Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2494

อีเว้นระดับตำนาน

เมื่อเห็นซือเฟิงหายตัวไป แอทล๊อคก็ยิ่งเต็มไปด้วยความโกรธมากยิ่งขึ้น

คุณคิดว่าคุณจะสามารถหลบหนีฉันไปได้ง่ายๆงั้นหรอ ? โจรผู้โง่เขลา !!!

ดวงตาของเงาของเทพปีศาจหรี่ลงขณะที่มันจ้องมองไปทางตอนใต้สุดของป่า และด้วยการตวัดมือเพียงแค่ครั้งเดียว แอทล๊อคก็ได้สร้างสปาร์เชี่ยลเกตขึ้นมา และก้าวเข้าไปในนั้นโดยปล่อยให้แอนนา วัลคีรี่ชั้นสูง และอาร์สเล็ทไว้ในวิหาร

ขณะที่แอทล๊อคจากไปนั้น วิหารก็เริ่มจางหายไป ผู้เล่นนอกวิหารนั้นก็อ้าปากค้างมากยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าซือเฟิงจะสามารถหนีรอดไปได้ทั้งๆแบบนี้ และประสบความสำเร็จในสิ่งที่แม้แต่มหาอำนาจต่างๆในทวีปด้านตะวันตกก็ยังไม่สามารถจะทำได้

แม้ว่าซือเฟิงจะใช้วิธีการที่เหมือนการโกง แต่มันก็เป็นความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเขาได้รับสมบัติจาการล่อลวงของเทพปีศาจ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจมากที่สุดก็คือ เงาของเทพปีศาจนั้นได้ทลายขีดจำกัดจนมาถึงขั้นห้าได้ในช่วงวินาทีสุดท้าย ….

หลังจากได้เห็นพลังการต่อสู้ของเงาของเทพปีศาจที่อยู่ในขั้นสี่ พวกเขาทุกคนก็รู้ว่ามันจัดว่าจัดว่าแทบจะเป็นอมตะเลยแม้แต่ในหมู่พวกขั้นห้าก็ตาม และการจะทำลายทั้งจักรวรรดินั้นก็จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยสำหรับสิ่งมีชีวิตแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงอาณาจักร ….

นอกจากนี้เงาของเทพปีศาจก็ได้ออกจากวิหารไปเพื่อไล่ล่าซือเฟิงต่อ สถานการณ์นี้มันช่างบ้าบอสุดๆ ….

“ผู้บัญชาการ พวกเราก็รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ !!! หากเงาของเทพปีศาจกลับมา มันจะไม่หยุดจนกว่าพวกเราทุกคนจะตายแน่นอน !!!” ธันเดอร์บีสต์ได้กระตุ้นให้เฮลรัชรีบออกคำสั่ง เมื่อเขาเห็นแอทล๊อคใช้สปาร์เชี่ยลเกตจากไป

แม้จะไม่มีคำเตือนจากซือเฟิงให้หนี แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขานั้นมันอันตรายมากแค่ไหน
“ถอย !!!”

เฮลรัชนั้นทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ ขณะที่เขามองไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของป่า แม้ว่าซือเฟิงจะได้รับสมบัติมาแล้ว แต่ตอนนี้เงาของเทพปีศาจขั้นห้าก็กำลังตามล่าเขาอยู่ ซึ่งมันทำให้โอกาสในการรอดชีวิตของซือเฟิงแทบจะไม่มีอยู่จริงเลย

ตัวตนของเงาของเทพปีศาจขั้นห้านั้นไม่ใช่ตัวตนที่จัดว่าเล็กน้อยเลย แม้แต่มังกรขั้นห้าก็ยังไม่สามารถจะหลบหนีจากความโกรธเกรี้ยวของแอทล๊อคได้

ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของกองกำลังนรก และสภาสิบแปดปีกกำลังทำการเดินทางกลับไปยังชั้นแรกของสุสานดาว ซือเฟิงผู้ซึ่งหนีไปด้วยม้วนคัมภีร์เคลื่อนย้ายทันทีขั้นสามก็ได้เปิดใช้งานพลังสึกกร่อนของตัวเอง เพื่อทำให้ตัวเองขึ้นไปอยู่ในขั้นสี่ชั่วคราว จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานเกลโดเมน และบินไปยังทางออกของสุสานดาวด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งความเร็วของเขานั้นก็ไม่ได้ช้าไปกว่าอะเม้าท์บินได้เลย

อย่างไรก็ตามก่อนที่ซือเฟิงจะไปได้ถึงระยะสองพันหลา สปาร์เชี่ยลเกตก็เปิดออกขึ้นมาขวางทางของเขา และแอทล๊อคก็โผล่ออกมา

มันเทเลพอร์ตมาที่นี่โดยตรง ?

เมื่อได้เห็นเงาของเทพปีศาจนั้นมันก็ทำให้ซือเฟิงพูดไม่ออกเลย เขาไม่คาดคิดเลยว่าแอทล๊อคจะโหดเหี้ยมมากขนาดนี้

จากสิ่งที่ซือเฟิงจำได้จากชีวิตที่ผ่านมาของเขา เงาของเทพปีศาจที่เฝ้าวิหารอยู่นั้นไม่ควรจะสามารถไล่ตามผู้เล่นมาได้ เมื่อผู้เล่นออกมาจากวิหารพร้อมสมบัติ แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่แอทล๊อคจะยังคงไล่ล่าเขาต่อ มันยังเทเลพอร์ตมาหาเขาโดยตรงด้วย ….

“ฉันจะจำกัดทุกส่วนของคุณไม่ให้เหลืออยู่ในโลกแห่งนี้เลย !!!” ในขณะที่แอทล๊อค
มองเห็นเหยื่อของมัน มันก็เริ่มร่ายเวทย์

ท้องฟ้าที่อยู่เหนือซือเฟิงนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และมันก็มีไฟไหลออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดครอบคลุมรัศมีสี่พันหลา

ตำสาปขั้นห้า Extinction Flames !

โดยปกติแล้ว มหาจอมเวทย์ที่เป็นพวกสายเวทย์ศักสิทธิ์ขั้นห้านั้นจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบวินาทีในการร่ายเวทย์นี้ แต่แอทล๊อคกับสามารถร่ายมันได้ทันที

ยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นยังจะไม่สามารถใช้ม้วนคัมภีร์เคลื่อนย้ายทันทีขั้นสามได้ในคำสาป AOE แบบ Extinction Flames ด้วย

เมื่อสังเกตเห็นฉากนี้จากระยะไกล สมาชิกของกองกำลังนรกและสภาสิบแปดปีกก็ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ แม้จะมองจากที่ไกลๆ พวกเขาก็สามารถจะมองเห็นเปลวไฟที่ลุกท่วมพื้นที่เหนือป่าทางตอนใต้ได้ และเปลวไฟพวกนี้ก็ดูเหมือนมันจะค่อยๆกลืนกินพื้นที่ป่าอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

ใครจะไปรอดพ้นจากการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้ได้ ?

ทันใดนั้นรอยแยกมิติก็เปิดขึ้นตรงหน้าทีมของพวกเขา และก็มีร่างๆหนึ่งกระโดดออกมา ซึ่งร่างนี้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซือเฟิงที่อยู่ในสภาพน่าสังเวชมากๆ แถม HP ของเขาก็ยังลดลงติดถึงขั้นวิกฤตแล้ว

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ? นี่คุณสามารถหนีการโจมตีนั่นมาได้จริงๆงั้นหรอ ?” เฮลรัชอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจ เมื่อได้เห็นนักดาบ

ขณะเดียวกันสมาชิกทีมที่เหลือนั้นก็ทำได้แค่จ้องมองมายังฉากนี้ด้วยความตกตะลึงเท่านั้น ….

เทพปีศาจนั้นได้ใช้คำสาปขั้นห้าใส่ซือเฟิงอย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังสามารถหนีรอดมาได้ทั้งๆที่ยังมีชีวิต นี่มันไม่น่าเชื่อเลย !!!

“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เงาของเทพปีศาจยังไม่สังเกตเหห็นฉัน !!! ฉันจะเปิดสปาร์เชี่ยลเกต และพาเราเทเลพอร์ตไปที่ชั้นหนึ่ง !!! ซึ่งทันทีที่ฉันเปิดมัน ให้รีบก้าวเข้าไปทันที !!!” ซือเฟิงตะโกนออกคำสั่ง เมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมทีมของเขาจ้องมองมาที่เขา

วิธีการเดียวที่จะหลบหนีออกมาจากคำสาปขั้นห้าได้นั้นจะต้อใช้ม้วนคัมภีร์เคลื่อนย้ายทันทีขั้นสี่เป็นอย่างน้อย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าซือเฟิงจะไม่มีมันอยู่ในมือ แต่เขาก็มีแหวนเจ็ดลูมินาลี่ ซึ่งมีสกิลที่ไม่ธรรมดาที่ช่วยให้เขาหลบหนีได้

ซึ่งด้วยสกิลการเคลื่อนย้ายอวกาศของแหวนเจ็ดลูมินาลี่นั้น มันก็ทำให้เขาจะสามารถเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ใดก็ได้ภายในรัศมีหกแสนหลา แต่เมื่อเขากระโดดหนีเข้ามาในรอยแยกมิตินี้เปลวไฟของคำสาปกับตามเขามาด้วย และมันก็เกือบจะกลืนกินชีวิตของเขา โชคดีที่เขาเปิดใช้งานพลังสึกกร่อน ซึ่งทำให้เขาได้รับพลังป้องกัน และ HP รวมทั้งความสามารถของผู้เล่นขั้นสี่มาชั่วคราว หากเขาอาศัยเพียงแต่พลังจากสกิลเบอเซิกร์ของเขา เขาจะตายไปนานแล้วแน่นอน

อย่างไรก็ตามสกิลการเคลื่อนย้ายอวกาศนั้นมีคูลดาวน์สามนาที และหากเงาของเทพปีศาจมาหาเขาอีกครั้ง เขาจะไม่รอดแน่นอน

เขาไม่สามารถจะทิ้งกองกำลังนรก และพรรคพวกของเขาไว้ที่นี่ได้ และตอนนี้นั้นแอทล๊อคก็โกรธอย่างมาก และมันก็มีสิทสูงมากที่แอทล๊อคจะเปลี่ยนทุกตารางนิ้วของสุสานดาวให้กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย ซึ่งอควาโรสและคนอื่นๆนั้นจะสามารถรอดชีวิตไปได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาออกจากดันเจี้ยนภูมิภาคแห่งนี้ไปแล้วเท่านั้น

ขณะเดียวกันพรรคพวกของเขา รวมทั้งกองกำลังนรกก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่อันตรายอย่างมากดี ซึ่งเมื่อซือเฟิงทำการเปิดสปาร์เชี่ยลเกต พวกเขาก็รีบกระโจนเข้าไปอย่างไม่รีรอ และหายไปจากชั้นสองของสุสานดาวทันที

กว่าแอทล๊อคจะตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้และพยายามจะตามมานั้น ทุกคนก็หนีไปได้ทั้งหมดแล้ว

“โจรที่น่ารังเกียจ ยังไงซะฉันก็จะไม่ปล่อยให้คุณหนีไปได้แน่นอน !!!” แอทล๊อคคำราม ขณะมองไปยังสปาร์เชี่ยลเกตของซือเฟิงที่พึ่งจะหายไป ในขณะเดียวกัน เมื่อซือเฟิงอยู่นอกสุสานดาว เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ

ระบบ : คุณได้เปิดใช้งานเควสระดับตำนาน “ความโกรธเกรี้ยวของเทพปีศาจ” คุณได้ขโมยสมบัติของเทพปีศาจแอทล๊อค และเทพปีศาจนั้นได้ใช้คำสาปวิญญาณกับคุณเป็นการตอบโต้ ไม่เพียงแต่เทพปีศาจแอทล๊อค และญาติของเขาจะตามล่าคุณ แต่คุณยังจะได้รับโทษจากการตายมากกว่าเดิมถึงสามเท่า นอกจากนี้คุณยังจะสูญเสียหนึ่งเลเวลทุกๆเจ็ดวัน และเมื่อเลเวลของคุณลดลงต่ำกว่าหนึ่งร้อย เทพปีศาจก็จะค้นพบคุณ

เนื้อหาของเควส : ฆ่าเงาของเทพปีศาจแอทล๊อค ไม่จำกัดเวลา รางวัล : Unknown

เมื่อซือเฟิงได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ ทุกคนก็ได้ยินเสียงประกาศจากระบบ

ประกาศจากระบบภูมิภาคหุบเขาดาว : ผู้เล่นได้ทำการเปิดอีเว้นระดับตำนานของหุบเขาดาว “ความโกรธเกรี้ยวของเทพปีศาจ” ศาลเจ้าของเทพปีศาจจะถูกเปิดขึ้นในหุบเขาดาวภายในหนึ่งวัน และมันจะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสได้รับมรดกเทพปีศาจได้

ประกาศของระบบนั้นดังขึ้นสามครั้งซ้อน และผู้เล่นทุกคนในหุบเขาดาวนั้นก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน ชั่วขณะหนึ่งความโกลาหลได้เข้าปกคลุมไปทั่วหุบเขาดาวเลยทีเดียว

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset