ตอนที่ 2596 สภาสิบแปดปีกอันยิ่งใหญ่ และเวลาที่เปลี่ยนไป
เมืองป่าหิน สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก :
หลงหวู่ชางและเฮอร์มิทซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าต่างฝรั่งเศสนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าไม่มีความสุขในห้องรับรองที่หรูหราและมีขนาดใหญ่ของสภาสิบแปดปีก
“นี่คุณกำลังบอกว่าหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมไม่มีความตั้งใจจะมาพบกับเรางั้นหรอ ? ผู้บัญชาการรัช ….” หลงหวู่ชางกล่าวอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ และจ้องมองไปยังเฮลรัชซึ่งพึ่งแจ้งให้พวกเขาทราบถึงคำตอบของซือเฟิงด้วยความประหลาดใจ
“ถูกต้อง เขารู้ดีว่าพวกคุณต้องการจะพูดอะไร และต้องการให้ฉันถ่ายทอดข้อความของเขามาถึงพวกคุณ เมื่อการแข่งขันระหว่างตระกูลสิ้นสุดลง เขาจะพาไซเร้นวอร์นเดอร์ไปเยี่ยมเยียนไวโอเล็ตซอร์ดเป็นการส่วนตัวเอง พวกคุณไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้” เฮลรัชบอกชายสองคนอย่างใจเย็นพลางพยักหน้า
ข้อความนี้ทำให้ทั้งคู่ตกตะลึงอย่างมากโดยเฉพาะกับหลงหวู่ชาง
หลงหวู่ชางได้พิจารณาถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้หลายอย่างก่อนที่พวกเขาจะมาถึงสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก และเขาก็ได้เตรียมข้อโต้แย้งมามากมายเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ซือเฟิงยอมปล่อยไซเร้นวอร์นเดอร์ไป อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะปฎิเสธที่จะพบพวกเขา และกระทั่งให้เฮลรัชมาส่งพวกเขากลับไป ….
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ชายหัวล้านประหลาดใจที่สุดก็คือ เฮลรัชนั้นปฎิบัติตัวเป็นเหมือนเลขาส่วนตัวของซือเฟิงเลย และมาถ่ายทอดข้อความของซือเฟิงถึงพวกเขาเป็นการส่วนตัว ….
พันธมิตรระหว่างจักรวรรดิโลกใต้พิภพและสภาสิบแปดปีกนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นความลับอีกต่อไปในหมู่มหาอำนาจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการต่อสู้ที่ประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืด เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองกิลออกมาอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามเฮลรัช ซึ่งเป็นเทพสังหารที่มีชื่อเสียงในทวีปด้านตะวันตก และยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังนรก ซึ่งเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิโลกใต้พิภพ และแม้แต่หัวหน้ากิลของไวโอเล็ตซอร์ดก็ยังต้องปฎิบัติอย่างจริงจังกับเขา กับมารับบทเป็นเหมือนเลขาส่วนตัวของซือเฟิงที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อความอย่างเชื่อฟัง ….
“ดี !! เนื่องจากหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมเข้าใจสถานการณ์ เราจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว !!!” หลงหวู่ชางกล่าวตัดสินใจ หลังจากสงบสติอารมณ์ จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น และเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเฮอร์มิท
หลังจากออกมาจากสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก บรรยากาศรอบตัวของหลงหวู่ชางก็ดูเหมือนจะลดลงสองถึงสามองศาและกลายเป็นหนาวจัดจนผู้เล่นในบริเวณใกล้เคียงนั้นสั่นสะท้าน และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของหอการค้าอาซูที่ติดตามเขามาด้วยก็ยังอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน เมื่อออร่าของหลงหวู่ชางกวาดผ่านพวกเขา
“เมื่อคิดว่าแม้แต่เฮลรัชผู้มีชื่อเสียงก็ยังฟังแบล๊คเฟรม …. ฉันไม่คาดคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจักรวรรดิโลกใต้พิภพแบบนี้ ไวโอเล็ทซอร์ดอาจจะยอมแพ้ก็ได้นะ ถ้ารู้เรื่องนี้ …” เฮอร์มิทคาดเดา พลางมองไปยังสีหน้าบิดเบี้ยวของเพื่อนของเขา
“แล้วยังไงล่ะ ?” หลงหวู่ชางหัวเราะ “ฉันยอมรับว่าสภาสิบแปดปีกนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกับจักรวรรดิโลกใต้พิภพ แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะพูดยังไง พวกเขาก็เป็นแค่พันธมิตรกันเท่านั้น และสภาสิบแปดปีกก็แทบจะไม่มีพลังใดๆในทวีปด้านตะวันตก ในขณะที่ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นเป็นยักษ์ใหญ่ ซึ่งมันก็เห็นได้ชัดว่าใครเป็นผู้กุมความได้เปรียบในทวีปด้านตะวันตก จักรวรรดิโลกใต้พิภพจะช่วยพวกเขาได้มากแค่ไหนกัน ?”
“ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตและศักศรีดิ์ของไวโอเล็ตซอร์ด กิลจะไม่ยอมถอยเพียงเพราะการแทรกแซงของจักรวรรดิโลกใต้พิภพแน่นอน ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นตั้งเป้าที่จะกลายเป็นห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดให้ได้ ซึ่งสภาสิบแปดปีกเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจักรวรรดิโลกใต้พิภพแล้วยังไงล่ะ ?”
“และสำหรับแผนการของแบล๊คเฟรมที่จะไปเจรจากับไวโอเล็ตซอร์ดเป็นการส่วนตัวนั้น มันไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูดของคนโง่เลย !!!”
“เอาเถอะๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็มีทางของมันน่ะนะ ว่าแต่เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว คุณจะกลับเลยไหม ?” เฮอร์มิทถาม
“แน่นอน ฉันจะกลับเลย …” หลงหวู่ชางกล่าว ก่อนที่เขาจะมองไปยังสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกอย่างเย้ยหยัน “ไวโอเล็ตซอร์ดได้เตือนตระกูหลงมาแล้ว และเนื่องจากแบล๊คเฟรมต้องการที่จะดื้อรั้น เขาจึงไม่สามารถจะโทษฉันได้ที่ฉันจะต้องถ่ายทอดข้อความของเขาไปยังไวโอเล็ตซอร์ด ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นความมั่นใจของเขาหายไปแล้ว !!!”
จากนั้นหลงหวู่ชางก็ออกจากเมืองป่าหิน และกลับไปยังทวีปด้านตะวันตกทันที และเขาก็วางแผนที่จะแจ้งให้ไวโอเล็ตซอร์ดกับทุกคนในตระกูลทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ไม่นานหลังจากที่กลุ่มของหลงหวู่ชางจากไป ไซเร้นวอร์นเดอร์ก็ได้รับข่าวการตอบกลับของซือเฟิง
“หัวหน้ากิล นี่หัวหน้าไม่ได้วางแผนจะไปเยี่ยมเยียนไวโอเล็ตซอร์ดจริงๆใช่ไหม ?” ไซเร้นวอร์นเดอร์ถาม ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงซึ่งคุยกันอยู่ในวีดีโอคอล
การปฎิเสธจะพบกับลุงห้าของเธอเป็นการส่วนตัวนั้นมันไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับกำลังเล่นกับไฟโดยการประกาศว่าเขาจะแก้ไขเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวเอง
สภาสิบแปดปีกกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในทวีปด้านตะวันออกเรียบร้อยแล้ว แต่รากฐานของกิลนั้นยังคงอ่อนแอมากในทวีปด้านตะวันตก การพยายามจะโน้มน้าวให้บริษัทซีอุสกับไวโอเล็ตซอร์ดละทิ้งแผนการของพวกเขานั้น มันคงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพลังของสภาสิบแปดปีกในปัจจุบัน
หาเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ สภาสิบแปดปีกอาจกลายเป็นศัตรูของบริษัทซีอุสได้เลย ซึ่งมันคงไม่ใช่ข่าวดีนักสำหรับกิล
“ฉันได้ตัดสินใจไปแล้ว และก็ประกาศไปแล้วด้วย ดังนั้นยังไงฉันก็จะไปพบกับพวกไวโอเล็ตซอร์ด” ซือเฟิงกล่าว “และเราจะไปในสไตล์ของเราด้วย !!!”
“ไปในสไตล์ของเรา ?” ไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นอดไม่ได้ที่จะคิดว่าซือเฟิงเป็นบ้าไปแล้วรึปล่าว
พวกเขากำลังพูดถึงกิลไวโอเล็ตซอร์ด และการไปพบกับกิลๆนี้ในทวีปด้านตะวันตก ซึ่งเป็นที่ที่กิลมีอิทธิพลสูง พวกเขาจะทันได้เข้าไปพบกับพวกระดับสูงของไวโอเล็ตซอร์ดก่อนจะถูกฆ่าตายไหมก็ยังไม่รู้เลย เมื่อคำพูดของซือเฟิงในวันนี้แพร่ออกไป ไม่ต้องพูดถึงการไปในสไตล์ของพวกเขาเอง
“ฉันได้ยินมาว่ารุ่นเยาว์ของหอการค้าอาซูได้รับการเชิญให้ไปฝึกกับไวโอเล็ตซอร์ด ? เนื่องจากเป็นแบบนี้เธอควรหยุดพักจากการวิจัยและผลิตโพชั่นก่อน แล้วให้หันมามุ่งเน้นการฝึกที่เมืองที่สาบสูญ” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองปนเป็นห่วงของไซเร้นวอร์นเดอร์ “เราจะแสดงให้ตระกูลของเธอ และไวดอเล็ตซอร์ดเห็นความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีก !!!”
“แต่มันมีเวลาเหลืออีกแค่ไม่กี่วันก่อนการแข่งขันระหว่างตระกูล ฉันกลัวว่ามันจะสายเกินไปที่เราจะเริ่มฝึกในตอนนี้ …” ไซเร้นวอร์นเดอร์บ่น
ความไว้วางใจของเธอในความสามารถของซือเฟิงนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความสามารถของเขาในการช่วยให้ผู้เล่นคนหนึ่งมีเลเวลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเขาได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้เห็นกับสมาชิกกองกำลังหลักของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้แล้ว
อย่างไรก็ตามการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นนี้มันไม่ได้อยู่ในรูปแบบของการดวลระหว่างผู้เล่นทั่วไป แต่มันเป็นการแข่งขันด้านมาตราฐานและเทคนิคการต่อสู้
หอการค้าอาซูนั้นถือว่าอาวุธและอุปกรณ์เป็นเพียงความแข็งแกร่งภายนอก และหอการค้าก็มีพลังมากพอที่จะได้รับไอเทมดีๆด้วยตัวเองอยู่แล้ว และทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ดังนั้นหอการค้าอาซูจึงไม่ต้องการให้สมาชิกรุ่นเยาว์พึ่งพาไอเทม หอการค้าอาซูต้องการให้สมาชิกรุ่นเยาว์พึ่งพาศักยภาพของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็ไม่น่าจะสามารถปรับปรุงมาตราฐานการต่อสู้และเทคนิคการต่อสู้ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะเรื่องนี้นั้นมันจำเป็นจะต้องฝึกฝนอย่างยากลำบากเป็นเวลานานมาก
ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงหกวันก่อนจะถึงการแข่งขันระหว่างตระกูล ดังนั้นการจะแสวงหาการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพภายในช่วงเวลาสั้นๆ มันจึงไม่ควรจะทำได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าความสามารถของเธอในด้านสายอาชีพจะจัดว่าโดดเด่นเป็นอันดับต้นๆในหอการค้าอาซู แต่เธอก็ไม่ควรจะมีอะไรที่จะสามารถเทียบได้กับอัจฉริยะด้านการต่อสู้ของหอการค้าอาซูเลย
จากสิ่งที่เธอได้เรียนรู้มาในระหว่างการแข่งขันครั้งก่อนที่เมืองหินปีศาจ รุ่นเยาว์สองคนนั้นอยู่ใกล้กับขอบเขตโดเมนแล้ว และตอนนี้คนหนึ่งก็ได้ไปถึงขอบเขตโดเมนแล้วด้วย ในทางตรงกันข้าม เธอพึ่งจะอยู่ในมาตราฐานครึ่งก้าวก่อนขอบเขตอนันต์เท่านั้น เธอไม่มีทางจะไปเอาชนะอัจฉริยะพวกนั้นได้เลย
“ฉันรู้น่า แต่อย่างไรก็ตามการต่อสู้มันก็มีหลายรูปแบบและวิธีการนี่นา …” ซือเฟิงกล่าว เขาตระหนักถึงความกังวลของไซเร้นวอร์นเดอร์ดี “ไม่ว่าในกรณีใด แค่ไปที่นั่น ฉันอนุญาติให้เธอสามารถเข้าถึงเมืองที่สาบสูญได้แล้ว เธอสามารถไปที่สถานที่พักกิลเพื่อซื้อม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตของกิลได้ทันที”
“เอาล่ะ ฉันจะรีบไปทันที !!” ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าวยอมรับพลางพยักหน้า เนื่องจากซือเฟิงมีความมั่นใจมาก เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามความปราถนาของเขา เธอเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงที่เธออยู่กับสภาสิบแปดปีก และเธอก็ไม่สามารถจะทำให้ชื่อเสียงของกิลแปดเปื้อนได้ หลังจากนั้นเธอก็ออกจากบริษัทการค้าแสงเทียน และมุ่งหน้าไปยังสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกทันที