ชื่อเสียงแพร่กระจายไปทั่วดาร์คเดน
ทุกคนต่างประหลาดใจที่ซือเฟิงรอดชีวิตมาได้จากการพยายามป้องกันการโจมตีจากมือราชันปีศาจ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับทำได้แค่เพียงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ขอบคุณพระเจ้า พลังของมือราชันปีศาจนั้นมันยังไม่ได้อยู่ในขั้นห้าที่แท้จริง ถ้ามันแข็งกว่านี้อีกสักหน่อย แม้แต่โล่วอยก็จะไม่สามารถช่วยฉันได้แน่นอน
เมื่อซือเฟิงมองไปที่แถบ HP ของตัวเอง เขาก็ตระหนักว่าเขาเกือบจะตายไปแล้ว หากผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วมาใช้มือราชันปีศาจแทนโทรเบิ้ลไทม์ เขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะต้านทานได้ด้วยซ้ำ
ใน God domain เอฟเฟคของเครื่องมือเวทย์มนต์นั้นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสถานะของร่างมานา และเมื่อผู้เล่นที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอ
เซ็นต์ใช้มันนั้น มันก็จะช่วยยกระดับพลังของเครื่องมือเวทย์มนต์ขึ้นอย่างมาก
หากผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าเป็นผู้ใช้มือราชันปีศาจ พวกเขาก็น่าจะสามารถเพิ่มพลังมือราชันปีศาจให้ขึ้นไปอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นห้าได้ แต่อย่างไรก็ตามโชคดีที่โทรเบิ้ลไทม์ยังไม่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์
ด้วยความช่วยเหลือจากเกราะ Disintegration ซือเฟิงนั้นได้บังคับให้ตัวเองขึ้นไปปอยู่ขั้นสี่ได้ชั่วคราว แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับขั้นห้าเลย แม้ว่าเขาจะใช้ดาบแรก ไลท์ชาโด้วได้โดยมีพลังที่จุดสูงสุดของขั้นสี่ แต่การที่จะรับมือกับการโจมตีขั้นห้าที่แท้จริงให้ได้นั้น เขาก็จะต้องใช้ดาบที่สอง โฮลี่ดีวอร์ให้ได้อย่างเชี่ยวชาญ
สาเหตุหลักๆที่ทำให้เขามีสภาพที่น่าสังเวชแบบนี้คือความจริงที่ว่า ตัวเขาเองก็ยังใช้ไลท์ชาโด้วได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้ แม้ว่าเขาจะพัฒนาเทคนิคมาจนแทบสมบูรณ์แล้วก็ตาม ไม่งั้นมันจะช่วยเขาลดความเสียหายที่ได้รับจากมือราชันปีศาจลงไปได้มากกว่านี้แน่นอน
อย่างไรก็ตามนี่ก็นับเป็นขีดจำกัดในปัจจุบันของเขาแล้ว การจะใช้ไลท์ชาโด้วให้ได้สมบูรณ์แบบในตอนนี้มันยังเป็นไปไม่ได้ในทางปฎิบัติ แม้ว่าเขาจะขึ้นไปอยู่ขั้นสี่ได้ชั่วคราวก็ตาม
เทคนิคมานานั้นไม่เหมือนกับเทคนิคการต่อสู้ มันมุ่งเน้นไปที่การจัดการมานา
ด้วยเทคนิคการต่อสู้นั้น ยิ่งร่างกายของผู้เล่นแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งใช้ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ยิ่งผู้เล่นมีขั้นสูงเท่าไหร่ พวกเขาก็จะใช้เทคนิคการต่อสู้ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับเทคนิคการต่อสู้ เทคนิคมานานั้นยิ่งผู้เล่นเข้าถึงขั้นที่สูงขึ้นมากเท่าไหร่ ผู้เล่นก็จะยิ่งสัมผัสได้ถึงมานามากขึ้น และยิ่งควบคุมมานาได้ยากขึ้นเท่านั้น
เพียงแค่ใช้ไลท์ชาโด้วในขั้นสี่มันก็ผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาไปมากกว่าครึ่งแล้ว อัตราการผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่เขาต้องใช้นั้นมันสูงกว่าตอนใช้เทคนิคนี้ตอนอยู่ในขั้นสามหลายเท่า ….
“เมื่อคุณโจมตีเรียบร้อยแล้ว ผู้บัญชาการโทรเบิ้ล มันก็ถึงตาฉันแล้ว !!!” ซือเฟิงกล่าวขึ้น พลางจ้องมองไปยังเบอเซิกเกอร์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วยดวงตาเย็นชา
แม้ว่าซือเฟิงจะไม่ได้พูดดังมากนัก แต่เมื่อผู้รอดชีวิตของเขตเซนทิเนลได้ยินคำพูดของเขานั้น ทุกคนก็ล้วนขนลุกและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมากๆ
แม้แต่สัญชาตญาณของโทรเบิ้ลไทม์ก็ยังกรีดร้องให้เขาต้องวิ่งหนี และเขาก็ก้าวถอยหลังไปทีละก้าวโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ซือเฟิงค่อยๆเดินเข้าหาเขา
นักดาบผู้นี้นั้นแข็งแกร่งมาก !!! เขาคือสัตว์ประหลาดที่แท้จริงเลย !!!
ชายคนนี้นั้นรอดชีวิตจากการโจมตีของมือราชันปีศาจ และตอนนี้โทรเบิ้ลไทม์ก็นึกไม่ออกแล้วว่าเขาจะสามารถทำอะไรกับซือเฟิงได้อีก แม้ว่าเขาจะรู้ว่าซือเฟิงนั้นก็อยู่ในสภาพน่าสังเวชมากแล้ว หลังจากรับมือกับการโจมตีจากมือราชันปีศาจ และเขาก็อาจจะฆ่านักดาบได้ด้วยการโจมตีปกติ แต่ตอนนี้เขากลัว กลัวมากๆ …. กลัวแม้แต่จะต้องพยายาม
มันไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า ซือเฟิงจะไม่มีไพ่ให้เล่นอีกในมือของเขา ยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นปีศาจยังต้องจ่ายในราคาสูงกว่าผู้เล่นมนุษย์มาก เมื่อพวกเขาตาย โดยเฉพาะผู้เล่นปีศาจ ระดับวิสเค้าน์แบบโทรเบิ้ลไทม์
ผู้ชมนั้นทำได้แค่อ้าปากค้าง ในขณะที่พวกเขามองไปยังฉากนี้
“เขายังสามารถต่อสู้ได้อีกงั้นหรอ ในสภาพแบบนี้ ?” จิตใจของเกรซฟูลโมนาร์ชนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงออร่าของซือเฟิงที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแอลงเลย
แม้แต่เธอจะมั่นใจว่าเธอสามารถจะเอาชนะซือเฟิงได้อย่างง่ายดาย ในสถานะปัจจุบันของเขา ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นปีศาจอย่างโทรเบิ้ลไทม์เลย แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อเธอมองไปยังนักดาบที่กำลังเดินเข้าหาโทรเบิ้ลไทม์อย่างช้าๆนั้น สัญชาตญาณของเธอก็เตือนให้เธอหนี ….
“แบล๊คเฟรม ฉันขอยอมแพ้ !!! แต่อย่าคิดนะว่าเขตเซนทิเนลจะยอมแพ้ !!! อีกไม่นานเขตของเราจะเข้ายึดเขตหนึ่งของคุณได้แน่นอน !!!” โทรเบิ้ลไทม์รวบรวมความกล้าตะโกนขึ้น
จากนั้นเบอเซิกเกอร์ก็ดึงเอาม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์สีเงินโบราณออกมาจากกระเป๋า และเปิดใช้งานมันโดยไม่ลังเล ซึ่งมันก็ทำให้เกิดรอยแยกมิติจนทำให้ผู้เล่นทั้งหมดโดยรอบบริเวณได้เห็นเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยด้วยความมืดท่ามกลางต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้
ม้วนคัมภีร์ Boundary Breaker ? ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นฉากตรงหน้า เขาไม่เคยคิดเลยว่าโทรเบิ้ลไทม์จะมีม้วนคัมภีร์ที่ล้ำค่าแบบนี้
ม้วนคัมภีร์ Boundary Breaker นั้นเป็นหนึ่งในม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์โบราณที่หายากมากๆใน God domain ซึ่งตราบใดที่มีพิกัดของสถานที่เป้าหมาย ผู้เล่นจะสามารถเทเลพอร์ตไปยังสถานที่นั้นได้จากทุกที่ในเกม แม้จะอยู่ในโลกหรือทวีปอื่นก็ตาม และในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงนั้น มันเป็นสิ่งที่ผู้เล่นที่มีมักใช้หนีจากพวกขั้นห้า หรือขั้นหกที่พวกเขาไม่สามารถต่อกรได้
ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง ม้วนคัมภีร์ Boundary Breaker นั้นมีการเสนอซื้อในราคามากกว่าหกพันเหรียญทองต่อหนึ่งม้วนด้วยซ้ำ แต่กระนั้นก็ยังไม่ค่อยมีใครเต็มใจจะขายมัน
“รอก่อนเถอะแบล๊คเฟรม !!! ครั้งต่อไปที่เราพบกัน เขตหนึ่งของคุณจะต้องล่มสลาย !!!” โทรเบิ้ลไทม์ตะโกนและยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน เมื่อเขาแน่ใจว่าเขาจะสามารถหนีไปจากซือเฟิงได้ จากนั้นเขาก็กระโดดเข้าไปในรอยแยกมิติ และหายออกไป
จากดารคเดน
ผู้เล่นทุกคนในเขตแสงสุดขีด รวมไปถึงทีมของบลูฟอร์สนั้นล้วนเต็มไปด้วยประหลาดใจอย่างมาก เมื่อได้เห็นฉากนี้ ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าโทรเบิ้ลไทม์นั้นเลือกจะหลบหนี หลังจากที่เขาถูกทำให้อับอายมากขนาดนี้
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเลือกจะหนีโดยไม่คิดอะไรเลย !!!
โทรเบิ้ลไทม์นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างมากในดาร์คเดน ในเรื่องของความกล้าหาญ และบ้าคลั่ง หากเขาคิดว่าตัวเองยังมีโอกาสชนะ แม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะเลือกที่จะสู้ต่อจนกว่าจะจบ แต่ตอนนี้ ….
“นี่ใช่โทรเบิ้ลไทม์ที่เรารู้จักจริงๆงั้นหรอ ?”
“ปฎิกิริยาของเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนี่นา ถ้าฉันเป็นเขา ฉันก็จะเลือกที่จะหนีจากแบล๊คเฟรมเช่นกัน แม้แต่มือราชันปีศาจยังจัดการกับแบล๊คเฟรมไม่ได้ แล้วผู้เล่นขั้นสามจะไปทำอะไรกับเขาได้กัน ?”
“แบล๊คเฟรมนั้นน่าทึ่งมากๆ !!! ด้วยมีหัวหน้ากิลแบบนี้ สภาสิบแปดปีกจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาของตัวเองเลย !!!”
“ฉันสงสัยจังว่าเขตหนึ่งของสภาสิบแปดปีกยังรับสมัครสมาชิกอยู่รึปล่าว ? ถ้ายังรับ ฉันจะสมัครแน่นอน !!!”
หลังจากเงียบกันไปชั่วครู่หนึ่ง เขตแสงสุดขีดก็ปะทุขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นของผู้เล่นหลายคน ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดถึงการหลบหนีของโทรเบิ้ลไทม์ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมซือเฟิงไปด้วย และมันมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งที่เข้ามาอาศัยในเขตแสงสุดขีดได้ระยะหนึ่งที่เริ่มพิจารณาการย้ายเขตไปสมัครเข้าร่วมกับเขตหนึ่งและสภาสิบแปดปีก
ตัวตนของซือเฟิงเพียงแค่อย่างเดียวนั้นมันก็มากเกินพอจะยับยั้งมหาอำนาจส่วนใหญ่ไม่ให้เข้าโจมตีเขตหนึ่ง นอกจากนี้ซือเฟิงยังไม่ใช่ผู้เล่นเพียงแค่คนเดียวที่แข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีก หากพวกเขาสามารถเรียนรู้จากสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้ พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ยังไงเขาก็ยังหนีไปได้งั้นหรอ ? …” บลูฟอร์สขมวดคิ้ว เมื่อเห็นรอยแยกมิติตรงหน้าค่อยๆหายไป
แม้ว่าเขาจะประหลาดใจกับการที่โทรเบิ้ลไทม์ตัดสินใจหนีไปอย่างเด็ดขาด แต่การกระทำของชายคนนี้ก็ถือว่าเข้าใจได้ ความแข็งแกร่งของซือเฟิงนั้นมันน่ากลัวเกินไป ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาเลือกจะหนี แม้ว่าซือเฟิงตอนนี้จะอยู่ในสภาพอ่อนแอมากก็ตาม
ในขณะที่หลายคนมองว่าคำพูดส่งท้ายของโทรเบิ้ลไทม์นั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการพยายามขู่เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเอง แต่บลูฟอร์สนั้นก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
ดาร์คเดนนั้นเสนอสภาพแวดล้อมที่ได้เปรียบให้กับผู้เล่นปีศาจ และตอนนี้โทรเบิ้ลไทม์ก็ได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงจะต้องเตรียมการมาอย่างดีแน่นอนในการจะโจมตีกิลครั้งหน้า ยิ่งไปกว่านั้นความจริงที่ว่าเบอเซิกเกอร์ได้ใช้เครื่องมือล้ำชิ้นแล้วชิ้นเล่า มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขตเซนทิเนลนั้นมีพลังอันยิ่งใหญ่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
หากพวกเขาไม่จัดการกับเรื่องนี้อย่างเหมาะสม เขตหนึ่งจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างแท้จริง
“หนี ? นี่คุณคิดว่าคุณจะหนีจากฉันไปได้ง่ายๆหรอ ?” ซือเฟิงหัวเราะเบาๆ ในขณะที่เขาเฝ้าดูรอยแยกมิติปิดลง