Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2442

เมืองที่น่ากลัว

“หัวหน้ากิลฮาร์ท ?”

คำพูดของสตับบอร์นฮาร์ทและการที่เขาหยุดลงชั่วคราวแถมยังเต็มไปด้วยท่าทีตกตะลึงนั้นมันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจากกิลของเขา และรวมกับที่เขาจ้างมาเต็มไปด้วยความสับสน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าอะไรทำให้สตับบอร์นฮาร์ทมีท่าทีแบบนี้

มันมี NPC ขั้นสามคอยเฝ้าอยู่บริเวณประตูแล้วยังไงล่ะ ? นั่นมันเป็นปัญหาสำคัญจริงๆงั้นหรอ ? ปัจจุบันเมืองกิลทุกเมืองก็มี NPC ขั้นสามจำนวนหนึ่งคอยป้องกันเมือง และเฝ้าประตูเมืองอยู่แล้ว

NPC ขั้นสามนั้นอาจทรงพลังมากๆ และแทบจะเป็นตัวตนที่เป็นอมตะเลยหากต้องต่อสู้กับผู้เล่นขั้นสามแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ถ้าผู้เล่นขั้นสามหลายสิบคนทำงานร่วมกัน พวกเขาก็จะสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลหนึ่งร้อย ไม่ต้องพูดถึง NPC ขั้นสามเลย

อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่ติดตามสตับบอร์นฮาร์ทมาได้เห็นสิ่งที่สตับบอร์นฮาร์ทเห็น พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก

“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”

“ทำไมถึงมี NPC ขั้นสามจำนวนมากขนาดนี้ ?”

ตอนนี้มันมีอัศวินขั้นสาม สองร้อยคนยืนเรียงแถวอยู่สองแถวไปจนสุดปลายของถนนบริเวณนี้ ซึ่งทุกคนนั้นก็ล้วนสวมใส่ชุดเกราะสีดำสนิทและแผ่ออร่าที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อออกมา ขณะที่ NPC ที่เป็น หัวหน้าอัศวินขั้นสามนั้นก็แผ่ออร่าออกมาจนทำให้ผู้เล่นโดนรอบอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยซ้ำ

ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั้งหมดภายใต้การนำของสตับบอร์นฮาร์ทปรากฎตัวขึ้น NPC ขั้นสามทั้งหมดนี้ก็หันมาหาพวกเขาและจ้องมองมาอย่างไม่วางตาทันที จนมันทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น

“นี่พวกเขาจะไม่โจมตีเราโดยไร้เหตุผลใช่ไหม ?” แอสซาซินขั้นสามพึมพำอย่างประหม่า “เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย”

ทีมของพวกเขานั้นประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเกือบหนึ่งร้อยคน และมันก็จัดเป็นทีมที่สามารถคุกคามมหาอำนาจของ God domain ได้เลยด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นจะไม่สามารถทำอะไรได้และดูไร้ค่าไปเลย เมื่ออยู่ต่อหน้า NPC อัศวินขั้นสาม สองร้อยคน เพราะอัศวินขั้นสามเหล่านี้จะสามารถสังหารหมู่พวกเขาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากๆ

ระหว่างที่ความวิตกกังวลของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นก็มีคนตะโกนใส่พวกเขา

“เห้ยพวกกลุ่มนั้นน่ะ !!! ทำไมพวกคุณถึงยังยืนอยู่ตรงนั้น !!!? ที่บริเวณนี้คือทางเข้าเมือง !!! ผู้เล่นไม่ได้รับอนุญาติให้มาเดินเอ้อระเหยอยู่แถวนี้นะ !!!”

เสียงนี้ทำให้สตับบอร์นฮาร์ทและพรรคพวกของเขาหายจากอาการตกตะลึงและมึนงง ก่อนที่พวกเขาจะหมุนตัวหันไปมองผู้เล่นที่ตะโกนใส่พวกเขา โดยพวกเขาทั้งหมดต่างก็อยากรู้ว่าใครกันที่กล้าทำแบบนี้

ซึ่งพวกเขาก็ได้เห็นเบอเซิกเกอร์ขั้นสอง เลเวลหนึ่งร้อยสอง ที่มีตราสัญลักษณ์ของสภาสิบแปดปีกติดอยู่ที่หน้าอกยืนอยู่ โดยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบพวกเขาจะไม่มีปัญหาในการที่จะฆ่าเบอเซิกเกอร์ขั้นสองเลย

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าฟันจากสตับบอร์นฮาร์ทและพรรคพวกของเขา แต่เบอเซิกเกอร์ขั้นสองก็ไม่ได้เลือกจะถอยห่างออกไป เขายิ้มและถามว่า “อะไรกัน ? คุณต้องการจะเริ่มการต่อสู้ที่นี่งั้นหรอ ?”

ในขณะที่เบอเซิกเกอร์ถามแบบนี้ เหล่าอัศวินขั้นสามก็ปลดอาวุธของพวกเขาออก และเริ่มมองมายังทีมของสตับบอร์นฮาร์ทอย่างตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหว และตอนนี้ออร่าของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมเลยทีเดียว

“ไอ้เวรนี่ …” แรนเจอร์ขั้นสามคนหนึ่งมองไปยังเบอเซิกเกอร์ขั้นสองที่เต็มไปด้วยท่าทีเย่อหยิ่งด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด และเจตนาฆ่าฟันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเมื่อแรนเจอร์ผู้นี้สัมผัสได้ถึงออร่าของเหล่าอัศวินขั้นสาม เขาก็เลือกจะยอมทนอยู่เฉยๆ “ถ้าเราอยู่ที่อื่น ฉันจะสอนบทเรียนให้กับเขาแน่นอน !!!”

ในฐานะผู้เล่นสายความมืด เขาได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญไปมากมายแล้ว ซึ่งนี่รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหลายสิบคนจากกิลชั้นสูง และด้วยความแข็งแกร่งของเขา แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่สามารถจะดูถูกเขาได้

แต่ถึงกระนั้นตอนนี้เบอเซิกเกอร์ขั้นสองกับกล้าที่จะดูถูกเขา นี่มันน่าอับอายอย่างแท้จริง !!!

“เอาล่ะ พอได้แล้ว !!! รีบเข้าไปข้างในกัน นี่ใช่สถานที่สำหรับการต่อสู้ !!!” สตับบอร์นฮาร์ทกล่าวเตือนแรนเจอร์เบาๆ ขณะที่สายตาของเขาจ้องมองไปยังเหล่าอัศวินขั้นสาม

พวกเขานั้นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เกือบหนึ่งร้อยคนก็จริง แต่ถ้าพวกเขาเลือกจะสู้ที่นี่ เหล่าอัศวินขั้นสามพวกนี้จะสังหารหมู่พวกเขาได้ในเวลาไม่กี่นาทีเลย พวกเขานั้นพึ่งมาถึงขั้นสามเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เหล่า NPC ขั้นสามพวกนี้นั้นล้วนมีอาวุธ อุปกรณ์ รวมไปถึงสกิลและเวทย์ที่เหนือกว่าพวกเขาอย่างมาก

“ดูว่าพวกคุณก็จะยังสติดีกันอยู่นี่ !!! จำไว้ว่าที่นี่คือเมืองป่าหิน !!! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ของพวกคุณ !!!” เบอเซิกเกอร์ของสภาสิบแปดปีกกล่าวพลางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ขณะที่สตับบอร์นฮาร์ทนำทีมของเขาเดินเข้าไปในเมืองอย่างเชื่อฟัง

“น่าทึ่งมากๆ !!! สมาชิกหน่วยลาดตระเวนของสภาสิบแปดปีกนั้นน่าทึ่งมากจริงๆ !!! เขากระทั่งกล้าจะดูถูกผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม !!!”

“ดูเหมือนเมืองป่าหินจะเป็นโลกที่แตกต่างออกไป หากสิ่งนี้เกิดขึ้นในเมืองกิลอื่น เบอเซิกเกอร์ผู้นี้จะต้องตายแน่นอน เพราะปฎิบัติต่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอย่างไร้ความเคารพ”

“แน่นอน เมืองป่าหินนั้นแตกต่างออกไป !!! คุณไม่เห็น NPC ขั้นสามเหล่านั้นรึไง ? หากพวกผู้เชี่ยวชาญขั้นสามกล้าก่อเรื่องในเมือง ยังไงพวกเขาก็จะไม่รอดแน่นอน ดูเหมือนว่า เมื่อเราอยู่ในเมืองป่าหิน เราจะไม่ต้องกังวลกับการถูกรังแกจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเลย”

ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองที่พึ่งเข้ามาใหม่ในเมืองป่าหินอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง หลังจากที่ได้เห็นเบอเซิกเกอร์ขั้นสองของสภาสิบแปดปีกดุด่าสตับบอร์นฮาร์ทและทีมของเขา พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเมืองป่าหินจะมีความปลอดภัยมากขนาดนี้

ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองนั้นจะต้องระมัดระวังตัวเองอย่างมากเมื่อไปเจอกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามในเมืองกิลอื่นๆ และเมืองของ NPC ส่วนใหญ่ เพราะการไปยั่วยุผู้เชี่ยวชาญขั้นสามโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นมันจะทำให้พวกเขาซวยเอาได้ และมันก็ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะไปทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนในเมือง

อย่างไรก็ตามในเมืองป่าหินนั้น ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจะไม่สามารถแสดงท่าทีหยิ่งผยองออกมาได้ พวกเขาจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายของเมืองอย่างเคร่งครัด และในระยะนี้ของเกม เมืองป่าหินนั้นน่าจะเป็นเมืองกิลแห่งเดียวใน God domain เลย ที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงมากขนาดนี้

เหตุการณ์นี้มันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองหลายคนมองเมืองในแง่ดีมากขึ้น หลายคนนั้นถึงกับคิดจะลงหลักปักฐานที่เมืองป่าหิน และมุ่งเน้นการพัฒนาของตัวเองไปที่พื้นที่รอบๆเลย มันไม่มีใครต้องการที่จะอยู่และพัฒนาในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากพวกเขาจะต้องกังวลว่าพวกเขาอาจจะเสียสมบัติอะไรก็ตามที่ได้รับมาไปตลอดเวลา

“สภาสิบแปดปีกนั้นรู้ดีจริงๆว่าทำยังไงถึงจะให้ตัวเองได้เปรียบ กิลกระทั่งทำการประจำการ NPC ขั้นสามสองร้อยคนไว้บริเวณประตูเมืองเพื่อทำให้เหล่าผู้เล่นที่เข้าเมืองหวาดกลัวและตกใจ แถมกิลยังใช้การกดขี่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเป็นเครื่องมือในการสร้างชื่อเสียงด้วย !!!” ฟลาวเวอร์เรนกล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ ขณะที่เธอมองย้อนไปยังกลุ่มของ NPC ขั้นสามที่บริเวณประตูเมือง จากนั้นเธอก็หันไปหาสตับบอร์นฮาร์ท และยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะกล่าวว่า “ฉันกลัวว่าแผนของเราในครั้งนี้จะล้มเหลวนะ หัวหน้ากิลฮาร์ท”

ด้วยการที่ทำการประจำการ NPC ขั้นสามจำนวนมากไว้ที่บริเวณประตูเมือง สภาสิบแปดปีกได้ทำการเตือนผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบพวกเขาอย่างชัดเจนเลยว่าอย่าคิดจะทำไรแผลงๆในเมือง และมันก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้

นั่นคือ NPC ขั้นสาม จำนวนสองร้อยคนเลยที่พวกเขากำลังพูดถึง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหนึ่งพันคนก็ยังไม่มีทางจะต่อต้านกองกำลังแบบนี้ได้

“นั่นมันก็ไม่ใช่ความจริงเสมอไป แม้ว่าอัศวินขั้นสามสองร้อยคนจะค่อนข้างน่ากลัว แต่กองทัพร่วมของมหาอำนาจต่างๆนั้นก็ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายพันคน และแม้แต่ NPC ขั้นสามสองร้อยคนก็จะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ง่ายๆแน่นอน”สตับบอร์นฮาร์ทกล่าวพลางหัวเราะเยาะ “เมื่อกองทัพเริ่มทำการปิดล้อมเมือง สภาสิบแปดปีกจะส่ง NPC ขั้นสามไปปกป้องเมืองแน่นอน และเราจะสามารถใช้โอกาสนี้เข้าโจมตีและยึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองได้”

“ถูกต้อง แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะเหลือ NPC ขั้นสามไว้ปกป้องคฤหาสถ์ แต่มันก็คงจะมีจำนวนไม่มากนัก เรายังมีโอกาส …” หัวหน้ากิลชั้นสูงจำนวนหนึ่งรอบๆสตับบอร์นฮาร์ทพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา

“เนื่องจากทุกคนยังคิดว่าแผนยังคงมีความเป็นไปได้ งั้นเราลองไปสำรวจที่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองกันก่อน และเมื่อกองทัพมาถึงเราก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้ ..” สตับบอร์นฮาร์ทกล่าว แม้หลังจากได้เห็น NPC อัศวินขั้นสาม สองร้อยคนเขาก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ เพราะท้ายที่สุดโอกาสแบบนี้นั้นหายากมากๆ และแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้มาก แต่สภาสิบแปดปีกก็ไม่น่าจะสามารถหยุดยั้งกองทัพร่วมของมหาอำนาจต่างๆได้

เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อย สตับบอร์นฮาร์ทและพรรคพวกของเขาก็เดินทางไปที่คฤ
หาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมือง

อย่างไรก็ตามความตกตะลึง และความกังวลของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อพวกเขาเดินตรงเข้าไปในเมืองลึกขึ้นเพื่อไปยังคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมือง พวกเขานั้นได้พบเห็นหน่วยลาดตระเวนที่นำโดย NPC ขั้นสามมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าหน่วยลาดตระเวนเหล่านี้อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับกองอัศวินที่บริเวณประตูเมือง และพวกเขาก็ประกอบไปด้วย NPC ขั้นสาม สามจากสิบสองคนเท่านั้นในหน่วย แต่พวกเขาก็พบกับหน่วยลาดตระเวนแบบนี้มากกว่าสามสิบหน่วย …..

เมื่อพวกเขามาถึงตรงหน้าของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง พวกเขาก็ตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด

พวกเขาพบกับอัศวินขั้นสาม อีกสองร้อยคนที่เฝ้าคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง และบริเวณโดยรอบอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นอัศวินขั้นสามหลายคนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวน้อยไปกว่าหัวหน้าอัศวินขั้นสามที่บริเวณประตูเมืองเลย

“หัวหน้ากิล เราจะยังคงดำเนินการตามแผนไหม ?” แอสซาซินขั้นสามถามขึ้น เมื่อเห็นท่าทีตกตะลึงของสตับบอร์นฮาร์ท

“นี่นายโง่รึไง ?! ไปบอกจักรพรรดิเก้ามังกรเลยว่าเขาสามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการได้ แต่มัจจุราชไม่เอาด้วยแล้ว !!!” สตับบอร์นฮาร์ทตะคอกพลางกลอกตา

เมืองป่าหินนั้นมี NPC ขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนประจำการอยู่ และนี่ยังไม่นับ NPC ขั้นสองที่มีเลเวลสูงอีกเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะไปต่อสู้กับกองกำลังแบบนี้ได้ยังไงกัน ?

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset