การต่อสู้เหนือประตูเทเลพอร์ตระดับทองแดง
“เพอเพิ้ล ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ ?” เมื่อนักดาบหญิงชื่อว่า เกรซฟูลมูน หันหน้าไปทางต้นตอของเสียง ดวงตาของเธอก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
ในช่วงเวลาต่อมา Elementalist หญิงขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยเจ็ดที่สวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน และถือไม้เท้าสีม่วงเข้มก็เดินตรงเข้ามาหาเกรซฟูลมูน และก็คล้ายกับเกรซฟูลโมนาร์ช Elementalist หญิงผู้นี้ใกล้จะเข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้แล้ว และการปรากฎตัวของ Elementalist หญิงผู้นี้ก็ทำให้มานาโดยรอบนั้นดูเชื่องกว่าเดิมมาก ราวกับว่ามันได้พบกับเจ้าของแล้ว
การปรากฎตัวของ Elementalist หญิงผู้นี้ได้ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างทันที และทุกคนก็หันมามองทางเธอ โดยเฉพาะผู้เล่นหญิงหลายคนที่จ้องมองมายังเธอด้วยความกลัวและเคารพ
“อะไรกัน ?! เพอเพิ้ลรากษส ?! เธอมาที่นี่ด้วยงั้นหรอ ?!”
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขตแสงสุดขีดของเราจะมีความหวังในการที่จะปกป้องประตูเทเลพอร์ตระดับทองแดงไว้ได้นะ …”
“มันก็เป็นเรื่องปกติแหละ เพราะท้ายที่สุดแล้วเพอเพิ้ลรากษสเองก็เป็นหนึ่งในสาม Elementalists ที่แข็งแกร่งที่สุดในดาร์คเดนเช่นเดียวกับ Elementalists ในเขตหนึ่งอย่างบลูฟอร์ส แม้ว่าเธอจะพึ่งเลื่อนขั้น เมื่อไม่นานมานี้ แต่เธอก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าบลูฟอร์สเลยแม้แต่น้อย และต่อไปเธออาจปราบปรามบลูฟอร์สจนขึ้นเป็น Elementalists อันดับหนึ่งแห่งดาร์คเดนได้เลยด้วยซ้ำ”
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองไปยัง Elementalists หญิงขั้นสามที่แต่งตัวหรูหรา พวกเขาต่างก็พูดคุยกันอย่างดุเดือด บรรยากาศที่ตึงเครียดนั้นเข้าห่อหุ้มทั้งเขต ….
เพอเพิ้ลรากษส ? อย่างไรก็ตามสำหรับซือเฟิงนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เมื่อจ้องมองไปยัง Elementalists หญิงที่ดูเหมือนเสือดาวที่หยิ่งผยอง เพราะเขาไม่คิดเลยว่า เขาจะได้มาพบเธอ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสอง Elementalists ศักสิทธิ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดใน God domain ที่นี่
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของซือเฟิงบลูฟอร์สนั้นเคยดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งในนายพลที่มีความสามารถของศาลเจ้าแฟนตาซี และเขาก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกิลชั้นสูงกิลนี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าใน God domain ได้ อย่างไรก็ตามเพอเพิ้ลรากษสนั้นได้ใช้เวลาทั้งชีวิตของเธอในฐานะผู้เล่นอิสระ แต่เธอก็ยังคงสามารถที่จะไปถึงขั้นห้าได้ แถมเธอยังเป็นหนึ่งในสิบสอง Elementalists ศักสิทธิ์ที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงมากที่สุดที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน
ในตอนนั้น นอกเหนือจากผู้เชี่ยวชาญขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าแล้ว มันก็ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรกับเพอเพิ้ลรากษสได้เลย โชคร้ายเพียงอย่างเดียวคือเพอเพิ้ลรากษสนั้นไม่ได้พบกับโอกาสที่เหมาะสมมากเพียงพอ ไม่งั้นเธออาจกลายเป็นเทพจอมเวทย์ ขั้นหกไปแล้ว
ในขณะที่กลุ่มของซือเฟิงกำลังสังเกตเพอเพิ้ลรากษส กลุ่มของผู้เล่นด้านหลังที่ติดตามเธอมาก็มองมายังกลุ่มของซือเฟิงเช่นกัน ก่อนที่จะหันกลับไปสนใจเกรซฟูลโมนาร์ช โดยไม่ได้สนใจเลยว่ากลุ่มของซือเฟิงนั้นประกอบไปด้วยผู้เล่นขั้นสามทั้งหมด
ปัจจุบันผู้เล่นขั้นสามนั้นอาจจะทรงพลังมากๆ แต่มันก็ไม่ได้หายากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นมันยังคงมีความแตกต่างระหว่างผู้เล่นอยู่อย่างมาก แม้ว่าจะมาถึงขั้นสามเหมือนกันแล้วก็ตาม ซึ่งมันแตกต่างจากตอนที่ผู้เล่นยังคงอยู่ในขั้นสอง
เหตุผลหลักๆมันก็เกิดจากความแตกต่างของระดับร่างมานานั่นเอง
แถมหลายคนที่มาถึงขั้นสามได้ในตอนนี้นั้น ล้วนเลือกร่างมานาและทำทุกอย่างที่ง่ายที่สุด ดังนั้นความแข็งแกร่งของผู้เล่นขั้นสามส่วนใหญ่ที่เลือกทำแบบนี้จึงจะไม่เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อมาถึงขั้นสามแล้ว ในขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญขั้นสามส่วนใหญ่ที่เธอเห็นตามปกตินั้นก็เลื่อนขั้นเป็นขั้นสามด้วยวิธีนี้
ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามดังกล่าวอาจเป็นตัวตนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในสายตาของผู้เล่นทั่วไป แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถเช่นเธอนั้น เธอผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบนี้ก็ไม่ต่างจากผู้เชี่ยวชาญขั้นสองโดยทั่วไป พวกเขามีค่าสถานะพื้นฐานสูงกว่าผู้เล่นขั้นสองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ประตูเทเลพอร์ตระดับทองแดงของเขตแสงสุดขีดนั้นนั้นเป็นเส้นชีวิตที่จะนำเราไปสู่โลกภายนอก หากเราปล่อยให้ผู้เล่นจากโลกภายนอกผูกขาดมันจริงๆ ผู้เล่นท้องถิ่นอย่างพวกเราจะจบสิ้นแน่นอน ดังนั้นฉันก็ต้องใช้ความพยายามในการปกป้องมันเป็นธรรมดา” เพอเพิ้ลรากษสกล่าวขณะที่เธอมองไปยังเกรซฟูลโมนาร์ช
“ฉันเข้าใจ แต่ทั้งบลูฟอร์สหรือตัวเธอเองก็เป็น Elementalists และพลังการต่อสู้ที่ทั้งสองคนจะสามารถแสดงออกมาได้ในการต่อสู้แบบทีมนั้นมันก็มากกว่าอาชีพสายกายภาพอย่างตัวฉันเองหลายเท่า ถ้าเราให้ทั้งสองคนมาช่วยกัน เราก็จะมีโอกาสมากขึ้นในการที่จะสามารถป้องกันประตูเทเลพอร์ตระดับทองแดงไว้ได้” เกรซฟูลโม
นาร์ชกล่าวพลางถอนหายใจ
หากการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงเป็นเพียงการต่อสู้แบบทีมขนาดเล็ก เธอก็มีความมั่นใจอยู่บ้างว่าเขตแสงสุดขีดจะได้รับชัยชนะ แต่น่าเสียดายที่นี่มันเป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิในการจัดการประตูเทเลพอร์ตระดับทองแดง มันจึงนับเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นหลายแสนคน มันไม่ใช่การต่อสู้ที่ผู้เล่นระยะประชิดอย่างตัวเธอเองหวังจะสร้างความแตกต่างได้
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันออกไปสำหรับผู้เล่นนักเวทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบลูฟอร์สและเพอเพิ้ลรากษส สองในสาม Elementalists ที่แข็งแกร่งที่สุดในดาร์คเดน ทั้งสองนั้นมีเวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่ขั้นสามจำนวนมาก ซึ่งมันมีค่าอย่างยิ่งในสงครามที่กำลังจะมาถึง
มันไม่ใช่เรื่องที่จะกล่าวเกินจริงเลย หากจะบอกว่าแค่เพียงหนึ่งในคนเหล่านี้เข้าร่วมมันก็เทียบเท่ากับผู้เล่นระยะประชิดหลายสิบคนแบบเกรซฟูลโมนาร์ชเข้าร่วมแล้ว ไม่งั้นเธอคงจะไม่เชิญบลูฟอร์สมาเข้าร่วมงานนี้พร้อมกัน
“ทีมของบลูฟอร์สนั้นแข็งแกร่งมากๆ อย่างไรก็ตามสงครามในครั้งนี้นั้นมันก็มีคนบ้าหลายคนที่เข้าร่วมด้วย คุณคิดหรอว่าคุณจะสามารถเอาชนะมหาอำนาจจากโลกภายนอกได้ในสงครามที่กำลังจะมาถึง โดยอาศัยแค่ผู้เล่นท้องถิ่นงั้นหรอ คุณไม่รู้หรอว่ามหาอำนาจในโลกภายนอกนั้นทรงพลังมากขนาดไหน ?” เพอเพิ้ลรากษสพูดพลางส่ายหัว “แม้ในปัจจุบันนั้นตัวฉันเองก็แทบจะไม่สามารถต่อต้านผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของมหาอำนาจพร้อมกันสองถึงสามคนได้ สำหรับพวกสัตว์ประหลาดขอบเขตโดเมนของมหาอำนาจต่างๆ แค่จะเอาชีวิตรอดในการต่อสู้กับสักคนนั้นก็จัดเป็นปัญหามากแล้ว อย่างไรก็ตามมหาอำนาจเหล่านี้นั้นก็มีสัตว์ประหลาดขอบเขตโดเมนหลายคน”
“พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถเอาชนะได้งั้นหรอ ?” ดวงตาของเกรซฟูลโมนาร์ชนั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเพอเพิ้ลรากษส
เพราะท้ายที่สุดแล้วเพอเพิ้ลรากษสนั้นคือผู้ที่สามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญขั้นสามได้หลายสิบคนได้ด้วยตัวเอง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของกิลชั้นสูงนั้นก็ไม่มีใครจะเทียบกับเธอได้
เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นพบว่ามันยากที่จะเชื่ออย่างแท้จริงว่ามหาอำนาจจากโลกภายนอกมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เหนือกว่าเพอเพิ้ลรากษส
“อืมมม ฉันได้พบกับผู้เชี่ยวชาญมากมายในระหว่างการไปเยือนโลกภายนอกครั้งล่าสุด ฉันต้องยอมรับเลยว่ามาตราฐานการต่อสู้ของโลกภายนอกนั้นสูงกว่าดาร์คเดนมาก เรานั้นจะมีข้อได้เปรียบแค่เรื่องสกิลกับเวทย์ขั้นสาม รวมถึงพวกอาวุธกับอุปกรณ์เลเวลหนึ่งร้อยเท่านั้น” เพอเพิ้ลรากษสกล่าวอย่างนอบน้อม
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำยังไงกันดี ? หากสิ่งที่พูดเธอพูดเป็นความจริง เขตแสงสุดขีดของเราก็จะไม่มีโอกาสเลย” เกรซฟูลโมนาร์ชกล่าวพลางขมวดคิ้ว
