ตอนที่ 2604 ร่างมานาที่ได้รับการปลดล๊อคศักยภาพทั้งหมดแล้ว
ผู้ชมนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นการโจมตีของโซริทารี่ฟรอสต์ถูกหยุดเอาไว้
“มันไม่พังลงได้ยังไง ? นั่นเป็นเพียงสกิลป้องกันขั้นสองไม่ใช่หรอ ?”
“นี่ตอนโจมตีโซริทารี่ฟรอสต์พลาดอะไรไปรึปล่าว ?”
เหล่าผู้ชมนั้นต่างคุ้นเคยกับเวทย์กำแพงน้ำแข็งเป็นอย่างดี เพราะก่อนที่ผู้เล่นจะเริ่มมาถึงขั้นสามกัน Elementalists ได้ใช้เวทย์นี้เพื่อคอยปกป้องแท๊งเกอร์จากการโจมตีของลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตามทั้งโซริทารี่ฟรอสต์ และไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นต่างก็เป็นผู้เล่นขั้นสามอย่างแท้จริง แม้ว่าค่าสถานะพื้นฐานของพวกเขาจะเท่ากัน แต่ทั้งคู่ก็มีคุณสมบัติของผู้เล่นขั้นสาม กำแพงน้ำแข็งขั้นสองนั้นอย่างมากที่สุดก็น่าจะหยุดการโจมตีทั่วไปในขั้นสามได้เท่านั้น โดยมันไม่น่าจะหยุดการโจมตีเต็มรูปแบบของผู้เล่นขั้นสามที่ใช้เทคนิคการต่อสู้ได้
“กำแพงน้ำแข็งขั้นสองสามารถจะหยุดการโจมตีเต็มรูปแบบของเบอเซิกเกอร์ขั้นสามที่ใช้เทคนิคการต่อสู้ได้งั้นหรอ ?” เบิร์นนิ่งโอลเองก็สับสนพอๆกับคนอื่นๆ หลังจากที่ได้เห็นกำแพงน้ำแข็งของไซเร้นวอร์นเดอร์ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
เขาได้ต่อสู้กับ Elementalists ขั้นสามมาหลายคนแล้ว แต่เมื่อพวกเขาใช้กำแพงน้ำแข็งกับเขา เวทย์นี้นั้นมันแทบจะไม่สามารถหยุดการโจมตีทั่วไปของเขาด้วยซ้ำ และเขาก็ได้ทดสอบมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่เคยล้มเหลวในการทำลายกำแพงน้ำแข็งเลย
ในขณะเดียวกันหยานเซี่ยวเฉียนก็จ้องมองไปยังไซเร้นวอร์นเดอร์อย่างประหลาดใจ
“มานา !!” หยานเซี่ยวเฉียนร้องอุทานออกมา เมื่อเธอรู้สึกได้ถึงมานาที่หนาแน่นที่แผ่ออกมาจากไซเร้นวอร์นเดอร์ “เธอปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาทั้งหมดของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว !!!”
หยานเซี่ยวเฉียนไม่ใช่ผู้เล่นนักเวทย์เพียงคนเดียวที่สังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของมานารอบๆไซเร้นวอร์นเดอร์ และคำอธิบายเดียวที่พวกเขาคิดได้ก็คือ Elementalists นั้นได้ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว
“นี่เธอปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วงั้นหรอ ?”
“มหัศจรรย์มากๆ !!! แม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังไม่มีสมาชิกที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วเลย !!!”
“ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่นี่ของฉันจะไม่เสียเปล่าแล้วจริงๆ ฉันจะได้ดูผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วต่อสู้ !!!”
ทุกคนในหมู่ผู้ชมต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับไซเร้นวอร์นเดอร์ ตอนนี้ความคิดเห็นของพวกเขาที่มีต่อเธอนั้นได้เปลี่ยนไปทั้งหมด ตอนนี้แทนที่จะมองว่าเธอเป็นเพียงหนึ่งในสมาชิกรุ่นเยาว์ของหอการค้าอาซู พวกเขานั้นเริ่มจะมองว่าเธอเป็นตัวตนทรงพลังที่แท้จริงแล้ว
“ฮ่าๆๆ !!! ดี !!! มันวิเศษมากๆ !!! ตอนนี้เราก็มีโอกาสจะได้รับตำแหน่งหนึ่งในสามอันดับแรกแล้ว !!!” หลงหวู่ชางซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชมหัวเราะอย่างสนุกสนาน ขณะที่เขามองไปยังไซเร้นวอร์นเดอร์
หลังจากที่ล้มเหลวในการจะตามตัวและติดต่อมูนซิลค์ ตระกูลหลงก็หมดความหวังที่จะคว้าตำแหน่งสามอันดับแรกไปแล้วในการแข่งขันครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นได้ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว ซึ่งมันทำให้การที่พวกเขาจะได้รับตำแหน่งสามอันดับแรกนั้นเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว เพราะท้ายที่สุดมันมีความแตกต่างอย่างมากสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว กับผู้เชี่ยวชาญที่ยังไม่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วนั้นจะมีพลังในการต่อสู้มากกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปเกือบครึ่งหนึ่งเลย
ผู้เข้าร่วมทุกคนในการแข่งขันครั้งนี้ที่ไม่รวมโซริทารี่ฟรอสต์นั้น อย่างมากก็มาถึงขอบเขตอนันต์เท่านั้น แม้ว่าไซเร้นวอร์นเดอร์จะพึ่งมาถึงครึ่งก้าวก่อนขอบเขตอนันต์ แต่เธอก็จะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ได้อย่างง่ายดายด้วยข้อได้เปรียบนี้ และไม่เว้นแม้แต่หยานเซี่ยวเฉียนก็จะไม่สามารถเทียบกับเธอได้
“คุณปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วงั้นหรอ ?” ดวงตาของโซริทารี่ฟรอสต์นั้นลุกโชนด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ทันที เมื่อเขามองไปยังไซเร้นวอร์นเดอร์ที่อยู่เบื้องหลังกำแพงน้ำแข็ง “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงกล้าท้าทายฉัน !! ฉันไม่เคยต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์มาก่อนดังนั้นแสดงให้ฉันเห็นหน่อยว่ามันทรงพลังมากแค่ไหน !!”
เบอเซิกเกอร์ยกดาบใหญ่ของตัวเองขึ้น ก่อนจะกระโจนขึ้นไปในอากาศ โดยเล็งเป้าไปยังพื้นที่หนึ่งที่ไซเร้นวอร์นเดอร์ไม่ได้การป้องกันจากกำแพงน้ำแข็ง
เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูง Seven Consecutive Flashes!
ดาบใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงทั้งหมดเจ็ดลำแสงพุ่งเข้าครอบคลุมพื้นทั้งหมดภายในกำแพงน้ำแข็ง และไม่เปิดพื้นที่ว่างให้กับไซเร้นวอร์นเดอร์ได้หลบเลย
ในการตอบสนองไซเร้นวอร์นเดอร์ได้ใช้สกิลบลิ้งไปปรากฎตัวในระยะห่างออกไปสามสิบหลาทันทีเพื่อหลบการโจมตีของโซริทารี่ฟรอสต์ และหลังจากนั้นเธอก็โบกคทาของเธอเรียกวงเวทย์มากกว่าโหลมาล้อมรอบคู่ต่อสู้ของเธอ ก่อนที่มันจะมีหอกไฟค่อยๆออกมาจากวงเวทย์แต่ละวง ซึ่งหอกไฟแต่ละเล่มนั้นก็ทรงพลังมากเท่ากับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันเลย
มันราวกับว่าโซริทารี่ฟรอสต์คาดเดาการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไว้อยู่แล้ว เขาได้จับดาบใหญ่ของเขาแน่นและบิดมันไปในอากาศ
สกิลขั้นสาม Berserk Dance!
โซริทารี่ฟรอสต์นั้นหมุนไปในอากาศอย่างรวดเร็ว และดาบใหญ่ของเขาก็ทิ้งส่วนโค้งสีแดงเข้มไว้รอบตัวเขาเมื่อเขาทำแบบนี้ ซึ่งมันช่วยป้องกันการโจมตีจากหอกไฟที่กำลังเข้ามาได้
“เขาใช้สกิล Berserk Dance ได้ด้วยอัตราความสำเร็จมากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์ แม้จะอยู่ในตำแหน่งแบบนั้น ? นี่เขาเป็นสัตว์ประหลาดรึไงกัน ?” เบิร์นนิ่งโอลนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง ขณะที่จ้องมองไปยังการเคลื่อนไหวล่าสุดของโซริทารี่ฟรอสต์
แม้ว่าสกิลขั้นสามจะค่อนข้างทรงพลัง แต่การจะบรรลุความสำเร็จในอัตราการใช้สกิลให้ได้เปอเซ็นต์สูงๆนั้นมันก็เป็นเรื่องยากมาก และแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ แต่เบิร์นนิ่งโอลก็สามารถใช้งานสกิล Berserk Dance ได้ด้วยอัตราความสำเร็จราวแปดสิบห้าเปอเซ็นต์เท่านั้น ซึ่งนี่มันก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่เหมาะสมด้วย แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้แม้จะเปิดใช้งานสกิลนี้กลางอากาศ แต่โซริทารี่ฟรอสต์ก็ยังมีอัตราความสำเร็จในการใช้สกิลมากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์
ในขณะที่โซริทารี่ฟรอสต์กำลังจะร่อนตัวลงบนพื้นด้านล่าง หนามดินก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นด้านล่างของเขา
“การโจมตีแบบสองทางงั้นหรอ ? มันอาจจะเป็นประโยชน์หากใช้กับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดคนอื่น แต่ไม่ใช่กับโซริทารี่ฟรอสต์แน่นอน” แอสซาซินหญิงที่ยืนอยู่บนเวทีใกล้เคียงกล่าวอย่างเย้ยหยัน เมื่อเห็นการโจมตีล่าสุดของไซเร้นวอร์นเดอร์
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนนั้นสามารถรับรู้ได้ถึงทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ และแม้แต่การซุ่มโจมตีทั้งหมดซึ่งถูกคำณวนเวลามาอย่างสมบูรณ์แบบก็จะไม่มีประโยชน์กับผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ เพราะทันทีที่ลงมือ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็จะค้นพบมันได้ทันที
เบอเซิกเกอร์นั้นยังคงมีท่าทีสงบ ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงดาบทำลายหนามดินโดยรอบ และใช้แรงเหวี่ยงจากการทำลายหนามดินระลอกแรกนี้เพื่อหลบเลี่ยงหนามดินระลอกที่สองที่โจมตีเข้ามา
เมื่อโซริทารี่ฟรอสต์ร่อนตัวกลับลงสู่พื้นได้ เขาก็ได้ใช้สกิล Flame Charge พุ่งเข้าหาไซเร้นวอร์นเดอร์ทันที อย่างไรก็ตามแทนที่จะพุ่งไปเป็นเส้นตรงเพื่อไปหาเป้าหมายของเขา เขาได้ผสมผสานเทคนิคสเต็ปเท้าเข้าไปด้วยในระหว่างการทำแบบนี้ ซึ่งมันทำให้ร่างของเขาแยกออกเป็นหกร่าง และพุ่งเข้าหาไซเร้นวอร์นเดอร์จากทิศที่แตกต่างกันทั้งหมด
สเต็ปเท้าขั้นสูง Mirage Steps!
โดยการใช้สเต็ปเท้าของเขานั้นก็จัดว่าไร้ที่ติเลย และมันทำให้แทบจะไม่สามารถมองหาร่างจริงของเขาได้จากร่างทั้งหมด ซึ่งในเสี้ยววินาที เขาก็มาอยู่ห่างจาก Elementalist ไม่เกินสิบห้าหลา
“มันจบแล้ว !! ร่างมานาของคุณอาจช่วยเพิ่มความเร็วในการร่าย และพลังของเวทย์ขึ้นอย่างมหาศาล แต่คุณไม่สามารถรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวทั้งหมดได้ !! ดังนั้นคุณจึงยังไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่ !!!” โซริทารี่ฟรอสต์คำราม ขณะที่เขาเคลื่อนที่เขาไปในระยะสิบหลาห่างจากไซเร้นวอร์นเดอร์ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบใหญ่ของเขา
สกิลต้องห้ามขั้นสาม Triple Flame Scythe!
การโจมตีเป็นจันทร์เสี้ยวทั้งสามนั้นพุ่งเข้าหาไซเร้นวอร์นเดอร์อย่างรวดเร็วด้วยพลังที่มากกว่าแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกัน
แต่การที่การโจมตีนี้จะโดนเข้าที่ตัวของไซเร้นวอร์นเดอร์ วงเวทย์สีแดงเข้มขนาดมหึมาก็ปรากฎขึ้นใต้เท้าของโซริทารี่ฟรอสต์กับไซเร้นวอร์นเดอร์
ซึ่งเมื่อวงเวทย์เสร็จสิ้น เสาไฟสูงตระหง่านก็ระเบิดออกมา โดยเปลวไฟไม่เพียงแต่จะกลืนกินจันทร์เสี้ยวทั้งสามไป แต่มันยังกลืนกินโซริทารี่ฟรอสต์และไซเร้นวอร์นเดอร์ด้วย
“อะไรกัน ?! การโจมตีแบบสามทางงั้นหรอ ?! จริงๆแล้วเธอซ่อนบัวแดงแห่งไฟไว้ข้างใต้งั้นหรอ ?!” หยานเซี่ยวเฉียนแทบจะไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเองได้ ขณะที่เธอจ้องมองไปยังฉากตรงหน้าเธอ
หยานเซี่ยวเฉียนนั้นไม่คิดเลยว่าไซเร้นวอร์นเดอร์จะทำการโจมตีแบบสามทางโดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้โซริทารี่ฟรอสต์หลงเข้ามาในบัวแดงแห่งไฟซึ่งเป็นคำสาปขั้นสาม
หลังจากนั้นสามวินาที ผลของคำสาปทั้งหมดก็หายไป และมันก็เผยให้เห็นศพที่ไหม้เกรียมของโซริทารี่ฟรอสต์บนเวที แม้ว่าไซเร้นวอร์นเดอร์จะไม่ได้รอดจากการโจมตีของตัวเธอเองมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็ยังมี HP เหลืออยู่หนึ่งในสามอันเนื่องมาจากการที่เธอใช้โล่ไฟไปก่อนหน้านี้
“ฉันอาจจะยังไม่สามารถบัรู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวทั้งหมดได้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของพลังและเทคนิค ฉันแข็งแกร่งกว่าคุณมากๆ !!!” ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าวกับศพของเบอเซิกเกอร์
หลังจากนั้นเสียงระฆังก็ดังขึ้นเหนือเวทีซึ่งแสดงให้เห็นถึงสัญญาณว่าการแข่งขันได้สิ้นสุดลง ในขณะเดียวกันระบบก็ประกาศชื่อผู้ชนะซึ่งก็คือไซเร้นวอร์นเดอร์ และผลลัพธ์นี้มันก็ทำให้เหล่าผู้ชมนั้นพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ….