Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2476

มังกรศักสิทธิ์ที่น่าหวาดกลัว

หุบเขาดาว ป้อมปราการแสงดาว :

โดยมีเฮลรัชเป็นผู้นำ ในที่สุดกองกำลังนรกนั้นก็ได้เดินทางมาถึงที่หน้าป้อมปราการแสงดาว หลังจากต่อสู้มานานกว่าห้าชั่วโมง

ป้อมปราการนี้ได้รับการซ่อมแซมไปแล้วราวสองวัน และมันก็ดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ป้อมปราการนี้ไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์ทางกายภาพใหม่เท่านั้น แต่ตอนนี้วงเวทย์ของมันก็ยังทำงานได้อย่างเต็มที่แล้วเช่นกัน โดยมันมีชั้นของมานานั้นปกคลุมป้อมปราการอยู่ ซึ่งมันก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลย โดยป้อมปราการนี้ก็เปรียบดั่งโอเอซิศในสภาพแวดล้อมที่มีมานาน้อยมากของหุบเขาดาว นอกจากนี้มันยังมีหมอกจางๆจำนวนมากล้อมรอบป้อมปราการอยู่ซึ่งนี่ทำให้มันดูน่าเกรงขาม และเพิ่มความลึกลับขึ้นอย่างมาก

“ป้อมปราการแห่งนี้นั้นน่าทึ่งมากจริงๆ มานาของมันหนาแน่นมาก หากเราสามารถฝึกฝนที่นี่ได้ในระยะยาว การควบคุมมานาของเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน …”

“นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าเราสามารถอยู่และฝึกฝนที่นี่ได้ เราก็จะสามารถปรับปรุงมาตราฐานการต่อสู้ของตัวเองได้ด้วย”

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกระดับสูงถึงขอให้เราเคลื่อนไหว หากเราสามารถยึดป้อมปราการนี้ได้ มันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการพัฒนาของสมาชิกภายในและแกนหลักของเราได้อย่างมาก และเราก็จะไม่ต้องมานั่งแข่งขันเพื่อเข้าสู่ดินแดนลับหมอกปีศาจทุกสัปดาห์ !!!”

เมื่อสมาชิกของกองกำลังนรกมองไปยังป้อมปราการแสงดาว ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

ทวีปด้านตะวันตกนั้นขาดแคลนมานาอย่างมาก ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นที่ที่มีความหนาแน่นของมานาสูงนั้นตกเป็นเป้าหมายของมหาอำนาจต่างๆ ผู้เล่นนั้นจะสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์กับมานาได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในพื้นที่เหล่านี้เท่านั้น และพวกเขาก็จะมีจิตใจที่กระจ่างชัดมากขึ้นในการฝึกฝน โดยนี่จะช่วยให้ผู้เล่นควบคุมมานาได้ดีขึ้นมากๆ

ด้วยเหตุนี้เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นค้นพบพื้นที่ที่มีมานาหนาแน่น มันจึงมักจะเกิดสงครามระหว่างกิลตามมาในไม่ช้า และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็จะกระโจนมาเข้าร่วม

จากสภาพแวดล้อมที่มีมานาหนาแน่นที่เหล่าสมาชิกของกองกำลังนรกเคยเผชิญมาก่อนหน้านี้นั้น พวกเขาสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า มันมีอะไรอะไรจะเทียบกับป้อมปราการแสงดาวได้แน่นอน และมานาที่หนาแน่นของป้อมปราการแสงดาวนี้ก็จะจัดว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถ

“ผู้บัญชาการเผ่าศักสิทธิ์นั้นดูมีท่าทีแปลกๆ พวกเขาใช้แค่ทีมเดียวเท่านั้นเฝ้าประตูหน้าอยู่ พวกเขาไม่แม้แต่จะส่ง NPC ขั้นสามมาเฝ้าด้วย นี่พวกเขาไม่กลัวว่าผู้เล่นคนอื่นจะลอบเข้ามางั้นหรอ ?” แรนเจอร์ขั้นสามในชุดเกราะหนังสีน้ำเงินกล่าวแสดงความเห็น เมื่อเขาเห็นว่ามีผู้เล่นขั้นสองเพียงหกคนเท่านั้นที่เฝ้าทางเข้าป้อมปราการแสงดาวอยู่

ในทวีปด้านตะวันตกนั้น กิลที่เข้ายึดครองเมือง หรือป้อมปราการของ NPC ได้ พวกเขาล้วนแล้วแต่ส่ง NPC องครักษ์ส่วนตัวขั้นสามเข้ามาประจำการไว้ที่เมืองหรือป้อมของพวกเขาทั้งหมด และโดยเฉพาะกับประตูหน้าที่มักจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่เสมอ เพราะมันจัดเป็นจุดอ่อนเลย แม้จะมีวงเวทย์ป้องกันอยู่ก็ตาม

หากทีมใดเลือกจะโจมตีประตูหน้าก่อนที่กลไกการป้องกันประตูจะทำงาน พวกเขาจะสามารถทำลายประตูและเปิดทางเข้าสู่ป้อมปราการเพื่อบุกได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วองครักษ์ส่วนตัวที่เป็น NPC ขั้นสามจำนวนมากมายจึงมักจะถูกส่งมาปกป้องประตูหน้า

อย่างไรก็ตามเผ่าศักสิทธิ์กับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม กิลไม่ได้ส่ง องครักษ์ส่วนตัวที่เป็น NPC ขั้นสามแม้แต่คนเดียวมาปกป้องประตูหน้า แถมยังไม่มีเหล่าผู้เล่นขั้นสามด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้เล่นขั้นสองแค่หกคนเฝ้าอยู่ที่ประตูหน้า ซึ่งมันไม่ต่างจากการที่เผ่าศักสิทธิ์กำลังเรียกร้องให้มหาอำนาจอื่นๆเข้าโจมตีพวกเขาเลย

แม้ว่ากิลจะไม่กังวลที่จะถูกทำลายประตูหน้า แต่บริเวณนี้ก็ยังคงจัดว่าเป็นสถานที่สำคัญ

ผู้เล่นนั้นจะต้องทำการจ่ายค่าเข้าป้อมปราการที่ประตูหน้าซะก่อน และเงินเหล่านี้นั้นก็จะถูกเก็บไว้ที่คลังเก็บของบริเวณประตูหน้า ก่อนที่มันจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองตามเวลาที่กำหนด

หากมีผู้เล่นคิดไม่ซื่อขโมยเงินระหว่างการเคลื่อนย้าย หรือปล้นคลังเก็บของบริเวณประตูหน้า ผู้ปกครองนั้นก็จะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในด้านความปลอดภัย

“นั่นไม่ใช่เรื่องของเรา เตรียมตัวให้พร้อมทุกคน เราจะเข้าไปด้านในกัน” เฮลรัชกล่าว เขาไม่ได้สนใจการกระทำที่ดูประมาทของเผ่าศักสิทธิ์

เท่าที่เขาคิดตอนนี้คือเรื่องนี้นั้นมันไม่สำคัญเลย ต่อให้มีผู้เล่นขั้นสาม และ NPC ขั้นสามจำนวนมากมาเฝ้าอยู่ที่ประตูหน้า กองกำลังนรกก็จะยังคงสามารถทำลายประตูหน้าได้อยู่ดี และเมื่อประตูหน้าถูกทำลายลง มันก็จะไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดพวกเขาได้

เมื่อได้ยินคำสั่งดังนี้ เหล่าสมาชิกของกองกำลังนรกก็ทำการเรียกอะเม้าท์ขั้นสูงของพวกเขาอย่างอะเม้าท์ม้าเขาเวทย์มนต์ออกมา ก่อนที่จะพุ่งเข้าสู่บริเวณประตูหน้าของป้อมปราการแสงดาว

อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นดังนี้ทีมที่เฝ้าประตูหน้าอยู่ก็ยังคงเฉยเมย พวกเขานั้นดูเหมือนจะไม่กลัวและตื่นตระหนกใดๆเลย เมื่อเห็นกองกำลังนรกใกล้เข้ามา ตรงกันข้าม พวกเขากับเดินเข้าหา และมาพูดคุยกับเฮลรัชอย่างใจเย็น

“บอกฉันหน่อยว่าพวกคุณทั้งหมดมาที่นี่ทำไม ?” การ์เดี้ยนไนท์ขั้นสอง เลเวลหนึ่งร้อยห้ากล่าวถามอย่างไม่เกรงกลัว “ป้อมปราการนั้นยังคงถูกผนึกอยู่ และผู้เล่นที่ไม่ได้รับเชิญจะไม่มีสิทก้าวเข้าสู่ป้อมปราการ”

“เราได้รับคำเชิญจากผู้บัญชาการฟิธาเลีย คุณสามารถไปแจ้งให้เธอทราบก่อนก็ได้ว่ากองกำลังนรกมาถึงแล้ว” เฮลรัชกล่าวอย่างภาคภูมิใจ ขณะที่มองไปยังสมาชิกของเผ่าศักสิทธิ์ทั้งหกตรงหน้าเขา

“อ้อ คุณเป็นแขกของผู้บัญชาการฟิธาเลียนี่เอง …. ฉันจะติดต่อเธอเพื่อขอคำอนุมัติทันที โปรดรอสักครู่ …” เมื่อการ์เดี้ยนไนท์ขั้นสองผู้นี้ได้ยินดังนี้ เขาจึงรีบติดต่อฟิธาเลียเพื่อขอคำอนุญาติให้กองกำลังนรกสามารถเข้าสู่ป้อมปราการได้

ไม่นานหลังจากที่การ์เดี้ยนไนท์ผู้นี้รายงานไป เขาก็หันกลับมาร่ายเวทย์ ขณะที่เฝ้ามองไปยังกองกำลังนรก และเมื่อเขาร่ายเวทย์เสร็จ เครื่องหมายรูนก็ปรากฎขึ้นที่หลังมือของสมาชิกกองกำลังนรกทุกคน

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกคุณได้รับอนุญาติให้เข้าสู่ป้อมปราการแสงดาวเป็นการชั่วคราวแล้ว” การ์เดี้ยนไนท์ขั้นสองแจ้งแขก จากนั้นเขาก็เตือนพวกเขาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกคุณจะเข้าไป ฉันมีบางอย่างจะต้องแจ้งให้พวกคุณทราบ”

“ตอนนี้มังกรนั้นกำลังพักผ่อนอยู่ในป้อมปราการ และมานาของมันก็ยังไม่เสถียรเต็มที่ ดังนั้นเมื่อพวกคุณเข้าไปในป้อมปราการ ฉันหวังว่าพวกคุณจะไม่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนมากเกินไปนัก และคุณก็ไม่ควรทำให้มังกรโกรธ เพราะหากมันตัดสินใจจะลงมือ แม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถจะหยุดมันได้ ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ”

เมื่อได้ยินคำเตือนแบบนี้ของการ์เดี้ยนไนท์ขั้นสอง สมาชิกของกองกำลังนรกทุกคนก็ยิ้มออกมาอย่างสนุกสนาน และไม่ได้หวาดกลัวเลย พวกเขานั้นรู้สึกว่าการ์เดี้ยนไนท์ผู้นี้กำลังพยายามทำให้พวกเขากลัว

แต่พวกเขาเป็นใครกัน ?

พวกเขานั้นเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิโลกใต้พิภพ !!!

พวกเขานั้นพบกับมังกรบ่อยกว่ามหาอำนาจอื่นๆอย่างมาก และพวกเขาก็รู้ดีว่ามังกรขั้นสี่นั้นทรงพลังมากขนาดไหน

พวกเขานั้นมั่นใจมากว่าจะสามารถฆ่ามังกรได้หนึ่งตัวในการเผชิญหน้า ไม่ต้องพูดถึงการหนีรอดจากความโกรธของมันเลย เพราะท้ายที่สุดนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกับอะไรแบบนี้

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถต่อกรกับมังกรประจำป้อมปราการแสงดาวได้จริงๆ แต่พวกเขาก็ยังมีวิธีหลบหนีการไล่ล่าอีกมากมาย เผ่าศักสิทธิ์นั้นจะประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว หากคิดว่าจะทำให้พวกเขาต้องหวาดกลัวได้โดยการมีมังกรแค่ตัวเดียวประจำป้อมปราการอยู่

“เราเข้าใจแล้ว เราเข้าไปได้เลยใช่ไหม ?” เฮลรัชกล่าวถามอย่างแห้งๆ

“แน่นอน” เมื่อเห็นว่ากองกำลังตรงหน้าของเขาไม่สนใจคำเตือนนั้น การ์เดี้ยนไนท์ก็ทำได้แค่ถอนหายใจเท่านั้น ก่อนจะส่งสัญญาณให้คนของเขาเปิดทางให้กองกำลังนรกเข้าไป

โดยเมื่อได้รับการเปิดทางนั้น กองกำลังนรกก็ทำการขี่อะเม้าม้าเขาเวทย์มนต์สามร้อยตัวของพวกเขาเข้าไปในป้อมปราการทันที โดยมันก็ทำให้เกิดฝุ่นคลุ้งไปในรัศมีหนึ่งร้อยหลา ซึ่งพวกเขานั้นไม่ได้คิดจะรักษาโปรไฟล์ต่ำไว้เลย

อย่างไรก็ตามเมื่อสมาชิกของกองกำลังนรกตรงลึกเข้ามาในป้อมได้นิดเดียว พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล และสมาชิกทุกคนในกองกำลังนั้นก็เคลื่อนไหวได้อย่างยากลำบากมากๆ ในขณะที่บางคนแทบตกจากอะเม้าท์ของพวกเขาเลยด้วยซ้ำ

“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”

“ทำไมป้อมปราการถึงมีแรงกดดันมหาศาลขนาดนี้ ?”

คำถามนี้นั้นเกิดขึ้นมาในจิตใจของสมาชิกกองกำลังนรกทุกคนขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กับแรงกดดัน

ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาจะหาคำตอบได้ ร่างมหึมาก็บินลงมาจากเบื้องบน และอะเม้าท์ของพวกเขาเห็นร่างนี้นั้น พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้มันชัดเจนเลยว่าอะเม้าท์พวกนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังนรกอีกต่อไป

ซึ่งร่างมหึมานี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมังกรเงินศักสิทธิ์ ออร์เบ็ค

โดยทันทีที่ออร์เบ็คมาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา เหล่าสมาชิกของกองกำลังนรกก็ตื่นตระหนกอย่างมาก “Spatial Imprisonment?! ได้ยังไงกัน ?!”

สมาชิกของกองกำลังนรกนั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าพื้นที่รอบตัวของพวกเขานั้นเหมือนจะถูกแช่แข็ง ซึ่งพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง และการแสดงออกของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวอย่างมาก

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset