ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาระดับอีปิค
ในขณะที่ซือเฟิงดึงหัวใจเทพออกมาจากกระเป๋าของเขา ชีพจรมานาก็เริ่มกระพริบไปทั่วห้องหลักที่มืดและเงียบ มันอาจเป็นมานาไม่มากนัก แต่มันก็มีพลังมากพอที่จะทำให้พื้นที่ภายในห้องสั่นไหวได้
เมื่อชีพจรพบกับบาเรียเวทย์มนต์ของห้อง มันก็เริ่มสั่นสะเทือนจนแทบจะล้มเหลวในการปิดกั้นมานา
แน่นอนเลยว่าหัวใจเทพนั้นมันทรงพลังอย่างมาก ฉันแค่หยิบมันออกมาจากกระเป๋า แต่มันก็เกือบจะทำลายบาเรียเวทย์มนต์ของห้องลงได้แล้ว ซือเฟิงจ้องมองไปที่บาเรียเวทย์มนต์รอบห้องด้วยความประหลาดใจ
โชคดีที่เขาอยู่ห้องหลักของป้อมปราการโบราณ บาเรียเวทย์มนต์เหล่านี้มันจึงแข็งแกร่งกว่าบาเรียทั่วไปมาก แม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายก็ยังจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการพยายามจะทำลายมัน หากเขานำหัวใจเทพออกมาจากกระเป๋าในบริเวณอื่นของป้อมปราการแสงดาว มันจะไม่มีที่ไหนสามารถทนต่อชีพจรมานาได้แน่นอน พลังงานจะหลุดรอดออกไปและดึงดูดความสนใจของทุกคนในป้อมปราการทันที
อย่างไรก็ตามตอนนี้ชีพจรมานานั้นได้เพิ่มความหนาแน่นของมานาภายในห้องขึ้นอย่างมาก ตอนนี้มันมีชั้นหมอกที่ดูอ่อนโยนอยู่เต็มห้องหลัก หากผู้เล่นได้มาฝึกฝนที่นี่ พวกเขาก็มีแนวโน้มจะฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงได้โดยไม่ต้องพัก พวกเขานั้นสามารถจะฝึกฝนไปได้จนกว่าพวกเขาจะพอใจเลย
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เปิดใช้งานสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำเพื่อประเมินหัวใจเทพ
[หัวใจของออกัสตัสที่ได้รับความเสียหาย] (วัสดุระดับดีไวน์อาติแฟคที่อ่อนแอ)
นี่คือหัวใจของออกัสตัส เทพแห่งความป่าเถื่อน และมันมีการตกผลึกของพลังงานนิรันดร์ เมื่อออกัสตัสตายลง เทพปีศาจแอทล๊อคได้นำหัวใจของเขามาทำการปรับปรุงและแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อเปิดใช้งานวงเวทย์ที่สลักไว้ที่หัวใจ ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับพลังงานที่หนาแน่นเป็นเวลาสิบสองชั่วโมง และวงเวทย์นั้นจะต้องใช้เวลาสามเดือนในการฟื้นฟู หลังจากเปิดใช้งานแต่ละครั้ง และการคืนค่าพลังงานนิรันดร์ให้กับวงเวทย์นี้ก็ทำได้ด้วยการสังเวยคริสตัลเทพเจ้าหนึ่งชิ้น
นี่มันน่าทึ่งมากจริงๆ !!! แอทล๊อคได้เปลี่ยนหัวใจเทพให้กลายเป็นเครื่องมือที่สามารถจัดหาพลังงานนิรันดร์ได้ไม่รู้จบ !! เมื่อซือเฟิงอ่านข้อมูลของหัวใจของออกัสตัส เขาก็ตกตะลึงอย่างมาก
โดยทั่วไปหัวใจเทพนั้นเป็นยุทธปัจจัยที่สามารถใช้ได้ครั้งเดียว เมื่อผู้เล่นปลดปล่อยพลังงานนิรันดร์ที่มีอยู่ภายในหัวใจเทพทั้งหมดออกมา ในที่สุดหัวใจเทพก็จะหมดพลังงานนิรันดร์และจางหายไปจากการดำรงอยู่
มันมี NPC ขั้นห้าเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจะปลดปล่อยและควบคุมพลังงานนิรันดร์จากหัวใจเทพได้ ซึ่งนี่มันก็จะทำให้พวกเขานั้นสามารถใช้พลังงานนิรันดร์ได้หลายครั้ง ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าหัวใจเทพนั้นจะหายไปเมื่อพลังงานนิรันดร์หมดลง
แต่ถึงกระนั้นแอทล๊อคกับแก้ไขหัวใจของออกัสตัสได้สำเร็จโดยเปลี่ยนมันเป็นเครื่องมือที่สามารถนำเสนอพลังงานนิรันดร์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซือเฟิงนั้นได้รับแจ๊คพอตอย่างมากแน่นอนในครั้งนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแอทล๊อคถึงมุ่งมั่นที่จะฆ่าโดยถึงขนาดใช้มรดกของเทพปีศาจเป็นเหยื่อล่อ
แม้ว่าจะสามารถใช้หัวใจของออกัสตัสที่ถูกแก้ไขได้เพียงสิบสองชั่วโมงสั้นๆ แต่มันก็นับเป็นเวลาที่มากเกินพอสำหรับผู้เล่น ข้อเสียที่สำคัญเพียงอย่างเดียวของมันก็คือ มันมีคูลดาวน์นานสามเดือน แต่ถึงกระนั้นหัวใจของออกัสตัสก็ยังจัดว่าน่าทึ่งอย่างมาก
ผู้เล่นนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคนับไม่ถ้วนบนเส้นทางที่จะนำไปสู่ขั้นที่สูงขึ้น และมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดนี้ให้ได้ในคราวเดียว ผู้เล่นจะต้องค่อยๆเผชิญหน้ากับพวกมันไปทีละอย่างๆ ร่างมานาในขั้นสาม และการควบคุมมานาในขั้นสี่เป็นสองตัวอย่างที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นสามารถจะทลายขีดจำกัดทั้งหมดนี้ได้ด้วยหัวใจของออกัสตัส
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังจะสามารถใช้คริสตัลเทพเจ้าเพื่อหลีกเลี่ยงคูลดาวน์ได้ด้วย ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างพอใจอย่างมากกับความพยายามครั้งล่าสุดของเขา
หากข้อมูลของหัวใจแห่งออกัสตัสรั่วไหลออกไป ทั่วทั้ง God domain จะเข้าสู่ความบ้าคลั่งแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ผู้เล่น และ NPC
ซือเฟิงนั้นใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อระงับความตื่นเต้นของเขา และเริ่มเปิดใช้งานวงเวทย์ภายในหัวใจของออกัสตัส ก่อนที่เขาจะเตรียมพร้อมที่จะรับมรดกมานาของนักบุญสวรรค์น้ำเงิน
อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ขมวดคิ้ว เมื่อเขาได้ตรวจสอบวงเวทย์
วงเวทย์นี้มันซับซ้อนกว่าที่เขาเคยพบมาก่อนอย่างมาก การจัดการมันจะเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากแม้ว่าเขาจะกลายเป็นปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นกลางแล้วก็ตาม ปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นพื้นฐานนั้นจะไม่มีโอกาสเปิดใช้งานวงเวทย์นี้ได้เลย
แน่นอนเลยว่าระบบหลักของ God domain จะไม่ยอมมอบพลังที่มากเกินไปให้กับผู้เล่น ซือเฟิงมองไปยังวงเวทย์ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มขมขื่น
เขาต้องการจะใช้คริสตัลเทพเจ้าเพื่อเร่งเวลาและช่วยให้โคล่ากับคนอื่นๆสามารถปลดล๊อคศักยภาพสูงสุดของร่างมานาของพวกเขาให้ได้ เมื่อเขาทำมันได้สำเร็จ เพราะท้ายที่สุดยิ่งทำเรื่องนี้ได้เร็วเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ….
การเปิดใช้งานวงเวทย์ของหัวใจของออกัสตัส จะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เว้นแต่จะกลายเป็นปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นกลางแล้ว ตอนนี้ความฝันของเขาในการจะจัดตั้งกองทัพผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังได้สลายไปแล้ว
การจะก้าวหน้าต่อไปในฐานะปรมาจารย์นักเวทย์ใน God domain นั้นทำได้ยากกว่าการก้าวหน้าต่อไปในฐานะปรมาจารย์ช่างตีเหล็กอย่างมาก และมันก็มีผู้เล่นเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สำเร็จ
เพราะท้ายที่สุดการจะก้าวหน้าไปต่อหลังจากกลายเป็นปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นพื้นฐานแล้วมันยากอย่างไม่น่าเชื่อด้วยความซับซ้อนของวงเวทย์ ….
