Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2571

ตอนที่ 2571 ประหลาดใจอีกครั้ง และโรงแรมตกอยู่ในความโกลาหล

คำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ดทำให้ชายผู้ดุร้ายจากจักรพรรดิคริมสันสับสน เธอหมายความว่ายังไงที่ว่าสัญชาตญาณของเธอนั้นผิดไป แต่เมลานโครอิคสไมล์นั้นไม่ ?

สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นมันชัดเจนสำหรับทุกคนที่เห็น แล้วทำไมอิลูซะรี่เวิร์ดถึงบอกว่าเธอตัดสินสภาสิบแปดปีกผิดไป แล้วการตัดสินใจของเมลานโครอิคสไมล์จะถูกต้องได้อย่างไร ?

สภาสิบแปดปีกกำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และการไล่มหาอำนาจต่างๆให้ออกไปจากป่าใบไม้ผลิจากตำแหน่งของตัวเองในตอนนี้มันเป็นเรื่องตลกชัดๆ

“พูดตามตรงต้องบอกว่าสัญชาตญาณของฉันถูกต้องเพียงบางส่วนเท่านั้น” อิลูซะรี่เวิร์ดอธิบายพลางหัวเราะเบาๆให้กับท่าทางที่สับสนของชายผู้ดุร้าย “มันจะดีที่สุดถ้าคุณดูมันด้วยตัวเอง ฉันพึ่งได้รับข้อความนี้มาจากเกรซฟูลโมนาร์ช”

“เกรซฟูลโมนาร์ช ? มีบางอย่างไม่คาดคิดเกิดขึ้นที่ประตูเทเลพอร์ตงั้นหรอ ?” ชายผู้ดุร้ายเปิดข้อความที่อิลูซะรี่เวิร์ดส่งมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เกรซฟูลโมนาร์ชและเพอเพิ้ลรากษสนั้นต้องการจะเห็นประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดและต้องการจะเข้าใจถึงพลังของกองทัพผู้รุกรานจากโลกแห่งความมืดอย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยทั้งสองให้ไปดูที่สถานที่จริงด้วยตัวเอง นอกจากนี้สภาสิบแปดปีกยังส่งผู้เล่นไปที่นั่นแค่ไม่กี่คนเท่านั้น แถมหากส่งทั้งสองไปที่สถานที่จริง พวกเขาก็จะได้รับข่าวอย่างรวดเร็วหากมีอะไรเกิดขึ้น ….

ในความเห็นของเขา สภาสิบแปดปีกจะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้นในการพยายามเจรจากับกองทัพของโลกแห่งความมืด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาได้เห็นประโยชน์ของป่าใบไม้ผลิและเมืองป่าหินแล้ว ไม่ว่ากิลจะพยายามเสนออะไร ผลลัพธ์ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน

การรักษาส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยของเมืองป่าหินไว้ให้ได้นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่สภาสิบแปดปีกจะหวังได้แล้ว กิลไม่ควรหวังจะได้รับอะไรไปมากกว่านั้น กองทัพผู้รุกรานจากโลกแห่งความมืดนั้นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสามหมื่นคน ซึ่งมันไม่มีอำนาจใดที่จะยืนหยัดต่อต้านกองทัพผู้รุกรานแบบนี้ได้แน่นอน

ในขณะที่ชายผู้ดุร้ายอ่านข้อความจากเกรซฟูลโมนาร์ชอย่างละเอียด ผู้เล่นจำนวนมากก็เริ่มมารวมตัวกันที่โรงแรมอิสระ ซึ่งนี่รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญอิสระจำนวนมากเช่นกันที่เข้ามาฟังสิ่งที่เมลานโครอิคสไมล์พูด

“นี่เธอได้รับข้อความอะไรมาผิดรึปล่าว ? การทำแบบนี้กับมหาอำนาจต่างๆมีแต่จะทำให้สภาสิบแปดปีกได้รับอันตรายยิ่งขึ้นไปอีกนะ และเมืองป่าหินอาจยืนหยัดอยู่ได้ไม่ถึงสามวันด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งอาทิตย์เลย” กาแล๊กซี่พาสที่พึ่งมาถึงล๊อบบี้อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินคำพูดของเมลานโครอิคสไมล์ที่กล่าวกับตัวแทนของมหาอำนาจต่างๆ

ผู้เล่นทุกคนในเมืองนั้นล้วนให้ความสนใจกับสถานการณ์ปัจจุบันที่สภาสิบแปดปีกและป่าใบไม้ผลิต้องเผชิญอยู่อย่างมาก

แม้ว่าเรื่องที่มหาอำนาจต่างๆพยายามจะเคลื่อนไหวเพื่อจัดการและยึดครองเมืองป่าหินจะมีมานานแล้ว แต่กาแล๊กซี่พาสก็ยังคงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากและยากจะเชื่อได้อยู่ดีว่าสภาสิบแปดปีกจะริเริ่มยั่วยุมหาอำนาจต่างๆกลับแบบนี้ …..

เขาเองก็รู้เช่นกันว่าสภาสิบแปดปีกจะไม่มีวันยอมก้มหัวต่อการบีบบังคับใดๆ โดยอาศัยเพียงแค่การเกลี้ยกล่อมเท่านั้น และเขาก็รู้ดีว่ากิลนั้นบ้าคลั่งมากๆและทำตัวไม่ต่างจากพวกที่ติดการพนัน และแม้ว่าการเดิมพันที่ผ่านมาของสภาสิบแปดปีกจะประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ แต่คู่ต่อสู้ในปัจจุบันของพวกเขานั้นก็อยู่ในระดับที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หากสภาสิบแปดปีกเคลื่อนไหวต่อต้านมหาอำนาจต่างๆในตอนนี้ กิลมีแต่จะผลักตัวเองให้ไปสู่การล่มสลายเร็วขึ้นเท่านั้น

สภาสิบแปดปีกไม่ใช่กิลแบบที่เคยเป็นมาอีกต่อไป ตอนนี้กิลมีทรัพยากรเกือบเท่า และมีอาณาเขตมากพอๆกับมหาอำนาจต่างๆ หากกิลสามารถรักษาเสถียรภาพในเมืองป่าหิน และพัฒนาต่อไปได้อย่างสันติ กิลก็คงจะใช้เวลานานนักก่อนที่จะกลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงใน God domain

ในขณะที่กาแล๊กซี่พาสกำลังคิดว่าการกระทำของเมลานโครอิคสไมล์นั้นน่าสับสน เหล่าสมาชิกของหัวใจปีศาจก็เริ่มหัวเราะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงหัวเราะของโทรเบิ้ลไทม์ที่ดังก้องไปทั่วล๊อบบี้ และเขาก็มองไปที่เมลานโครอิคสไมล์ราวกับเธอเป็นคนโง่

ความจริงแล้วเขาไม่ได้คาดหวังกับการพัฒนาแบบนี้ด้วยซ้ำ
ตอนแรกเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะพยายามอธิบายว่าเธอเข้าใจข้อความผิด เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะเลือกจะเผชิญหน้ากับมหาอำนาจต่างๆโดยตรงโดยไม่เปิดที่ว่างให้การเจรจา

ตอนนี้เมลานโครอิคสไมล์ได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับมหาอำนาจต่างๆแล้ว และชื่อเสียงของพวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมากแน่นอน หากพวกเขาไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสม

“หญิงสาวจากสภาสิบแปดปีก คุณนี่ช่างกล้าหาญจริงๆ คุณต้องการจะไล่เราออกจากป่าใบไม้ผลิอย่างแท้จริง แต่แล้วถ้าเราเลือกจะเพิกเฉยต่อคำพูดของสภาสิบแปดปีกล่ะ ? คุณคิดว่าเราจะไม่จำกัดคุณเพียงเพราะสภาสิบแปดปีกเป็นกิลเดียวที่สามารถสร้างเมืองกิลในป่าใบไม้ผลิได้งั้นหรอ ?” โทรเบิ้ลไทม์ถามอย่างเย้ยหยัน พลางมองไปยังเมลานโครอิคสไมล์

เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นนั้น เขาก็ไม่รังเกียจที่จะเติมเชื้อไฟเข้าไปเพื่อให้แน่ใจว่าสภาสิบแปดปีกจะถูกลบออกไปจากป่าใบไม้ผลิแบบเบ็ดเสร็จ

ในท้ายที่สุดมันก็ยังจะต้องจบลงด้วยการต่อสู้สินะ ? หยวนเทียนซินอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นให้กับความกล้าหาญของเมลานโครอิคสไมล์

โดยส่วนตัวแล้วหยวนเทียนซินชื่นชมอนาคตของสภาสิบแปดปีก และความแข็งแก่งของซือเฟิง ยิ่งไปกว่านั้นศาลาลับก็ยังได้รับผลประโยชน์มาไม่น้อยจากการเป็นหุ้นส่วนกับกิล ดังนั้นเขาจึงต้องการจะช่วยสภาสิบแปดปีกทุกทางเท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าความพยายามล่าสุดของเขาจะไร้ประโยชน์

ในขณะที่หยวนเทียนซินกำลังจะยอมแพ้และพยายามจะคิดหาวิธีอื่นในการจัดการกับมหาอำนาจต่างๆ เสียงจากผู้เล่นกลุ่มหนึ่งที่ปิดบังตัวตนไว้ใต้เสื้อคลุมสีดำก็ดังขึ้นไปทั่วล๊อบบี้ของโรงแรม

“เดี๋ยวก่อน มิสเมลานโครอิค เราไม่เหมือนกับมหาอำนาจอื่นๆ Battle Wolves อยู่ที่นี่ด้วยความหวังที่จะเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกเท่านั้น ฉันต้องการจะหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด …”

ทุกคนในล๊อบบี้หันไปมองยังต้นเสียงทันที
มันมีผู้เล่นหลายคนแยกตัวออกมาจากผู้เล่นคนอื่นๆ ก่อนที่พวกเขาจะถอดเสื้อคลุมสีดำออกเพื่อเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา ซึ่งชายวัยกลางคนที่นำกลุ่มผู้เล่นมาเป็นทีมเล็กๆนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซีเรียส หนึ่งในสี่ราชันหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ของ Battle Wolves

“อึก !! Battle Wolves ก็มาด้วยงั้นหรอ ?!”

“แน่นอนเลยว่าผู้เล่นที่ปิดบังตัวตนไว้ใต้เสื้อคลุมสีดำเหล่านี้ล้วนมีภูมิหลังที่ทรงพลัง แต่นี่ซีเรียสกำลังพยายามจะทำอะไรกัน ? นี่เขาไม่ได้วางแผนที่จะกำหนดเป้าหมายมาที่เมืองป่าหินจริงๆงั้นหรอ ?”

“สภาสิบแปดปีกนี่โชคดีมากจริงๆ หรือกิลอาจมีความสัมพันธ์ลับๆกับ Battle Wolves ดังนั้น Battle Wolves จึงได้ตัดสินใจที่จะยอมแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ?”

การกระทำของซีเรียสนั้นทำให้ผู้เล่นในล๊อบบี้ตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า Battle Wolves ซึ่งเป็นซุเปอร์กิลนั้นจะยอมแพ้ในการแข่งขันเรื่องเมืองป่าหิน

Battle Wolves งั้นหรอ ?

แม้แต่หยวนเทียนซินก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการกระทำของซีเรียส อย่างไรก็ตามเขาก็พอจะเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการกระทำนี้อยู่บ้าง

Battle Wolves และหัวใจปีศาจนั้นมีความบาดหมางและความแค้นที่ไม่สามารถจะแก้ไขกันได้แล้ว และเนื่องจากหัวใจปีศาจเลือกจะเคลื่อนไหวจัดการกับสภาสิบแปดปีก มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ Battle Wolves จะต้องเข้ามายุ่ง ซึ่งการที่พวกเขาเลือกจะยืนข้างสภาสิบแปดปีกนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันมีเหตุผล

ในทางกลับกันโทรเบิ้ลไทม์และพรรคพวกของเขาที่เป็นสมาชิกของหัวใจปีศาจก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อได้ยินคำประกาศของซีเรียส เพราะท้ายที่สุดการกระทำแบบนี้มันบ่งบอกชัดเจนเลยว่าซีเรียสคิดว่า “ศัตรูของศัตรูก็คือมิตรของฉัน”

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่โทรเบิ้ลไทม์ และคนอื่นๆกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ผู้เล่นอีกคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากฝูงชน

“สวัสดีมิสเมลานโครอิค จักรพรรดิคริมสันมาที่นี่เพื่อเจรจาเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกเช่นกัน นั่นคือความตั้งใจเดียวของเรา และผู้ที่พูดต่อต้านกิลของคุณเป็นแค่มหาอำนาจบางกลุ่มเท่านั้น พวกเขาไม่ได้มีผลต่อเจตนาของจักรพรรดิคริมสัน” อิลูซะรี่เวิร์ดประกาศ ขณะที่เธอก้าวมาข้างหน้า

ครู่หนึ่งทุกคนในล๊อบบี้นั้นล้วนเงียบลง ….

“เกิดอะไรขึ้น ? นี่จักรพรรดิคริมสันก็ยืนข้างสภาสิบแปดปีกด้วยงั้นหรอ ?”

ไม่เพียงแต่ Battle Wolves จะประกาศความตั้งใจที่จะยืนข้างสภาสิบแปดปีก แต่จักรพรรดิคริมสันเองก็เช่นกัน นี่มันทำให้ดวงตาของทุกคนแทบจะถลนออกจากเบ้า

“นี่จักรพรรดิคริมสันบ้าไปแล้วงั้นหรอ ?” โทรเบิ้ลไทม์จ้องมองไปยังอิลูซะรี่เวิร์ดและผู้ที่ติดตามเธอมาด้วยความสับสน

แม้ว่าเขาจะเข้าใจการตัดสินใจของ Battle Wolves แต่เขาก็ไม่สามารถจะเข้าใจสิ่งที่ผลักดันให้จักรพรรดิคริมสันทำแบบนี้ได้เลย

จักรพรรดิคริมสันนั้นไม่ได้เป็นทั้งเพื่อนและศัตรูกับสภาสิบแปดปีก และก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่ได้แสดงการสนับสนุนหรือต่อต้านหัวใจปีศาจอย่างเปิดเผย แต่ตอนนี้พวกเขากับทำ สถานการณ์นี้มันทำให้หลายคนสับสนมากๆ

แน่นอนว่าแม้ว่าการที่ทั้งสองกิลยืนข้างสภาสิบแปดปีกมันจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่มันก็ยังจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม

อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้หายตกตะลึงนั้น มันก็มีผู้เล่นอีกหลายกลุ่มที่เปิดเผยตัวตนออกมา และพูดขึ้นในทำนองเดียวกันกับทั้งสองกิล

“จักรวรรดิชาโด้วเลสนั้นปราถนาที่จะเจรจาเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกเช่นกัน และเรามาที่นี่พร้อมกับกลุ่มนี้ด้วยคำเชิญจากผู้อาวุโสหยวน หญิงสาวจากสภาสิบแปดปีกโปรดอย่าตีความเจตนาของเราผิด” ผู้อาวุโสลู่ที่มีดวงตาสีแดงเข้มจากจักรวรรดิชาโด้วเลสเดินออกมาพูดกับเมลานโครอิคสไมล์

“คุณพูดซะพวกเราดูเป็นตัวร้ายเลยนะผู้อาวุโสลู่ คุณทำให้ดูเหมือนว่าวังปีศาจนั้นมีเหตุผลอื่นในการมาที่นี่” อีวิลฉีหลินรีบกล่าวออกมาในทำนองคล้ายกัน เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของจักรวรรดิชาโด้วเลส ก่อนที่เขาจะกลอกตามองไปยังผู้อาวุโสที่มีดวงตาสีแดงเข้ม

หลังจากตัวแทนจากจักรวรรดิชาโด้วเลส และวังปีศาจประกาศความปราถนาของพวกเขาที่ต้องการจะเจรจาเป็นพันธมิตร และต้องการสันติภาพแล้ว ตัวแทนอื่นๆนอกเหนือจากหัวใจปีศาจ และสตาร์ลิ้ง นั้นก็ทำเช่นเดียวันโดยการยืนยันกับเมลานโครอิคสไมล์ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อเจรจาเป็นพันธมิตรกับกิลเธอเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง

สมาชิกของมหาอำนาจ และผู้เล่นอิสระหลายคนในล๊อบบี้ของโรงแรมอิสระต่างก็ตกตะลึง เมื่อได้เห็นฉากนี้

“มันเกิดอะไรขึ้น ?”

“นี่สภาสิบแปดปีกทำอะไรไปกัน ?”

แม้แต่หยวนเทียนซินและโทรเบิ้ลไทม์ก็ยังมองดูฉากนี้ด้วยปากที่อ้ากว้าง พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset