สืบสายเลือดจากโลก
“ฉันคิดว่า มันจะมีแต่พวกฝูงมอนสเตอร์เท่านั้นที่ออกมา !!!”
“ทำไมบอสผู้พิทักษ์ถึงออกมาที่นี่ด้วย ?!”
“ทำไมบอสผู้พิทักษ์ถึงทรงพลังมากขนาดนี้ ? มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนควรเป็นแค่บอสโลกอย่างเดียวไม่ใช่หรอ ?”
การปรากฎตัวของเบเฮโมทแสงดาวนั้นทำให้ทั้งกองกำลังสิงโตเงินตกตะลึงอย่างมาก ความสุขที่พวกเขาได้รับ หลังจากเห็นเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นจางหายไปทันที เมื่อพวกเขาเห็นร่างโปร่งแสงขนาดมหึมาของเบเฮโมทแสงดาว และตอนนี้มันก็มีเพียงแค่ความกลัวเท่านั้นที่แหวกว่ายอยู่ในจิตใจของพวกเขา
จนถึงตอนนี้มหาอำนาจต่างๆนั้นก็ได้ค้นพบมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น และทุกตัวก็ล้วนจัดเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติเลย และมอนสเตอร์แบบนี้เพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถที่จะป้องกันแผนที่ได้ทั้งแผนที่
ในความเป็นจริง บอสโลกระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าเก้าสิบบางตัวที่เป็นประเภทโดเมนนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากองกำลังหลักของมหาอำนาจต่างๆนั้นไม่สามารถจะทำอะไรกับมันได้เลย แม้จะมีเครื่อพิเศษก็ตาม เพราะท้ายที่สุดแล้วกองกำลังหลักแบบนี้ก็จะถูกทำลายล้างทั้งหมด
โดเมนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้เลย !!!
นี่คือสาเหตุที่แม้แต่ NPC ขั้นสามนั้นก็ไม่สามารถจะสู้กับพวกขั้นสี่ได้ง่ายๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมากกว่าก็ตาม
ภายในโดเมนของศัตรูนั้น พวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมาก และทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้กับพลังงานลดลงอย่างมาก โดยเพียงแค่เปิดใช้งานสกิลหรือเวทย์ก็ยังจะเป็นเรื่องยากมากแล้วในโดเมนของศัตรู และคนๆหนึ่งก็จะโชคดีมากแล้วหากแสดงพลังการต่อสู้ทั้งหมดได้สักห้าสิบเปอเซ็นต์ในการต่อสู้ภายในโดเมนของศัตรู และเพื่อทำให้เรื่องแย่ลงโดเมนนั้นจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้ด้วย
แม้ในการต่อสู้ระหว่าง NPC ขั้นสาม กับ NPC ขั้นสี่ ที่มีค่าสถานะเท่ากันนั้น มันก็ยังจะมีความแตกต่างในเรื่องของโดเมน ซึ่งทำให้คุณภาพของแต่ละฝ่ายแตกต่างกันมาก นี่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความแตกต่างระหว่าง NPC ขั้นสาม กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนที่มีความยิ่งใหญ่กว่ามากเลย
“ผู้บัญชาการ เราจะต้องถอย !!! ไม่มีใครสามารถจะหยุดเบเฮโมทแสงดาวประเภทโดเมนได้หรอก !!! ถ้าเราไม่หนีตอนนี้ มันจะฆ่าเราทั้งหมด !!!” ชายผู้โหดเหี้ยมที่ถือดาบใหญ่อยู่ตะโกนบอกผู้บัญชาการของเขาที่ชื่อ โครว์ หลังจากที่เขาสังเกตเห็นถึงเบเฮโมทแสงดาว
ไม่เพียงแต่เบเฮโมทแสงดาวนั้นจะทรงพลังมากๆในฐานะมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมน แต่โดเมนของมันยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับมอนสเตอร์มากกว่าห้าหมื่นตัวที่ออกมาด้วย ซึ่งกองทัพแบบนี้นั้นจะสามารถทำลายเมืองกิล เมืองหนึ่งได้อย่างไม่มีปัญหาเลย ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังสิงโตเงินที่มีสมาชิกราวแปดพันคน
มันจะมีก็แต่ตอนที่บอสผู้พิทักษ์ตัวนี้โฟกัสไปที่เรือเหาะมังกรสีเลือดเท่านั้น พวกเขาจึงจะมีโอกาสหลบหนี และหากพวกเขารอจนบอสผู้พิทักษ์ตัวนี้ทำลายเรือเหาะ พร้อมกับกวาดล้างกองกำลังของผู้เล่นเหล่านั้นได้ พวกเราก็จะเป็นรายต่อไป
“ดูเหมือนว่าการโจมตีของเรานั้นจะเป็นไปไม่ได้เลย แจ้งให้ทุกคนถอย !!!” โครว์ออกคำสั่ง ขณะที่เขาจ้องมองไปยังเบเฮโมทแสงดาว
เขาต้องการจะอยู่เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่ป้อมปราการแสงดาวถูกยึด แต่นั่นดูเหมือนจะไม่ใช่ความคิดที่ชาญฉลาดอีกต่อไป ในบรรดามหาอำนาจต่างๆที่เขารู้จักนั้นไม่มีใครสามารถจะเอาชนะบอสโลกระดับเทพนิยายประเภทโดเมนเลเวลมากกว่าเก้าสิบได้เลย ซึ่งนี่รวมไปถึงห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย ในขณะเดียวกันเบเฮโมทแสงดาวตรงหน้าของพวกเขานั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนที่มี เลเวลหนึ่งร้อยสิบสาม
[เบเฮโมทแสงดาว (ทอลิแอน)] (ลอร์ดแห่งดินแดน[l],สิ่งมีชีวิตแสงดาว, ระดับเทพนิยาย) เลเวล 113
HP 4,000,000,000/4,000,000,000
นอกเหนือจากค่าสถานะของเบเฮโมทแสงดาวแล้ว HP สี่พันล้านของมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้เล่นหลายคนในปัจจุบันสิ้นหวังได้เลย
ด้วยมี HP สี่พันล้าน เบเฮโมทแสงดาวนั้นก็จะได้รับการฟื้นฟู HP สี่สิบล้านทุกๆห้านวินาที ด้วยสกิลพาสซีฟฟื้นฟูของมันในระหว่างการต่อสู้ และหากผู้เล่นไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าแปดล้านในแต่ละวินาที การโจมตีของพวกเขาก็จะจัดว่าไร้ค่าเลยต่อหน้าบอสตัวนี้
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญขั้นสองนั้นก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆในการสร้างความเสียหายให้ได้มากกว่าหนึ่งหมื่นต่อครั้ง ในการโจมตีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาบเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยสิบ และการโจมตีของพวกเขาก็จะมีประสิทธิภาพน้อยลงแน่นอน เมื่อต้องมาโจมตีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมน ซึ่งมันจะมีก็แต่เพียงผู้เล่นขั้นสามเท่านั้นที่จะสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าหนึ่งหมื่นต่อบอสตัวนี้
ซึ่งคำณวนง่ายๆสมมุติว่าผู้เล่นขั้นสามสามารถทำความเสียหายได้มากกว่าสองหมื่นให้กับเบเฮโมทแสงดาว ทีมก็จะต้องใช้ผู้เล่นขั้นสามมากกว่าสี่ร้อยคนในการต่อสู้ พวกเขาจึงจะมีสิทฆ่าบอสผู้พิทักษ์ได้ แล้วในระยะนี้ของเกมนั้นมหาอำนาจต่างๆจะไปหาผู้เล่นขั้นสามมากกว่าสี่ร้อยคนมาจากไหน ?
แม้เรือเหาะมังกรสีเลือดจะสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก แต่มันก็เป็นเพียงอาวุธสงคราม ซึ่งมันอาจจะมีประโยชน์อย่างมากต่อหน้ากองทัพมอนสเตอร์จำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามต่อหน้ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนนั้น แม้แต่เรือเหาะแบบนี้ก็ยังจะต้องดิ้นรนในการเอาชีวิตรอด นอกจากนี้ปืนใหญ่มานาของเรือเหาะนั้นก็ดูเหมือนว่าจะมีคูลดาวน์ที่ยาวนานมาก พูดง่ายๆก็คือมันจะมีผลอย่างจำกัดมากต่อหน้ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมน
ในขณะที่ทีมนักผจญภัยหัวใจพายุกำลังหลบหนีด้วยความตื่นตระหนก กองกำลังสิงโตเงินก็กำลังเฝ้าดูเบเฮโมทแสงดาวบินเข้าหาพวกเขา
“รองผู้บัญชาการ เบเฮโมทแสงดาวนั้นรวดเร็วเกินไป และเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะพาทุกคนออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย เราจำเป็นจะต้องทิ้งผู้เล่นบางส่วนไว้คอยตรึงมันเพื่อทำให้มันช้าลง โปรดออกคำสั่งด้วย !!!” คริมสันวิชกล่าวขอร้องแม๊คอาฟรี่ ขณะที่เธอเฝ้าดูเบเฮโมทแสงดาวใกล้เข้ามา
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าป้อมปราการแสงดาวจะเป็นที่อยู่ของบอสผู้พิทักษ์แบบนี้ ซือเฟิงทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายอย่างแท้จริง
เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้มันสิ้นหวังแล้ว ดังนั้นสิ่งเดียวที่พวกเขาจะสามารถทำได้ตอนนี้ก็คือหาวิธีลดความสูญเสียของกองกำลังพวกเขาให้ได้มากที่สุด กองกำลังสิงโตเงินนั้นนับเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าศักสิทธิ์ ถ้ากองกำลังถูกทำลาย กิลจะต้องประสบกับปัญหาใหญ่แน่นอน
“ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีทางเลือกอื่น” เมื่อได้ยินคำขอร้องของคริมสันวิช แม๊คอาฟรี่จึงได้ดึงม้วนคัมภีร์อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่ออกมาอย่างไม่เต็มใจ
ผู้เล่นขั้นสามในปัจจุบันนั้นไม่มีความหวังที่จะหยุดมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมน เลเวลหนึ่งร้อยสิบสามได้เลย ซึ่งหากไม่มีใครหยุดเบเฮโมทแสงดาวตัวนี้ได้ กองกำลังสิงโตเงินจะถูกสังหารหมู่แน่นอน
ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาฮีโร่ขั้นสี่ เพื่อตรึงและซื้อเวลาเบเฮโมทแสงดาวเอาไว้ ให้ทุกคนมีเวลาได้หนี
มันอาจเป็นไปได้ที่จะใช้ฮีโร่ขั้นสี่ในการโจมตีเบเฮโมทแสงดาว หากบอสตัวนี้อยู่แค่ตัวเดียว แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นในตอนนี้ เพราะบอสผู้พิทักษ์ตัวนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับการสนับสนุนจากมอนสเตอร์อีกมากกว่าห้าหมื่นตัว แต่โดเมนของมันยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมอนสเตอร์ทั้งหมดโดยรอบมันด้วย
ซึ่งแม้แต่ฮีโร่ขั้นสี่ สี่คนก็ไม่สามารถจะเอาชนะกองทัพมอนสเตอร์ทั้งหมดนี้ได้แน่นอน
ในขณะที่แม๊คอาฟรี่กำลังเตรียมตัวจะใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญขั้นสี่ ซือเฟิงก็ได้เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือเหาะ และเฝ้ามองเบเฮโมทแสงดาวกับกองทัพของมันอย่างเงียบๆ
“อึก !!! นี่เขาจะไม่หนีงั้นหรอ ?!”
“นี่เขาคิดว่าเขาจะสามารถใช้เรือเหาะเพื่อหนีได้งั้นหรอ ?”
“บางทีเขาอาจจะกำลังปฎิเสธตัวเองอยู่ก็ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาหวังจะยึดป้อมปราการแสงดาวให้ได้ แต่ตอนนี้มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนตัวนี้กับทำลายความหวังของเขาทั้งหมด
ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของกองกำลังสิงโตเงินที่กำลังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกอยู่บนพื้นเบื้องล่างนั้นต่างรู้สึกเต็มไปด้วยความสับสนมากๆ เมื่อเห็นซือเฟิงขึ้นไปยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือเหาะมังกรสีเลือดด้วยท่าทีผ่อนคลาย
เรือเหาะนั้นสามารถที่จะบินได้และรวดเร็วมากๆ แต่ความเร็วของมันก็ไม่มีอะไรเลย เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมน และเมื่อเรือเหาะซึ่งอาศัยมานาบินและลอยอยู่ในอากาศอยู่ในโดเมนของเบเฮโมทแสงดาวนั้น ความเร็วของมันก็จะลดลงด้วย
ถ้าซือเฟิงหันเรือเหาะกลับ และหนีออกไปจากที่นี่ เขาก็ยังมีสิทจะรอดออกไปทั้งๆที่ยังมีชีวิตได้ แต่ถ้าเขารอจนกว่าเรือเหาะจะติดอยู่ในโดเมนของเบเฮโมทแสงดาว ทั้งเขาและเรือเหาะจะไปไหนไม่รอดแน่นอน
อย่างไรก็ตามในขณะที่เหล่าสมาชิกของกองกำลังสิงโตเงินกำลังสงสัยว่าสถานการณ์ที่พัฒนาไปอย่างกระทันหันนี้ทำให้ซือเฟิงพยายามปฎิเสธความจริงอยู่รึปล่าว เขาก็หยิบแวนทองคำออกมาจากกระเป๋าของเขาและเริ่มร่ายเวทย์
เมื่อซือเฟิงร่ายเวทย์เสร็จเรียบร้อย เขาก็เผยรอยยิ้มจางๆออกมา ขณะที่เขามองไปยังพื้นที่มานาที่เบเฮโมทแสงดาวสร้างขึ้น ก่อนที่เขาจะอัดคริสตัลเวทย์มนต์ห้าพันชิ้นเข้าไปในแหวนแห่งกอสเปลเพื่อเปิดใช้งานโลกจิ๋ว
หลังจากนั้นพื้นที่โดยรอบก็เริ่มสั่นสะเทือน และเงาของโลกใหม่ก็เริ่มปรากฎขึ้นเหนือพวกเขาทั้งหมดโดยแยกท้องฟ้าออกจากผืนดิน
ซึ่งมันทำให้ทุกคนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าการเชื่อมต่อภายนอกถูกตัดขาด และแรงกดดันที่น่ากลัวก็เข้าปกคลุมพวกเขา โดยแรงกดดันนี้ก็ไม่ได้มาจากจุดเดียว แต่มันเข้ามาจากทุกทิศทาง ….
ในขณะที่โลกจิ๋วถูกเปิดใช้งานพื้นที่มานาของเบเฮโมทแสงดาวก็เริ่มมีผลลดลงอย่างเห็นได้ชัด และตอนนี้มานาที่เคยช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบอสนั้นก็เริ่มจะทำร้ายมันแทนแล้ว โดยมานานั้นก็เริ่มจะทำการปราบปรามลอร์ดแห่งดินแดนลงไปเรื่อยๆ
ค่าสถานะพื้นฐานของเบเฮโมทนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว
5%… 7%… 10%…
ในเวลาสั้นๆสามวินาที ค่าสถานะพื้นฐานของเบเฮโมทแสงดาวนั้นก็ลดลงไปยี่สิบเปอเซ็นต์ สำหรับสิ่งมีชีวิตสายธาตุตัวอื่นๆ ไม่เพียงแต่พวกมันจะสูญเสียค่าสถานะไปสามสิบเปอเซ็นต์ แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการตอบสนองของพวกมันก็ยังลดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย ….
“เป็นไปไม่ได้ !! เขาทำลายโดเมนของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายประเภทโดเมนได้ยังไงกัน ?!!” คริมสันวิชอุทานออกมาอย่างตกตะลึง ขณะที่เธอเฝ้าดูพื้นที่มานาของเบเฮโมทแสงดาวนั้นค่อยๆหายไปอย่างสมบูรณ์