ตอนที่ 2558 สภาสิบแปดปีกที่หยิ่งผยอง
เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนที่ชื่อฟอเร้สต์และได้เห็นด้วยตาตัวเอง เมจิคแฟลชก็อ้าปากค้าง
“เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ?!”
ปัจจุบันเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในโลกแห่งความมืดนั้นสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าเท่านั้น และแม้แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของดาร์ครัปโซดี้ก็ยังมีอุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยห้าอยู่แค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็มีความสามารถเทียบเท่ากับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบเท่านั้น และมันแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ
นี่ไม่ต้องพูดถึงเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเลย ….
“ถูกต้อง นอกเหนือจากอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยแล้ว ไม่มีอุปกรณ์ใดในโลกแห่งความมืดที่จะดีไปกว่าเซ็ทปีศาจแห่งความมืดแล้ว” ฟอเร้สต์กล่าวพลางพยักหน้า และพยายามจะระงับความตื่นเต้นในใจ
ถ้าราคาสำหรับเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ คือคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้อย่างแน่นอน
นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดกำลังบุกโจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อยกันอย่างเมามัน เนื่องจากอัตราการดรอปของอาวุธและอุปกรณ์ที่มีเลเวลหนึ่งร้อยหรือสูงกว่าขึ้นไปทั้งหมดล้วนต่ำมากๆ ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆจึงไม่มีก้าวหน้าเท่าใดเลยในการบุกโจมตีดันเจี้ยน และสิ่งนี้ก็นำไปสู่การชะงักงันในการพัฒนาของพวกเขา
หากเขาสามารถรับเอาเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนี้มาให้กับเดียตี้โซไซตี้ได้ กิลของเขาก็จะมีข้อได้เปรียบอย่างมากเหนือกิลอื่นๆ และด้วยข้อได้เปรียบนี้ พวกเขาก็จะสามารถรับเอาค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดซื้อเซ็ทปีศาจแห่งความมืดคืนมาได้อย่างง่ายดาย
ทันทีที่ฟอเร้สต์พูดจบ ความตื่นเต้นก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเมจิคแฟลช และเมจิคแฟลชก็พูดทันทีว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ดาร์ครัปโซดี้จะซื้อเซ็ทนี้ทุกเซ็ทตราบเท่าที่คุณต้องการขายเช่นกัน !!! คริสตัลแห่งความมืดนั้นไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน !!!”
หากเขาสามารถรับเอาเซ็ทปีศาจแห่งความมืดมาได้จำนวนหนึ่ง และมอบมันให้กับกองกำลังหลักของกิล กองกำลังหลักของกิลก็จะมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมแน่นอน พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการค้นหาอุปกรณ์ใดๆจนกว่าจะไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้า ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังหลักยังจะมีช่วงเวลาที่ง่ายมากในการบุกโจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อย ในความเป็นจริงดาร์ครัปโซดี้อาจกลายเป็นกิลแรกในโลกแห่งความมืดที่สามารถพิชิตดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อย ขนาดหนึ่งร้อยคนได้ด้วยซ้ำ
“การผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นยากกว่าที่คุณคิดมากๆ และตอนนี้ฉันก็มีพวกมันอยู่จำนวนไม่มากนัก จนถึงตอนนี้เราสามารถผลิตได้แค่สี่เซ็ทเท่านั้น” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆให้กับการแสดงออกที่ค่อนข้างโหยหาของคนทั้งสองตรงหน้าเขา
ซือเฟิงนั้นก็หวังว่าเขาจะสามารถผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดได้มากเท่าที่เขาต้องการเช่นกัน อย่างไรก็ตามเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นจริงๆแล้วเป็นเซ็ทระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบถึงหนึ่งร้อยยี่สิบ และวัสดุที่จำเป็นในการผลิตมันนั้นก็หายากมากๆ ซึ่งนี่มันจำกัดปริมาณการผลิตลงอย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าจะผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดในเวอชั่นที่จัดว่าล้มเหลว แต่อัตราความสำเร็จก็จะยังคงมีแค่ห้าสิบเปอเซ็นต์เท่านั้น
“แค่สี่เซ็ท ?”
เมจิคแฟลช และฟอเร้สต์นั้นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง อย่างไรก็ตามหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วพวกเขาก็พบว่ามันสมเหตุสมผล เพราะท้ายที่สุดนี่คือเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบที่พวกเขากำลังพูดถึง ถ้ามันผลิตง่ายๆ สภาสิบแปดปีกคงกลายเป็นกิลที่เป็นอมตะไปแล้ว
“แน่นอนว่ามันก็มีความเป็นไปได้ที่กิลทั้งสองของพวกคุณจะสามารถซื้อในปริมาณมาก” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของทั้งสองคน
เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ฟอเร้สต์ก็เข้าใจทันทีว่าซือเฟิงกำลังพูดถึงอะไร เขาตอบโดยไม่ลังเลว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม โปรดระบุเงื่อนไขของคุณมาได้เลย ตราบเท่าที่มันอยู่ในอำนาจของฉัน ฉันก็สามารถจะยอมรับมันในนามของเดียตี้โซไซตี้ได้แน่นอน”
เพียงแค่สามารถซื้อเซ็ทปีศาจแห่งความมืดได้จำนวนหนึ่งในราคาเป็นคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นต่อเซ็ทก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการซื้อในจำนวนที่มากมายมหาศาลเลย เพราะท้ายที่สุดเมื่อมีเซ็ทแบบนี้มากพอ กิลก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของกองกำลังหลักของกิลได้อย่างมาก และมันก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้สภาสิบแปดปีกจะไม่มีข้อผูกมัดใดๆที่จะมอบโอกาสอันยอดเยี่ยมนี้ให้กับทั้งสองกิลของพวกเขา
“ด้านของฉันเองก็เหมือนกัน …” เมจิคแฟลชกล่าว หากเขาพลาดโอกาสแบบนี้ไป หัวหน้ากิลแลเหล่าผู้อาวุโสได้เอาเขาตายแน่ เมื่อเขากลับไป ในทางกลับกัน ถ้าเขาประสบความสำเร็จในการเจรจาครั้งนี้ เขาก็จะได้รับความชอบอย่างมากในกิล
“แม้ว่าการผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นจะทำได้ยาก แต่การผลิตหลายๆเซ็ทต่อวันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ สภาสิบแปดปีกยินดีที่จะจัดหาเซ็ทเหล่านี้ให้กับทั้งสองกิลของคุณในระยะยาว” ซือเฟิงกล่าว “อย่างไรก็ตามฉันหวังว่าทั้งสองกิลของพวกคุณจะช่วยให้บริษัทการค้าแสงเทียนของสภาสิบแปดปีกสามารถก่อตั้งตัวเองขึ้นในเมืองใหญ่ของ NPC ในโลกแห่งความมืด และรับประกันความปลอดภัยในการดำเนินงานได้”
ความเงียบนั้นเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง เมื่อซือเฟิงพูดจบ ขณะที่ทั้งเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์ก็ล้วนมองมายังเขาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกจะมีความทะเยอทะยานมากขนาดนี้
โลกแห่งความมืดนั้นเทียบเท่ากับจักรวรรดิทั่วไปในทวีปหลักสามแห่ง และประชากรผู้เล่นของโลกแห่งความมืดนั้นก็มีจำนวนมากกว่าประชากรผู้เล่นในจักรวรรดิมังกรไฟซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ God domain ในทวีปหลักด้วยซ้ำ
ในตอนที่โลกแห่งความมืดถูกปิดผนึกอยู่ตลอดเวลาและแทบจะไม่มีการติดต่อกับทวีปหลักเลย มหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดนั้นได้ทำการผูกขาดเมือง NPC ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ในโลกแห่งความมืดไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเมือง NPC ในโลกแห่งความมืดนั้นยังแตกต่างจากเมืองในทวีปหลักด้วยตรงที่ผู้เล่นนั้นจะมีอำนาจเหนือเมืองบางส่วนซึ่งทำให้การเข้ายึดครองเมือง NPC ของโลกแห่งความมืดนั้นยากอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับผู้มีอำนาจจากโลกภายนอก
ในขณะเดียวกันตอนนี้การที่ประตูสู่โลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นนั้น มันก็ได้นำเสนอโอกาสทางธุรกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับมหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดและในทวีปหลัก นี่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่ามหาอำนาจต่างๆในทวีปหลักจะแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงโอกาสนี้แน่นอน และพวกเขาอาจเสนอราคาที่มหาศาลมากๆก็ได้ ….
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ขอโทษด้วย แต่ฉันไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้ …” ฟอเร้สต์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมาย แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะเสนอเซ็ทปีศาจแห่งความมืด แต่ฉันก็คิดว่าพวกระดับสูงของฉันจะไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้แน่นอน”
สำหรับเมจิคแฟลช เขาอดไม่ได้ที่จะกลอกตาให้กับความต้องการของซือเฟิง
เซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นอาจจะสามารถช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของกองกำลังหลักของกิลได้มากขึ้น แต่มูลค่าของมันก็ไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับประชากรผู้เล่นของสามจักรวรรดิทั่วไป นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่มหาอำนาจต่างๆหลีกเลี่ยงการจะต่อสู้กับโลกแห่งความมืด เนื่องจากการทำแบบนี้นั้นจะหมายถึงการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่
ในขณะนี้ไม่ต้องพูดถึงคำปฎิเสธจากเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์เลย แม้แต่คนของพวกเขาก็ยังมองมายังซือเฟิงอย่างดูถูก เรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาลมากขนาดนี้แต่ซือเฟิงกับนำเสนอให้พวกเขาแค่เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ นี่ชายคนนี้เห็นพวกเขาโง่รึไง ?
ยิ่งไปกว่านั้นสภาสิบแปดปีกก็กำลังประสบปัญหาในการรักษาตำแหน่งของตัวเองในป่าใบไม้ผลิ แต่ซือเฟิงกับยื่นข้อเสนอแบบนี้มา นี่มันบ้าบอมากๆ
“อย่าพึ่งด่วนปฎิเสธข้อเสนอของฉัน ฉันเข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมาย และฉันก็รู้ดีว่าแค่เซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นมันไม่เพียงพอจะชักชวนพวกคุณทั้งสองกิลได้” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นปฎิกิริยาของทั้งคู่ “อย่างไรก็ตามถ้าฉันสามารถทำให้ทั้งสองกิลของคุณสามารถเดินทางไปมาระหว่างป่าใบไม้ผลิและโลกแห่งความมืดได้ ขณะที่คนอื่นทำไม่ได้เลยล่ะ ?”
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณหมายถึงอะไร ?” ครั้งนี้ฟอเร้สต์ค่อนข้างจะเต็มไปด้วยความสับสนกับคำพูดของซือเฟิง
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณควรจะรู้ว่าประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดและทวีปหลักนั้นได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว ผู้เล่นของโลกแห่งความมืดนั้นจะสามารถเดินทางไปมาที่นี่ตามที่ต้องการได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่แม้แต่เฟรมมิ่งไลท์ ผู้ที่ถือกุญแจเทเลพอร์ตก็ยังไม่สามารถหยุดได้ แล้วสภาสิบแปดปีกจะไปทำอะไรได้กัน ?” เมจิคแฟลชกล่าวพลางหัวเราะ
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเฟรมมิ่งไลท์จะสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ แต่นับจากนี้ไปสภาสิบแปดปีกคือผู้เป็นเจ้าของประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดในป่าใบไม้ผลิ !!!” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับท่าทางของเมจิคแฟลชและคนอื่นๆที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยมากนัก