ปลดล๊อคร่างมานา
ทั้งเฮลรัชและสมาชิกของกองกำลังนรกทั้งหมดนั้นล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เมื่อพวกเขาเห็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีกห้าคนกำลังพุ่งเข้าใส่แกรนลอร์ด
มันมียักษ์ดินอยู่เกือบหนึ่งพันตัวใกล้ทางเดินบริเวณนี้ และผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกมันนั้นก็คือ ลอร์ดบอสขั้นสูง เลเวลหนึ่งร้อยเก้า และมันมีลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่อยู่อีกมากกว่าหนึ่งร้อยตัว ซึ่งถ้ามอนสเตอร์พวกนี้เข้าล้อมทีมผู้เล่นขั้นสาม หนึ่งร้อยคนนั้นทั้งทีมจะถึงจุดจบแน่นอน
ยักษ์ดินนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงของสุสานดาว ดังนั้นทั้งการเคลื่อนที่และความเร็วของมันนั้นจึงเหนือกว่าผู้เล่นขั้นสามอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นจึงจะพึ่งพาค่าสถานะพื้นฐานเพื่อป้องกันการโจมตีของยักษ์ดิน และต้องใช้เทคนิคการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อลดความเสียหายที่พวกเขาจะได้รับลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
กองกำลังนรกนั้นสามารถจัดการกับยักษ์ดินได้สามถึงสี่ตัวในคราวเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะมีมาตราฐานการต่อสู้ที่เหนือกว่าก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่ได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้หยานเทียนซิง และสมาชิกอีกสี่คนของสภาสิบแปดปีกกับพุ่งเข้าหามอนสเตอร์จำนวนมากเหล่านี้อย่างไม่ลังเล ….
ในระหว่างที่เฮลรัชกำลังจะหันไปบอกให้ซือเฟิงหยุดคนของเขาเอาไว้นั้น ฉากที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้เฮลรัชพูดไม่ออกเลย
หยานเทียนซิง ไฟเออร์แดนซ์ อควาโรส ไวโอเล็ทคลาวด์ และอี้ลั่วเฟยนั้นรวดเร็วเกินไป
แม้ในสุสานดาวจะมีแรงโน้มถ่วงสูงมาก แต่ผู้เล่นทั้งห้าก็ข้ามผ่านระยะหลายร้อยหลาได้ในห้าวินาทีและไปถึงมอนสเตอร์ที่เฝ้าอุโมงค์อยู่ ….
“เป็นไปไม่ได้ !!”
“พวกเขาเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน ?!!”
“นี่พวกเขาค้นพบบัคที่ซ่อนอยู่งั้นหรอ ?!”
สมาชิกของกองกำลังนรกนั้นล้วนเต็มไปด้วยความสับสนเมื่อได้เห็นความเร็วของ
หยานเทียนซิง และพรรคพวกของเขา
แม้ว่าจะมีค่าสถานะพื้นฐานที่สูงลิ่ว แต่การจะทำความเร็วให้ได้แบบนี้ในสภาพแวดล้อมแบบนี้นั้นมันก็ไม่ควรจะเป็นไปได้เลย เพราะแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นนั้นมันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้เล่น แม้ว่าผู้เล่นขั้นสามจะมีค่าสถานะสูงกว่าปกติสองถึงสามเท่าก็ตาม แต่แรงโน้มถ่วงของสุสานดาวนี้มันก็ไม่ใช่อะไรที่จะสามารถเอาชนะได้ง่ายๆเลย
สมาชิกของกองกำลังนรกนั้นถึงกับสงสัยด้วยซ้ำว่า ถ้าพวกเขาก้าวไปสู่ขั้นสี่ได้ พวกน่าจะมีความคล่องตัว และความเร็วเทียบเท่ากับผู้เล่นขั้นสองเท่านั้นที่นี่
แต่กระนั้นตอนนี้กลุ่มของหยานเทียนซิงกับเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เหมือนกับที่พวกเขาทำด้านนอกดันเจี้ยนภูมิภาค
นี่มันไม่น่าเชื่อเลย !!!
เดี๋ยวก่อนทำไมมานาที่อยู่รอบๆพวกเขาถึงมีความหนาแน่นมากขนาดนี้ ?! เฮลรัชมองไปยังกลุ่มของหยานเทียนซิงด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ หรือว่าพวกเขาจะสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้แล้วงั้นหรอ ?
แม้ว่าเขาจะคิดถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมา แต่เขาก็คิดว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
ผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆส่วนใหญ่นั้นยังไม่ได้เริ่มปลดล๊อคศักยภาพร่างมนากันเลย ไม่ต้องพูดถึงการปลดล๊อคได้เต็มศักยภาพอย่างสมบูรณ์แบบ
ขณะที่สมาชิกของกองกำลังนรกที่ก้าวหน้าไปไกลที่สุดในเรื่องนี้นั้นก็ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้แค่ยี่สิบเปอเซ็นต์เท่านั้น พวกเขายังเหลือหนทางอีกยาวไกลกว่าจะไปถึงหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ และพวกเขาก็อาจต้องใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งไปจนถึงห้าเดือนเพื่อทำให้สำเร็จ
มันไม่มีใครสามารถจะปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาทั้งหมดได้ในชั่วข้ามคืน ผู้เล่นนั้นจะต้องพยายามทำความเข้าใจและควบคุมร่างมานาของตนอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น ดังนั้นมันจึงนับเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบากมาก
อย่างไรก็ตามมานาที่อยู่รอบๆกลุ่มของหยานเทียนซิงนั้นมันก็หนาแน่นมากซะจนทำให้เฮลรัชงงงวย
จนถึงตอนนี้นั้นหยานเทียนซิงและคนอื่นๆยังไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ใดๆตลอดทางที่ผ่านมา ดังนั้นเฮลรัชจึงไม่ได้สังเกตเหห็นอะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับมานารอบตัวพวกเขา และเขาก็คาดเดาว่าผู้เล่นเหล่านี้คงจะใช้อาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อทำให้มานารอบตัวนั้นหนาแน่น
อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อผู้เล่นเหล่านี้เคลื่อนที่นั้น มานาพวกนี้ก็ติดตามพวกเขาไป และมันก็ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มากจากอาวุธและอุปกรณ์ แต่มันมาจากร่างกายของพวกเขา
ก่อนที่เฮลรัชจะทันได้คิดอะไรเพิ่มเติม หยานเทียนซิงและพรรคพวกของเขาก็ได้มาถึงเป้าหมายแล้ว
[หัวหน้ายักษ์ดิน] (สิ่งมีชีวิตสายธาตุ แกรนลอร์ด)
เลเวล 112
HP 330,000,000/330,000,000
หัวหน้ายักษ์ดินนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้จะอยู่ในโลกภายนอกก็ตาม เพราะสิ่งมีชีวิตสายธาตุนั้นมีค่าความต้านทานเวทย์ที่สูงมาก และร่างกายของหัวหน้ายักษ์ดินนั้นมันก็ยังทำมาจากหินแข็ง ซึ่งทำให้พลังป้องกันทางกายภาพของมันนั้นสูงพอๆกับมังกรที่อ่อนแอเลย นี่ยังไม่นับรวม HP ที่มีอีกจำนวนมาก
ทีมหนึ่งร้อยคนที่มีผู้เล่นขั้นสามประมาณสามสิบคนจะต้องดิ้นรนอย่างหนักเลยทีเดียวเพื่อที่จะโจมตีหัวหน้ายักษ์ดินแบบนี้ในโลกภายนอก เพราะท้ายที่สุดแล้วในโลกภายนอกกิลส่วนใหญ่ หรือผู้เชี่ยวชาญอิสระนั้นก็ยังมีจำนวนคนไม่มากพอที่จะจัดทีมให้เป็นผู้เล่นขั้นสามทั้งหมดได้
เมื่อไฟเออร์แดนซ์มาถึงตรงหน้าของหัวหน้ายักษ์ดินตัวหนึ่ง แกรนลอร์ดซึ่งตรวจพบแอสซาซินผู้นี้มานานแล้วก็ได้เหวี่ยงหมัดเข้าโจมตีเธอทันที
หัวหน้ายักษ์ดินนั้นมีความสูงแปดเมตร และหมัดของมันก็ใหญ่โตราวกับก้อนหิน การได้มองดูมันเหวี่ยงหมัดเข้าโจมตีไฟเออร์แดนซ์นั้น ก็เหมือนได้มองดูภูเขาเล็กๆกำลังตกลงมาบนตัวเธอ ไม่มีทางที่เธอจะหลบการโจมตีได้ เธอต้องป้องกันมันเพียงอย่างเดียว
“ในที่สุด ฉันก็จะได้ทดสอบความแข็งแกร่งของร่างมานาได้อย่างเหมาะสมสักที !!!”
อย่างไรก็ตามไฟเออร์แดนซ์นั้นไม่ได้มีท่าทีประหม่าใดๆ ตรงกันข้ามดวงตาของเธอกับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นด้วยซ้ำ เมื่อเห็นการโจมตีของแกรนลอร์ดกำลังเข้ามา เธอได้ชัก Thousand Transformations ออกจากฝัก และโจมตีโต้ตอบมันด้วยการโจมตีปกติ
ในตอนที่เธอกลับออกมาจากประตูมรดกนั้น เธอเหลือเพียงแค่ก้าวเล็กๆเท่านั้นก็จะสามารถปลดล๊อคศักยภาพทั้งหมดของร่างมานาของเธอได้แล้ว และหลังจากได้ใช้ห้องมรดก เธอก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ และเธอก็ได้ทดลองความรู้สึกทั้งหมดอยู่พักหนึ่ง หลังจากที่เธอปลดล๊อคมันได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เมื่อวันก่อน
อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้มีเวลาจะทดสอบมันอย่างจริงๆจังๆเลย อันเนื่องมาจากเธอยุ่งอยู่กับเรื่องของป้อมปราการแสงดาว
ดังนั้นเมื่อเธอมีโอกาสที่สมบูรณ์แบบ แบบนี้แล้ว เธอจึงไม่ต้องการจะพึ่งพาพลังของสกิลในการโจมตีโต้ตอบ เธอต้องการจะทดสอบให้เธอรู้และเคยชิน
“เธอเป็นบ้างั้นหรอ ? เธอเป็นเพียงแอสซาซิน แต่เธอกับพยายามจะต่อสู้กับมันตรงๆเนี่ยนะ ?”
สมาชิกของกองกำลังนรกนั้นคิดว่าไฟเออร์แดนซ์ประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองสูงเกินไป เพราะเธอไม่ได้ใช้สกิลเพื่อหลบการโจมตีของแกรนลอร์ดเลย ทั้งๆที่จริงๆความเร็วของเธอนั้นก็ควรจะสามารถใช้มันหลบหลีกได้ไม่ยาก เพราะท้ายที่สุดเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ ดังนั้นเธอจึงน่าจะสามารถทำนายวิถีการโจมตีของหัวหน้ายักษ์ดินได้อย่างง่ายดาย
ถึงกระนั้นแอสซาซินผู้นี้กับพยายามตอบโต้การโจมตีของหัวหน้ายักษ์ดินตรงๆ ซึ่งนี่มันไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเลย
ตู้ม !!
เสียงระเบิดนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ และพื้นดินก็สั่นสะเทือน ขณะที่ผลของการปะทะกันครั้งนี้มันก็ทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่สร้างฝุ่นละอองลอยขึ้นไปในอากาศ
เมื่อฝุ่นละอองจางลง สมาชิกของกองกำลังนรกก็ต้องตกตะลึงกับฉากที่เห็นตรงหน้า
เธอป้องกันมันได้ !!!
แอสซาซินที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วนั้นสามารถป้องกันการโจมตีจากหัวหน้ายักษ์ดินตรงๆได้สำเร็จ !!!
“อึก !! เธอป้องกันมันได้จริงๆงั้นหรอ ?!”
“นี่เธอเป็นแอสซาซินจริงๆงั้นหรอ ?”
สมาชิกของกองกำลังนรกนั้นรู้สึกว่าความรู้ที่พวกเขาเคยรู้มาทั้งหมดนั้นพังทลายลงทันที เมื่อเห็นไฟเออร์แดนซ์สามารถป้องกันการโจมตีของหัวหน้ายักษ์ดินได้ตรงๆโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
แม้แต่ธันเดอร์บีสต์ ผู้ซึ่งมีค่า STR มากที่สุดในกองกำลังนรกก็ยังไม่สามารถจะทำแบบนี้ได้เลย หากเขาปราศจากฮีลเลอร์คอยช่วยเหลือ
แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ไฟเออร์แดนซ์กับทำได้โดยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ….
แน่นอนเลยว่าความสามารถของร่างมานาระดับทอง ขั้นสูงสุดที่ถูกปลดล๊อคอย่างเต็มที่แล้วมันทรงพลังมาก หากเธอสามารถเรียนรู้เทคนิคมานาได้ เธอจะสามารถโซโล่กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้เลย เมื่อซือเฟิงเห็นสิ่งที่ไฟเออร์แดนซ์สามารถทำได้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าอยากจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองทั้งหมดให้ไวที่สุด
ผู้เล่นของ God domain นั้นจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงก็ต่อเมื่อสามารถปลดล๊อคศักยภาพทั้งหมดของร่างมานาของตัวเองได้สำเร็จ หากไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาจะถูกถือว่าเป็นแค่กึ่งผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แม้จะไปถึงขั้นสี่แล้วก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่นสุสานดาว หากผู้เล่นเข้ามาที่นี่ก่อนที่พวกเขาจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาได้ทั้งหมด พวกเขาก็จะต้องเจอกับการปราบปรามของดันเจี้ยนภูมิภาค
ดังนั้นสิ่งแรกที่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนต้องเร่งทำเมื่อไปถึงขั้นสามได้ก็คือปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาของตัวเองให้สำเร็จไวที่สุด และจริงๆแล้วพวกเขาแทบจะต้องพักเรื่องเลเวลและขั้นไปก่อนด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้าพวกเขาทำไม่ได้ อนาคตใน God domain ของพวกเขาก็จะไม่สู้ดีนักแน่นอน
ในขณะที่ซือเฟิงกำลังชื่นชมการแสดงของไฟเออร์แดนซ์ เธอก็ได้ใช้ Shadow Steps ไปปรากฎตัวขึ้นด้านหลังของหัวหน้ายักษ์ดิน “ตาฉันแล้ว !!!” ไฟเออร์แดนซ์ตะโกน พลางใช้ Thousand Transformations เล็งแทงเข้าไปที่หัวของแกรนลอร์ด
Absolute Strike!
ความมืดนั้นเข้าล้อมรอบไฟเออร์แดนซ์ทันที
-424,538!
ความเสียหายมากกว่าสี่แสนปรากฎขึ้นเหนือหัวของหัวหน้ายักษ์ดิน และในตอนนี้นั้นความเงียบก็เข้าไปคลุมไปทั่วกองกำลังนรก