ตอนที่ 2616 ศักยภาพในการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“คุณ ….”
ดวงตาของคริมสันสตาร์ และไวน์ไฟเตอร์เบิกกว้าง ในขณะที่พวกเขาเฝ้าดูซือเฟิง
มอบผลไม้แห่งชีวิตให้กับองครักษ์ส่วนตัวของเขาอย่างไม่ลังเล
ช่างสิ้นเปลืองอย่างแท้จริง !!!
ผลไม้หายากนั้นเป็นของหายากและมีค่าอย่างไม่น่าเชื่อ และมันมีค่ามากกว่าองครักษ์ส่วนตัวระดับไฟน์โกล ขั้นสี่ด้วยซ้ำ เพราะผลไม้นี้สามารถช่วยเพิ่มคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของผู้เล่นได้อย่างถาวร หรือสามารถใช้อัพเกรดองครักษ์ส่วนตัวระดับไฟน์โกลให้เป็นดาร์คโกลได้เลย ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการให้องครักษ์ส่วนตัวสามารถเข้าถึงขั้นห้าได้มากขึ้นอย่างมาก
ขณะที่แวร์ซายนั้นเป็นเพียงองครักษ์ส่วนตัวระดับลึกลับขั้นเงิน ขั้นสี่เท่านั้น แม้ว่าผลไม้แห่งชีวิตจะสามารถอัพเกรดเขาให้กลายเป็นองครักษ์ส่วนตัวระดับไฟน์โกลได้ และทำให้พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เขาก็จะยังคงเป็นเพียงองครักษ์ส่วนตัวระดับไฟน์โกลเท่านั้น ซึ่งองครักษ์ส่วนตัวระดับนี้นั้นก็มีโอกาสที่จะเข้าถึงขั้นห้าได้น้อยมากๆ ในขณะเดียวกันผู้เล่นสามารถจะท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ของพวกเขาได้ทันที เมื่อพวกเขามาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ซึ่งมันจะทำให้ในอนาคตนี้คุณค่าขององครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่นั้นมันก็จะลดลงไปอย่างมาก
การใช้ผลไม้แห่งชีวิตเพื่อช่วยให้ผู้เล่นหรือองครักษ์ส่วนตัวสามารถไปถึงขั้นห้าได้จะมีประโยชน์มากกว่าการใช้มันเพื่อเพิ่มพลังให้กับองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่มาก เพราะท้ายที่สุด มันจะมีผู้เล่นเพียงแค่ไม่กี่คนอย่างแน่นอนที่สามารถไปถึงขั้นห้าใน God domain ได้ ซึ่งสิ่งนี้มันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยจากการที่มีผู้เล่นเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นในตอนนี้ที่ทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามได้สำเร็จ
ในขณะที่คริมสันสตาร์และไวน์ไฟเตอร์กำลังรู้สึกเสียใจกับความจริงที่ว่าซือเฟิงได้สูญเสียผลไม้แห่งชีวิตไปแล้ว ชั้นของพลังชีวิตที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็เริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆแวร์ซาย
ในตอนแรกออร่าของแวร์ซายนั้นดูค่อนข้างแก่ และทรุดโทรมมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้ออร่าของเขานั้นพุ่งขึ้นมาจนน่ากลัวมากๆ แถมมันยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งชีวิตที่เคยหายไปจากตัวเขาอย่างชัดเจน
แถมตอนนี้แวร์ซายยังกลับมาอ่อนเยาว์ขึ้นในอัตราที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน และตอนนี้ออร่าแห่งชีวิตของเขานั้นไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เขาดูอ่อนกว่าวัยด้วย โดยตอนนี้หลังจากผ่านไปห้าวินาที แวร์ซายก็แปรเปลี่ยนจากชายชราที่ดูเหมือนจะอายุเจ็ดสิบ ไปเป็นชายในวัยห้าสิบ
ซึ่งทันทีที่กระบวนการทั้งหมดสิ้นสุดลง ความหนาแน่นของมานาภายในห้องก็พุ่งสูงขึ้น และพื้นที่ในห้องรับรองนี้ มันก็ดูเหมือนจะแยกออกจากพื้นที่อื่นอย่างชัดเจน
โดยมีแวร์ซายเป็นผู้บัญชาการมัน
“การสร้างโลก ?! เป็นไปได้ยังไง !!” ปากของคริมสันสตาร์อ้ากว้างด้วยความตกตะลึง
ขณะเดียวกันผู้ฝึกสอนทอร์เร้นนั้นก็ทำได้แค่จ้องมองไปยังองครักษ์ขั้นสี่ด้วยความตกตะลึง
เมื่อ NPC ของ God domain มาถึงขั้นสี่นั้น พวกเขาส่วนใหญ่ก็แทบจะได้รับโดเมนส่วนตัวมาทันที โดยโดเมนเหล่านี้นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ NPC ขั้นสี่ทรงพลังมากๆ และโดเมนแบบนี้ที่ NPC ได้รับมานั้นมันไม่ใช่สกิลหรือเวทย์ แต่มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นอกจากนี้มันก็ยังไม่ได้ถูกจำกัดแบบสกิลโดเมน เพราะไม่เพียงแต่ NPC ขั้นสี่จะสามารถปราบรามศัตรูได้อย่างง่ายดายด้วยโดเมนธรรมชาติของพวกเขาเท่านั้น แต่พวกเขายังจะสามารถยกระดับพลังต่อสู้ของตัวเองได้ด้วย
โดเมนเหล่านี้นั้นยังเป็นเหตุผลที่ทำให้ NPC ขั้นสี่ สามารถจัดการกับ NPC ขั้นสามกลุ่มใหญ่ในเลเวลเดียวกันได้อย่างง่ายดาย หากผู้เล่นพยายามจะท้าทาย NPC ขั้นสี่ โดยที่พวกเขาไม่ได้มีพลังที่ขั้นสี่ มันก็แทบจะไม่สำคัญเลยว่าพวกเขาจะมีผู้เล่นขั้นสามกี่คน พวกเขาทั้งหมดจะต้องตายแน่นอน !!!
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ NPC ขั้นสี่นั้นมีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่ปกครองเมืองใหญ่ๆของ NPC ได้ ในขณะที่ NPC ขั้นสามไม่มี …. และหากผู้เล่นพยายามโจมตีเมืองใหญ่ของ NPC โดยไม่มีนักสู้ที่มีความแข็งแกร่งมากพอ พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จเลย ไม่ว่าพวกเขาจะมีนักสู้กี่คนก็ตาม
NPC นั้นไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ขั้นสี่นั้นทรงพลังเนื่องจากค่าสถานะพื้นฐานเท่านั้น ในขณะที่ผู้เล่นก็ต้องอาศัยความได้เปรียบในด้านสกิลและเวทย์ รวมไปถึงตัวเลขเพื่อทดแทนค่าสถานะพื้นฐานที่พวกเขาขาดไป และแม้แต่ผู้เล่นขั้นสองก็ยังจะสามารถเอาชนะมอนสเตอร์ขั้นสี่ได้ หากมีทีมที่ใหญ่พอ อย่างไรก็ตาม NPC นั้นมีข้อได้เปรียบอย่างมากด้วยการควบคุมมานาของพวกเขา NPC ขั้นสี่นั้นสามารถจะใช้มานาเพื่อปราบปรามศัตรูทุกคนที่อยู่ในระยะได้ และหากผู้เล่นไม่สามารถจะเอาชนะมานานี้ได้ พวกเขาก็จะถูกปราบปรามจนอ่อนแอลงมากในหลายๆด้าน
อย่างไรก็ตามแวร์ซายนั้นเคยได้รับโดเมนตามธรรมชาติมาแล้ว และตอนนี้เขาก็สามารถใช้การสร้างโลกได้แล้ว
ก่อนหน้านี้แวร์ซายนั้นคือผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมมานา อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาปกครองมัน และด้วยเจตจำนงของเขาเพียงอย่างเดียว เขาจะสามารถปรับเปลี่ยนมานาให้อยู่ในกฎของเขาได้ ราวกับเขาสามารถสร้างโลกใหม่ของตัวเองขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้ว มันจะมีก็แต่เพียง NPC ขั้นห้าหรือสูงกว่าเท่านั้นที่สามารถจะใช้การสร้างโลกได้
แม้แต่ซือเฟิงเองก็ยังประหลาดใจ เขาไม่นึกเลยว่าแวร์ซายจะน่าทึ่งมากขนาดนี้
แม้ว่าผลไม้แห่งชีวิตจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของ NPC ได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติพื้นฐาน หรือมาตราฐานการต่อสู้ของ NPC ขึ้นในทันที เว้นแต่ว่า NPC คนนั้นจะมีอาการบาดเจ็บแค่เล็กน้อยที่ทำให้พวกเขาอ่อนแอลง
NPC ขั้นสี่ใดๆที่สามารถใช้การสร้างโลกได้นั้น ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงจะถือว่าพวกเขาอยู่ห่างจากขั้นห้าเพียงครึ่งก้าว และพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่า NPC ขั้นสี่ทั่วไปมาก ความแตกต่างระหว่าง NPC ขั้นสี่ที่สามารถใช้การสร้างโลกได้กับไม่ได้นั้น มันก็เหมือนกับความแตกต่างกันของผู้เล่นขั้นสามที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ กับยังไม่สามารถปลดล๊อคได้เลย ซึ่งมันจะมีความแตกต่างอย่างน้อยครึ่งขั้นระหว่างทั้งสอง
ซือเฟิงรีบทำการตรวจสอบข้อมูลของแวร์ซายทันที
[แวร์ซาย] (องครักษ์ส่วนตัวของซือเฟิง)
เพศ : ชาย
อายุ : 76
ความภักดี : 93
ศักยภาพในการเติบโต : 90
เลเวล 120
อาชีพ : จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่
อึก !! ศักยภาพในการเติบโตของเขานั้นอยู่ห่างจากระดับดาร์คโกลเพียงแค่แต้มเดียวงั้นหรอ ? เมื่อซือเฟิงเห็นศักยภาพในการเติบโตของแวร์ซาย เขาก็ตระหนักได้ถึงหลายสิ่งทันที
ตอนนี้ซือเฟิงมั่นใจอย่างยิ่งว่าศักยภาพในการเติบโตดั้งเดิมของแวร์ซายนั้นไม่ได้อยู่ที่ระดับลึกลับขั้นเงินแน่นอน แต่มันเป็นระดับไฟน์โกล ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ควรจะเป็นพวกขั้นสี่ที่ใกล้เข้าถึงขั้นห้าได้แล้ว เพราะท้ายที่สุดผลไม้แห่งชีวิตไม่มีทางจะเพิ่มศักยภาพในการเติบโตได้มากขนาดนี้แน่นอน หากตัว NPC ไม่ได้เคยอยู่ในระดับสูงมาก่อน
พวกเขากำลังพูดถึงการเพิ่มขึ้นของศักยภาพในการเติบโตสิบหกแต้ม !!!
แม้แต่ผลไม้แห่งชีวิตที่ถูกเรียกว่าผลไม้ศักสิทธิ์ก็ไม่สามารถจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของ NPC ได้อย่างมหาศาลขนาดนี้ ดังนั้นคำอธิบายเดียวก็คือแวร์ซายนั้นยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่หลังจากดื่มน้ำแห่งชีวิตไป และเขาก็ยังไม่ได้ฟื้นฟูศักยภาพในการเติบโตของเขาอย่างเต็มที่ด้วย
ซือเฟิงนั้นไม่รู้เลยจริงๆว่าอะไรทำให้แวร์ซายอยู่ในสภาพนี้ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงมีความสุขมากๆ เขามีความสุขมากยิ่งกว่าตอนที่ได้รับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานมาซะอีก
เขารู้อยู่แล้วว่าแวร์ซายนั้นเป็น NPC ขั้นสี่ที่น่าทึ่ง แต่ตอนนี้เขาได้มารู้อีกว่าองครักษ์ส่วนตัวคนนี้ของเขานั้นสามารถจะใช้การสร้างโลกได้ ด้วยเรื่องนี้เขาจึงจะสามารถทำหลายอย่างได้สำเร็จมากกว่าที่เขาคิดไว้แน่นอน ซึ่งนี่รวมถึงการไปเยี่ยมชมสถานที่หลายแห่งที่เขาเคยไปไม่ถึงในชีวิตที่ผ่านมา
หลังจากผู้เล่นมาถึงขั้นสามและสามารถจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์หรือมากกว่านั้น มันก็จะไม่มีที่ใดใน God domain ที่อยู่ไกลเกินเอื้อม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะสามารถไปเยี่ยมชมสถานที่ที่อันตรายที่สุดได้ แต่การกลับมานั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งโดยสิ้นเชิง เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยังมีแผนที่อีกมากมายที่อันตรายเกินไปสำหรับมนุษย์ ซึ่งหากพวกเขาพยายามเข้าไปสำรวจและตายที่นั่น บางทีโทษจากการตายอาจจะถึงขั้นที่ทำให้พวกเขาต้องลบไอดีและเริ่มต้นใหม่เลย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงมี NPC ขั้นสี่ที่สามารถใช้การสร้างโลกอยู่เคียงข้างเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงจะสามารถไปเยี่ยมชมที่อันตรายแบบนี้ได้แน่นอน
โดยทั่วไปแล้วสถานที่อันตรายเหล่านี้เป็นสถานที่สำหรับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ด้วย และมันก็มีมรดกโบราณมากมาย ซึ่งเมื่อผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆเริ่มมาถึงขั้นสี่หรือสูงกว่าในชีวิตที่ผ่านมาของเขา คนเหล่านี้ก็ล้วนจะใช้เวลาในพื้นที่เหล่านี้และแทบไม่เคยกลับมา เพราะพวกเขาจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปได้ด้วยการสำรวจแผนที่เหล่านี้
เมื่อตระหนักว่าเขาจ้องมองข้อมูลของทอร์เร้นด้วยความตื่นเต้นนานไปแล้ว ซือเฟิงก็รีบปิดมัน และรีบหันกลับมาสนใจทอร์เร้น ไวน์ไฟเตอร์ และคริมสันสตาร์ทันที
“บอกฉันหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้สภาสิบแปดปีกมีคุณสมบัติมากพอจะเจรจาเป็น
พันธมิตรกับกิลคุณได้ไหม ?” ซือเฟิงถามทอร์เร้น