เมืองที่น่ากลัว
“หัวหน้ากิลฮาร์ท ?”
คำพูดของสตับบอร์นฮาร์ทและการที่เขาหยุดลงชั่วคราวแถมยังเต็มไปด้วยท่าทีตกตะลึงนั้นมันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจากกิลของเขา และรวมกับที่เขาจ้างมาเต็มไปด้วยความสับสน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าอะไรทำให้สตับบอร์นฮาร์ทมีท่าทีแบบนี้
มันมี NPC ขั้นสามคอยเฝ้าอยู่บริเวณประตูแล้วยังไงล่ะ ? นั่นมันเป็นปัญหาสำคัญจริงๆงั้นหรอ ? ปัจจุบันเมืองกิลทุกเมืองก็มี NPC ขั้นสามจำนวนหนึ่งคอยป้องกันเมือง และเฝ้าประตูเมืองอยู่แล้ว
NPC ขั้นสามนั้นอาจทรงพลังมากๆ และแทบจะเป็นตัวตนที่เป็นอมตะเลยหากต้องต่อสู้กับผู้เล่นขั้นสามแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ถ้าผู้เล่นขั้นสามหลายสิบคนทำงานร่วมกัน พวกเขาก็จะสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลหนึ่งร้อย ไม่ต้องพูดถึง NPC ขั้นสามเลย
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่ติดตามสตับบอร์นฮาร์ทมาได้เห็นสิ่งที่สตับบอร์นฮาร์ทเห็น พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”
“ทำไมถึงมี NPC ขั้นสามจำนวนมากขนาดนี้ ?”
ตอนนี้มันมีอัศวินขั้นสาม สองร้อยคนยืนเรียงแถวอยู่สองแถวไปจนสุดปลายของถนนบริเวณนี้ ซึ่งทุกคนนั้นก็ล้วนสวมใส่ชุดเกราะสีดำสนิทและแผ่ออร่าที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อออกมา ขณะที่ NPC ที่เป็น หัวหน้าอัศวินขั้นสามนั้นก็แผ่ออร่าออกมาจนทำให้ผู้เล่นโดนรอบอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยซ้ำ
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั้งหมดภายใต้การนำของสตับบอร์นฮาร์ทปรากฎตัวขึ้น NPC ขั้นสามทั้งหมดนี้ก็หันมาหาพวกเขาและจ้องมองมาอย่างไม่วางตาทันที จนมันทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น
“นี่พวกเขาจะไม่โจมตีเราโดยไร้เหตุผลใช่ไหม ?” แอสซาซินขั้นสามพึมพำอย่างประหม่า “เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย”
ทีมของพวกเขานั้นประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเกือบหนึ่งร้อยคน และมันก็จัดเป็นทีมที่สามารถคุกคามมหาอำนาจของ God domain ได้เลยด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นจะไม่สามารถทำอะไรได้และดูไร้ค่าไปเลย เมื่ออยู่ต่อหน้า NPC อัศวินขั้นสาม สองร้อยคน เพราะอัศวินขั้นสามเหล่านี้จะสามารถสังหารหมู่พวกเขาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากๆ
ระหว่างที่ความวิตกกังวลของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นก็มีคนตะโกนใส่พวกเขา
“เห้ยพวกกลุ่มนั้นน่ะ !!! ทำไมพวกคุณถึงยังยืนอยู่ตรงนั้น !!!? ที่บริเวณนี้คือทางเข้าเมือง !!! ผู้เล่นไม่ได้รับอนุญาติให้มาเดินเอ้อระเหยอยู่แถวนี้นะ !!!”
เสียงนี้ทำให้สตับบอร์นฮาร์ทและพรรคพวกของเขาหายจากอาการตกตะลึงและมึนงง ก่อนที่พวกเขาจะหมุนตัวหันไปมองผู้เล่นที่ตะโกนใส่พวกเขา โดยพวกเขาทั้งหมดต่างก็อยากรู้ว่าใครกันที่กล้าทำแบบนี้
ซึ่งพวกเขาก็ได้เห็นเบอเซิกเกอร์ขั้นสอง เลเวลหนึ่งร้อยสอง ที่มีตราสัญลักษณ์ของสภาสิบแปดปีกติดอยู่ที่หน้าอกยืนอยู่ โดยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบพวกเขาจะไม่มีปัญหาในการที่จะฆ่าเบอเซิกเกอร์ขั้นสองเลย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าฟันจากสตับบอร์นฮาร์ทและพรรคพวกของเขา แต่เบอเซิกเกอร์ขั้นสองก็ไม่ได้เลือกจะถอยห่างออกไป เขายิ้มและถามว่า “อะไรกัน ? คุณต้องการจะเริ่มการต่อสู้ที่นี่งั้นหรอ ?”
ในขณะที่เบอเซิกเกอร์ถามแบบนี้ เหล่าอัศวินขั้นสามก็ปลดอาวุธของพวกเขาออก และเริ่มมองมายังทีมของสตับบอร์นฮาร์ทอย่างตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหว และตอนนี้ออร่าของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมเลยทีเดียว
“ไอ้เวรนี่ …” แรนเจอร์ขั้นสามคนหนึ่งมองไปยังเบอเซิกเกอร์ขั้นสองที่เต็มไปด้วยท่าทีเย่อหยิ่งด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด และเจตนาฆ่าฟันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเมื่อแรนเจอร์ผู้นี้สัมผัสได้ถึงออร่าของเหล่าอัศวินขั้นสาม เขาก็เลือกจะยอมทนอยู่เฉยๆ “ถ้าเราอยู่ที่อื่น ฉันจะสอนบทเรียนให้กับเขาแน่นอน !!!”
ในฐานะผู้เล่นสายความมืด เขาได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญไปมากมายแล้ว ซึ่งนี่รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหลายสิบคนจากกิลชั้นสูง และด้วยความแข็งแกร่งของเขา แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่สามารถจะดูถูกเขาได้
แต่ถึงกระนั้นตอนนี้เบอเซิกเกอร์ขั้นสองกับกล้าที่จะดูถูกเขา นี่มันน่าอับอายอย่างแท้จริง !!!
“เอาล่ะ พอได้แล้ว !!! รีบเข้าไปข้างในกัน นี่ใช่สถานที่สำหรับการต่อสู้ !!!” สตับบอร์นฮาร์ทกล่าวเตือนแรนเจอร์เบาๆ ขณะที่สายตาของเขาจ้องมองไปยังเหล่าอัศวินขั้นสาม
พวกเขานั้นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เกือบหนึ่งร้อยคนก็จริง แต่ถ้าพวกเขาเลือกจะสู้ที่นี่ เหล่าอัศวินขั้นสามพวกนี้จะสังหารหมู่พวกเขาได้ในเวลาไม่กี่นาทีเลย พวกเขานั้นพึ่งมาถึงขั้นสามเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เหล่า NPC ขั้นสามพวกนี้นั้นล้วนมีอาวุธ อุปกรณ์ รวมไปถึงสกิลและเวทย์ที่เหนือกว่าพวกเขาอย่างมาก
“ดูว่าพวกคุณก็จะยังสติดีกันอยู่นี่ !!! จำไว้ว่าที่นี่คือเมืองป่าหิน !!! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ของพวกคุณ !!!” เบอเซิกเกอร์ของสภาสิบแปดปีกกล่าวพลางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ขณะที่สตับบอร์นฮาร์ทนำทีมของเขาเดินเข้าไปในเมืองอย่างเชื่อฟัง
“น่าทึ่งมากๆ !!! สมาชิกหน่วยลาดตระเวนของสภาสิบแปดปีกนั้นน่าทึ่งมากจริงๆ !!! เขากระทั่งกล้าจะดูถูกผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม !!!”
“ดูเหมือนเมืองป่าหินจะเป็นโลกที่แตกต่างออกไป หากสิ่งนี้เกิดขึ้นในเมืองกิลอื่น เบอเซิกเกอร์ผู้นี้จะต้องตายแน่นอน เพราะปฎิบัติต่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอย่างไร้ความเคารพ”
“แน่นอน เมืองป่าหินนั้นแตกต่างออกไป !!! คุณไม่เห็น NPC ขั้นสามเหล่านั้นรึไง ? หากพวกผู้เชี่ยวชาญขั้นสามกล้าก่อเรื่องในเมือง ยังไงพวกเขาก็จะไม่รอดแน่นอน ดูเหมือนว่า เมื่อเราอยู่ในเมืองป่าหิน เราจะไม่ต้องกังวลกับการถูกรังแกจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเลย”
ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองที่พึ่งเข้ามาใหม่ในเมืองป่าหินอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง หลังจากที่ได้เห็นเบอเซิกเกอร์ขั้นสองของสภาสิบแปดปีกดุด่าสตับบอร์นฮาร์ทและทีมของเขา พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเมืองป่าหินจะมีความปลอดภัยมากขนาดนี้
ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองนั้นจะต้องระมัดระวังตัวเองอย่างมากเมื่อไปเจอกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามในเมืองกิลอื่นๆ และเมืองของ NPC ส่วนใหญ่ เพราะการไปยั่วยุผู้เชี่ยวชาญขั้นสามโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นมันจะทำให้พวกเขาซวยเอาได้ และมันก็ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะไปทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนในเมือง
อย่างไรก็ตามในเมืองป่าหินนั้น ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจะไม่สามารถแสดงท่าทีหยิ่งผยองออกมาได้ พวกเขาจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายของเมืองอย่างเคร่งครัด และในระยะนี้ของเกม เมืองป่าหินนั้นน่าจะเป็นเมืองกิลแห่งเดียวใน God domain เลย ที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงมากขนาดนี้
เหตุการณ์นี้มันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองหลายคนมองเมืองในแง่ดีมากขึ้น หลายคนนั้นถึงกับคิดจะลงหลักปักฐานที่เมืองป่าหิน และมุ่งเน้นการพัฒนาของตัวเองไปที่พื้นที่รอบๆเลย มันไม่มีใครต้องการที่จะอยู่และพัฒนาในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากพวกเขาจะต้องกังวลว่าพวกเขาอาจจะเสียสมบัติอะไรก็ตามที่ได้รับมาไปตลอดเวลา
“สภาสิบแปดปีกนั้นรู้ดีจริงๆว่าทำยังไงถึงจะให้ตัวเองได้เปรียบ กิลกระทั่งทำการประจำการ NPC ขั้นสามสองร้อยคนไว้บริเวณประตูเมืองเพื่อทำให้เหล่าผู้เล่นที่เข้าเมืองหวาดกลัวและตกใจ แถมกิลยังใช้การกดขี่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเป็นเครื่องมือในการสร้างชื่อเสียงด้วย !!!” ฟลาวเวอร์เรนกล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ ขณะที่เธอมองย้อนไปยังกลุ่มของ NPC ขั้นสามที่บริเวณประตูเมือง จากนั้นเธอก็หันไปหาสตับบอร์นฮาร์ท และยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะกล่าวว่า “ฉันกลัวว่าแผนของเราในครั้งนี้จะล้มเหลวนะ หัวหน้ากิลฮาร์ท”
ด้วยการที่ทำการประจำการ NPC ขั้นสามจำนวนมากไว้ที่บริเวณประตูเมือง สภาสิบแปดปีกได้ทำการเตือนผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบพวกเขาอย่างชัดเจนเลยว่าอย่าคิดจะทำไรแผลงๆในเมือง และมันก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้
นั่นคือ NPC ขั้นสาม จำนวนสองร้อยคนเลยที่พวกเขากำลังพูดถึง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหนึ่งพันคนก็ยังไม่มีทางจะต่อต้านกองกำลังแบบนี้ได้
