังคงเป็นที่ต้องการมาก แม้แต่ในหมู่มหาอำนาจต่างๆ จากนั้นเธอก็หันไปหาคลีนซิ่งเฟรม และพูดว่า “เฟรม นับจากนี้คุณจะเป็นรองผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัย และทำหน้าที่ดูแลวัสดุของเราโดยตรง นอกจากนี้คุณยังจะต้องรับผิดชอบการทำธุรกรรมกับสภาสิบแปดปีกด้วย”
คลีนซิ่งเฟรมตกตะลึง เธอไม่คิดเลยว่าซีเว่ยจะเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นรองผู้บัญชาการอย่างกระทันหัน อย่างไรก็ตาม เธอก็หายตกตะลึงอย่างรวดเร็วและพยักหน้าพลางพูดว่า “รับทราบผู้บัญชาการ !!!”
ขณะเดียวกันสมาชิกของฮีฟเว่นเบลดก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาเพื่อนของพวกเขา
ฮีฟเว่นเบลดอาจไม่ใช่มหาอำนาจ แต่มันก็เป็นทีมนักผจญภัยชั้นยอดที่มีสมาชิกนับหมื่น และมันก็มีทีมนักผจญภัยหลายโหลอยู่ภายใต้อาณัติ และแม้แต่เหล่ามหาอำนาจก็ยังต้องปฎิบัติต่อรองผู้บัญชาการสี่คนของฮีฟเว่นเบลดเป็นอย่างดี
ดังนั้นทำไมพวกเขาจึงจะไม่อิจฉาล่ะ เมื่อได้เห็นว่าคลีนซิ่งเฟรมพึ่งจะกลายเป็นรองผู้บัญชาการคนที่ห้าของทีมนักผจญภัย ….
แน่นอนว่าแม้จะอิจฉา แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านการเลื่อนตำแหน่งให้กับคลีนซิ่งเฟรม เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์อย่างแท้จริง เธอเป็นเพียงแค่ผู้โชคร้ายในระหว่างการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามที่ล้มเหลวเท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยมาตราฐานการต่อสู้ของเธอ เธอนั้นเหมาะกับตำแหน่งนี้อย่างมาก แต่ก่อนหน้านี้ที่เธอยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็เพราะเธอยังไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมนักผจญภัยอย่างมากเพียงพอ
อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องที่ซากปรักหักพังโมลเทนในครั้งนี้ ทุกอย่างมันก็แตกต่างออกไป กองกำลังหลักของพวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกทำลายล้างได้เพราะความสำเร็จของคลีนซิ่งเฟรมที่รับเอาความช่วยเหลือจากซือเฟิงมาได้ และความสำเร็จครั้งนี้มันก็มากเกินพอแล้วที่จะทำให้เธอได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการ
แม้แต่ยู่หลัวก็ยังรู้สึกอิจฉาคลีนซิ่งเฟรมเล็กน้อย เธอนั้นโชคดีที่ได้พบกับสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างซือเฟิง และได้กลายเป็นรองผู้บัญชาการก่อนยู่หลัว
ยู่หลัวนั้นรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อทีมของเธอพบกับทีมของซีเว่ยและซือเฟิง เมื่อเดินทางเข้ามายังทางเดินชั้นในได้ครึ่งทาง เธอไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะสามารถเข้าถึงตัวผู้บัญชาการของเธอได้สำเร็จจริงๆ และจากสิ่งที่สมาชิกในทีมของซีเว่ยบอกเธอ ดูเหมือนว่าซือเฟิงจะปราบปรามผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของวอร์บลัดกับสตาร์ลิ้ง สามสิบสองคนได้ด้วยตัวคนเดียวด้วย
รอก่อนเถอะ !!! ในไม่ช้าฉันจะกลายเป็นรองผู้บัญชาการด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง !!! ยู่หลัวสาบานภายในใจ ขณะที่จ้องมองไปยังซือเฟิง
ในขณะที่สมาชิกของฮีฟเว่นเบลดกำลังเต็มไปด้วยความอิจฉาคลีนซิ่งเฟรม แถบดาวโหลดตรงหน้าของซือเฟิงนั้นก็เสร็จสมบูรณ์ จากนั้นแผงข้อมูลของกิ่งหลักนี้ก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าของซือเฟิง
อะไรกัน ?! นี่คือกิ่งหลักของต้นไม้แห่งชีวิตที่รอดมาจากการทำลายล้างครั้งใหญ่งั้นหรอ ?!