ตอนที่ 2607 รุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ของสภาสิบแปดปีก
เมื่อต้วนฮันซานพูดจบ ทั้งสนามประลองก็เงียบลงอีกครั้ง มันไม่มีใครคิดฝันมาก่อนเลยว่าเขาจะแนะนำอะไรแบบนี้
“ร้ายกาจมาก !! ช่างร้ายกาจจริงๆ !!! ตอนนี้มันก็จะยากแล้วที่ไซเร้นวอร์นเดอร์จะถอยหลังกลับในตอนนี้ !!!”
“มันเป็นความผิดของเธอเองที่โม้มากเกินไป เธอไม่น่าไปให้โอกาสคนอย่างต้วนฮันซานเลยจริงๆ …”
“ฉันสงสัยจังว่าเธอจะยังคงยึดติดในสิ่งที่เธอพูดไหม ? แต่ที่แน่ๆตอนนี้สภาสิบแปดปีกคงตื่นตระหนกน่าดู …”
เหล่าตระกูลผู้ถือหุ้นหลักของหอการค้าอาซูล้วนมองไปยังไซเร้นวอร์นเดอร์ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป
พวกเขานั้นยอมรับว่าไซเร้นวอร์นเดอร์แข็งแกร่งมากจริงๆ แต่การโม้มากเกินไปมันก็เป็นสิ่งที่น่ารำคาญ สำหรับเหล่าสมาชิกรุ่นเยาว์ของหอการค้าอาซูนั้นพวกเขาก็ล้วนเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจมากเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วคำพูดของไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นมันไม่ต่างจากการดูถูกพวกเขาเลย และตอนนี้พวกเขาก็ต้องการจะให้เธอได้รับผลของการโม้โอ้อวดมากเกินไปแบบนี้
ในขณะเดียวกันความตื่นเต้นก็เข้าปกคลุมไปทั่วในหมู่ผู้ชม พวกเขาแทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ดูว่าไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นจะพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร
“นี่มันน่าสนใจจริงๆ สภาสิบแปดปีกคือกิลที่เดินทางมาถึงด้วยเรือเหาะใช่ไหม ? ฉันสงสัยจังว่าสภาสิบแปดปีกจะแข็งแกร่งอย่างที่ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าวอ้างไหม ? ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าว การแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น มันก็จะน่าสนใจมากทีเดียว !!!”
“ฉันคิดว่ามันก็เป็นแค่การโม้โอ้อวดเท่านั้นแหละ และเดี๋ยวไซเร้นวอร์นเดอร์ก็คงจะงอแงและกลับคำพูดของเธอ …”
“ฉันสงสัยจังว่าเราจะได้เห็นการแข่งขันระหว่างซินฟูลเฟรมกับสภาสิบแปดปีกไหม ? ซินฟูลเฟรมนั้นเป็นตัวตนระดับตำนานในหอการค้าอาซู และความจริงที่ว่าเขาเต็มใจจะเผชิญหน้าพร้อมทั้งท้าทายรุ่นเยาว์ที่กำลังมาแรงในหอการค้าอาซูมันก็จัดว่าน่าทึ่งมากแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับคนนอกมันก็เป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป ฉันหวังว่าเขาคงจะไม่ปฎิเสธใดๆนะ …”
ตอนนี้ความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมนั้นล้วนเพิ่มขึ้นจนทะลุขีดสุดไปแล้ว ในขณะที่พวกเขามองไปยังซินฟูลเฟรม
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าซินฟูลเฟรมจะปฎิเสธ เขาก็หันไปหาไซเร้นวอร์นเดอร์ และถามอย่างจริงจังว่า “นี่คุณกำลังพูดความจริงใช่ไหม ?”
