มังกรดำ
Abyssal Blade ที่ซือเฟิงถืออยู่ในตอนนี้นั้นดูเหมือนกับเจ็มสโตนแห่งความมืดเลย แถมดาบนั้นก็ยังถูกประดับไปด้วยรูปแบบสีแดงเข้มที่ให้ความรู้สึกชวนหลงใหล
ทันทีที่ซือเฟิงชัก Abyssal Blade ออกจากฝักมานั้น เขาก็ได้ใช้สกิลให้ doppelganger มาปรากฎตัวขึ้นข้างๆเขาทันที และในแง่ของออร่ากับรูปลักษณ์นั้น doppelganger ของเขาดูเหมือนกับเขาอย่างมาก
“Doppelganger คือไพ่ลับของเขา ?”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาน่าจะมีอะไรที่น่าอัศจรรย์มาช่วยตัวเอง … นี่เขาคงไม่คิดแค่จะอาศัย doppelganger ในการเอาชนะรองผู้บัญชาการกบฎสายฟ้าหรอกนะ แถมดูเหมือน doppelganger นั่นจะมีค่าสถานะอ่อนแอกว่าตัวเขาด้วยนี่นาแม้ว่าจะแค่นิดหน่อยก็ตาม”
เมื่อได้เห็น doppelganger ของซือเฟิง เหล่าสมาชิกของหัวใจปีศาจก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ใน God domain สกิล doppelganger นั้นนับเป็นมาตราการช่วยชีวิตที่ยอดเยี่ยม และมันก็ยังคงจัดว่าเป็นสกิลที่หายากมากซึ่งช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้กับผู้เล่นได้อย่างมาก อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วสกิล doppelganger นั้นมีประโยชน์แค่เฉพาะกับมอนสเตอร์และผู้เชี่ยวชาญทั่วไปเท่านั้น ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอย่างกบฎสายฟ้านั้น doppelganger นั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่ากบฎสายฟ้านั้นมี Cruel Darkness อยู่ในครอบครอง ซึ่งอาวุธเวทย์มนต์ชิ้นนี้มันก็ช่วยดูดซับพลังแห่งความมืดเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาอย่างมาก แถมอาวุธชิ้นนี้มันยังช่วยขยายระยะการโจมตีของผู้ใช้อย่างมากอีกด้วย และเมื่อกบฎสายฟ้าใช้มัน เขาก็สามารถจะบรรลุการโจมตีประมาณยี่สิบหลา ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วแทบจะเปลี่ยนให้เขาเป็นผู้เล่นระยะไกลได้เลย
ด้วยระยะการโจมตีดังกล่าวรวมกับความแข็งแกร่งของกบฎสายฟ้า และเทคนิคของเขา มันจึงไม่สำคัญเลยว่าเขาจะต่อสู้กับผู้เล่นระยะประชิดหนึ่งหรือห้าคน มันก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก เพราะเขาจะไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เข้าใกล้เขา
ในขณะเดียวกันหากผู้เล่นระยะประชิดไม่สามารถเข้าใกล้กบฎสายฟ้าได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถโจมตีเขาได้เช่นกัน นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมกบฎสายฟ้าจึงสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนของ Battle Wolves สามคนพร้อมกันได้โดยไม่เสียเปรียบ
เนื่องจากซือเฟิงได้เรียก doppelganger ของเขาออกมาเพียงแค่คนเดียว ดังนั้นจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้จึงจะไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการต่อสู้ของกบฎสายฟ้าเลย
“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณพยายามจะทำอะไรตอนนี้ แต่ฉันแนะนำให้คุณใช้ไพ่ทั้งหมดที่ตัวเองมีดีกว่าตอนนี้ หากต้องการจะรอดชีวิตไปจากที่นี่” กบฎสายฟ้ากล่าวแนะนำ หลังจากที่ได้เห็นซือเฟิงเรียก doppelganger ออกมา เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะโจมตี ตรงกันข้ามเขากับมองไปยังนักดาบแบบแปลกๆ “แล้วเดี๋ยวฉันจะสอนให้คุณรู้เองว่ามันโง่แค่ไหนที่มาสร้างศัตรูกับหัวใจปีศาจ !!!”
หลังจากที่กบฎสายฟ้าพูดจบ พลังแห่งความมืดที่ร่างกายของเขาแผ่ออกมา มันก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แถมคราวนี้มันยังสร้างหมอกมืดจางๆรอบตัวเขาขึ้นมาด้วย
ในขณะเดียวกันอาวุธเวทย์มนต์ที่เขาใช้นี้ก็ดูเหมือนจะได้รับการอัพเกรด ตอนนี้มัมีเปลวไฟสีฟ้าอ่อนกระพริบรอบใบดาบของ Cruel Darkness อย่างไรก็ตามเปลวไฟเหล่านี้นั้นไม่ได้เพิ่มอุณภูมิโดยรอบ แต่มันลดอุณภูมิโดยรอบแทน โดยมันลดลงต่ำมากซะจนพืชรอบๆกลายเป็นน้ำแข็ง
“นี่เขายังสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้มากกว่านี้อีกงั้นหรอ ?”
“น่าทึ่งมากๆ !!! นี่มันน่าทึ่งมากจริงๆ !!! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแม้แต่ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกก็ไม่กล้าจะต่อต้านหัวใจปีศาจ !! เพียงแค่กบฎสายฟ้าเพียงคนเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองต้องทุกข์ทรมาณ”
เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งของกบฎสายฟ้าพัฒนาขึ้นไปอีก ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าชมจากบริเวณกำแพงเมืองก็ได้ยอมรับพลังของหัวใจปีศาจในระดับใหม่ และตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ได้มีความคิดที่จะเข้าร่วมกับหัวใจปีศาจมากขึ้น
เดิมทีที่พวกเขากลายเป็นผู้เล่นสายความมืดนั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของกิล อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่กบฎสายฟ้าได้แสดงออกมานั้นมันน่าทึ่งเกินไป ตอนนี้พวกเขานั้นรู้สึกว่าพวกเขาไม่ติดอะไรแล้ว หากจะต้องสูญเสียอิสระภาพไปบางส่วนเพื่อที่จะได้แข็งแกร่งเท่ากับกบฎสายฟ้า
ในขณะนี้ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าดูจากบนกำแพงเมือง และรวมไปถึงรีเกรทฟูลวินด์กับคนอื่นๆที่เฝ้าดูจากบาร์ใกล้ๆก็ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของกบฎสายฟ้า
“ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้เข้าสู่สถานะสูงสุดของตัวเองงั้นหรอ ?” ขณะที่รีเกรทฟูลวินด์มองไปยังกระจกเวทย์มนต์ที่มีร่างของกบฎสายฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกฉายอยู่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
เมื่อเทียบกับผู้เล่นปีศาจทั่วไปแล้ว รีเกรทฟูลวินด์ที่เป็นผู้เล่นปีศาจและมาถึงระดับวิสเค้าท์นั้นมีความเข้าใจที่ชัดเจนกว่าเกี่ยวกับพลังแห่งความมืดในตอนนี้ของกบฎสายฟ้า และมันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าต่อให้เขาเพิ่มพลังแห่งความมืดของตัวเองขึ้นอีกสามถึงสี่เท่า เขาก็ยังขาดมาตราฐานที่จะต่อสู้กับกบฎสายฟ้าอยู่ดี
เนื่องจากจุดเริ่มต้นความแข็งแกร่งของผู้เล่นปีศาจนั้นมาจากพลังแห่งความมืด ซึ่งพลังแห่งความมืดที่หนาแน่นนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มการฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจเท่านั้น แต่มันยังช่วยเพิ่มพลังของสกิลและเวทย์ที่พวกเขาใช้ด้วย พลังแห่งความมืดนั้นส่งผลกระทบต่อผู้เล่นในลักษณะเดียวกับที่มานาทำกับผู้เล่นทั่วไป เพียงแต่ว่ามันมีเอฟเฟคที่โดดเด่นกว่ามาก
“เมื่อคิดว่าปีศาจระดับเค้าท์สาสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากขนาดนี้ แบล๊คเฟรมนั้นคงจะจบสิ้นแล้วจริงๆ !!! ฉันคิดว่าเขาคงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อต้านกบฎสายฟ้าได้เกินสองถึงสามการเคลื่อนไหวแน่นอน” เฟรมเฟเธอร์พึมพำด้วยความตกตะลึง
เธอนั้นเป็นวิสเค้าท์ระดับสามดาวที่แท้จริง และเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นระดับเค้าท์แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอก็ได้รู้อย่างชัดเจนแล้วว่ามันมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างวิสเค้าท์ระดับสามดาว กับเค้าท์ …. ในขณะนี้นับประสาอะไรกับการทำงานภายใต้ขอบเขตของเมืองปีศาจ แม้จะอยู่นอกอาณาเขตของเมืองปีศาจ แต่กบฎสายฟ้าก็ยังจะสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องกลัวด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกันที่นอกเมืองปีศาจ บลูฟอร์สและสมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกจากดาร์คเดนที่ติดตามซือเฟิงมาก็ล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นพลังล่าสุดของกบฎสายฟ้า
“บลู เราจะแนะนำให้หัวหน้ากิลหยุดได้ยังไง ? เรามาได้ไกลขนาดนี้แล้ว ฉันเชื่อว่าพลังต่างๆของดาร์คเดน จะเข้าใจแล้วว่าเขตหนึ่งแข็งแกร่งมากขนาดไหน อย่างไรก็ตามหากเรายงคงยืนหยัดจะสู้ต่อไปตอนนี้ ความสูญเสียที่เราจะได้รับจะมหาศาลแน่นอน” อีฟเวนนิ่งโลตัสกล่าวขณะที่มองไปยังบลูฟอร์ส
หลังจากได้เห็นว่าทีมของพวกเขานั้นมาถึงเมืองปีศาจอย่างง่ายดายมากขนาดไหน เธอก็ได้รับความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับพลังของกิลตัวเองแล้ว เธอไม่เคยคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้
อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ในปัจจุบันของพวกเกขา ไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาจะสามารถจัดการได้อีกต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสามร้อยคนอยู่เคียงข้าง แต่เธอก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีนักเกี่ยวกับโอกาสที่พวกเขาจะเอาชนะกบฎสายฟ้าได้ เพราะท้ายที่สุด พวกเขายืนอยู่ในบ้านของผู้เล่นปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นกบฎสายฟ้ายังได้รับบัฟจากเมืองปีศาจด้วย
“ฉันจะลองดูแล้วกัน ไม่งั้นในอัตรานี้เราจะกลายเป็นที่หัวเราะในดาร์คเดนแทน” บลูฟอร์สกล่าวพลางพยักหน้า เขาเองก็รู้สึกว่าพวกเขาทำมามากพอแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนี้ บลูฟอร์สก็พยายามจะเดินเข้าไปหาเพื่อกล่อมให้ซือเฟิงหยุดการกระทำของเขา
อย่างไรก็ตามเขาก็ก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าวเท่านั้นก่อนที่ซือเฟิงจะยก Abyssal Blade ของเขาขึ้น และร่ายเวทย์พร้อมกับฟันไปในแนวนอน
หลังจากนั้นเสียงคำรามของมังกรที่อึกทึกก็ดังมาเข้าหูของทุกคนและมันก็สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองปีศาจ เสียงคำรามของมังกรนี้ทำให้ทุกคนตกใจโดยไม่ได้ตั้งใจ และพวกเขาก็หันไปมองยังที่มาของเสียงคำรามนี้ทันที
ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก เพราะเสียงคำรามนี้มาจาก doppelganger ของซือเฟิง อย่างไรก็ตามในตอนนี้ doppelganger ก็เริ่มสลายตัวกลายเป็นเมฆหมอกสีดำซึ่งค่อยๆขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องหลายร้อยเท่าในเวลาไม่นาน ครู่ต่อมาดวงตาสีทองขนาดมหึมาคู่หนึ่งก็ปรากฎขึ้นในหมอกสีดำ และเมื่อดวงตาสีทองนี้จ้องมองมานั้น มันก็ทำให้ทุกคนสั่นไหวได้เลย
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”
“Doppelganger กลายร่างได้จริงหรอ ?”
“ออร่าของ doppelganger นั้นแข็งแกร่งขึ้นมากๆ !!!”
ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่นั้นเริ่มพูดคุยกันในทันที เมื่อพวกเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงของ doppelganger ของซือเฟิง และความอยากรู้อยากเห็นก็เพิ่มขึ้นมาในจิตใจของพวกเขา
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้ดีแต่พูดเลยจริงๆสินะ …” กบฎสายฟ้ากล่าว ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังดวงตาสีทองนี้ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาก็พุ่งสูงขึ้นมาก
อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากที่กบฎสายฟ้าพูดจบ กรงเล็บขนามหึมาก็โผล่ออกมาจากหมอกสีดำสนิท และกรงเล็บนี้นั้นมีขนาดเท่ากับบ้านสองชั้น ขณะที่ลำตัวของผู้ที่เป็นเจ้าของกรงเล็บนี้นั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาสีดำสนิท และเมื่อกรงเล็บโจมตีลงมาบนพื้น มันก็ทำให้พื้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆทันที ในขณะเดียวกันทุกคนในบริเวณใกล้เคียงนั้นก็รู้สึกได้ว่าพื้นดินใต้เท้าของพวกเขานั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ก่อนที่ทุกคนจะทันได้หายงุนงง มังกรดำที่สูงสามสิบเมตรก็ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา
“มังกร ?!”
ลมหายใจของทุกคนต้องเรียกได้ว่าแข็งค้างไปชั่วขณะ ในขณะที่พวกเขาเห็นร่างอันน่าตกตะลึงนี้
“เป็นไปได้ยังไง ?!”
“ทำไมถึงมีมังกรปรากฎตัวขึ้นที่นี่ ?!”
“นี่มันของปลอม มันต้องเป็นของปลอมแน่นอน !!!”