ในสภาสิบแปดปีกทั้งหมด มันมีเพียงอควาโรสและไวโอเล็ทคลาวด์เท่านั้นที่มีโอกาสจะกลายเป็นปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นพื้นฐาน และก้าวหน้าต่อไปได้ คนอื่นๆยังคงมีหนทางอีกยาวไกล ดังนั้นแค่ตัวเขา กับผู้เล่นอีกสองคนจึงยังไม่เพียงพอจะสร้างกองทัพได้
ซือเฟิงนั้นส่ายหัวและขับไล่ความคิดของเขาออกไป โดยเขาได้เริ่มมุ่งความสนใจไปที่การเรียนรู้และถอดรหัสวงเวทย์ทันที
สิบนาที…ยี่สิบนาที…สี่สิบนาที…
เมื่อซือเฟิงทำการถอดรหัสเส้นทางมานาสุดท้าย หัวใจของออกัสตัสก็สว่างไสวด้วยแสงหลากสี จากนั้นกระแสหมอกสีม่วงก็ไหลจากไอเทมมาเข้าสู่ซือเฟิง
ทันใดนั้นซือเฟิงก็รู้สึกสบายใจอย่างไม่น่าเชื่อ และจิตใจของเขาก็ปลอดโปร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พลังงานนิรันดร์นั้นมันพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่ามานาที่หนาแน่นหลายเท่า
หลังจากนั้นไม่นาน ซือเฟิงก็ได้ดึงคริสตัลความทรงจำที่อีเลียดี้มอบให้เขาออกมา และทำการศึกษามรดกร่างมานาที่เธอทิ้งไว้ให้
เทคนิคร่างมานาของเทพธิดานั้นซับซ้อนกว่าเทคนิคมานาของเธอซะอีก ไม่เพียงแต่มันจะมีข้อมูลเกี่ยวกับมานาและการควบคุมมานา แต่มันยังมีข้อมูลที่กระชับเกี่ยวกับโครงสร้างของมานาด้วย
จากการวิจับของอีเลียดี้ ยิ่งร่างมานานั้นมีระดับสูงเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งวิธีการที่จะใช้ควบคุมร่างมานาของตนมันก็จะยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้นไปด้วย ร่างมานาระดับอีปิคนั้นเทียบเท่ากับวงเวทย์ขนาดใหญ่พิเศษซึ่งประกอบไปด้วยวงเวทย์ขนาดเล็กหลายร้อยวง
มันมีหลายวิธีในการจะควบคุมวงเวทย์ขนาดใหญ่พิเศษนี้ แต่มันมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุมวงเวทย์ทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ พวกเขาจะต้องสร้างวงเวทย์อย่างง่ายที่จะช่วยผู้ใช้ในการควบคุมวงเวทย์หลักหลายๆวงเวทย์ และยิ่งวงเวทย์อย่างง่ายนี้สามารถควบคุมวงเวทย์หลักได้มากเท่าไหร่ พลังของวงเวทย์ขนาดใหญ่พิเศษมันก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
หากซือเฟิงพยายามประมวลผลข้อมูลทั้งหมดภายในคริสตัลความทรงจำ ก่อนที่เขาจะได้รับหัวใจแห่งออกัสตัสมา เต็มที่มานาที่หนาแน่นก็จะช่วยไม่ให้เขาปวดหัวเท่านั้น อย่างไรก็ตามโชคดีที่พลังงานนิรันดร์นั้นมีประโยชน์มากกว่านั้น เพราะมันช่วยเพิ่มความเข้าใจและความทรงจำของเขาด้วย แต่มันยังช่วยให้เขาสร้างวงเวทย์ง่ายๆที่จำเป็นสำหรับการการควบคุมการไหลของมานาภายในร่างของเขาได้ดีขึ้นด้วย
ในช่วงเวลาหนึ่ง ซือเฟิงได้แผ่มานาทั้งที่หนาแน่น และเบาบางออกมาแบบสุ่ม โดยมานาที่หนาแน่นที่สุดที่เขาแผ่ออกมาได้นั้นมันหนาแน่นพอๆกับมานาในเมืองป่าหินเลย และที่เบาบางที่สุดซือเฟิงก็สามารถแผ่มานาออกมาได้หนาแน่นในระดับที่ใกล้เคียงกับเมือง NPC ทั่วไป
ในระหว่างกระบวนการ ซือเฟิงก็ได้ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเขาอย่างรวดเร็ว
40%… 55%… 70%…
อย่างไรก็ตามยิ่งซือเฟิงปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเขาไปได้มากเท่าไหร่ ความคืบหน้าของเขาก็เริ่มจะช้าลง และเมื่อระยะเวลาของคริสตัลความทรงจำสิ้นสุดลง ซือเฟิงก็ปลดล๊อคไปได้แค่แปดสิบสองเปอเซ็นต์เท่านั้น มันยังคงอยู่ห่างไกลจากหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์
ผ่านไปเก้าชั่วโมง หลังจากที่ซือเฟิงเปิดใช้งานหัวใจของออกัสตัสแล้ว เขาก็ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเขาไปได้เก้าสิบเอ็ดเปอเซ็นต์เท่านั้น ….
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบสิบสองชั่วโมง คลื่นมานาที่รุนแรงก็ระเบิดออกมาจากร่างของ.ซือเฟิง และก่อตัวเป็นหมอกในห้องหลัก หมอกนั้นดูเบาบางมากๆ และผู้เล่นที่ไม่ได้สนใจอาจจะพลาดมันไปได้เลย แต่มันก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าซือเฟิงกำลังหลั่งมานาที่หนาแน่นมากออกมาจนสามารถกลั่นตัวเป็นของเหลวได้
ในที่สุดก็สำเร็จ !!!
ดวงตาของซือเฟิงกระพริบด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาสังเกตเห็นมานาที่ไหลไปทั่วร่างกายของเขาโดยอัตโนมัติ