เหล่าผู้ชมนั้นหันไปจ้องมองไซเร้นวอร์นเดอร์ นี่มันเป็นโอกาสเดียวของเธอแล้วที่จะถอนคำพูด หากเธออ้างว่ามันเป็นเพียงเรื่องตลก เธอก็จะสามารถหลีกหนีความลำบากใจไปได้เล็กน้อย แต่ถ้าเธอยังคงยืนกราน ทุกอย่างที่เธอทำมาอาจจะพังทลายลงไปจนไม่เหลือเลยก็ได้
“อืม มันเป็นเรื่องจริง หากผู้อาวุโสเฟรมไม่รังเกียจ คุณก็สามารถลองที่จะท้าทายหนึ่งในนั้นได้ …” ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าวพลางพยักหน้า
ทุกคนนั้นอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของไซเร้นวอร์นเดอร์ ซินฟูลเฟรมได้ให้โอกาสเธอที่จะช่วยเหลือตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังคงเลือกจะยึดติดกับคำพูดของตัวเองเพื่อยกระดับชื่อเสียงของสภาสิบแปดปีก
“ฮ่าๆๆ !!! เซี่ยวเฉียน ไซเร้นวอร์นเดอรนั้นต้องบ้าไปแล้วจริงๆ !!! นี่เธอคิดว่าสภาสิบแปดปีกเป็นพระเจ้ารึไง ? เธอคิดว่าแค่รุ่นเยาว์ที่มีความสามารถพิเศษเพียงแค่เล็กน้อยก็จะสามารถต่อสู้กับผู้อาวุโสเฟรมได้รึไง ?” แอสซาซินหญิงขั้นสามกล่าวพลางหัวเราะ
อย่างไรก็ตามหยานเซี่ยวเฉียนซึ่งยืนอยู่ในเวทีใกล้ๆกับแอสซาซินหญิงนั้นไม่ได้ตอบสนองใดๆต่อคำพูดของแอสซาซินหญิง เธอนั้นรู้ดีว่าสภาสิบแปดปีกมีสัตว์ประหลาดที่สามารถต่อสู้กับซินฟูลเฟรมได้
โดยเฉพาะกับหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกอย่างแบล๊คเฟรม เขาเป็นตัวตนที่แม้แต่อดอล์ฟ ผู้อาวุโสของเผ่าศักสิทธิ์ก็ยังต้องปฎิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ และหากแบล๊คเฟรมต้องการจะปกป้องชื่อเสียงของสภาสิบแปดปีก เขาก็อาจจะลงมาต่อสู้กับซินฟูลเฟรมเองเลยก็ได้
ในขณะที่คำตอบของไซเร้นวอร์นเดอร์ทำให้เหล่าผู้ชมประหลาดใจ แต่ดวงตาของซินฟูลเฟรมกับเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นออกมา จากนั้นเขาก็หันไปจ้องมองยังที่นั่งบริเวณที่สมาชิกสภาสิบแปดปีกนั่งอยู่ “ฉันขอทราบได้ไหมว่าจะให้ใครเข้ามาแทนไซเร้นวอร์นเดอร์ ?”
แม้ว่าซินฟูลเฟรมจะไม่ได้กล่าคำถามของเขาดังมากนัก แต่ทุกคำมันก็แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและพลังอย่างเห็นได้ชัด และมันก็เห็นได้ชัดว่าเขาเอาจริง แถมน้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยความคาดหวังด้วย
“อะไรกัน ?! นี่พวกเขาจะสู้กันจริงๆงั้นหรอ ?!”
“นี่มันน่าสนใจมากๆ !! สภาสิบแปดปีกจะส่งใครออกมากัน ?”
“ฉันได้ยินมาว่าหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกนั้นทรงพลังมากๆ และแม้ว่าเขาจะอายุยังน้อย แต่เขาก็ติดหนึ่งในสามสิบอันดับแรกของรายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดที่ถูกจัดโดยศาลาลับ หากได้เห็นทั้งสองคนต่อสู้กันก็คงดี ….”
ตอนนี้เหล่าผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ทั้งหมดก็ล้วนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นมากๆที่จะชมการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง
และมหาอำนาจต่างๆนั้นก็ไม่ใช่แค่พวกเดียวที่กำลังเต็มไปด้วยความสนใจว่าสภาสิบแปดปีกจะส่งใครมาเผชิญหน้ากับซินฟูลเฟรม ต้วนฮันซานนั้นก็สนใจมากพอๆกัน
ในความคิดของต้วนฮันซาน คนเดียวที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถส่งมาได้ก็คือแบล๊คเฟรม
ในระหว่างการแข่งขันเล่นแร่แปรธาตุครั้งก่อน แบล๊คเฟรมนั้นได้ทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมากด้วยตัวตนของเขาในฐานะราชันดาบขั้นสาม และแม้แต่หลงเซี่ยงหลงของตระกูลหลงก็ยังถูกบังคับให้ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ และเนื่องจากเขามาถึงขั้นสามเร็วกว่าใคร เขาจึงน่าจะทรงพลังมากอย่างไม่น่าเชื่อ
ขณะเดียวกันแบล๊คเฟรมนั้นก็ไม่ควรจะแก่กว่าไซเร้นวอร์นเดอร์มากนัก อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วในฐานะหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก เขาก็คงจะไม่ยอมเคลื่อนไหวด้วยตัวเองง่ายๆ แต่มันก็เป็นไปได้ที่เขาอาจจะยอมรับคำท้าทายของซินฟูลเฟรมเพื่อปกป้องชื่อเสียงของกิล เพราะท้ายที่สุดเขาน่าจะเป็นคนเดียวในกิลที่สามารถต่อกรกับซินฟูลเฟรมได้
ในช่วงเวลาที่ตระกูลต้วนและตระกูลหลงกำลังสงสัยว่าแบล๊คเฟรมจะเคลื่อนไหวไหม ซือเฟิงก็ได้หันไปหาร่างที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
“ไวโอเล็ตไปสู้กับเขาหน่อย …”
“เข้าใจแล้ว !!!”
หลังจากการพูดคุยกันสั้นๆ ผู้หญิงที่นั่งข้างๆซือเฟิงก็กระโดดลงจากที่นั่งผู้ชมไปสู่เวทีประลอง
โดยเธอนั้นแผ่ออร่าศักสิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเครอลิคออกมา
“นี่สภาสิบแปดปีกดูถูกซินฟูลเฟรมเกินไปไหม ? นี่พวกเขาส่งเครอลิคออกมาต่อสู้กับซินฟูลเฟรมจริงๆงั้นหรอ ?”
ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นไวโอเล็ตคลาวด์กระโดดลงมาสู่เวทีประลอง พวกเขาไม่คิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะเคลื่อนไหวแบบนี้
แม้แต่ตระกูลผู้ถือหุ้นต่างๆของหอการค้าอาซูก็ยังอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความตกตะลึง
สภาสิบแปดปีกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ !!!
แม้ว่าอาชีพเครอลิคจะสามารถต่อสู้ได้เช่นกัน แต่การต่อสู้มันก็ไม่ใช่ทางถนัดของเครอลิค เพราะพวกเขานั้นล้วนจะมุ่งเน้นไปที่การซัพพอร์ท และการส่งเครอลิคออกมาสู้กับซินฟูลเฟรมซึ่งเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของหอการค้าอาซูนั้นมันก็ไม่ต่างจากการเยาะเย้ยหอการค้าอาซูเลย
แม้ว่าไวโอเล็ตคลาวด์จะปกปิดตัวตนและข้อมูลของเธอไว้ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ แต่ทุกคนก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเธอดูเด็กกว่าไซเร้นวอร์นเดอร์ด้วยซ้ำ ….
สภาสิบแปดปีกไม่เพียงแต่จะเลือกส่งเครอลิคมาเผชิญหน้ากับซินฟูลเฟรม แต่เครอ
ลิคคนนี้ยังเป็นแค่เด็กสาวที่อายุน้อยมากด้วย นี่มันเป็นการดูถูกกันอย่างโจ่งแจ้งเลย
“สภาสิบแปดปีกนั้นจบสิ้นแน่นอนในตอนนี้ แม้ว่าเรื่องที่ไซเร้นวอร์นเดอร์พูดมาจะเป็นเรื่องจริง แต่พวกเขาจำเป็นต้องส่งเด็กสาวที่อายุน้อยขนาดนี้ออกมาต่อสู้ด้วยงั้นหรอ ? ผู้อาวุโสเฟรมจะต้องโกรธมากแน่ๆ” แอสซาซินหญิงขั้นสามกล่าว ตอนนี้เธอแทบไม่อยากจะเห็นเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ซินฟูลเฟรมนั้นเป็นพวกที่จริงจังในเรื่องการต่อสู้มากๆ และเพื่อพัฒนาตัวเองในด้านนี้ เขาจึงผลักดันตัวเองอย่างหนักจนหลายคนคิดว่าเขาเป็นบ้า
ดังนั้นมันจึงจะสามารถจินตนาการได้อย่างง่ายดายเลยว่า ซินฟูลเฟรมจะโกรธมากแค่ไหนที่สภาสิบแปดปีกเยาะเย้ย และดูถูกเขาแบบนี้ และซินฟูลเฟรมก็จะระบายความโกรธของตัวเองลงที่ไวโอเล็ตคลาวด์อย่างเต็มที่แน่นอน
เมื่อเห็นว่าเป็นดังนี้ ซินฟูลเฟรมก็ได้เลือกจะปลดปล่อยออร่าของเขาทั้งหมดออกมา ซึ่งออร่าที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นมันก็คล้ายกับคลื่นสึนามิที่ทรงพลัง และดูเหมือนมันจะกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางทางได้ และแม้แต่โซริทารี่ฟรอสต์ที่ยืนอยู่ด้านล่างของเวทีนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัด เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่านี้
“นี่คือผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของกิลเรางั้นหรอ ?” โซริทารี่ฟรอสต์อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของซินฟูลเฟรม
โซริทารี่ฟรอสต์นั้นคาดเดาว่า เขาน่าจะสามารถต่อสู้ได้ดีพอตัว แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะซินฟูลเฟรมได้ เพราะนี่มันเป็นการแข่งขันที่วัดกันด้านมาตราฐานและเทคนิคการต่อสู้ โดยที่ค่าสถานะพื้นฐานของทั้งสองฝ่ายจะถูกปรับให้เท่ากัน อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปยังซินฟูลเฟรมตอนนี้ เขาก็รู้สึกได้เลยว่าเขาคิดผิดไปมาก เขาจะโชคดีมากแล้ว ถ้าเขารอดชีวิตได้จากการเคลื่อนไหวสักจำนวนหนึ่งของซินฟูลเฟรมได้ …. ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆเลย
อย่างไรก็ตามแม้จะสัมผัสได้ถึงออร่าของซินฟูลเฟรม แต่ไวโอเล็ตคลาวด์ก็ยังเดินเข้าไปที่กลางเวทีอย่างสบายๆก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของซินฟูลเฟรม
“เราจะเริ่มกันเลยไหม ?” ไวโอเล็ตคลาวด์ถามอย่างสบายๆ