ความปั่นป่วนที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน
จักรพรรดิเก้ามังกรนั้นไม่ได้คิดจะพูดพวกนี้ออกมาเบาๆเลย และมันต้องบอกว่าเขาจงใจทำให้สมาชิกทั้งหมดของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนในกิลฮอลชั้นหนึ่งนั้นได้ยินทั้งหมด และคำพูดของเขาก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนภายในกิลฮอลทันที
“อะไรกัน ? นี่ไมโทโลจี้ต้องการจะทำงานร่วมกับกิลเรางั้นหรอ ?”
“ไมโทโลจี้นั้นเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งมากที่สุดในเกม ซึ่งหากเราสามารถร่วมมือ และเป็นพันธมิตรกับกิลๆนี้ได้ กิลของเราก็จะได้รับความแข็งแกร่งและอิทธิพลที่มากกว่าเดิมแน่นอน และแม้แต่ซุเปอร์กิลบางส่วนก็ยังจะต้องปฎิบัติต่อพวกเราอย่างเคารพ”
“นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ตอนนี้มันเริ่มมีมหาอำนาจจากโลกอื่นมากมายเข้ามาที่จักรวรรดิอะโพคาลิป และพวกเขาก็เริ่มการแข่งขันกับเราเพื่อแย่งชิงทรัพยากรแล้ว หากข่าวการเป็นพันธมิตรของเรากับไมโทโลจี้แพร่กระจายออกไป มหาอำนาจเหล่านั้นจะไม่กล้าแตะต้องเราแน่นอน หรืออย่างน้อย พวกเขาก็จะไม่กล้าโจมตีเราในแผนที่เป็น
กลางอย่างเปิดเผย …”
ไมโทโลจี้นั้นนับเป็นซุเปอร์กิลที่มีชื่อเสียงอย่างมากสำหรับสาธารณชนส่วนใหญ่ แต่สมาชิกของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน โดยเฉพาะกับสมาชิกภายในนั้นรู้ดีว่าไมโทโลจี้มีอะไรมากกว่านั้นอีกมาก
ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเกมเสมือนจริงนั้นได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่มี
การกำเนิดขึ้นของเกมเสมือนจริง และทุกกิลก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่าหนึ่งศตวรรษ และยังเคยเข้าแข่งขันเกมเสมือนจริงระดับนานาชาติมามากมาย
โดยทั่วไปแล้วผู้เล่นจะต้องแสดงผลงานที่โดดเด่นมากๆในการแข่งขันเหล่านี้เพื่อที่จะมีสิทได้เข้าเป็นสมาชิกภายในของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้เชี่ยวชาญทั่วไปนั้นไม่มีความหวังจะได้รับคัดเลือกเลย
แม้ว่าซุเปอร์กิลทั้งห้าจะผ่อนปรนข้อกำหนดของพวกเขาในการรับสมัครลงอย่างมาก นับตั้งแต่การเปิดตัวของ God domain แต่อย่างน้อยผู้ที่จะเข้ากิลของพวกเขาได้ก็จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่ง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการเลยว่ารากฐานของซุเปอร์กิลเหล่านี้นั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน
ความจริงที่ว่าไมโทโลจี้นั้นสนใจจะเป็นพันธมิตรกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นมันไม่น่าเชื่อเลย
ตอนนี้สมาชิกทุกคนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนในกิลฮอลล้วนหันไปมองฟีนิกซ์เรน
จักรพรรดิเก้ามังกรได้กล่าวอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาจะสามารถทำงานร่วมกับไมโทโลจี้ได้ไหมนั้น มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฟีนิกซ์เรนเลย และโดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาก็หวังให้เธอตอบตกลงอย่างแน่นอน
“พี่สาวเรน จักรพรรดิเก้ามังกรทำแบบนี้เพื่อต้องการจะกดดันเรา !!!” บลูฟีนิกซ์กล่าวออกมาเบาๆพลางกัดฟันของเธอ เมื่อเห็นท่าทีของทุกคนในกิลฮอลตอนนี้ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
แม้ว่าสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน และเหล่าผู้อาวุโสสูงสุด จะรับผิดชอบในการเลือกสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนคนต่อไป แต่สมาชิกของกิลทั้งหมดก็ยังมีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะเมื่อมีการแต่งตั้งสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยคนใหม่ หรือผู้สืบทอดแล้วนั้น มันก็เป็นสิทของพวกเขาว่าพวกเขาจะยอมรับไหม และหากสมา