แม้ว่าเธอจะรู้มานานแล้วว่ามหาอำนาจในโลกภายนอกนั้นไม่ง่ายเลย แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้
“ดังนั้นอย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้การร่วมมือกันกับรองหัวหน้ากิลอิลูซะรี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากจักรพรรดิคริมสัน เราจะสามารถคงอำนาจเหนือประตูเทเลพอร์ตระดับทองแดงได้อย่างง่ายดายและก็จะมีเวลาในการเตรียมการสิ่งต่างๆมากขึ้นด้วย” เพอเพิ้ลรากษสกล่าวแนะนำ จากนั้นเธอก็เหลือบไปมองที่กลุ่มของซือเฟิงและพูดต่อว่า “ไม่งั้นต่อให้ผู้เชี่ยวชาญของเขตหนึ่งมาถึง เราก็จะยังคงพ่ายแพ้อยู่ดี”
“ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้แล้ว” เกรซฟูลโมนาร์ชกล่าวโดยยินยอมทำตามคำแนะนำของเพอเพิ้ลรากษส เธอนั้นรู้ดีว่า Elementalist ไม่เคยโกหก ดังนั้นเมื่อเธอเห็นการแสดงออกที่จริงจังบนใบหน้าของเพอเพิ้ลรากษส เธอก็เข้าใจดีเลยว่าหากปราศจากความช่วยเหลือจากจักรพรรดิคริมสัน เขตแสงสุดขีดก็มีโอกาสจะชนะน้อยมากๆ
หลังจากนั้นเกรซฟูลโมนาร์ชก็ได้ให้เพอเพิ้ลรากษสติดต่อจักรพรรดิคริมสัน ก่อนจะหันไปสนใจกลุ่มของซือเฟิง
“ฉันต้องขอโทษที่เข้าใจตัวตนของคุณผิด และฉันก็หวังว่าคุณจะไม่ถือสาคำพูดของเพอเพิ้ลรากษสนะ เธอไม่ได้ดูถูกสภาสิบแปดปีก แต่ตอนนี้อนาคตของเขตแสงสุดขีดกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจริงๆ เธอจึงพูดมากไป อย่างไรก็ตามแทนคำขอโทษ ฉันสามารถเป็นตัวแทนของเขตแสงสุดขีดเสนอส่วนลดยี่สิบเปอเซ็นต์สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในเขตในวันนี้ แต่ว่าสงครามนั้นกำลังจะเริ่มเร็วๆนี้ ดังนั้นฉันจึงขอแนะนำให้คุณอย่าอยู่ที่นี่นานเกินไป ไม่งั้นคุณจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้ด้วย และคุณก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจากไป” เกรซฟูลโมนาร์ชกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษซือเฟิง
ในขณะที่ซือเฟิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเพอเพิ้ลรากษสก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“เกรซฟูล ข่าวดี รองหัวหน้ากิลอิลูซะรี่และทีมของเธอกำลังเดินทางมาแล้ว เธอบอกว่าเธอจะมาถึงในเร็วๆนี้ ซึ่งเมื่อเธอมาถึง เราก็จะสามารถเจรจาเรื่องหุ้นส่วนกับเธอได้” เพอเพิ้ลรากษสกล่าวพลางมองไปยังเกรซฟูลโมนาร์ช
ไม่นานหลังจากที่เพอเพิ้ลรากษสพูดจบ ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้นที่ถนนห่างออกไป ที่ยืนนำหน้าผู้เล่นเหล่านี้อยู่นั้นก็คือเครอลิคหญิงที่ดูงดงามและมีเสน่ห์มากๆ และการมาของผู้เล่นกลุ่มนี้มันก็ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่ผู้เล่นที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด
ซึ่งนี่เป็นสมาชิกทุกคนในทีมหนึ่งร้อยคนทีมนี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั้งหมด โดยจำนวนมากขนาดนี้นั้นมันเกือบจะเท่ากับจำนวนผู้เล่นขั้นสามทั้งหมดที่เขตแสงสุดขีดมีเลย