ตอนที่ 2579 นักบุญแห่งดาบคริมสันอาย
เมื่อได้ยินรายงานของไฟเออร์แดนซ์ ซือเฟิงก็เงียบลงเป็นเวลานานมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?
NPC ?
NPC ขั้นห้าหนึ่งคนกับ NPC ขั้นสี่สองคนอยู่ที่นั้น ?
ตามข้อมูลที่เขารู้มาจากชีวิตที่ผ่านมาของเขา เมืองพิษไม่ควรจะมี NPC แบบนี้ มันเป็นเมืองของคนตาย และไม่ควรจะมีสิ่งชีวิตใดอยู่รอดได้ในดินแดนลับแห่งนี้
“พวกเราควรถอยก่อนไหม หัวหน้ากิล ?” ไฟเออร์แดนซ์ถาม
พวกเขาอาจจะไม่มีปัญหาในการจัดการรับมือกับ NPC ขั้นสี่ ด้วยความได้เปรียบเชิงตัวเลข และเอฟเฟคของแหวนแห่งกอสเปล และพวกเขาก็มีสิทจะจัดการ NPC ขั้นสี่ทั้งสองได้ แต่การคิดจะต่อกรกับ NPC ขั้นห้านั้นมันเป็นเรื่องตลกชัดๆ นักบุญแห่งดาบ ขั้นห้านั้นจัดเป็นตัวตนที่เรียกได้ว่าแทบจะอยู่สูงที่สุดใน God domain ปัจจุบันแล้ว และแม้แต่อาณาจักรทั้งอาณาจักรก็ยังไม่กล้าจะยั่วยุตัวตนแบบนี้ และนักบุญแห่งดาบ ขั้นห้าก็จะสามารถฆ่าผู้เล่นขั้นสามได้อย่างง่ายดายเหมือนกับการหั่นผัก
มาตราฐานการต่อสู้ของ NPC ขั้นห้านั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย และพวกเขาก็น่าจะสามารถเทียบกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ได้เลย ในแง่ของมาตราฐานการต่อสู้
“ไม่ รออยู่บริเวณนั้นแหละ เดี๋ยวพวกเราไปหา …” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว
เขานั้นมั่นใจมากที่สุดว่าเขาสามารถจะรับเอาชิ้นส่วนดาบโซโลมอนจากเมืองพิษได้ เพราะมันเป็นชิ้นส่วนดาบที่อยู่ในที่ที่ง่ายที่สุดตอนนี้ที่เขาสามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางจะยอมจากไปโดยไม่ได้ตรวจสอบทุกอย่างให้ดี
ในระยะนี้ของเกมนั้นมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้จักและมีชิ้นส่วนดาบโซโลมอนไว้ในครอบครอง ซึ่งหากเขาไม่เร่งใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อรวบรวมชิ้นส่วนดาบที่เขาสามารถรวบรวมได้ พอคนอื่นได้รับมันไป มันก็จะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆที่จะรวบรวมมันให้ครบ และมันจะเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร เพราะชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่มีกลไกตรวจจับใดๆ และหากผู้เล่นคนอื่นได้รับบางชิ้นส่วนไปก่อน เขาก็จะไม่มีทางรู้ได้เลย นอกจากผู้เล่นที่ได้รับชิ้นส่วนไปจะไปโม้ให้คนอื่นรู้
นี่คือสาเหตุที่เขารีบร้อน
การรวบรวมชิ้นส่วนดาบตอนนี้จะค่อนข้างง่าย แต่เมื่อผู้เล่นไปถึงเลเวลที่สูงขึ้น การจะทำให้ได้นั้นมันจะยากขึ้นมาก นี่คือสาเหตุที่ไอเทมระดับตำนานหายากมากในชีวิตที่ผ่านมาของเขา โดยเฉพาะกับอาวุธระดับตำนาน และการรวบรวมชิ้นส่วนที่จำเป็นในเพื่อสร้างไอเทมระดับตำนานที่แท้จริงก็จัดเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเกินไป และการพึ่งแค่กำลังคนกับทรัพยากรจำนวนมากนั้นไม่เพียงพอ คนๆหนึ่งจะต้องพึ่งโชคด้วย ….
แน่นอนว่ามันก็มีข้อยกเว้นสำหรับกฎนี้ ผู้เล่นสามารถจะพึ่งพาหนังสือโบราณได้ เพราะเมื่อมีหนังสือโบราณเหล่านี้อยู่ในมือ ผู้เล่นก็จะสามารถค้นหาผ่านฐานข้อมูลของ God domain เพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ อย่างไรก็ตามหนังสือโบราณแบบนี้นั้นหายากมากพอๆกับอาวุธระดับตำนาน และคนๆหนึ่งก็จะพึ่งโชคในการค้นหามันเช่นกัน ….
หลังจากผ่านไปประมาณสองชั่วโมง ทั้งทีมที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นสายความมืด กองกำลังนรก และสมาชิกสภาสิบแปดปีกก็มาถึงลานกว้างของเมือง ซึ่งในใจกลางพื้นที่นี้นั้นก็มีบ่อน้ำพุที่แห้งไปแล้วอยู่ และหากพวกเขาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็จะค้นพบชุดของวงเวทย์ที่เปล่งประกายจางๆอยู่ โดยทำหน้าที่ปราบปรามดาบยาวสีเทาหม่นซึ่งใบดาบฝังอยู่ในบ่อน้ำพุไปครึ่งหนึ่ง และแม้จะมีการปราบปรามแบบนี้ แต่ออร่าของดาบก็ยังกำจัดสิ่งมีชีวิตรอบตัวมัน และเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย และมันก็เห็นได้ชัดว่าออร่าของดาบนั้นน่าจะทรงพลังมากขึ้นกว่านี้แน่นอน หากไม่มีวงเวทย์ปราบปรามมันไว้
ขณะเดียวกันมันก็มี NPC สามคนอยู่รอบๆดาบยาวสีเทาหม่น ขณะเดียวกันผู้ที่เป็นผู้นำของ NPC เหล่านี้ก็ยืนอยู่ด้านหน้าเลย โดยเขาเป็นชายที่มีตาข้างเดียว มีผมสีแดง และสวมหมวกที่มีสีขาวราวกับหิมะ
[เอลโวลต์ (นักบุญแห่งดาบคริมสันอาย)] (มนุษย์ นักบุญแห่งดาบ)
Level ? ? ?
HP??????/??????
อึก !! นักบุญแห่งดาบที่มีฉายา ?! ซือเฟิงรู้สึกมึนงง เมื่อเขามองไปยังชายที่มีตาข้างเดียว
NPC ขั้นห้าที่มีฉายานั้นเป็นเหมือนกับราชันในหมู่ NPC ขั้นห้า และพวกเขาก็รับผิดชอบต่อการแสดงปาฎิหาริย์มามากมายในอดีตของ God domain และในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นห้า ก็ยังไม่กล้าจะยั่วยุ NPC ขั้นห้าที่มีฉายา มันมีเพียงฮีโร่ขั้นห้าเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับตัวตนระดับนี้ได้ แต่แตกต่างจากฮีโร่ NPC ที่มีฉายาไม่ใช้ผู้ได้รับพรจากเหล่าทวยเทพ แต่พวกเขานั้นจะมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงลิ่ว และพลังการต่อสู้ที่มากมายมหาศาลแทน ด้วยเหตุนี้พูดกันตามตรง ผู้เล่นในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงจึงเต็มใจจะเผชิญหน้ากับฮีโร่ขั้นห้า มากกว่า NPC ขั้นห้าที่มีฉายา
แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับพบตัวตนระดับนี้ในเมืองพิษ ซึ่งเป็นดินแดนลับ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ….
สมาชิกในทีมของซือเฟิงนั้นล้วนอ้าปากค้างทั้งหมด เมื่อพวกเขาได้เห็นเอลโวลต์ แม้แต่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ พวกเขาก็ไม่เคยเห็น NPC ระดับนี้มาก่อน และหากพวกเขากลายเป็นศัตรูกับ NPC ระดับนี้ ชะตากรรมของพวกเขาก็จะจบสิ้นแล้วแน่นอน ซึ่งมันอาจทำให้พวกเขาต้องลบไอดีตัวเองและเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเลย
ขณะที่ซือเฟิงกำลังลังเลว่าเขาควรจะทำภารกิจส่วนตัวเรื่องชิ้นส่วนดาบโซโลมอนของเขาต่อไหม เอลโวลต์ก็หันมามองที่กำแพงที่ทีมของเขาซ่อนอยู่
“พวกคุณเฝ้าดูมานานพอแล้ว !!! แสดงตัวออกมา !!!” เอลโวลต์กล่าวอย่างใจเย็น
ขณะที่นักบุญแห่งดาบคริมสันอายผู้นี้พูดขึ้น ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน บลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์นั้นต้องต่อสู้กับสัญชาตญาณที่กรีดร้องให้พวกเขาหนีไป
พวกเขานั้นสามารถรับรู้ได้เลยว่าเอลโวต์แข็งแกร่งมากขนาดไหน และหากพวกเขาทำให้ชายคนนี้ไม่พอใจ ความคืบหน้าทั้งหมดที่พวกเขาทำมาใน God domain ก็จะไร้ประโยชน์ไปเลยแน่นอน และเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน แถมมาก
กว่าหนึ่งครั้งด้วยในโลกแห่งความมืด ดังนั้นผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดจึงไม่กล้าที่จะยั่วยุ NPC ขั้นห้าโดยไม่ตั้งใจเลย ในความเป็นจริง แม้แต่ NPC ขั้นสี่ ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ยังเลือกจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดด้วยซ้ำ
“อย่าวิ่งหนี !!!” ซือเฟิงตะโกนผ่านแชททีม
“แต่หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม นั่นคือ NPC ขั้นห้า …” ผู้อาวุโสโกลด์กล่าว
พวกเขาไม่ได้อยู่ในเมือง NPC และ NPC ที่อยู่ในแผนที่ล่านั้นก็ไม่เคยจะสามารถคาดเดาได้เลย และความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่หายนะที่ไม่อาจบรรยายได้
“ฉันรู้ แต่เขาเจอเราแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้เราหนีไปแน่นอน ถ้าเราพยายามหนี !!” ซือเฟิงกล่าวพลางยิ้มให้กับผู้อาวุโสโกลด์ “ทางเลือกที่ดีที่สุดของเราคือทำตามที่เขาบอก อย่าพยายามยั่วยุ NPC ขั้นห้าที่มีฉายาเลย”
พลังของ NPC ขั้นห้าที่มีฉายานั้นไม่ใช่เรื่องตลก และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นห้าก็ยังแทบไม่มีโอกาสจะหนีจากตัวตนระดับนี้ได้ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาที่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเลย ดังนั้นทางเลือกในการหนีจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
ยิ่งไปกว่านั้นดูแล้วเอลโวลต์ก็ไม่เหมือนกับเทพปีศาจในการล่อลวงของเทพปีศาจที่ซือเฟิงเคยเจอมา ถ้าชายคนนี้เกิดเอาแต่ใจ และไม่สนอะไรขึ้นมา ซือเฟิงก็จะตายก่อนที่เขาจะสามารถเปิดใช้งานสกิลสปาร์เชี่ยลเกตหรือสกิลการเคลื่อนย้ายอวกาศได้
“ฉันเข้าใจ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ผู้อาวุโสโกลด์ก็ตั้งสติได้และละทิ้งความคิดที่จะหนี และมันก็เป็นดั่งที่ซือเฟิงกล่าว ชายตรงหน้าของพวกเขาคือ NPC ขั้นห้าที่แข็งแกร่ง หากพวกเขาพยายามจะหนี พวกเขาจะไม่รอดแน่นอน ….
ยิ่งไปกว่านั้นหากชายที่เป็นนักบุญแห่งดาบขั้นห้าผู้นี้มองว่าการหนีของพวกเขาเป็นเจตนาจะท้าทายคำพูดของเขา ผลของเรื่องนี้มันก็จะยิ่งแย่ลงไปกันใหญ่แน่นอน ดังนั้นการออกไปตามคำบอกจึงดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ภายใต้การนำของซือเฟิง ทั้งทีมก็ได้โผล่ออกมา และเดินเข้าหาเอลโวลต์
“สวัสดีท่านนักบุญแห่งดาบที่เคารพ เรามาที่นี่เพื่อสำรวจดินแดนลับและค้นพบสถานที่แห่งนี้โดยบังเอิญ โปรดยกโทษให้สำหรับการล่วงละเมิดของเราด้วย” ซือเฟิงกล่าวขอโทษเอลโวลต์ซึ่งตอนนี้นั่งอยู่หน้าน้ำพุ
“สำรวจดินแดนลับงั้นหรอ ?” เอลโวลต์ยิ้ม จากนั้นเสียงของ NPC ก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา โดยเขาพูดต่อว่า “คุณมาที่นี่เพื่อดาบเล่มนี้ใช่ไหมล่ะ ? ใครเป็นผู้บัญชาการกองกำลังของคุณ ?!”
เจตนาฆ่าฟัน
นี่คือเจตนาฆ่าฟันของ NPC ขั้นห้าอย่างแท้จริง !!!
เมื่อน้ำเสียงของเอลโวลต์แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ซือเฟิงและทีมของเขาทั้งหมดก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้พวกเขาทุกคนรู้สึกราวกับว่ามีเหล็กหนักอึ้งถ่วงทั้งตัวพวกเขาอยู่ และแม้แต่การจะหายใจก็ยังทำได้อย่างยากลำบาก มันรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้จมดิ่งลงไปในนรกที่เย็นยะเยือก
ในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นหลายชุด
ระบบ : คำเตือน ! คำเตือน !
ระบบ : คุณได้กระตุ้นให้อีเว้นระดับอีปิค “ความโกรธเกรี้ยวของคริมสัน” ถูกเปิดใช้
งาน !
ระบบ : คุณมีเวลา 30 วินาที ในการตัดสินใจว่าจะฆ่าเอลโวลต์ นักบุญแห่งดาบคริมสันอาย หรือรับโทษถึงตาย