ต้นไม้แห่งชีวิตระดับดีไวน์อาติแฟค
ซือเฟิงจ้องมองไปที่แผงข้อมูลตรงหน้าของเขาด้วยความตกตะลึง และตอนนี้เขาก็กำลังสงสัยว่า เขาฝันอยู่รึปล่าว
[กิ่งหลักของต้นไม้แห่งชีวิตที่เหี่ยวเฉา] (เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานพิเศษ)
กิ่งไม้หลักที่เหี่ยวเฉาจากต้นไม้แห่งชีวิต กิ่งนี้มีร่องรอยของพลังงานของโลกที่รอดมาจากการทำลายล้างครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน
อัตราเหี่ยวเฉา : 94 เปอเซ็นต์
ข้อมูลที่กล่าวแนะนำกิ่งนั้นเรียบง่าย และสั้นมาก ซึ่งผู้เล่นที่พึ่งเข้าสู่ God domain นั้นจะไม่เห็นคุณค่าใดๆของกิ่งหลักนี้เลย แต่สำหรับซือเฟิงผู้ซึ่งรู้เรื่องราวของโลกนี้อย่างมากมายจากชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้นมันเป็นเรื่องรางที่แตกต่างออกไป
ต้นไม้แห่งชีวิตของเผ่าเอลฟ์นั้นเป็นต้นไม้แห่งชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ใน God domain และมันยังเป็นต้นไม้แห่งชีวิตที่มีคุณภาพสูงสุดด้วย และมันก็สามารถเติบโตขึ้นมาได้หลังจากการทำลายล้างครั้งใหญ่เท่านั้น
อย่างไรก็ตามกิ่งหลักในมือของซือเฟิงนั้นมันเก่ากว่า นี่มันไม่น่าเชื่อเลย !!!
ก่อนที่จะเกิดการทำลายล้างครั้งใหญ่ God domain นั้นเป็นยุคของเหล่าทวยเทพ ซึ่งมันเป็นยุคที่เทพสามารถเดินทางท่องไปยังที่ต่างๆของทวีปได้ ดังนั้นใครๆก็น่าจะสามารถจินตนาการได้ว่าโลกในตอนนั้นมันน่าอัศจรรย์มากขนาดไหน
มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าแม้แต่สิ่งของธรรมดาที่เหลือรอดมาจากการทำลายล้างครั้งใหญ่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าในยุคปัจจุบัน ซือเฟิงไม่สามารถจะจินตนาการได้เลยด้วยซ้ำว่าระดับของต้นไม้แห่งชีวิตที่อยู่ในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร
สำหรับสิ่งที่เขารู้นั้นคือ ต้นไม้แห่งชีวิตเหล่านั้นอาจเป็นดีไวน์อาติแฟค
ดีไวน์อาติแฟคนั้นสามารถจะกำหนดความเจริญรุ่งเรืองหรือความตายของทั้งเผ่าพันธุ์ได้เลย สิ่งของเหล่านี้นั้นเป็นเหมือนกับลูกๆของเทพโบราณ
ซือเฟิงนั้นได้เห็นแผงข้อมูลของดีไวน์อาติแฟคมาเพียงแค่สองชิ้นเท่านั้นในวิหารเทพสงคราม เนื่องจากเควสระดับตำนานเนื้อเรื่องหลัก ซึ่งวิหารเทพสงครามนั้นเป็นหนึ่งในขุมอำนาจที่ทรงพลังมากที่สุดใน God domain มันไม่มีอาณาจักร หรือจักรวรรดิใดจะสามารถเทียบกับมันได้ และถึงแม้จะมีพลังแบบนั้น แต่วิหารเทพสงครามก็มีดีไวน์อาติแฟคแค่สองชิ้นเท่านั้นในครอบครอง
ก่อนหน้านี้ซือเฟิงนั้นไม่เคยเข้าใจความแข็งแกร่งของดีไวน์อาติแฟคเลย ในความเป็นจริงเขาเคยสงสัยด้วยซ้ำว่าผู้เล่นจะมีสิทได้จับมันสักครั้งไหม
แม้จะอยู่ใน God domain มานานนับทศวรรษ แต่เขาก็ไม่เคยยินมาก่อนเลยว่าผู้เล่นคนไหนได้รับดีไวน์อาติแฟคไป ไอเทมที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเห็นว่าผู้เล่นได้รับมา คือระดับตำนาน
ไอเทมระดับตำนานนั้นทำให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ ซึ่งหากผู้เล่นได้เป็นเจ้าของดีไวน์อาติแฟคจริงๆ พวกเขาอาจจะได้รับพลังที่ไม่อาจจะจินตนาการได้เลย
แม้ว่าต้นไม้แห่งชีวิตจะไม่ใช่อาวุธหรืออุปกรณ์ แต่มันก็สามารถผลิตสิ่งของมีค่าอย่างน้ำแห่งชีวิต ผลไม้แห่งชีวิต และนิวเคลียสแห่งชีวิตได้ และยิ่งมีระดับสูงเท่าหร่ ต้นไม้แห่งชีวิตก็จะยิ่งสามารถผลิตสิ่งของแบบนี้ได้มากขึ้น และระยะเวลารอบในการผลิตก็จะสั้นลงด้วย
ที่ระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน ต้นไม้แห่งชีวิตนั้นจะมีรอบการผลิตที่หนึ่งเดือน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนเป็นไอเทมที่กล่าวมาอย่างละสามชิ้นเท่านั้น ขณะที่ต้นไม้แห่งชีวิตระดับตำนานจะสามารถผลิตไอเทมแต่ละชิ้นทั้งหมดได้ราวสามถึงห้าชิ้นทุกสองสัปดาห์
อย่างไรก็ตามอัตราการเหี่ยวของกิ่งหลักในมือขงซือเฟิงนั้นก็สูงถึงเก้าสิบสี่เปอเซ็นต์ และมันอยู่ห่างจากการกลายเป็นสิ่งของไร้ประโยชน์แค่เพียงหนึ่งเปอเซ็นต์เท่านั้น ซึ่งฉันจะมีโอกาสน้อยกว่าสิบเปอเซ็นต์ในการจะฟื้นคืนชีวิตให้กับมัน ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อนึกถึงอัตราการเหี่ยว
เขานั้นรู้ว่ากิ่งไม้นี้จะไร้ประโยชน์ไปเลยหากมีอัตราการเหี่ยวที่เก้าสิบห้าเปอเซ็นต์หรือสูงกว่า ยิ่งไปกว่านั้นในชีวิตที่ผ่านมาของเขามันมีมหาอำนาจเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่สามารถฟื้นคืนชีวิตให้กับกิ่งที่มีอัตราการเหี่ยวเก้าสิบสี่เปอเซ็นต์ได้ แถมกิ่งนั้นยังเป็นเพียงกิ่งด้านข้างเท่านั้นด้วย
แน่นอนว่ามันไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างการฟื้นคืนชีวิตให้กับกิ่งหลัก และกิ่งด้านข้าง เพราะทั้งสองอย่างนั้นต้องการวัสดุที่มีความบริสุทธิ์ของมานาสูงแบบคงที่เหมือนกันเพื่อใช้ฟื้นคืยพลังชีวิตของกิ่ง และทำให้มันสามารถเติบโตตามธรรมชามติได้
แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะทำให้กิ่งที่มีอัตราการเหี่ยวเก้าสิบสี่เปอเซ็นต์กลับมามีชีวิตได้ ต่อให้กิ่งนั้นอยู่ในระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานก็ตาม
การจะฟื้นคืนพลังชีวิตให้กับกิ่งหลักของต้นไม้แห่งชีวิตนั้นจะต้องใช้วัสดุระดับตำนานที่มีความหนาแน่นของมานาและพลังชีวิตสูงมาก ซึ่งวัสดุระดับนี้นั้นมันหายากมากอย่างน่าเจ็บปวด และส่วนใหญ่ผู้เล่นจะต้องพึ่งโชคเท่านั้นจึงจะได้รับมันมาสักชิ้น
หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ซือเฟิงก็คิดว่ามันสมเหตุสมผล เพราะท้ายที่สุดหากพูดถึงต้นไม้แห่งชีวิตระดับดีไวน์อาติแฟคแล้ว วัสดุระดับตำนานก็จัดว่าไม่มีอะไรเลย
ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเตรียมตัวเดินทางไปยังทวีปหลักด้านตะวันตกแบบเป็นกิจจะลักษณะสักที ซือเฟิงตัดสินใจภายในใจ
เท่าที่เขารู้มันมีเพียงแค่วัสดุระดับตำนานสองอย่างเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์ที่จะสามารถช่วยเขาฟื้ยคืนพลังชีวิตของกิ่งหลักในมือเขาได้
อย่างแรกเลยคือ แกนโลก ซึ่งเป็นไอเทมที่จะปรากฎเมื่อโลกถูกทำลายเท่านั้น และในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันก็มีแกนโลกแค่สามชิ้นที่ปรากฎขึ้นมา โดยมันมีมหาอำนาจมากกว่าสิบกลุ่มที่ต่อสู้แย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง
แกนโลกนั้นเป็นวัสดุที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ผลิตไอเทมระดับตำนานได้ และในตอนนั้นผู้เล่นคิดว่าแกนโลกนี้เป็นไอเทมระดับดีไวน์อาติแฟคด้วยซ้ำ
ขณะที่อย่างที่สองที่ซือเฟิงรู้ คือ ดาวแห่งแสง
ดาวแห่งแสงนั้นเป็นวัสดุที่หายากมากๆ ซึ่งมันสามารถพบได้ในดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ที่ตกลงมายังทวีปด้านตะวันตกเท่านั้น และในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง ผู้เล่นก็พบมันแค่หกชิ้นเท่านั้น และแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้หายากเท่ากับแกนโลก แต่พวกมันก็มีค่ามากกว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานด้วยซ้ำ
ผู้เล่นนั้นสามารถจะใช้ดาวแห่งแสง เป็นแกนหลักของวงเวทย์ของเมืองได้ และสิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มการป้องกันและความหนาแน่นของมานาภายในเมืองขึ้นอย่างมาก แต่วงเวทย์ที่มีดาวแห่งแสงเป็นแกนหลักนี้ยังจะสามารถดูดซับแสงดาวในเวลากลางคืน เข้ามาเติมเป็นมานาสำรองโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งมันก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายคริสตัลเวทย์มนต์ของเมืองลงอย่างมาก ดังนั้นมันจึงเป็นไอเทมที่เหมาะกับเมืองกิลเลย
หลังจากตรวจสอบกิ่งหลักนี้เรียบร้อยแล้ว ซือเฟิงก็แยกทางกับสมาชิกของฮีฟเว่นเบลดที่ซากปรักหักพังโมลเทน และเดินทางกลับพร้อมกับทีมของเขา ตอนนี้เขาไม่อยากจะเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
ซากปรักหักพังโมลเทนนั้นอาจมีสมบัติมากมาย รวมไปถึงไข่ของอะเม้าท์บินได้ แต่มันก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถเทียบได้กับต้นไม้แห่งชีวิตเลย นอกจากนี้สภาสิบแปดปีกยังมีแบบแปลนเรือเหาะมังกรสีเลือดแล้ว ดังนั้นตราบใดที่กิลมีวัสดุเพียงพอ กิลก็จะสามารถผลิตเรือเหาะจำนวนมากได้ ซึ่งนี่จะดูเป็นวิธีการที่ดีกว่าการได้รับอะเม้าท์บินได้จำนวนมาก
ที่สำคัญที่สุดคือถ้าเขาสามารถฟื้นคืนพลังชีวิตให้กับกิ่งหลักนี้ได้ และสามารถปลูกต้นไม้แห่งชีวิตขึ้นมาได้ เขาก็จะได้รับแหล่งผลไม้แห่งชีวิต น้ำแห่งชีวิต และนิวเคลียสแห่งชีวิตที่แน่นอนมา ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เขาสามารถเพิ่มศักยภาพของกองกำลังองครักษ์ส่วนตัวของกิลได้ แต่เขายังจะสามารถใช้มันเพิ่มศักยภาพของอะเม้าท์บินได้ ได้ด้วยเช่นกัน
ใน God domain อะเม้าท์บินได้นั้นมีระดับที่แตกต่างกันออกไป และมันจะสามารถช่วยผู้เล่นได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับระดับของมัน
แถมเมื่อซือเฟิงมีแหล่งของนิวเคลียสแห่งชีวิตที่แน่นอน เขาก็ยังจะสามารถใช้มันเพื่อผลิตอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคจำนวนมากได้ด้วย
ระหว่างที่ซือเฟิงกำลังจะกลับไปที่เมืองไวท์ริเวอร์พร้อมกับทีมของเขา มันก็มีคนโทรเข้ามาหาเขา ซึ่งผู้โทรนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟีนิกซ์เรนที่ซือเฟิงไม่สามารถจะติดต่อได้ในขณะที่เขาอยู่ในซากปรักหักพัง
“ปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ซากปรักหักพังงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถาม
ในตอนแรกเขาวางแผนที่จะไปพบกับไฟเออร์แดนซ์และทีมของฟีนิกซ์เรนเพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกของวอร์บลัดและสตาร์ลิ้งซุ่มโจมตีพวกเขาได้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชัยชนะที่เขามีต่อทีมของอีวิลฉีหลินนั้นมันจึงทำให้เขามั่นใจว่าศัตรูจะไม่กล้าก่อปัญหามากขึ้นให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปพบกับคนเหล่านี้ และปล่อยให้พวกเขาสำรวจซากปรักหักพังต่อไป
เขานั้นมีเรื่องกังวลเรื่องอื่นในตอนนี้ และทีมของฟีนิกซ์กับไฟเออร์แดนซ์นั้นก็น่าจะสามารถรับมือทุกอย่างที่ผ่านมาในซากปรักหักพังโมลเทนได้
“ไม่มีอะไรผิดปกติที่ซากปรักหักพังโมลเทน อันที่จริงต้องบอกเลยว่าสมาชิกของวอร์บลัดกับสตาร์ลิ้งนั้นไม่กล้าจะเข้ามายุ่งกับเราด้วยซ้ำ …” ฟีนิกซ์เรนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “และเราก็โชคดีมากๆ จนถึงตอนนี้เราพบไข่อินทรีเขาสองฟองแล้ว …”
“คุณเจอมากขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้
แม้ว่าซากปรักหักพังโมลเทนจะจัดว่าเป็นขุมทรัพย์ แต่การจะได้รับอะเม้าท์บินได้จำนวนมากจากมันนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เขาคิดว่าอย่างมากไข่อินทรีเขาก็จะมีอยู่ที่ซากปรักหักพังนี้แค่ราวยี่สิบฟองเท่านั้น ไม่งั้นอะเม้าท์บินได้คงจะมีวางขายทั่วไปแล้วในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันจะไม่ได้เป็นของหรูหราแน่นอน และด้วยไข่ที่มีอยู่แค่นี้ ดังนั้นก็ต้องบอกเลยว่ามันจะโชคดีมากแล้ว หากทีมของฟีนิกซ์เรนกับไฟเออร์แดนซ์ไปพบเข้าสักฟอง
อย่างไรก็ตามตอนนี้ หลังจากใช้เวลาอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงในซากปรักหักพังโมลเทน พวกเขากับค้นพบไข่อินทรีเขาถึงสองฟองแล้ว แม้ว่าโชคจะเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ แต่การเก็บเกี่ยวของพวกเขาก็ยังน่าประหลาดใจมากอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้การนำของฟีนิกซ์เรน พวกเขายังสำรวจกันแค่พื้นที่ชั้นนอกเท่านั้นด้วย ยังไม่ได้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในเลย
“เราโชคดีที่บังเอิญเจอห้องที่ซ่อนอยู่น่ะ …” ฟีนิกซ์เรนกล่าวพลางพยักหน้า จากนั้นเธอก็พูดติดตลกว่า “อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้โทรมาหาคุณเพื่อจะคุยโม้ ฉันพึ่งได้รับข้อความจากสำนักงานใหญ่หลักของฉันมาว่าตัวแทนของไมโทโลจี้ได้เข้ามาที่สถานที่พักกิลของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน และสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน ได้เรียกปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนสองคนกลับไป ซึ่งฉันไม่คิดว่าไมโทโลจี้จะมาดี ดังนั้นฉันจึงอยากเชิญท่านลอร์ดสัตว์ประหลาดไปกับฉันหน่อยในเรื่องนี้ เพราะเมื่อมีคุณอยู่เคียงข้าง ฉันน่าจะรับมือกับปัญหาได้มากขึ้น”
“ไมโทโลจี้ ?” ซือเฟิงขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินชื่อนี้ เขาไม่คิดเลยว่าฟางฉีหานจะลงมืออย่างรวดเร็วขนาดนี้ และล๊อคเป้าไปที่ฟีนิกซ์เรน “เอาล่ะ ฉันจะรีบตามคุณไปทันที !!!”
เขาไม่แน่ใจว่าไมโทโลจี้นั้นจะพยายามทำร้ายสภาสิบแปดปีกด้วยการกดดันดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่รังเกียจที่จะใช้โอกาสนี้อวดความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีก
หลังจากวางสายไป ซือเฟิงก็ได้ติดต่อเมลานโครอิคสไมล์
“เมลานโครอิค การผลิตเรือเหาะมังกรสีเลือดไปถึงไหนแล้ว ?”