“นั่นมันก็ไม่ใช่ความจริงเสมอไป แม้ว่าอัศวินขั้นสามสองร้อยคนจะค่อนข้างน่ากลัว แต่กองทัพร่วมของมหาอำนาจต่างๆนั้นก็ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายพันคน และแม้แต่ NPC ขั้นสามสองร้อยคนก็จะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ง่ายๆแน่นอน”สตับบอร์นฮาร์ทกล่าวพลางหัวเราะเยาะ “เมื่อกองทัพเริ่มทำการปิดล้อมเมือง สภาสิบแปดปีกจะส่ง NPC ขั้นสามไปปกป้องเมืองแน่นอน และเราจะสามารถใช้โอกาสนี้เข้าโจมตีและยึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองได้”
“ถูกต้อง แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะเหลือ NPC ขั้นสามไว้ปกป้องคฤหาสถ์ แต่มันก็คงจะมีจำนวนไม่มากนัก เรายังมีโอกาส …” หัวหน้ากิลชั้นสูงจำนวนหนึ่งรอบๆสตับบอร์นฮาร์ทพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา
“เนื่องจากทุกคนยังคิดว่าแผนยังคงมีความเป็นไปได้ งั้นเราลองไปสำรวจที่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองกันก่อน และเมื่อกองทัพมาถึงเราก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้ ..” สตับบอร์นฮาร์ทกล่าว แม้หลังจากได้เห็น NPC อัศวินขั้นสาม สองร้อยคนเขาก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ เพราะท้ายที่สุดโอกาสแบบนี้นั้นหายากมากๆ และแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้มาก แต่สภาสิบแปดปีกก็ไม่น่าจะสามารถหยุดยั้งกองทัพร่วมของมหาอำนาจต่างๆได้
เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อย สตับบอร์นฮาร์ทและพรรคพวกของเขาก็เดินทางไปที่คฤ
หาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมือง
อย่างไรก็ตามความตกตะลึง และความกังวลของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อพวกเขาเดินตรงเข้าไปในเมืองลึกขึ้นเพื่อไปยังคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมือง พวกเขานั้นได้พบเห็นหน่วยลาดตระเวนที่นำโดย NPC ขั้นสามมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าหน่วยลาดตระเวนเหล่านี้อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับกองอัศวินที่บริเวณประตูเมือง และพวกเขาก็ประกอบไปด้วย NPC ขั้นสาม สามจากสิบสองคนเท่านั้นในหน่วย แต่พวกเขาก็พบกับหน่วยลาดตระเวนแบบนี้มากกว่าสามสิบหน่วย …..
เมื่อพวกเขามาถึงตรงหน้าของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง พวกเขาก็ตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
พวกเขาพบกับอัศวินขั้นสาม อีกสองร้อยคนที่เฝ้าคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง และบริเวณโดยรอบอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นอัศวินขั้นสามหลายคนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวน้อยไปกว่าหัวหน้าอัศวินขั้นสามที่บริเวณประตูเมืองเลย
“หัวหน้ากิล เราจะยังคงดำเนินการตามแผนไหม ?” แอสซาซินขั้นสามถามขึ้น เมื่อเห็นท่าทีตกตะลึงของสตับบอร์นฮาร์ท
“นี่นายโง่รึไง ?! ไปบอกจักรพรรดิเก้ามังกรเลยว่าเขาสามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการได้ แต่มัจจุราชไม่เอาด้วยแล้ว !!!” สตับบอร์นฮาร์ทตะคอกพลางกลอกตา
เมืองป่าหินนั้นมี NPC ขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนประจำการอยู่ และนี่ยังไม่นับ NPC ขั้นสองที่มีเลเวลสูงอีกเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะไปต่อสู้กับกองกำลังแบบนี้ได้ยังไงกัน ?