Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2595

ตอนที่ 2595 ขอบเขตสวรรค์ที่แท้จริง

เมืองที่สาบสูญ ชั้นสองของหอคอยพิเศษ :

เมือซือเฟิงขึ้นบันไดที่จะนำเขาไปสู่ชั้นสาม นักดาบที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆก็ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของเขาเรื่อยๆ ในบันไดขั้นที่หนึ่ง เขาต้องเผชิญหน้ากับนักดาบในชุดเกราะสีเงินเพียงสองคน แต่เมื่อเขาขึ้นมาถึงขั้นที่แปดสิบเก้าเขากับต้องเผชิญหน้ากับนักดาบในชุดเกราะสีทองสี่คน

ซึ่งนักดาบในชุดเกราะสีทองเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมีมาตราฐานการต่อสู้ที่ใกล้เคียงกับขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น แต่ทั้งสี่ยังมาถึงขอบเขตที่แท้จริงแล้วเช่นกัน และเมื่อรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน พลังการต่อสู้ของพวกเขาจึงสูงกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งทั่วไปอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นการประสานงานกันของนักดาบในชุดเกราะสีทองทั้งสี่ยังราบรื่นซะจนดูเหมือนกับพวกเขาแบ่งปันความคิดเดียวกัน ส่งผลให้มันไม่มีช่องว่างในการรุกและการป้องกันเลย แถมพวกเขาทั้งหมดยังมีค่าสถานะพื้นฐานที่น่าทึ่ง และแม้แต่ซือเฟิงก็ยังรับมือกับการโจมตีประสานของนักดาบในชุดเกราะสีทองได้อย่างยากลำบาก

ถ้าเขาไม่มีวัฏสงสารแห่งดาบไว้ใช้ป้องกันตัวเอง นักดาบในชุดเกราะสีทองพวกนี้คงโยนเขากลับลงบันไดได้ไปนานแล้ว

ฉันสามารถจะจัดการกับนักดาบเหล่านี้แบบตัวต่อตัวได้อย่างง่ายดาย แต่การหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ประสานกันของพวกเขาด้วยร่างกายของผู้เล่นขั้นหนึ่งนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย ดูเหมือนว่าทางเลือกเดียวของฉันคือการต้องบังคับใช้กำลังเปิดทาง !!

หลังจากผ่านไปสามนาทีในการต่อสู้กับนักดาบในชุดเกราะสีทองสี่คน ซือเฟิงก็ตระหนักว่า ถ้าเขายังคงต่อสู้ต่อไปแบบนี้มันจะเป็นการเสียเวลาเปล่า เขาไม่พบจุดอ่อนใดๆที่จะใช้ประโยชน์ได้เลยจากนักดาบเหล่านี้ ดังนั้นวิธีเดียวที่เขาคิดได้เพื่อไปให้ถึงขั้นต่อไปก็คือบังคับใช้กำลังเปิดทางผ่านนักดาบเหล่านี้

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ก้าวไปข้างหน้าและสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเขาก็ยก Abyssal Blade ของเขาขึ้นเหนือหัวและจัดการรวบรวมมานามารอบๆอาวุธ

ซึ่งมันก็ทำให้เงาของดาบขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นเหนือเขาทันที แม้ว่าหอคอยพิเศษจะปราบปรามจนทำให้ร่างกายทางกายภาพของเขามีความแข็งแกร่งเท่ากับขั้นหนึ่ง แต่มันก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถมาปราบปรามร่างมานาของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมมานาในนี้เพื่อใช้ในการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

ในการตอบโต้นักดาบในชุดเกราะสีทองทั้งสี่คนพยายามจะทำการโจมตีประสานกันเข้าใส่จุดอ่อนทั้งสิบหกจุดของซือเฟิง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้มีโอกาสโจมตี ซือ
เฟิงก็เหวี่ยง Abyssal Blade ของตัวเองแล้ว

ไลท์ชาโด้ว !!

ตู้ม !!

หลังจากเจอกับการโจมตีด้วยไลท์ชาโด้ว นักดาบทั้งสี่ก็แตกแถวกันออกจากรูปแบบ และถูกบังคับให้ต้องถอยไปหลายก้าว ซึ่งซือเฟิงก็ใช้โอกาสนี้พุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ที่ใกล้ที่สุดของเขาทันที

เป้าหมายของซือเฟิงนั้นตอบสนองอย่างรวดเร็ว แม้ว่านักดาบในชุดเกราะสีทองจะยังไม่สามารถตั้งตัวได้ แต่เขาก็ได้ใช้การเฉือนดาบออกมาในแนวนอนเพื่อหยุดการพุ่งเข้ามาของซือเฟิง

อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้ให้โอกาสนักดาบในชุดเกราะสีทองในการป้องกันตัวเอง เพราะเขาได้ใช้ดาบศักสิทธิ์ของเขาให้แปรเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงทำการหักเหวิถีดาบของนักดาบในชุดเกราะสีทองออกไปทันที ก่อนที่จะแทงมันเข้าที่หน้าอกของนักดาบในชุดเกราะสีทอง

Peng!

ประกายไฟนั้นเกิดขึ้น เมื่อดาบของซือเฟิงปะทะเข้ากับชุดเกราะสีทองของนักดาบ โดยผลของการโจมตีนี้มันก็ได้บังคับให้นักดาบต้องถอยไปอีกสองถึงสามก้าวก่อนจะทรุดลง ในที่สุดซือเฟิงก็สามารถเจาะรูในรูปแบบของนักดาบในชุดเกราะสีทองทั้งสี่ได้แล้ว

ตอนนี้แหละ !!!

เมื่อเห็นเป้าหมายของเขาทรุดลงไป ซือเฟิงก็ได้ทำการใช้ Void Steps เพื่อสร้างความสับสนให้กับนักดาบในชุดเกราะสีทองอีกสามคนที่เหลือ ก่อนที่จะหลบหนีการล้อมกรอบของทั้งสามมาได้ และก้าวไปสู่บันไดขั้นเก้าสิบ

ขณะที่ซือเฟิงมาถึงบันไดที่ขั้นเก้าสิบนั้น นักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเขา ก่อนที่นักดาบคนนี้จะกระชับอาวุธในมือแน่นและใช้มันโจมตีเข้าใส่ซือเฟิงทันที

การโจมตีนี้มันมีแรงผลักที่ทรงพลังจนน่าประหลาดใจ และทันทีที่ดาบของนักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำพุ่งเข้ามานั้น มันก็เปลี่ยกลายเป็นอนุภาคแสงจำนวนมากพุ่งเข้าหาซือเฟิง ซึ่งมันทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถบอกได้ว่าการโจมตีไหนเป็นของจริงรึปลอม

เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูง ? การแสดงออกของซือเฟิงมืดมนลง เมื่อเขาจำได้ว่าการเคลื่อนไหวของนักดาบผู้นี้นั้นคือเทคนิคการต่อสู้

ค่าสถานะพื้นฐานและมาตราฐานการต่อสู้ของนักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำนั้นสูงกว่านักดาบในชุดเกราะสีทองที่ซือเฟิงเคยเผชิญมาอย่างมาก ในความเป็นจริงมันต้องบอกว่านักดาบผู้นี้แทบจะอยู่ในขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำแล้วด้วยซ้ำ และเมื่อรวมมันเข้ากับการที่เขาใช้เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงแล้ว ซือเฟิงก็ไม่สามารถจะเทียบกับคู่ตค่อสู้รายนี้ได้ด้วยร่างกายทางกายภาพขั้นหนึ่งเลย

แน่นอนว่าข้อเสียเปรียบแค่นี้นั้นมันไม่มากเพียงพอที่จะทำให้ซือเฟิงยอมแพ้ได้ และเขาก็ได้ทำการเหวี่ยงคิลลิงเรย์ของเขาทันที

วัฎสงสารแห่งดาบ !!!

ทันทีที่อาวุธของทั้งสองปะทะกัน เสียงดังสนั่นก็ดังก้องไปทั่วชั้นสอง และผลของมันนั้นก็ทรงพลังมากซะจนผลักดันให้ซือเฟิงต้องกลับมาที่ขั้นที่แปดสิบเก้า และซือเฟิงก็ไม่ได้มีเวลาจะปรับท่าทางใดๆของเขาเลย ก่อนที่นักดาบในชุดเกราะสีทองทั้งสี่คนจะทำการโยนเขากลับมาที่ฐานของบันไดในชั้นสอง

นักดาบในบันไดขั้นที่เก้าสิบนั้นยอดเยี่ยมมากๆ ฉันไม่เห็นการเคลื่อนไหวที่มากเกินไปเลย และเมื่อรวมกับเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงนั้นทุกอย่างมันออกมาสมบูรณ์แบบมากๆ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็ไม่สามารถจะค้นพบช่องโหว่ใดๆเพื่อใช้ประโยชน์ได้แน่นอน และพวกเขาก็จะต้องถูกบังคับให้ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีโดยตรงเท่านั้น

อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นไม่ได้ผิดหวังเลยที่ถูกโยนกลับมาที่จุดเริ่มต้น จริงๆแล้วเขาค่อนข้างตื่นเต้นด้วยซ้ำ เพราะนักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำมันทำให้เขาเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง

เขาได้มาถึงขอบเขตที่แท้จริงแล้ว ซึ่งทุกการเคลื่อนไหวของเขาควรจะดูคล้ายกับเทคนิคการต่อสู้ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น การเคลื่อนไหวของเขาขาดพลังของเทคนิคการต่อสู้ ทุกอย่างที่เขาทำได้ตอนนี้มันยังเป็นเพียงภาพลวงของเทคนิคการต่อสู้เท่านั้น มันยังไม่ใช่ของจริง

พูดง่ายๆก็คือตอนนี้เขายังไม่ได้ก้าวหน้ามากนักเลยในขอบเขตที่แท้จริงของเขาตอนนี้ และรากฐานของเขาก็ยังไม่มั่นคง เขายังเข้าใจเพียงแค่คลุมเครือเท่านั้นเกี่ยวกับแนวคิดของขอบเขตนี้

ในทางกลับกันนักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำนั้นตรงกันข้ามกับซือเฟิงทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องรากฐาน รากฐานของเขานั้นมั่นคงมากๆ ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้ซือเฟิงยังไม่สามารถจะขึ้นไปที่ชั้นสามของหอคอยพิเศษได้ แม้ว่าเขาจะมาได้ไกลขนาดนี้แล้วก็ตาม

หากเขาสามารถทำได้แบบนักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำโดยการผสานเทคนิคการต่อสู้เข้ากับทุกการเคลื่อนไหวของเขา และทำมันได้อย่างสมบูรณ์ พลังการต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน

ในขณะที่ซือเฟิงกำลังไตร่ตรองถึงข้อบกพร่องของตัวเอง สมาชิกของสภาสิบแปดปีกอีกจำนวนหนึ่งก็ถูกโยนลงมาจากบันไดของชั้นสองเช่นกัน

“ฉันทำได้ !! ในที่สุดฉันก็ทำได้แล้ว !!!” ชาโด้วซอร์ดตะโกนอย่างมีความสุข ขณะที่เขาจ้องมองไปยังมานาที่หนาแน่นที่ร่างกายของเขาแผ่ออกมา

เทอเทิ้ลโดฟ Alluring Summer และคนอื่นๆที่ถูกโยนลงมานั้นก็ล้วนแผ่มานาที่หนาแน่นออกมาในทำนองเดียวกัน ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นบลูฟอร์ส ฟลายอิ้งชาโด้ว สตับบอร์นโบน และสมาชิกของสภาสิบแปดปีกอีกจำนวนหนึ่งที่เริ่มจะปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้แล้วก็เผยการแสดงออกที่ตื่นเต้นออกมาเช่นกัน พวกเขาก้าวหน้าไปอย่างมากในระหว่างที่พวกเขาปีนขึ้นบันไดชั้นสองของหอคอยพิเศษ

นี่การฝึกในหอคอยพิเศษให้ผลมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ? ซือเฟิงมองไปที่ผู้เล่นรอบตัวเขาด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่ามานาในหอคอยพิเศษจะมอบความช่วยเหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นให้กับผู้เล่นในการพัฒนาการควบคุมมานาของพวกเขา แต่ซือเฟิงก็ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขา การเรียนรู้กฎและวิธีการจัดการกับมานานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการปรับวิธีพวกนี้ให้เข้ากับร่างมานาของตัวเอง

ตอนแรกซือเฟิงนั้นคาดการณ์ไว้ว่า แม้ว่าชาโด้วซอร์ด และคนอื่นๆที่ใกล้จะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วจะได้มาฝึกที่นี่ แต่พวกเขาก็น่าจะยังต้องใช้เวลาสามถึงห้าวันกว่าจะเข้าถึงตัวเลขร้อยเปอเซ็นต์ได้

แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ พวกเขากับประสบความสำเร็จในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน ….

หากสมาชิกกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกสามารถก้าวหน้าไปได้มากขนาดนี้ ในอัตรานี้พวกเขาทั้งหมดที่มาที่นี่น่าจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ทั้งหมดในเวลาไม่ถึงสิบวัน และพวกเขาก็จะกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างแท้จริงใน God domain

ระหว่างที่ซือเฟิงหันกลับมาสนใจบันไดชั้นสองนั้น เมลานโครอิคสไมล์ก็ได้โทรเข้ามาหาเขา

“หัวหน้ากิล ตัวแทนของหอการค้าอาซูได้มาที่สถานที่พักกิลของเรา พวกเขาต้องการพูดคุยกับหัวหน้าเกี่ยวกับการนำไซเร้นวอร์นเดอร์ไปพัฒนาที่ไวโอเล็ตซอร์ดในทวีปด้านตะวันตก พวกเขาหวังว่าเราจะไม่ “ขัดขวางอนาคตของเธอ” และปล่อยเธอไป พวกเขาได้ไปหาไซเร้นวอร์นเดอร์ก่อนจะมาที่นี่แล้วด้วย และดูเหมือนว่าปฎิกิริยาของเธอจะไม่เป็นบวก” เมลานโครอิคสไมล์รายงาน

“ไวโอเล็ตซอร์ดงั้นหรอ ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “หอการค้าอาซูนี่ช่างเป็นพวกเจ้าเล่ห์อย่างแท้จริง …”

“หัวหน้ากิลต้องการจะพบกับพวกเขาไหม ?” เมลานโครอิคสไมล์ถาม

“ไม่ นั่นมันไม่จำเป็นเลย ให้เฮลรัชส่งพวกเขาออกไป นอกจากนี้ให้เฮลรัชถ่ายทอดข้อความของฉันไปถึงพวกเขาว่า ฉันจะพาวอร์นเดอร์ไปเยี่ยมไวโอเล็ตซอร์ดเป็นการส่วนตัว หลังจากการแข่งขันระหว่างตระกูล เพื่อพูดคุยกับคนของซุเปอร์กิลเอง ดังนั้นพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องมายุ่ง !!!” ซือเฟิงกล่าวอย่างใจเย็น

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset