Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2543

กำหนดชะตากรรมด้วยคำพูด

เมืองป่าหิน สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีก :

ขณะที่ซือเฟิงเปิดประตูห้องรับรองที่ชั้นบนสุดของกิลฮอลเข้าไป เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าอันแหลมคมสองออร่าที่ล๊อคตัวเขา และคอยติดตามทุกการเคลื่อนไหวของเขา โดยทั้งสองคนนั้นแผ่ออร่าของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนออกมาอย่างชัดเจน

เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามานั้นเขาก็มองเห็นคนทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน โดยเป็นชายหนึ่ง และหญิงหนึ่ง

ทั้งสองคนนี้นั้นมาพร้อมกับเสวี่ยเหวินโหรว ซึ่งทั้งสองนั้นได้แผ่พลังแห่งความมืดที่หนาแน่นออกมาในรูปแบบที่จับต้องได้ และแม้แต่ผู้เล่นที่ไม่สามารถรู้สึกถึงพลังแห่งความมืดก็สามารถจะมองเห็นชั้นหมอกสีดำรอบๆผู้เล่นทั้งสองได้

ฝ่ายผู้หญิงนั้นดูเหมือนเธอพึ่งจะอายุสามสิบต้นๆ และมีอาชีพเป็นอัศวินแห่งความมืดที่หายากมากๆ แถมยังเป็นเผ่าหมาป่าแห่งความมืดด้วย และออร่าของเธอก็อ่อนแอกว่าเสวี่ยเหวินโหรวที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เผ่าครึ่งฟอลเลนเอลฟ์ ? ดวงตาของซือเฟิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะจ้องมองไปยังชายอีกคนหนึ่ง

มานานั้นรักเผ่าเอลฟ์ และพวกเขาเกิดมาพร้อมกับความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาในการจัดการกับมานา อย่างไรก็ตามใน God domain นั้นก็มีกลุ่มเอลฟ์ที่ตกลงสู่ความมืดภายใต้ขีดจำกัดของมานา โดยพวกนี้เป็นที่รู้จักกันในนามฟอลเลนเอลฟ์ และเอลฟ์โดยธรรมชาติทั้งหมดก็ล้วนตามล่าเหล่าฟอลเลนเอลฟ์อย่างไม่ลดละ เพราะมันนับเป็นตัวตนที่ผิดปกติใน God domain และผู้เล่นที่เปลี่ยนเผ่าเป็นครึ่งฟอลเลนเอลฟ์นั้นหาได้ยากยิ่งกว่า

แน่นอนว่ามหาอำนาจต่างๆก็จะกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้เล่นเผ่าครึ่งฟอลเลนเอลฟ์เพื่อรับสมัครเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดเผ่าครึ่งฟอลเลนเอลฟ์นั้นมีความสัมพันธ์กับมานาที่แข็งแกร่งกว่าครึ่งเอลฟ์ทั่วไปมาก และความสัมพันธ์ของพวกเขากับการควบคุมพลังแห่งความมืดของพวกเขามันก็ค่อนข้างน่าประทับใจ พวกเขาแทบจะสามารถเทียบกับเอลฟ์บริสุทธิ์ได้
เอลฟ์นั้นอาจเทียบไม่ได้กับมังกร แต่พวกนี้ก็เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นยอดของ God domain ที่มีศักยภาพในการเติบโตมากกว่าผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ และเมื่อกลายเป็นครึ่งฟอลเลนเอลฟ์แล้ว ผู้เล่นจะมีศักยภาพในการเติบโตเทียบเท่ากับเอลฟ์ที่แท้จริงเลย และหลังจากถึงขั้นสาม ทุกๆขั้นที่จะเพิ่มขึ้นนับจากนี้ มันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับครึ่งฟอลเลนเอลฟ์อย่างมาก นอกจากนี้ผู้เล่นทุกคนที่สามารถทำเควสจนกลายเป็นครึ่งฟอลเลนเอลฟ์ได้สำเร็จนั้นมันก็พิสูจน์แล้วว่าพวกเขามีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมาก และตราบใดที่พวกเขาได้รับทรัพยากรมากพอ มันก็เกือบจะประกันได้เลยว่า พวกเขาจะไปถึงขั้นห้าได้แน่นอน

และด้วยความสามารถตามธรรมชาติของเผ่า มันจึงจะไม่มีใครโค่นผู้เล่นครึ่งฟอลเลนเอลฟ์ขั้นห้าได้ นอกจากผู้เชี่ยวชาญขั้นหก

เท่าที่ซือเฟิงจำได้ ในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้นผู้เล่นจะมีโอกาสผ่านเควสเพื่อกลายเป็นครึ่งฟอลเลนเอลฟ์ก็หลังจากที่พวกเขาปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วเท่านั้น แต่ตอนนี้แขกตรงหน้าของเขายังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่กับทำได้สำเร็จ

“ให้ฉันแนะนำหัวหน้าก่อนแล้วกัน หัวหน้ากิล ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองนี้มาจากสองในสามของกิลชั้นยอดในโลกแห่งความมืด พวกเขามาเพื่อพูดคุยและหารือเรื่องหัวใจปีศาจกับสภาสิบแปดปีก” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าว เมื่อเห็นซือเฟิงเดินเข้ามาในห้อง

โลกแห่งความมืดนั้นมันกว้างใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ และมันมีขนาดใหญ่มากพอๆกับจักรวรรดิสามแห่งรวมกัน โดยโลกอื่นแห่งนี้นั้นใหญ่กว่าแม้กระทั่งจักรวรรดิมังกรไฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิที่ทรงพลังที่สุดของ God domain

มันมีสามกิลนั้นปกครองโลกแห่งความมืดอยู่ ดาร์ครัปโซดี้ เดียตี้โซไซตี้ และเวิร์ลโดมิเนชั่น ซึ่งพวกเขาทั้งหมดนั้นล้วนได้รับการสนับสนุนากบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆตั้งแต่ช่วงเริ่มเกม และพวกเขาก็ได้ลอบรับสมัครผู้เชี่ยวชาญจากกิลชั้นสูงไปจนถึงซุเปอร์กิลอย่างลับๆ และตั้งแต่นั้นมาทั้งสามกิลก็ได้พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลกแห่งความมืด และตอนนี้นั้นกิลก็สามารถจะเทียบกับซุเปอร์กิลได้แล้ว

แขกในปัจจุบันทั้งสองของสภาสิบแปดปีกนั้นเป็นตัวแทนจากดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้

“เมื่อนึกว่าคุณมาโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้ แสดงว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วนสินะ พูดมาตรงๆได้เลย” ซือเฟิงกล่าวกับผู้เล่นสองคนตรงหน้าของเขา

เขามีความเข้าใจคร่าวๆเกี่ยวกับดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีพลังมากพอที่จะขึ้นไปอยู่ในฐานะสองในหกกิลสายความมืดที่ทรงพลังที่สุดของ God domain ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง แต่พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งพอจะแข่งขันกับซุเปอร์กิลได้ และเมื่อทวีปหลักกับโลกแห่งความมืดได้เชื่อมต่อกัน ทั้งสองกิลต่างก็ทำลายล้างมหาอำนาจไปจำนวนหนึ่งเพื่อใช้เป็นหินก้าวขึ้นไปตั้งหลักและยึดที่มั่นในทวีปหลัก ความแข็งแกร่งของทั้งสองกิลนั้นไม่สามารถจะประเมินได้ง่ายๆเลย

“คุณเป็นคนตรงไปตรงมาตามข่าวลือที่ได้ยินมาจริงๆ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ..” อัศวินแห่งความมืดหญิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “การเดินทางมาในครั้งนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเรามาพูดกันตรงๆ ผู้อาวุโสโกลด์และฉันมาที่นี่ในนามของกิลเรา และเราหวังว่าจะได้เซ็นสัญญากับสภาสิบแปดปีก …”

“สัญญา ? เกี่ยวกับอะไร ?” ซือเฟิงถาม

“ฉันกลัวว่าคุณจะยังไม่รู้ว่าหัวใจปีศาจนั้นน่ากลัวแค่ไหนหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม … โดยอย่างยิ่งรองหัวหน้ากิลของหัวใจปีศาจอย่างเฟรมมิ่งไลท์ เขาถือกุญแจสำคัญในการเปิดใช้งานเส้นทางระหว่างโลกแห่งความมืดกับทวีปหลักอยู่ และหลังจากความอัปยศอดสูกับความเดือดร้อนที่กิลของเขาได้รับจากฝีมือคุณ มันก็เกือบจะรับประกันได้เลยว่าเขาจะเปิดประตูนี้ขึ้นที่ป่าใบไม้ผลิ และผู้เล่นของโลกแห่งความมืดทุกคนก็จะเข้ามารุมล้อมและโจมตีเมืองป่าหิน ซึ่งเมืองก็ไม่น่าจะรอดจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ …” ฟอลเลนเอลฟ์ ซึ่งอัศวินแห่งความมืดหญิงเรียกว่าผู้อาวุโสโกลด์กล่าว “อย่างไรก็ตามกิลของเราไม่ต้องการทำตัวเป็นอันธพาลที่ได้รับการว่าจ้างจากเฟรมมิ่งไลท์ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้มาเจรจากับสภาสิบแปดปีก”

“ถูกต้อง สัญญาของเรานั้นก็ง่ายมาก หากเส้นทางสู่โลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นในป่าใบไม้ผลิ กิลของเราจะไม่ดำเนินการใดๆกับสภาสิบแปดปีกหรือเมืองป่าหิน” อัศวินแห่งความมืดหญิงกล่าวพลางหัวเราะ “ฉันแน่ใจว่านี่จะช่วยบรรเทาความกดดันได้มากพอสมควรที่กิลและเมืองของคุณต้องเผชิญ และคุณจะรับมือกับผู้เล่นที่เหลือของโลกแห่งความมืดอย่างไร มันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ….”

“แล้วคุณต้องการอะไรเป็นค่าตอบแทน ?” ซือเฟิงถาม

ข้อเสนอของทั้งสองกิลนั้นไม่ได้ทำให้ซือเฟิงแปลกใจแม้แต่น้อย หัวใจปีศาจอาจมีอิทธิพลอย่างมากในโลกแห่งความมืด แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่มีอะไรจะเทียบกับสามกิลที่ปกครองโลกแห่งความมืดได้

เห็นได้ชัดว่าหัวใจปีศาจนั้นตั้งใจจะใช้โลกแห่งความมืดเป็นหัวหอก และผู้เล่นบางคนของโลกแห่งความมืดนั้นก็ไม่พอใจที่ต้องเล่นบทนี้ พวกเขาจะต้องใช้ทรัพยากรเพื่อต่อสู้กับมหาอำนาจของทวีปหลัก ซึ่งการยอมเล่นตามบทของหัวใจปีศาจนั้นมันก็จะมีแต่หัวใจปีศาจที่ได้เปรียบ ดังนั้นดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ จึงมาค้นหาและขอความร่วมมือจากสภาสิบแปดปีก ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของเมืองกิลในเมืองป่าหิน

“มันก็ไม่มีอะไรสำคัญ เราเพียงต้องการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิน่ะ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ….” ผู้อาวุโสโกลด์กล่าว “ทั้งสองกิลของเรานั้นเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และพวกเราก็ต้องการทรัพยากรมากเป็นพิเศษ เพื่อแลกเปลี่ยนกับความเป็นกลาง เราจึงอยากจะขอแลกกับทรัพยากรครึ่งหนึ่งของป่าใบไม้ผลิ โดยเราจะไม่เข้าไปยุ่งใดๆกับอีกครึ่งหนึ่ง และโดยธรรมชาติแล้ว เราก็ต้องการให้สภาสิบแปดปีกเห็นชอบด้วย ซึ่งมันเรียกว่าสนธิสัญญาไม่แทรกแซง”

เสวี่ยเหวินโหรวที่ยืนอยู่ด้านข้างของซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินสิ่งนี้

ฟังผิวเผินนั้นเงื่อนไขของทั้งสองกิลมันดูใจกว้างและดีมากๆ อย่างไรก็ตามหากคิดดีๆนั้น มันจะมีแต่ทั้งสองกิลเท่านั้นจริงๆที่ได้รับประโยชน์ไป เพราะหากสภาสิบแปดปีกเซ็นสัญญานี้ อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือที่ว่าพวกเขาก็จะยังต้องแข่งขันกับผู้เล่นจากโลกแห่งความมืด และมหาอำนาจต่างๆอีกอยู่ดี ซึ่งมันจะทำให้การแข่งขันทวีความรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ ขณะที่ดาร์ครัปโซดี้ กับเดียตี้โซไซตี้นั้นก็จะสามารถหลีกเลี่ยงคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาในป่าใบไม้ผลิอย่างสภาสิบแปดปีกได้

“ฉันเข้าใจล่ะ …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า

“ข้อเสนอนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกิลทั้งสามของเรา คุณคิดยังไงหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?” อัศวินแห่งความมืดถาม

“เนื่องจากคุณทั้งสองกิลจริงใจกันขนาดนี้ งั้นเอาแบบนี้เป็นไง ? สภาสิบแปดปีกจะยอมสูญเสียพื้นที่แหล่งทรัพยากรเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ของป่าใบไม้ผลิ ในทางกลับกันกิลของคุณจะต้องเสนอทรัพยากรอื่นๆให้กับเรา ทางเราไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอก ขอแค่คริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นก็พอ คุณคิดยังไง ?” ซือเฟิงตอบโต้ด้วยรอยยิ้ม
“หัวหน้ากิล ?!” เสวี่ยเหวินโหรวอุทานพลางหันไปมองซือเฟิงด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง และประหลาดใจ

แค่แบ่งครึ่งๆนี้มันก็ยังทำให้พวกเขาแข่งขันกับโลกแห่งความมืดได้อย่างยากลำบากแล้ว หากพวกเขาเหลือสามสิบเปอเซ็นต์นั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยโลกแห่งความมืดทั้งโลกจะประกาศสงครามกับกิลพวกเขาแบบสิ้นเชิงแน่นอน ….

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเสวี่ยเหวินโหรวเลย แม้แต่ตัวแทนของทั้งสองกิลก็ยังตกตะลึงและสับสนกับข้อเนอโต้แย้งของซือเฟิง

พวกเขาได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ข้อเสนอของพวกเขาจะถูกปฎิเสธก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก หรือสภาสิบแปดปีกอาจจะพยายามลดส่วนแบ่งที่กิลของพวกเขาต้องการลง พวกเขาได้หารือเกี่ยวกับมาตราการรับมือต่างๆสำหรับความเป็นไปได้เหล่านี้แล้ว ในความเป็นจริง พวกเขาวางแผนจะเจรจากับกิลมาหลายวันแล้ว

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะนำเสนอทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิมากขึ้นกว่าที่พวกเขาต้องการ ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ?

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset