ไมโทโลจี้
สันเขาดอร์น เมืองทไวไลท์ :
สันเขาดอร์นตั้งอยู่ใกล้กับแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยที่ใกล้กับจักรวรรดิอะโพคาลิปมากที่สุด และมันก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของผู้เล่นชั้นแนวหน้าของจักรวรรดิมานานแล้ว มหาอำนาจต่างๆหลายกลุ่มเองก็จัดตั้งเมืองกิลขึ้นในพื้นที่จำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามจากบรรดาเมืองทั้งหมดนั้น เมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเมืองทไวไลท์ ซึ่งเมืองทไวไลท์นั้นมีประชากรผู้เล่นมากกว่าสามล้านคน และมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองของ NPC เลย
สันเขาดอร์นนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ระหว่างภูเขาและทะเล เมืองทไวไลท์ได้รับการจัดตั้งขึ้นบนเนินเขาใกล้ชายฝั่ง ซึ่งผู้เล่นไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าถึงทะเลจากเมืองได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขายังจะสามารถเข้าถึงแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยได้อย่างรวดเร็วด้วย ดังนั้นสถานที่แห่งนี้นั้นจึงสามารถอำนวยความสะดวกให้สำหรับผู้เล่นที่ต้องการเดินทางเข้า หรืออกมาผ่านทะเลได้ด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองได้รับความนิยมอย่างมาก
นอกเหนือจากทำเลที่ตั้งที่สะดวกสบายของเมืองแล้ว เมืองทไวไลท์ยังได้รับความนิยมอย่างมาก อันเนื่องมาจากมันเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หลักของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน มันจึงเป็นเมืองกิลที่ได้รับการพัฒนาอย่างมากที่สุดในหมู่เมืองกิลของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน และมันก็ปลอดภัยกว่าเมืองอื่นๆในสันเขาดอร์นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันตอนนี้ มันก็มีแสงหลายแสงกระพริบขึ้นที่กิลฮอลของสถานที่พักกิลของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน และเมื่อฟีนิกซ์เรนกับทีมของเธอได้กลับมาถึงที่สถานที่พักกิล เหล่าสมาชิกกิลหลายคนก็ล้วนมองไปยังเธออย่างเคารพ โดยเฉพาะกับเหล่าบรรดาชายหนุ่มและหญิงสาวที่พึ่งจะเข้าร่วมกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน เมื่อพวกเขาเห็นร่างในเสื้อคลุมสีแดงสดของฟีนิกซ์เรน พวกเขาก็เต็มไปด้วยความหลงใหลมากๆ
“ปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นช่างยอดเยี่ยมมากๆ !!! ไม่เพียงแต่เธอจะมีเสน่ห์มากเท่านั้น แต่เธอยังทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามที่มีความยากสูงมากสำเร็จได้ในครั้งเดียว และเธอก็มาถึงเลเวลหนึ่งร้อยสามแล้วด้วย ฉันหวังว่าฉันจะได้เข้าเป็นทีมองครักษ์ส่วนตัวของเธอบ้าง และได้เล่น God domain กับเธอทุกวัน” Elementalist หญิง เลเวลหนึ่งร้อยกล่าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและตื่นเต้น
“หยุดฝันไปได้เลย เธอพึ่งจะเข้าร่วมกิล แต่เธอต้องการเป็นทีมองครักษ์ส่วนตัวของปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนแล้วงั้นหรอ ? มันมีเพียงผู้มาใหม่ที่ระดับชั้นยอดเท่านั้นจึงจะได้รับตำแหน่งดังกล่าว คุณน่าจะได้เห็นผู้เล่นระดับสัตว์ประหลาดเหล่านั้น เพราะแม้ว่าค่าสถานะของพวกเขาจะถูกทำให้เท่าเทียมกับเรา พวกเขาก็จะสามารถฆ่าเราหลายโหลได้ด้วยตัวคนเดียวเลย” เบอเซิกเกอร์ชาย หัวหน้าทีมของ Elementalist กลอกตาของเขาพลางอธิบาย
กาลครั้งหนึ่ง เขาเองก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้รับตำแหน่งสูงๆในกิล แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาพึ่งจะเข้าร่วมการฝึกของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนได้ไม่นาน และพึ่งจะเริ่มรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริง เขาจึงอยู่ในสถานะสิ้นหวังมากๆ ความแตกต่างระหว่างเขากับเหล่าอัจฉริยะของกิลนั้นมันมากกว่าแค่เรื่องค่าสถานะ
ในกิลทั่วไปนั้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นเสาหลักของกิลเลย แต่ในดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน นั้นเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำในการเข้าเป็นสมาชิกแกนหลัก และผู้เล่นจะกลายเป็นเสาหลักของกิลได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาเข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้แล้ว
โดยปกติแล้ว มันจะมีผู้เล่นเพียงแค่สิบอันดับแรกเท่านั้นจากผู้เล่นหลายพันคนที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนคัดเลือกมาในแต่ละปีที่จะสามารถเข้าถึงขอบเขตอนันต์ได้
ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นเป็นกิลชั้นยอดที่มีประสบการณ์สูง และต้องการสมาชิกภายในจำนวนมาก ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงในหมู่สาธารณชนจึงนับว่าไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน
ในขณะที่สมาชิกกิลกำลังพูดคุยกันเบาๆ ความวุ่ยวายอีกครั้งก็ปะทุขึ้นในกิลฮอล มันมีผู้เล่นหลายสิบคนเดินลงมาจากบันไดชั้นสอง ซึ่งมันก็นำมาโดยหญิงสาวสวย โดยมีจักรพรรดิเก้ามังกรเดินตามมาข้างๆ
หญิงแปลกหน้าผู้นี้สวมชุดเกราะหนังสีน้ำเงิน และสะพายดาบสั้นสีแดงเข้มที่ห้อยไว้ระหว่างเอวของเธอ โดยฝักดาบของเธอนั้นถูกตกแต่งไปด้วยอักษรรูนโบราณมากมายที่ดึงดูดมานาโดยรอบเข้ามา
ตอนนี้มันราวกับว่ามานาในกิลฮอลชั้นหนึ่งนั้นพบกับเจ้านายของมันแล้ว และมันก็ไปตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้หญิงคนนี้ทันที เมื่อเธอปรากฎตัว
มรดกสายเลือดพิเศษ ? ความประหลาดใจปรากฎขึ้นในดวงตาของฟีนิกซ์เรน ขณะที่เธอมองไปยังหญิงแปลกหน้า
ในฐานะ Elementalist การรับรู้มานาของฟีนิกซ์เรนนั้นค่อนข้างจะดีกว่าอาชีพอื่นๆอย่างมาก และเธอก็ยังได้รับความเข้าใหม่เกี่ยวกับมานาทั้งหมด หลังจากที่เธอได้มาถึงขั้นสามแล้ว
เธอนั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าแอสซาซินขั้นสามคนนี้นั้นมีความสัมพันธ์กับมานาแข็งแกร่งพอๆกับเธอเลย และมันดูราวกับว่าแอสซาซินผู้นี้ได้รับความโปรดปรานจากมานามากเช่นกัน
ขณะเดียวกันผู้เล่นที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้หญิงคนนี้ที่ติดตามเธอมานั้นก็มีออร่าที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่มันไม่รุนแรงมากเท่าเธอก็เท่านั้น ….
“เรน ให้ฉันแนะนำเธอก่อน นี่คือรองหัวหน้ากิลของไมโทโลจี้ โคลท์ชาโด้ว” จักรพรรดิเก้ามังกรแนะนำด้วยสีหน้ายินดีอย่างมาก เมื่อเห็นฟีนิกซ์เรนและทีมของเธอมาถึงแล้ว
เขานั้นรู้สึกตกใจมากเลยทีเดียว ตอนที่ได้ยินข่าวครั้งแรกว่าพวกระดับสูงของไมโทโลจี้จะเข้ามาที่สำนักงานใหญ่หลักของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน และเขาก็คาดเดาว่าดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนอาจจะกำลังประสบกับปัญหาใหญ่
ไมโทโลจี้นั้นเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในโลกเกมเสมือนจริง ซึ่งพวกเขานั้นก็สามารถรักษาตำแหน่งนี้ของตัวเองมาได้นานหลายปีแล้ว และมันก็ไม่มีกิลใดเลยที่จะสามารถคุกคามตำแหน่งของพวกเขาได้ มันมีข่าวลือด้วยว่า ซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเกมเสมือนจริงห้าอันดับแรกนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับซุเปอร์กิลอื่นๆเลย
“สวัสดี ฉันคือปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน ฟีนิกซ์เรน …” ฟีนิกซ์เรนแนะนำตัวเอง
“ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณมามากมาย ปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน” โคลท์ชาโด้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ความสามารถและความพยายามของคุณในท้องทะเล เป็นเหตุผลหลักๆเลยที่ทำให้กองทัพเรือของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน พัฒนามาได้จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้คุณยังสนับสนุนสภาสิบแปดปีกอยู่อย่างลับๆเพื่อแลกกับหุ้นจำนวนมากของบริษัทการค้าแสงเทียน และในตอนนี้บริษัทการค้าแสงเทียนนั้นก็มีอิทธิพลอยู่ในประเทศต่างๆมากมาย แถมยังสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลด้วยในแต่ละวัน ซึ่งมันมีคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นใน God domain ที่จะสามารถอ่านทุกอย่างขาด และลงทุนได้แบบคุณนะ ปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน”
“คำชื่นชมของคุณนั้นช่างใจกว้างมากจริงๆ” ฟีนิกซ์เรนกล่าวตอบอย่างใจเย็น “ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนกันแน่ รองหัวหน้ากิลชาโด้ว ?”
ฟีนิกซ์เรนนั้นสงสัยในการมาเยือนของไมโทโลจี้อย่างมาก และเธอก็ไม่รู้เลยจริงๆว่าซุเปอร์กิลมีจุดประสงค์ใด เพราะไมโทโลจี้นั้นมุ่งเน้นการพัฒนาของตัวเองอยู่ในทวีปด้านตะวันตก แต่พวกเขากับเลือกจะเข้ามาติดต่อกับดราก้อนฟีนิกซืพาวิลเลี่ยน ซึ่งยังถูกจำกัดให้อยู่แต่ในทวีปด้านตะวันออก สิ่งนี้นั้นมันเหมือนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่างประเทศกำลังมองมาหาบริษัทขนาดเล็ก และฟีนิกซ์เรนก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาต้องการอะไร
อย่างไรก็ตามฟังจากน้ำเสียงของสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยที่สั่งให้เธอกลับมาที่นี่แล้ว มันดูเหมือนว่าไมโทโลจี้นั้นต้องการจะมาหาเธอ ซึ่งสถานการณ์นี้นั้นมันแปลกมากๆ และเมื่อเห็นท่าทางของจักรพรรดิเก้ามังกร ฟีนิกซ์เรนก็ยิ่งแน่ใจเลยว่าไมโทโลจี้ไม่ได้มาดีแน่นอน
“โอ้ จริงๆมันก็ไม่มีอะไรสำคัญมากหรอก …” โคลท์ชาโด้วพูดพลางหัวเราะเบาๆ “ไมโทโลจี้นั้นเพียงต้องการจะขยายขอบเขตการเข้าถึงในทวีปด้านตะวันออก และต้องการจะเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ก่อน และบริษัทการค้าแสงเทียนของสภาสิบแปดปีกก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่มีศักยภาพที่เราสนใจมาก แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าสภาสิบแปดปีกนั้นแทบไม่เคยขายหุ้นเลย ดังนั้นเราจึงต้องการจะซื้อหุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนจากคุณ ซึ่งเรายินดีจะเสนอราคาให้มากกว่าเดิมตามราคาตลาดตอนนี้สองเท่า และนอกเหนือจากนั้นเราก็จะทำการขายวัสดุและสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะทวีปด้านตะวันตกให้กับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเป็นจำนวนมหาศาลด้วย ซึ่งเราเชื่อว่าการทำธุรกรรมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง”
“โดยฉันได้พูดคุยกับสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าหุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนนั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของคุณ และฉันก็จะต้องมาพูดคุยเรื่องนี้กับคุณเท่านั้น และตราบใดที่คุณเต็มใจจะขายหุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนให้เรา เขาก็ยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับไมโทโลจี้ ดังน้นฉันจึงได้มาเจรจากับคุณ”
“เรน นี่เป็นครั้งแรกที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนจะได้ร่วมมือกับไมโทโลจี้ เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดของกิลต่างก็เฝ้ารอสิ่งนี้อยู่ คุณไม่ควรปล่อยให้โอกาสนี้หลุดรอยไป และทำให้เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดกับสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนผิดหวังนะ” จักรพรรดิเก้ามังกรแนะนำอย่างจริงจังด้วยรอยยิ้ม
ขณะเดียวกัน บลูฟีนิกซ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างของฟีนิกซ์เรนนั้นมองไปยังจักรพรรดิเก้ามังกรอย่างเย็นชา และตอนนี้เธอก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการจะได้ตรงไปบีบคอชายคนนี้
ไม่ว่าฟีนิกซ์เรนจะขายหุ้นของเธอหรือไม่ มันก็นับเป็นปัญหาของเธอ แต่สภาสิบแปดปีกก็มีเหตุผลที่พวกเขาแทบไม่เคยขายหุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนให้ใครเลย ซึ่งหากฟีนิกซ์เรนทำการตัดสินใจขายหุ้นแบบนี้นั้น มันจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับสภาสิบแปดปีกแน่นอน
ในขณะเดียวกันตอนนี้จักรพรรดิเก้ามังกรก็กำลังพยายามบังคับให้ฟีนิกซ์เรนกระทำเรื่องนี้โดยอาศัยเรื่อง “ผลประโยชน์ของกิล” มาอ้าง ซึ่งไม่ว่าฟีนิกซ์เรนจะตัดสินใจอย่างไร มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