ตอนที่ 2556 โรงแรมอิสระที่บ้าคลั่ง
ป่าใบไม้ผลิ เมืองป่าหิน :
เมื่อข่าวเกี่ยวกับเมืองป่าหินแพร่กระจายไปยังผู้เล่นอิสระ จำนวนทีมนักผจญภัยขนาดเล็กที่มาเยือนเมืองก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากที่เมืองป่าหินเปิดขึ้นมาใหม่ เมืองนี้ก็ค่อนข้างแออัดและมีผู้เล่นมากมายเข้ามาในเมือง
กลุ่มผู้เล่นที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทหกคน ซึ่งแผ่ออร่าแห่งความมืดออกมาเป็นระยะทางไกลก็ปรากฎตัวขึ้น ซึ่งมันก็ทำให้ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆพวกเขานั้นอดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกจากพวกเขาไปครึ่งก้าว
“ออร่าแห่งความมืดและฆ่าฟันของผู้เล่นเหล่านี้นั้นแข็งแกร่งมากๆ !!! แม้แต่ผู้เล่นสายความมืดที่ฉันรู้จักที่เข่นฆ่าผู้เล่นอื่นอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ได้มีออร่าที่รุนแรงแบบนี้เลย พวกเขาเหล่านี้เป็นใครกัน ?”
“ออร่าของพวกเขาไม่ใช่สิ่งเดียวที่รุนแรง ดูที่อุปกรณ์ของพวกเขาสิ พวกเขาอาจซ่อนเอฟเฟคเรืองแสงของพวกมันไว้ แต่ไอเทมทั้งหมดของพวกเขานั้นก็ถูกสลักด้วยอักษรรูนเวทย์มนต์ อุปกรณ์ของพวกเขานั้นควรจะเป็นระดับไฟน์โกลหรือสูงกว่าทั้งหมด อุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้า !!! แม้แต่สมาชิกกองกำลังหลักของมหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่มีไอเทมชั้นยอดแบบนี้ครบเซ็ทเลย”
แม้ว่าผู้เล่นอิสระที่อยู่ใกล้ๆจะกลัวทีมหกคนนี้ แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาอุปกรณ์ของทั้งทีม
นับตั้งแต่ที่เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นชั้นแนวหน้ามาถึงหนึ่งร้อยกัน ความต้องการอาวุธและอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยหรือสูงกว่าก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อุปทานของมันก็ยังคงต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นราคาของสินค้าเหล่านี้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้แต่ผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญทั่วไปก็ยังไม่สามารถจะซื้ออาวุธกับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่าได้ง่ายๆ และแม้แต่กองกำลังหลักของมหาอำนาจต่างๆก็ยังเต็มใจจะปล้น หากพบกับทีมที่ได้รับอุปกรณ์แบบนี้มาแม้แต่ชิ้นเดียว
อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่อ่อนแอที่สุดที่ทีมหกคนนี้สวมใส่อยู่นั้นกับเป็นอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้า และอุปกรณ์ทั้งหมดของพวกเขาก็ล้วนมีรูนเวทย์มนต์ ซึ่งสำหรับผู้เล่นทั่วไปมันจัดเป็นอุปกรณ์ศักสิทธิ์เลย
แม้จะสังเกตเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของผู้เล่นจำนวนมาก แต่สมาชิกในทีมทั้งหกคนนั้นก็ไม่ได้ตอบสนองใดๆ
“ฉันเดาว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วไปของทวีปหลักนั้นไม่ได้มีจำนวนมากนัก และพวกเขาไม่เพียงแต่จะมีอาวุธกับอุปกรณ์ในระดับที่น่าสงสารมากๆเท่านั้น แต่พวกเขายังไม่รู้เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยรูนเวทย์มนต์ด้วยซ้ำ เมื่อรวบรวมกองทัพได้แล้ว โลกแห่งความมืดก็น่าจะอ้างสิทเหนือพื้นที่นี้ให้เป็นดินแดนแห่งใหม่ของเราได้ไม่ยาก” นักดาบขั้นสามที่สวมชุดสีเทา และมีผมทรงทหาร กล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม ในขณะที่เขามองไปยังผู้เชี่ยวชาญอิสระรอบตัวเขา
“คุณยังไม่ควรรีบสรุปนะแฟลช เพราะท้ายที่สุดแล้วสภาพแวดล้อมในพื้นที่นี้มันไม่ตรงกับสิ่งที่เราได้รับในโลกแห่งความมืดเลย ผู้เล่นเหล่านี้นั้นต้องคอยระวังแค่มอนสเตอร์เท่านั้น ในขณะที่เราต้องคอยระวังมอนสเตอร์และผู้เล่นเสมอ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นในโลกของเราจะพัฒนาได้เร็วกว่า …” ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราและดูเรียบง่ายกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “สภาสิบแปดปีกต้องมีอะไรดีบ้างแหละ ถึงทำให้กิลของเรายอมเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตร และไม่เข้าแทรกแซงเรื่องนี้ได้”
“ฉันก็แค่คาดเดากับบ่นๆน่ะ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมกิลของเราถึงอยากเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกตั้งแต่แรก คุณก็ได้เห็นแล้วนี่ว่ากองทัพของโลกเราทรงพลังมากแค่ไหน ? นี่สภาสิบแปดปีกจะสามารถหยุดยั้งกองทัพแบบนั้นได้จริงๆงั้นหรอ ? เราไม่ควรมีเหตุผลที่จะต้องจ่ายคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นให้กับพวกเขาด้วยซ้ำ” เคิร์สแมนเซอร์ที่ชื่อเมจิคแฟลชกล่าวบ่น
คริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นนั้นไม่ใช่ราคาเล็กน้อยเลยสำหรับกิลทั้งสองของพวกเขา ทำไมกิลของพวกเขาจึงจะต้องยอมจ่ายเพื่อแลกกับสิทเหนือพื้นที่เจ็ดสิบเปอเซ็นต์ของป่าใบไม้ผลิด้วย ? สภาพของสภาสิบแปดปีกตอนนี้นั้นไม่ต่างจากสิ่งที่รอการถูกทำลายล้างเลยด้วยซ้ำ ….
“ฉันไม่รู้ แต่พวกระดับสูงก็คงมีเหตุผลของตัวเอง เราก็แค่ทำตามหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายให้เสร็จเถอะ” ชายวัยกลางคนพูดพลางส่ายหัว ด้วยความสัตย์จริง สถานการณ์นี้ทำให้เขาสับสนมากเช่นกัน
จำนวนผู้เล่นที่โลกแห่งความมืดเตรียมใช้เพื่อบุกเข้ายึดป่าใบไม้ผลินั้นไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะเลย ผู้เล่นหลายล้านคนได้เข้าร่วมกองทัพรุกรานนี้แล้ว และยังมีอีกจำนวนมากที่กำลังเดินทางมาสมทบ เพราะท้ายที่สุดข่าวสารเกี่ยวกับประตูที่ถูกเปิดขึ้นพึ่งจะเริ่มแพร่กระจายออกไปยังพื้นที่ห่างไกลในโลกแห่งความมืด มันจึงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย ….
และจากการจากการคาดเดาของกิล กองทัพน่าจะรวบรวมผู้เล่นได้หลายสิบล้านคนอย่างง่ายดาย และเผลอๆกองทัพอาจมีมากกว่าหนึ่งร้อยล้านคนด้วยซ้ำ และมันไม่มีแม้แต่อาณาจักรหรือจักรวรรดิใกล้เคียงจะสามารถตอบโต้กองทัพใหญ่ขนาดนี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังของสภาสิบแปดปีกเลย กองทัพของโลกแห่งความมืดจะก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก เมื่อพวกเขามาถึงที่ทวีปหลัก
ในขณะที่สมาชิกของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้กำลังพูดคุยกัน พวกเขาก็ก้าวผ่านประตูของเมืองป่าหินเข้าไป
“มานาที่นี่นั้นมีความหนาแน่นอย่างมาก ถ้าเมืองกิลของดาร์ครัปโซดี้มีมานามากขนาดนี้ เราจะกลายเป็นกิลอันดับหนึ่งของโลกแห่งความมืดได้อย่างง่ายดายเลย” เมจิคแฟลชมองไปรอบๆด้วยความอิจฉา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงมานาที่ชวนหลงใหลในอากาศ
“มานาของเมืองนี้มันน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมหาอำนาจมากมายถึงต้องการเมืองนี้” ชายวันกลางที่มีหนวดเครากล่าวตอบ
“ช่างน่าเสียดาย หากหัวใจปีศาจไม่ได้ทำการเปิดประตูสู่โลกแห่งความมืดขึ้นที่ป่าใบไม้ผลิ สภาสิบแปดปีกจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อมหาอำนาจต่างๆอย่างมากเลยทีเดียว” เมจิคแฟลชกล่าวพลางมองไปรอบๆฝูงชนที่เป็นทั้งผู้เล่นและพ่อค้า NPC และเมื่อเห็นฉากทั้งหมดนี้ เขาก็เริ่มเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยว่าทำไมพวกระดับสูงของเขาจึงตัดสินใจจะเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีก
เมืองป่าหินนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองไม่น้อยไปกว่าเมืองใหญ่ของ NPC เลย และด้วยมีเมืองกิลเช่นนี้อยู่ภายใต้การควบคุม สภาสิบแปดปีกก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาเลย และเนื่องจากป่าใบไม้ผลินั้นเป็นแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อย ผู้เล่นทุกคนที่นี่จึงล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เมืองนำเสนอ ไม่เพียงแต่มันจะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถรับสมัครและเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้นมาได้ แต่เลเวลเฉลี่ยของสมาชิกของพวกเขายังจะค่อยๆขึ้นไปเหนือกว่าสมาชิกของมหาอำนาจต่างๆเช่นกัน สภาสิบแปดปีกนั้นมีศักยภาพที่จะกลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงในอนาคตของ God domain แน่นอน
“ก็อาจจะ แต่ทุกอย่างก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเราไม่ได้มีอำนาจจะเข้าไปยุ่งในส่วนนี้ เราควรรีบติดต่อกับสภาสิบแปดปีก เพราะยิ่งเราทำได้เสร็จเร็วเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้กลับเร็วเท่านั้น หากเรารอและพลาดโอกาสนี้ไป เมื่อการรุกรานเริ่มขึ้น ทุกอย่างในภายหลังมันจะยากขึ้น” ชายวัยกลางคนกล่าวเตือน
“ฉันได้ติดต่อกับกิลเรียบร้อยแล้ว พวกเขาบอกให้เรามุ่งหน้าไปที่อาคารที่สูงที่สุดบนถนนสายหลัก ซึ่งเมื่อเราไปถึงแล้ว จะมีคนพาเราไปพบกับหัวหน้ากิลของพวกเขา” เมจิคแฟลชกล่าว
“คุณหมายถึงอาคารนั้นงั้นหรอ ?” ชายวัยกลางคนถาม พลางชี้ไปยังโรงแรมอิสระที่ใจกลางเมือง และเขาก็กล่าวต่อด้วยความประหลาดใจว่า “ฉันประหลาดใจมากจริงๆที่สภาสิบแปดปีกสามารถสร้างอาคารแบบนี้ได้ อาคารที่สูงที่สุดที่กิลเราสามารถสร้างได้ยังสูงน้อยกว่าห้าสิบเมตรเลย แต่อาคารนี้ของพวกเขามันกับสูงกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร”
“มันสูงแล้วยังไงล่ะ ? อีกไม่นานมันก็จะมีใครบางคนเอามันไปจากพวกเขาแล้ว …” เมจิคแฟลชกล่าวอย่างเย้ยหยัน
ชายวัยกลางคนไม่ได้พยายามหักล้างการคาดเดาของเมจิคแฟลช อาคารสูงเช่นนี้จะมีประโยชน์ต่อการมองเห็นเท่านั้น สภาสิบแปดปีกนั้นควรจะจ่ายเงินจำนวนที่ใช้สร้างอาคารนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกของพวกเขามากกว่า ในความคิดของเขา เพราะความแข็งแกร่งมันหมายถึงทุกสิ่งใน God domain
จากนั้นผู้เล่นเหล่านี้ก็เดินไปที่โรงแรม ….
พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการเดินทางมาให้ถึงโรงแรม และเมื่อมาถึงพวกเขาก็สังเกตเห็นผู้เล่นมากมายทั้งในและนอกโรงแรมอิสระ และมันก็มีผู้เล่นหลายคนที่เข้าแถวอยู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่แผ่ออร่าอันน่ากลัวออกมา จนทำให้เมจิคแฟลชและเพื่อนของเขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น และมันก็มีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้อยู่ในหมู่คนเหล่านี้มากกว่าหนึ่งโหลเช่นกัน
ที่น่าแปลกใจคือผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้นั้นยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบและเชื่อฟังต่อหน้าแผนกต้อนรับของโรงแรมอิสระ
ฉากนี้ทำให้เมจิคแฟลชและเพื่อนของเขาตกตะลึง
โดยปกติผู้เชี่ยวชาญแบบนี้จะสามารถทำหน้าที่เป็นรองผู้บัญชาการ หรือผู้บัญชาการกองกำลังหลักของบางกิลได้ง่ายๆเลย และผู้ที่มีความสามารถนั้นมันก็ได้รับการรับรองและได้รับความเคารพเป็นอย่างดีไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขากับยินดีจะต่อแถวยาวพวกนี้เพื่อรอคิว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้เมจิคแฟลชและเพื่อนของเขาตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากๆ เมื่อได้รับหนึ่งในห้องพักของโรงแรมอิสระ ….
ทันใดนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็เดินเข้ามาหาพวกเขาและถามว่า “คุณเป็นตัวแทนจากเดียตี้โซไซตี้ และดาร์ครัปโซดี้ใช่ไหม ?”
“ใช่แล้ว …” ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเขาได้เห็นตราสัญลักษณ์ของสภาสิบแปดปีกบนเกราะบริเวณอกของเสวี่ยเหวินโหรว เพราะเขาสัมผัสได้ว่าเธอนั้นแผ่ออร่าที่ทรงพลังมากๆออกมา
“โอเค งั้นตามฉันมา หัวหน้ากิลของเรากำลังรออยู่ที่ห้องรับรองชั้นบน …” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าวหลังจากยืนยันตัวตนของคนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเธอก็พาทั้งทีมไปที่ลิฟเพื่อนำไปยังชั้นที่เหมาะสม
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เฝ้ารอจองห้องพักของโรงแรมอิสระอยู่ล้วนมองไปยังทีมของเมจิคแฟลชที่ติดตามเสวี่ยเหวินโหรวไปอย่างอิจฉา ….
“อึก !!! คนเหล่านั้นเป็นใครกัน ?!! พวกเขากระทั่งใช้ลิฟเพื่อนำคนเหล่านั้นไปยังชั้นแปดสิบ !!!”
“พวกเขาจะต้องเป็นพันธมิตรของสภาสิบแปดปีกแน่นอน ถ้าจำไม่ผิดมีเพียงสมาชิกระดับเงินหรือมากกว่าขึ้นไปของโรงแรมเท่านั้นจึงจะได้ไปพักในชั้นบนแบบนั้น และผู้เล่นก็ต้องการมากกว่าเหรียญทองกับคริสตัลเวทย์มนต์เพื่อที่จะได้เป็นสมาชิกระดับเงินด้วย ผู้เล่นนั้นต้องการคะแนนสมาชิกเป็นจำนวนมาก ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้แม้แต่ผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยชั้นยอดก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิกระดับเงินด้วยซ้ำ”
“สภาสิบแปดปีกนั้นขี้เหนียวเกินไป พวกเขาต้องการให้เราได้รับคะแนนเพียงพอเพื่อเข้าพักในโรงแรมนี้ ฉันสงสัยจังว่า เมื่อไหร่ฉันจะมีคะแนนมากพอจะได้เป็นสมาชิกระดับเงิน ?”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกตินี่นา เพราะท้ายที่สุดแล้วห้องพวกนี้มันก็มีจำนวนจำกัด และฉันก็ได้ยินมาว่าห้องขั้นสูงตั้งแต่ชั้นแปดสิบหรือมากกว่าขึ้นไปนั้นยอดเยี่ยมมากๆ เพราะไม่เพียงแต่ความเร็วในการฟื้นฟูจะสูงกว่าห้องปกติถึงสามสิบเปอเซ็นต์ แต่ในห้องแต่ละห้องนั้นยังมีห้องฝึกเป็นของตัวเอง ผู้เล่นจะสามารถฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้ได้ง่ายๆด้วยห้องฝึกเหล่านั้น”
“ที่พูดนั่นจริงงั้นหรอ ?! ไม่ได้การแล้ว !!! ฉันจะต้องกลายเป็นสมาชิกระดับเงินให้ไวที่สุด !!!”
ผู้เล่นที่รออยู่ในล๊อบบี้ของโรงแรมอิสระนั้นต่างรู้สึกอิจฉาอย่างสุดจะพรรณนา เมื่อพวกเขามองดูทีมของเมจิคแฟลชเข้าลิฟไป ปฎิกิริยาของพวกเขานั้นทำให้ผู้เล่นสายความมืดหลายคนที่เฝ้าดูอยู่สับสน
ครู่ต่อมาทั้งทีมก็มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมอิสระ ….
ซึ่งทันทีที่เมจิคแฟลชและคนอื่นๆเดินเข้ามาที่ชั้นบนสุดของโรงแรมอิสระ จิตใจของพวกเขาก็รู้สึกสงบมากๆ พูดให้ถูกต้องคือรู้สึกชดชื่นทางจิตใจราวกับว่าความคิดของพวกเขานั้นได้ค้นพบเส้นทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และตอนนี้พวกเขาก็สามารถจะกำหนดแนวความคิดของตัวเองได้โดยไม่สับสน
“นี่คือสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?”
เมจิคแฟลชและคนอื่นๆนั้นอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง เมื่อรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
พวกเขารู้สึกประหลาดใจกับมานาของโรงแรมอิสระมากอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมในตอนนี้ที่ชั้นบนสุดนั้น ก่อนหน้านี้มันไม่มีอะไรเลย ถ้าพวกเขาสามารถมาฝึกในชั้นนี้ได้ พวกเขาจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้เร็วขึ้นอีกมากแน่นอน
“หัวหน้ากิลของเราอยู่ข้างใน เข้าไปได้เลย …” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าวอย่างไม่แปลกใจแม้แต่น้อยที่ได้เห็นสีหน้าประหลาดใจของผู้เล่นทั้งหกคน เธอเพียงแค่ยิ้มและเปิดประตูห้องรับรองเข้าไป …..