ชิกกิลส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ คนผู้ที่ได้รับเลือกก็จะไม่มีทางที่จะกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนหรือผู้สืบทอดได้เลย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากขนาดนี้”
สำหรับเหล่าสมาชิกของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการได้เป็นพันธมิตรกับไมโทโลจี้มีความสำคัญมากกว่าหุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนมาก มันมีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฎิเสธโอกาสนี้ ประโยชน์ที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนจะได้รับจากการเป็นพันธมิตรกับไมโทโลจี้นั้นมันมีมากมายเกินจะวัดได้ และเพียงแค่การได้เป็นพันธมิตรกับไมโทโลจี้นั้น มันก็เพียงพอที่จะทำให้มหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดิอะโพคาลิปหลีกเลี่ยงการยั่วยุดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนแล้ว
อีกทั้งไมโทโลจี้ยังสามารถจะจัดหาวัสดุและไอเทมล้ำค่ามากมายจากทวีปด้านตะวันตกมาให้กับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนได้ ซึ่งการเป็นพันธมิตรกับไมโทโลจี้จะทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากกว่ากับบริษัทการค้าแสงเทียนอย่างมาก
หากฟีนิกซ์เรนตัดสินใจไม่ขายหุ้น เธอจะต้องเผชิญหน้ากับความไม่พอใจของสมาชิกทุกคนในกิลแน่นอน
บลูฟีนิกซ์นั้นแน่ใจเลยว่าจักรพรรดิเก้ามังกรจงใจเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป เพราะเขารู้นิสัยของฟีนิกซ์เรนดี เธอนั้นให้ความสำคัญกับสัญญา และคำพูด รวมถึงความช่วยเหลือที่ตัวเองเคยได้รับมาอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าเธอจะไม่ยอมขายหุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนแน่นอน เขาจึงได้เลือกจะนำโคลท์ชาโด้วมายังกิลฮอลชั้นหนึ่ง ในตอนที่ฟีนิกซ์เรนและทีมของเธอกลับมาเพื่อให้หญิงสาวทั้งสองได้พบกัน และหากใครทั้งสองกล่าวหาเขา เขาก็สามารถจะอ้างว่าจะพาโคลท์ชาโด้วไปห้องประชุมได้
“หากคุณคิดว่าข้อเสนอของไมโทโลจี้นั้นยังไม่เพียงพอ ปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน คุณสามารถระบุความต้องการของคุณมาได้เลย ตราบเท่าที่มันอยู่ในอำนาจของฉัน ฉันจะรับมาพิจารณาเป็นพิเศษเลย” โคลท์ชาโด้วกล่าวเสริมหลังจากที่ฟีนิกซ์เรนนั้นไม่ได้พูดอะไรมาเป็นเวลานาน ก่อนที่เธอจะยิ้มและกล่าวต่อว่า “อีกทั้งฉันยังเต็มใจจะขายหินรูนการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทวีปด้านตะวันตกให้กับคุณด้วย”
เมื่อโคลท์ชาโด้วกล่าวจบ ชายร่างสูงที่แข็งแกร่งมากด้านหลังของเธอก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า และอักษรรูนสีเงินที่เปล่งประกายบนอุปกรณ์ของเขานั้นก็ทำให้มานาโดยรอบถูกดึงดูดเข้ามาหาเขาทันที และเพิ่มความรุนแรงของออร่าของเขาไปสู่ระดับใหม่ทั้งหมด และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองก็ยังต้องถอยออกห่างจากชายคนนี้ รวมทั้งจ้องมองไปที่เขาอย่างหวาดกลัว
ทำไมจู่ๆเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้กัน ? แม้แต่บลูฟีนิกซ์ซึ่งตอนนี้เป็นผู้เล่นขั้นสามก็ยังตกใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้
แม้ว่าเธอจะรู้สึกได้ว่าชายคนนี้อันตรายมากๆ แต่เธอก็มั่นใจมากว่าตอนแรกเธอสามารถจะยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ เธอกับรู้สึกไร้พลังมากต่อหน้าเขา แถมตอนนี้เธอก็สามารถบอกได้เลยว่าความแตกต่างของความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้เกิดจากค่าสถานะเพียงอย่างเดียว มันมาจากความสามารถทางจิตที่แตกต่างด้วย
นี่คือหินรูนการต่อสู้ตามข่าวลือของทวีปด้านตะวันตกสินะ ?
สถานการณ์นี้นั้นทำให้จักรพรรดิเก้ามังกรประหลาดใจมากเช่นกัน แม้ว่าดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนจะไม่มีอำนาจอยู่ในทวีปด้านตะวันตก แต่พวกเขาก็ได้ทำการตรวจสอบมันอยู่เรื่อยๆ แถมพวกเขายังส่งสมาชิกภายในจำนวนหนึ่งไปที่ทวีปด้านตะวันตกด้วย ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะใช้ความพยายามอย่างมาก แต่พวกเขาก็แทบไม่ได้รับอะไรเลย
ตามข้อมูลที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนรู้มา หินรูนการต่อสู้นั้นเป็นหินพิเศษที่คล้ายกับพวกหินเวทย์มนต์ที่พบในทวีปด้านตะวันออก อย่างไรก็ตามหินรูนการต่อสู้นั้นจะช่วยทำให้การควบคุมมานาของผู้เล่นดีขึ้นมาก
ในความเห็นแรกของเขานั้น จักรพรรดิเก้ามังกรคิดว่าหินรูนการต่อสู้นี้ไม่ได้น่าประทับใจอะไรมากนัก เพราะค่าสถานะและมาตราฐานการต่อสู้นั้นมีความสำคัญมากกว่าการควบคุมมานา และความสามารถทางจิต
อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ตระหนักว่าตัวเองเข้าใจผิดไปมากหลังจากมาถึงขั้นสามแล้ว
ทั้งการควบคุมมานาและความสามารถทางจิตนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพลังการต่อสู้ เนื่องจากมันจะขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่นในการจัดการร่างมานาของตน และยิ่งคนๆหนึ่งควบคุมร่างมานาขั้นสามของตัวเองได้มากเท่าไหร่ พลังการต่อสู้โดยรวมของคนๆนั้นก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
แถมตอนนี้เขาก็เคยเห็นพลังของหินรูนการต่อสู้มาบ้างแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน
หากเขาสามารถรวบรวมหินรูนการต่อสู้จำนวนมากมาใส่ให้กับอาวุธและอุปกรณ์ของเขากับลูกน้องเขาได้ มันจะไม่มีผู้ใดบนเกาะดราก้อนฮาร์ท หรือในจักรวรรดิมังกรดำจะสามารถคุกคามตำแหน่งของเขาได้เลย
“หินรูนการต่อสู้ที่เราค้นคว้าและสร้างมันขึ้นมาได้นั้นค่อนข้างน่าประทับใจด้วย และคนๆนี้นั้นก็สวมใส่หินรูนการต่อสู้ขั้นสอง ระดับสูงอยู่ ซึ่งแม้ว่ามันจะยังคงอยู่ในขั้นสอง ระดับสูง และยังไม่สามารถเทียบกับหินรูนการต่อสู้ขั้นสามที่เรากำลังพยายามค้นคว้าและสร้างอยู่ได้ แต่มันก็จะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของผู้เล่นขั้นสองขึ้นได้สองเท่า นอกจากนี้มันยังจะสามารถช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญขั้นสามได้อย่างมากอีกด้วย” โคลท์ชาโด้วอธิบายด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้เห็นท่าทีของทุกคน
นี่ไม่ใช่สิ่งดีที่สุดที่พวกเขามีงั้นหรอ ? จักรพรรดิเก้ามังกรอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับเรื่องนี้
การเปิดเผยนี้มันน่ากลัวมากๆ !!!
แม้ว่าชายผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่ข้างๆโคลท์ชาโด้วจะมาถึงขอบเขตโดเมนแล้ว แต่จักรพรรดิเก้ามังกรก็สัมผัสได้ว่าเขาแข็งแกร่งพอๆกับมาร์เชี่ยลดราก้อนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดใช้งานหินรูนการต่อสู้นี้ แม้แต่มาร์เชี่ยลดราก้อนก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่นอน
แต่ถึงกระนั้นตอนนี้โคลท์ชาโด้วกับบอกพวกเขาว่าหินรูนการต่อสู้ที่ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้สวมใส่อยู่นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดที่ไมโทโลจี้มี ซึ่งนี่มันทำให้จักรพรรดิเก้ามังกรนึกไม่ออกเลยหากชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ได้สวมใส่หินรูนการต่อสู้ขั้นสามนั้น ชายคนนี้จะแข็งแกร่งมากขนาดไหน
ในขณะนี้จักรพรรดิเก้ามังกรนั้นก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าทำไมไมโทโลจี้ถึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดมานานมาก และแม้ว่าใน God domain ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนจะมีความแตกต่างเพียงแค่ระดับเดียวกับไมโทโลจี้ แต่มันก็เหมือนความความแตกต่างระหว่างมดกับมังกรเลย
ซึ่งเรื่องนี้นั้นมันก็ทำให้เหล่าสมาชิกของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยตกอยู่ในความปั่นป่วนอีกครั้ง
“มันน่าอัศจรรย์มาก !!! นี่ถ้าฉันสามารถสวมใส่หินรูนการต่อสู้ได้ ฉันน่าจะสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสองได้ทันที !!!”
“ด้วยหินรูนการต่อสู้นั้น ฉันจะสามารถทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามที่มีความยากสูงกว่าเดิมได้ด้วย !!!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่ง และผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำหลายคนล้วนมีดวงตาที่เปล่งประกายเมื่อนึกถึงหินรูนการต่อสู้ และพวกเขาทั้งหมดก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อให้ให้ฟีนิกซ์เรนยอมรับข้อเสนอของโคลท์ชาโด้ว
ซึ่งเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เป็นดังนี้นั้น การแสดงออกของฟีนิกซ์เรนก็มืดมนลง เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าไมโทโลจี้จะอยากได้หุ้นของบริษัทการค้าแสงเทียนมากจนยอมขายหินรูนการต่อสู้ที่เป็นสมบัติของกิล
หากเธอปฎิเสธข้อเสนอของไมโทโลจี้ตอนนี้ เธอจะกลายเป็นศัตรูต่อกิลตัวเองทั้งหมดแน่นอน
อย่างไรก็ตามในขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปากพูดขึ้น ความสับสนวุ่นวายก็เกิดขึ้นที่ด้านนอกกิลฮอล และเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วินาที ผู้เล่นข้างนอกก็เริ่มส่งเสียงดังกันมากขึ้น และด้วยความอยากรู้อยากเห็นมันจึงมีสมาชิกของกิลจำนวนมากวิ่งออกไปดู
“ทุกคนเป็นอะไรกัน ? ข้างนอกมันเกิดอะไรขึ้น ?” บลูฟีนิกซ์ถามหาคำตอบจาก
เพื่อนร่วมกิลที่อยู่ใกล้ๆเธอ
“เรือเหาะ !! มันมีเรือเหาะสามลำมาบินมาอยู่เหนือสถานที่พักกิลของเราแล้ว !!!” แรนเจอร์ขั้นสองที่อยู่ใกล้กับทางเข้าตะโกนตอบกลับ