เซ็ทเฟรมมิ่งสตีล
“นี่หัวหน้ายักษ์ดินดรอปไอเทมมากมายขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!”
“จำนวนไอเทมที่พวกมันดรอปนั้นคิดเป็นอย่างน้อยสามเท่าของที่แกรนลอร์ดภาย
นอกดรอปเลย !!!”
ดวงตาของสมาชิกกองกำลังนรกนั้นเปล่งประกาย เมื่อพวกเขาได้เห็นไอเทมที่หัวหน้ายักษ์ดินทั้งห้าตัวดรอปออกมา
มันมีแกรนลอร์ด เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยอยู่มากมายในโลกภายนอก ซึ่งรวมไปถึงในหุบเขาดาวด้วย และการฆ่าพวกมันได้สักตัวก็จะทำให้ผู้เล่นได้รับการเก็บเกี่ยวอย่างมากแล้ว และหากผู้เล่นโชคดี พวกเขาก็อาจจะได้รับอุปกรณ์ระดับดาร์คโกลมาสักชิ้นหนึ่งด้วย
ในระยะนี้ของเกม อุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยห้า ถือเป็นอุปกรณ์ชั้นยอดที่จัดว่าแทบจะดีที่สุดเลยแม้แต่ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆ
สำหรับอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย มันเป็นสิ่งที่สามารถหาได้จากการฆ่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ฆ่าได้ยากมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นอัตราการดรอปนั้นก็ไม่ได้มีหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เช่นกัน โดยปกติแล้วไอเทมระดับอีปิค เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยทั้งหมดที่กิลได้รับนั้นจะถูกจัดสรรแบ่งให้กับผู้อาวุโสสูงสุด หรือไม่ก็หัวหน้ากิล กับรองหัวหน้ากิลเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังยากจะได้รับมันสักชิ้น ดังนั้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญหลายคนในตอนนี้อุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยห้าจึงจัดเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามตอนนี้หัวหน้ายักษ์ดินทั้งห้าตัวกับดรอปไอเทมที่เทียบเท่ากับแกรนลอร์ดสิบห้าตัวจะดรอปออกมาในโลกภายนอก นี่มันจึงนับเป็นแจ๊คพอตชัดๆ ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้ายักษ์ดินนี้ยังให้ EXP แก่พวกเขามากกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปในโลกภายนอกซะอีก
ในขณะที่สมาชิกกองกำลังนรกกำลังพูดคุยกันเรื่องนี้อย่างเงียบๆ อควาโรสและคนอื่นๆก็รีบเก็บรวบรวมไอเทมที่หัวหน้ายักษ์ดินดรอปออกมาอย่างรวดเร็ว
“หัวหน้ากิล ครั้งนี้เราค่อนข้างจะโชคดีเลยทีเดียว หัวหน้ายักษ์ดินทั้งห้าตัวนี้ดรอปอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ ออกมาเจ็ดชิ้น ดรอปอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบ ออกมาสิบสองชิ้น และในบรรดาอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงินที่ดรอป มันยังมีเกราะและถุงมือที่อยู่ในเซ็ทแปดชิ้น ของเซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงินดรอปออกมาด้วย” อควาโรสกล่าวรายงานซือเฟิงด้วยความสุจ หลังจากจัดการเก็บรวบรวมไอเทมที่ดรอปมาเรียบร้อย
อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้แปลกใจเลยกับสถานการณ์เช่นนี้
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่ที่ชั้นหนึ่งของสุสานดาว แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงจัดว่าเป็นดันเจี้ยนภูมิภาค โหมดพระเจ้า ดังนั้นไอเทมที่ดรอปออกมาแบบนี้จึงเป็นเรื่องปกติมาก ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังไม่เคยมีใครเอาชนะหัวหน้ายักษ์ดินเหล่านี้ได้มาก่อน ดังนั้นข้อเท็จจริงที่ว่าแกรนลอร์ดตัวนี้จะดรอปอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ และอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบ ไว้มากขนาดนี้จึงเป็นเรื่องปกติ
“อุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ และเซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบ ?” เฮลรัชนั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เมื่อได้ยินรายงานของอควาโรส เพราะว่าอาวุธและอุปกรณ์ที่หัวหน้ายักษ์ดินดรอปเอาไว้นั้น มันมีไอเทมบางอย่างที่ดีกว่าที่เขาสวมใส่อยู่เล็กน้อยด้วย
อุปกรณ์ที่เขาได้รับมานั้นจัดว่าแทบจะเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดที่จักรวรรดิโลกกใต้พิภพจะหาได้เลย และมันมีเพียงแค่ไม่กี่คนในกิลเท่านั้นที่มีอุปกรณ์ที่ดีกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาไม่ได้มีอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยสวมใส่อยู่จำนวนหนึ่ง บางทีไอเทมที่ดรอปอาจมีมูลค่ารวมเกินที่เขาใส่อยู่ซะอีก
“อืมมม ลองดูสิ …” อควาโรสพูดพลางยิ้ม ขณะที่เธอแชร์ข้อมูลของอุปกรณ์ที่พวกเขาได้รับให้กับเฮลรัชดู เธอนั้นไม่ได้คิดจะปกปิดข้อมูลใดๆของอุปกรณ์พวกนี้ เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นจากสภาสิบแปดปีกทุกคนมีอุปกรณ์ที่ดีกว่ามาก
“นี่เซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนี้จะไม่ทรงพลังเกินไปหน่อยงั้นหรอ ? หากแท๊งเกอร์คนใดคนหนึ่งของเราได้สวมใส่มัน พวกเขาน่าจะสามารถแท๊งหัวหน้ายักษ์ดินได้ด้วยตนเองเลย !!!” เฮลรัชร้องอุทานออกมา และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง ขณะเขามองไปยังเกราะและถุงมือ
แม้ว่าแท๊งเกอร์ของกองกำลังนรกในปัจจุบันนั้นจะมีอุปกรณ์ครบครันอยู่แล้ว และบางคนก็กระทั่งสวมใส่อุปกรณ์ระดับอีปิค เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยอยู่สองชิ้น แต่อย่างไรก็ตามมาตราฐานโดยรวมของอุปกรณ์ของพวกเขาก็ยังจัดว่าด้อยกว่าในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับเซ็ทเฟรมมิ่งสตีล
เพียงแค่โบนัสจากการสวมใส่เซ็ทครบห้าชิ้น และแปดชิ้นเพียงอย่างเดียว มันก็สามารถเทียบเคียงกับเอฟเฟคของอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบได้เลย
เอฟเฟคที่จะได้รับเมื่อสวมใส่เซ็ทครบห้าชิ้นนั้นไม่เพียงแต่มันจะช่วยเพิ่มสกิลป้องกันทั้งหมดของผู้เล่นขึ้นสามเลเวล แต่มันยังเพิ่มค่าพลังป้องกันของผู้เล่นขึ้นอีกยี่สิบห้าเปอเซ็นต์ ในขณะที่เอฟเฟคเมื่อสวมใส่เซ็ทครบแปดชิ้นนั้น มันจะช่วยเพิ่ม HP และร่างกายทางกายภาพของผู้สวมใส่ขึ้นยี่สิบห้าเปอเซ็นต์ ซึ่งโบนัสเหล่านี้นั้นจะช่วยให้แท๊งเกอร์แข็งแกร่งขึ้น และมีความคล่องตัวขึ้นมาก แท๊งเกอร์ที่สวมใส่เซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนั้นจะไม่มีปัญหาในการแท๊งมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยเลยในโลกภายนอกเลย
เมื่อพิจารณามาถึงจุดนี้นั้น เฮลรัชก็มีความคิดที่จะให้กองกำลังนรกนั้นทำการล่าในสุสานดาวต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะทำงานให้กับซือเฟิงอยู่แล้วก็ตาม เพราะท้ายที่สุดถ้ากองกำลังนรกได้รับเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลมาครบเซ็ท มันจะทำให้การบุกโจมตีดัน
เจี้ยนขนาดใหญ่พิเศษ เลเวลหนึ่งร้อยของพวกเขาง่ายขึ้นมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา เฮลรัชก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น
แม้ว่าสิ่งนี้มันจะล่อลวงเขาอย่างมาก แต่มันก็ไม่มีใครในกองกำลังนรกที่จะสามารถ
แท๊งกับหัวหน้ายักษ์ดินได้เลยในตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆคอยตรึงหัวหน้ายักษ์ดินไว้ กองกำลังนรกนั้นจะไม่สามารถจัดการกับมอนสเตอร์ตัวนี้ได้เลย
“ถ้าผู้บัญชาการรัช ชอบเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนี้ เมื่อเรารวบรวมได้ครบเซ็ทแล้ว ฉันก็ไม่มีปัญหาที่จะขายให้คุณนะ” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นเฮลรัชเงียบลงหลังากได้เห็นข้อมูลของเซ็ทเฟรมมิ่งสตีล
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม พูดจริงงั้นหรอ ?” เฮลรัชกล่าวขอคำยืนยันอย่างตื่นเต้น
เซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนี้มันเป็นเซ็ทที่มีค่ามากๆสำหรับแท๊งเกอร์ และไม่สามารถจะหาซื้อได้เลยในโลกภายนอก
ในความเป็นจริง แม้แต่ซุเปอร์กิลต่างๆก็ยังไม่มีเซ็ทอุปกรณ์ชั้นยอดแบบนี้กันเลย ยิ่งไปกว่านั้นเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนี้ยังสามารถจะใช้ได้ถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าด้วย อันที่จริงต้องบอกว่าชุดสามารถเติบโตไปได้ถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า แต่ด้วยค่าสถานะ และคุณสมบัติที่น่าทึ่งของมันนั้น ผู้เล่นจะคงสามารถใช้ได้อยู่เลย แม้ว่าพวกเขาจะไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแล้วก็ตาม มันมีเพียงแค่อุปกรณ์ระดับอีปิคเท่านั้นที่จะเหนือกว่าเซ็ทเฟรมมิ่งสตีล
“แน่นอน ตราบใดที่กองกำลังนรกยอมรับเงื่อนไขของฉัน นับประสาอะไรกับเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลเซ็ทเดียว ต่อให้ต้องจัดหาให้ยี่สิบถึงสามสิบเซ็ทที่มีความสามารถเทียบเท่ากับเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนั้นก็ไม่มีปัญหาเลย” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า
เซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนั้นจัดว่าเป็นเซ็ทที่ยอดเยี่ยมมากๆสำหรับผู้เล่นขั้นสามในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากในอนาคตนั้นมันก็จะมีผู้เล่นจำนวนมากขึ้นที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้ ดังนั้นเซ็ทอุปกรณ์นี้จึงจะค่อยๆกลายเป็นของธรรมดาไปตามกาลเวลา นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเมื่อผ่านจุดหนึ่งไปแล้ว ในจุดที่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเริ่มมีอุปกรณ์ และเซ็ทระดับดาร์คโกลสวมใส่ครบเซ็ท เพราะอย่างน้อยที่สุดหลังจากผ่านเลเวลหนึ่งร้อยมาแล้ว มีเพียงไอเทมระดับดาร์คโกลหรือดีกว่าเท่านั้นที่จะสามารถปรับให้เข้ากับร่างมานาของผู้เล่นได้อย่างง่ายดาย
หากผู้เล่นที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์หรือสูงกว่าแล้ว ใช้ไอเทมระดับไฟน์โกล หรือต่ำกว่าในการต่อสู้ ค่าความทนทานของไอเทมของพวกเขาก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริง หลังจากมาถึงขั้นสี่ ผู้เล่นไม่ควรจะพิจารณาการใช้อาวุธและอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงินหรือต่ำกว่าเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากอาวุธและอุปกรณ์ระดับต่ำนั้นจะไม่สามารถทนต่อพลังของร่างมานาขั้นสี่ได้ และมันจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ทันทีเลย เมื่อผู้เล่นใช้มันโจมตีออกไปเพียงสกิลหรือเวทย์เดียว
นี่นับเป็นความเจ็บปวดที่ผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์หรือสูงกว่าต้องเผชิญ ในอนาคตมันจะมีผู้เล่นไม่มากนักที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้ถึงระดับนี้ ดังนั้นผู้เล่นจึงยังไม่รู้ว่าร่างกายที่ทรงพลังมากนั้นบางทีก็เป็นปัญหาเช่นกัน
“สามสิบเซ็ท ?” เฮลรัชนั้นอดไม่ได้ที่จะถูกล่อลวง
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าระยะเวลาการว่าจ้างที่ซือเฟิงเสนอที่หนึ่งเดือนนั้นมันนานเกินไป อย่างไรก็ตามเขาเริ่มลังเลแล้ว หลังจากได้ยินว่ากองกำลังนรกนั้นมีสิทจะได้รับเซ็ทที่มีความสามารถเทียบเท่ากับเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลอีกสามสิบเซ็ท
เพราะท้ายที่สุด แม้ว่ากองกำลังนรกจะทำการออกล่าและเก็บเลเวลอย่างบ้าคลั่งในช่วงเวลาหนึ่งเดือน แต่มันก็จะมีสมาชิกเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นในหมู่พวกเขาที่สามารถจะเข้าถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบได้ในช่วงเวลานั้น ในขณะเดียวกันเซ็ทเฟรมมิ่งสตีลนั้นจัดเป็นเซ็ทอุปกรณ์ชั้นยอดที่ผู้เล่นจะยังคงสามารถใช้งานได้ แม้ว่าจะไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแล้วก็ตาม กล่าวอีกนัยหนึ่งแม้ว่าจะต้องทำงานให้ซือเฟิงเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่กองกำลังนรกก็จะยังมีความได้เปรียบเหนือกองกำลังของมหาอำ
นาจอื่นๆ เมื่อพูดถึงมาตราฐานอุปกรณ์
ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาต้องไปทำการพูดคุยกับพวกระดับสูงของกิลให้เหมาะสมแล้วสำหรับเรื่องนี้
“เนื่องจากเราจัดการมอนสเตอร์ที่นี่กันเรียบร้อยแล้ว เราควรมุ่งหน้าไปที่ชั้นสองกันได้แล้ว เพราะหากเราพักที่นี่พวกมอนสเตอร์อาจเกิดใหม่ได้” ซือเฟิงกล่างหลังจากปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนชั่วครู่หนึ่งแล้ว
ซึ่งเมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง ทุกคนก็ลุกขึ้นยืน และเดินเข้าไปยังอุโมงค์ที่นำไปสู่ชั้นสองของสุสานดาวทันที
อุโมงค์นั้นยาวและแคบ อย่างไรก็ตามในนี้ก็ไม่มีมอนสเตอร์ แถมมานาในนี้ก็ยังมีความหนาแน่นอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งสถานการณ์นี้มันก็ช่วยให้ทุกคนนั้นผ่อนคลายสภาพจิตใจไปได้มาก
ในขณะเดียวกันหลังจากเดินมาประมาณห้านาที ทุกคนก็ได้มาถึงชั้นสองของสุสานดาว และแรงกดดันก็เข้าปะทะกับทุกคนทันทีที่พวกเขามาถึง
“ทำไมแรงโน้มถ่วงของที่นี่จึงสูงกว่าชั้นแรกมาก ?” อควาโรสนั้นรู้สึกอึดอัดทันที เมื่อเธอก้าวขึ้นมาที่ชั้นสอง
ในชั้นแรกนั้นเธอแทบไม่รู้สึกถึงผลกระทบของแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นเลย อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอกับรู้สึกว่าร่างกายของเธอหนักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแม้แต่ความคล่องตัวของเธอนั้นก็ลดลง
“แรงโน้มถ่วงที่นี่นั้นมีมากกว่าชั้นแรกถึงสองเท่า ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นขีดจำกัดของเราแล้ว …” เมื่อซือเฟิงสัมผัสได้ถึงแรงโน้มถ่วงที่ชั้นสอง เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแรงโน้มถ่วงของที่นี่จะทรงพลังมากขนาดนี้
จากสิ่งที่เขารู้จากในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้น แรงโน้มถ่วงที่ปราบปรามผู้เล่นในสุสานดาวนี้จะเพิ่มขึ้นทุกชั้น เมื่อผู้เล่นเดินทางไปยังชั้นสูงขึ้น ดังนั้นการจะขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดของสุสานดาวจึงยากอย่างไม่น่าเชื่อ และหลังจากไปถึงชั้นที่สี่แล้ว แม้แต่ผู้เล่นขั้นสามที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้อย่างสมบูรณ์แบบก็จะไม่สามารถต่อสู้ได้โดยไม่มีอุปกรณ์ต้านแรงโน้มถ่วง
อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ต้านแรงโน้มถ่วงนั้นได้รับการพิจารณาว่าหายากอย่างไม่น่าเชื่อใน God domain ในความเป็นจริงผู้เล่นสายอาชีพไม่สามารถผลิตมันขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ อันเนื่องมาจากมันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโบราณ
หลังจากนั้นซือเฟิงและคนอื่นๆก็เริ่มกวาดล้างเหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่นอกทางออกอุโมงค์
แม้ว่าแรงโน้มถ่วงที่ชั้นที่สองนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่ความแข็งแกร่งกับเลเวลของมอนสเตอร์นั้นก็แทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือในกลุ่มมอนสเตอร์นั้นมันมีลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ยักษ์ดินเพิ่มขึ้นมาจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อซือเฟิงและคนอื่นๆเลย
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจที่สุดนั่นก็คือมอนสเตอร์ที่นี่นั้นให้ EXP มากกว่ามอนสเตอร์ในชั้นแรกอย่างน้อยสามเท่า ด้วยเหตุนี้ความเร็วในการเก็บเลเวลของทุกคนจึงเพิ่มขึ้นกันอย่างน้อยห้าสิบเปอเซ็นต์ เมื่อเทียบกับโลกภายนอก นอกจากนี้ไอเทมที่มอนสเตอร์ในชั้นนี้ดรอปมันก็ยังดีกว่าในชั้นแรกมาก แม้แต่ลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ ยักษ์ดินบางตัวก็ยังดรอปอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ
นอกเหนือจากนี้แล้วที่ชั้นสองยังมีมานาเบาบางกว่าชั้นแรกมาก ซึ่งมันส่งผลให้ทุกคนนั้นสามารถฝึกปรับปรุงการควบคุมมานาของร่างมานาของพวกเขาได้ในขณะต่อสู้
ซึ่งเมื่อเป็นดังนี้นั้นทั้งหมดจึงล่ากันอยู่ที่ชั้นสองเป็นเวลาสองวัน โดยค่อยๆขยับจากพื้นที่ชั้นนอกเข้าไปยังชั้นใน ซึ่งมันก็ทำให้ผู้เล่นหลายคนในทีมนั้นมีเลเวลเพิ่มขึ้นมากมาย
น่าเสียดายที่สำหรับซือเฟิงนั้น เขาได้มาถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบเอ็ดแล้ว ดังนั้นจำนวน EXP ที่เขาได้รับจากมอนสเตอร์ที่ชั้นสองมันจึงไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้นเลเวลของเขาจึงไม่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สนเรื่องนี้ สิ่งที่เขาสนจริงๆคือเขายังไม่ได้รับดาวแห่งแสงมาเลย ตลอดการล่าสองวันที่นี่
“หัวหน้ากิล ฉันค้นพบหีบสมบัติระดับตำนานที่อ่อนแอตรงนี้ !!!” ไฟเออร์แดนซ์ซึ่งถูกส่งไปสอดแนมด้านหน้ารายงานกลับมาหาทีมด้วยความตื่นเต้น
หีบสมบัติระดับตำนานที่อ่อนแอ ? ซือเฟิงตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของไฟเออร์แดนซ์
ตามความทรงจำของเขา สุสานดาวไม่ควรมีหีบสมบัติแม้แต่หีบเดียว ไม่ต้องพูดถึงหีบสมบัติระดับตำนานที่อ่อนแอเลย