Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2617

ตอนที่ 2617 ความลับของดินแดนลับโบราณ

แม้จะผ่านไปครู่หนึ่ง แต่ทอร์เร้นและอีกสองคนนั้นก็ไม่สามารถจะตอบคำถามของซือเฟิงได้

ซือเฟิงนั้นโหดเหี้ยมเกินไป !!!

เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ดินแดนลับโบราณได้ ซือเฟิงได้ยอมสละผลไม้แห่งชีวิตของเขาเพื่ออัพเกรดองครักษ์ส่วนตัวของเขาให้เป็นระดับไฟน์โกล ซึ่งแม้แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าจะทำแบบนี้เลย

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องยอมรับเลยว่านักดาบคนนี้โชคดีอย่างแท้จริงที่เมื่อตัดสินใจทำแบบนี้แล้ว เขากับได้รับ NPC ขั้นสี่ที่มีความสามารถในการใช้การสร้างโลกมาด้วย

ตอนนี้ด้วย NPC คนนี้เพียงคนเดียว ซือเฟิงจะสามารถระเบิดวงเวทย์ป้องกันของเมืองพวกเขาได้อย่างง่ายดายแน่นอน และเผลอๆแวร์ซายอาจก่อให้เกิดระลอกคลื่นใหญ่ที่ทำให้ซือเฟิงสามารถนำสมาชิกสภาสิบแปดปีกเข้าไปในดินแดนลับโบราณได้จนถึงขีดจำกัดเลย

“ผู้ฝึกสอนทอร์เร้น แบล๊คเฟรมจะต้องฝันไปแล้วแน่นอน !!!” ไวน์ไฟเตอร์กล่าวในแชทของทีม “แม้ว่าเขาจะสามารถบุกเข้าไปในเมือง และเข้าไปในดินแดนลับโบราณได้ แต่เขาก็จะทำได้เพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น !!! ฉันปฎิเสธที่จะเชื่อว่าเขาจะสามารถไปและมาจากเมืองของเราตามที่เขาต้องการได้ตลอดไป !!! ยิ่งไปกว่านั้นไมโทโลจี้ก็ยังจะต้องแบกรับความสูญเสียครึ่งหนึ่งด้วย หากเราเสียช่องไปให้สภาสิบแปดปีก ซึ่งนี่มันก็จะช่วยลดการสูญเสียของเราลงไปได้อย่างมาก และเมื่อกิลทั้งสองของเราได้รับองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่มา องครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่ของแบล๊คเฟรมก็จะไร้ประโยชน์ และกิลของเราก็จะยังคงมีช่องอยู่สองร้อยช่อง …..”

ดินแดนลับโบราณนั้นมีเมืองโบราณที่เป็นอิสระจากทวีปหลักทั้งสองด้านอยู่ และแม้ว่าผู้เล่นจะสามารถเอาชนะบอสในการทดสอบ และกลายเป็นพลเมืองได้ แต่พวกเขาก็ยังจะต้องอยู่ในเมืองสักระยะหนึ่งเพื่อรับสิทธิประโยชน์ของมัน ผู้เล่นจะไม่สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของเมืองได้ตั้งแต่มาถึงเมืองในครั้งแรก

อย่างไรก็ตามแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถเข้าไปในดินแดนลับโบราณได้ แต่ระยะเวลาที่ผู้เล่นจะสามารถอยู่ในเมืองได้นั้นมันก็มีจำกัด ผู้เล่นจะสามารถขยายเวลาการเข้าพักได้ด้วยเครื่องมือพิเศษเท่านั้น

หนึ่งอาทิตย์ !!

แม้ว่าจะมีเครื่องมือพิเศษนี้ แต่ผู้เล่นก็สามารถจะอาศัยอยู่ในดินแดนลับโบราณได้สูงสุดแค่เจ็ดวันตามธรรมชาติ และหากพวกเขาไม่ยอมออกมาแบบตรงเวลา พวกเขาก็จะต้องตาย แถมเครื่องมือพิเศษเจ้าปัญหานี้ยังมีคูลดาวน์อีกสิบวันด้วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือในระหว่างที่ซือเฟิงบุกเข้าสู่เมืองของไวโอเล็ตซอร์ดและไมโทโลจี้เพื่อเข้าไปหาประโยชน์ในดินแดนลับโบราณ ทั้งสองกิลก็จะเริ่มมีผู้เล่นที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้เพิ่มขึ้น และพวกเขาก็น่าจะมีองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่เพิ่มมาบางส่วน ซึ่งนี่มันก็หมายความว่าสภาสิบแปดปีกนั้นมีเวลาเหลือน้อยมากในการใช้ประโยชน์จากดินแดนลับโบราณ

คริมสันสตาร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไวน์ไฟเตอร์

มันไม่มีทางเลยที่ทั้งสองกิลของพวกเขาจะสร้างพันธมิตรได้ เพราะท้ายที่สุดสภาสิบแปดปีกไม่ได้ให้ผลประโยชน์พวกเขาเพียงพอในการที่จะเรียกร้องหนึ่งร้อยช่องเลย

ทอร์เร้นไม่ได้ตอบกลับคำพูดของไวน์ไฟเตอร์ในทันที แต่เขานั้นเลือกจะหลับตาลงและจมดิ่งเข้าไปในความคิด หลังจากนั้นชายคนนี้ก็ลืมตาขึ้น และเขาก็มองไปที่ซือเฟิง พลางพูดว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม การเป็นหุ้นส่วนระหว่างกิลของเรานั้นมันไร้คำถามไปแล้วล่ะ …”

“ผู้ฝึกสอนทอร์เร้น ?”

ทั้งไวน์ไฟเตอร์และคริมสันสตาร์นั้นต่างก็ประหลาดใจ เมื่อได้ยินคำตอบของทอร์เร้น ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของซือเฟิงเลย และหัวหน้ากิลกับบรรดาผู้อาวุโสสูงสุดของกิลพวกเขาก็จะไม่มีวันยอมรับข้อเสนอนี้แน่นอน

“เงื่อนไขของคุณคืออะไร ?” ซือเฟิงถามอย่างใจเย็น

ซือเฟิงนั้นคิดว่าเขาเรียกร้องน้อยเกินไปด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือก ทั้งหมดนี้ที่เขาทำก็เพื่อช่วยให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกสามารถไปถึงขั้นสี่ได้ เพราะด้วยทรัพยากรในปัจจุบันของกิล เขาสามารถรับประกันให้กับผู้เล่นได้แค่ไม่กี่คนเท่านั้นในกิลที่จะสามารถไปถึงขั้นสี่ได้ และโอกาสของทุกคนก็ใช่ว่าจะหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ด้วย

ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกไม่สามารถเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ขึ้นมาได้มากเพียงพอ กิลก็จะต้องทุกข์ทรมาณอย่างมากในความพยายามจะปกป้องทรัพยากรและดินแดนที่กิลมีอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากตอนนี้มันมีมหาอำนาจมากเกินไปที่กำหนดเป้าหมายมาที่กิลของเขา และตอนนี้ที่พวกเขาไม่มีพลังจะต่อต้านสภาสิบแปดปีกก็เนื่องมาจากกองอัศวินและการป้องกันที่น่ากลัวของเมืองป่าหินเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อยุคของขั้นสี่มาถึง การจะทำลายเมืองกิลแบบเมืองป่าหินให้ได้นั้น มันก็จะมีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาก หากมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากพอ

เมื่อ God domain มาถึงยุคของขั้นสี่ ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันจัดเป็นยุคที่บ้าคลั่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกม มหาอำนาจต่างๆได้ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง และทำลายเมืองกิลไปนับไม่ถ้วน ขณะที่มันก็มีหลายเมืองที่ถูกทำลายล้างเลยด้วยซ้ำ

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ซือเฟิงเลือกจะพยายามโดยทุ่มสุดตัวในเรื่องขั้นสี่

แม้ว่าเขาจะสามารถใช้แวร์ซายเพื่อบังคับเปิดทางเข้าสู่ดินแดนลับโบราณได้ แต่นั่นมันก็ไม่ใช่แผนที่ดีเลยในระยะยาว และตอนนี้ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา เขาจะใช้กำลังบังคับก็ต่อเมื่อซุเปอร์กิลปฎิเสธที่จะทำงานร่วมกับเขา

“ฉันต้องการให้คุณช่วยแค่เรื่องเดียว หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม …” ทอร์เร้นกล่าว “ตราบใดที่คุณทำเรื่องนี้สำเร็จ เราจะยอมรับเงื่อนไขของคุณทั้งหมด”

“หื้ม ?” คำพูดของทอร์เร้นทำให้ซือเฟิงเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะยอมรับเงื่อนไขของเขาง่ายๆ

“มันก็ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่ต้องการให้คุณเคลียร์การทดสอบโหมดฮีโร่ของดินแดนลับโบราณ !!!” ทอร์เร้นประกาศ “เมื่อคุณเคลียร์แล้ว เราจะยอมรับเงื่อนไขของคุณทั้งหมด แต่ถ้าคุณทำไม่สำเร็จ เราคงต้องขอให้คุณยอมแพ้ในเรื่องนี้ และเมื่อเวลามาถึงกิลของเราก็จะพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อเข้าสู่ดินแดนลับโบราณ”
“การทดสอบโหมดฮีโร่ ?” ซือเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย เท่าที่เขาจำได้การทดสอบของดินแดนลับโบราณนั้นมีอยู่แค่สองระดับความยาก และเขาก็ไม่เคยได้ยินสองระดับความยากนี้ถูกเรียกว่า “ฮีโร่” มาก่อน

“การทดสอบโหมดฮีโร่ ?! ผู้ฝึกสอนทอร์เร้นนั้นมันเสี่ยงเกินไปนะ !! เรามีเพียงแค่โอกาสเดียวเท่านั้น และเราจะไม่ได้รับโอกาสอีกถ้าล้มเหลว แล้วคนของสภาสิบแปดปีกจะไปทำมันสำเร็จได้ยังไง ?!” ไวน์ไฟเตอร์ถามอย่างใจจดใจจ่อ

การทดสอบของดินแดนลับโบราณนั้นมีความยากอยู่แค่สองระดับ ซึ่งนั้นก็คือทั่วไป กับโหมดขั้นสูง

อย่างไรก็ตามในฐานะผู้ที่เปิดใช้งานดินแดนลับโบราณขึ้น พวกเขามีโอกาสที่จะเผชิญกับการทดสอบที่ยากกว่าทั้งสองระดับหนึ่งครั้ง ซึ่งก็คือโหมดฮีโร่

ตราบใดที่ผู้เล่นผ่านการทดสอบในโหมดทั่วไปได้ พวกเขาก็จะกลายเป็นพลเมืองอย่างเป็นทางการในเมืองโบราณ และได้เพลิดเพลินไปกับสิทธิต่างๆที่เมืองมอบให้

อย่างไรก็ตามจากการค้นคว้าข้อมูลและวิจัยของไวโอเล็ตซอร์ด พวกเขารู้มาว่าการที่ผู้เล่นสามารถเคลียร์การทดสอบโหมดฮีโร่ได้นั้น ผู้เล่นก็จะได้รับสถานะที่สูงส่งในทันที ซึ่งมันมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างผลประโยชน์ที่ขุนนางและพลเมืองทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถเพิ่มฐานะของตนได้เรื่อยๆ แต่การทำเช่นนั้นมันก็ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก

ซึ่งมันก็น่าเสียดายที่ไวโอเล็ตซอร์ดนั้มีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในการทดสอบโหมดฮีโร่

เดิมทีพวกเขาตั้งใจจะรอให้เวลาจำกัดของโหมดฮีโร่ที่ขึ้นมาให้เลือกนี้ใกล้จบลง ซึ่งก็คือประมาณสามสิบวัน เพราะเมื่อตอนนั้นมาถึง พวกเขาน่าจะมีความพร้อมมากพอในการเคลียร์โหมดฮีโร่

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทอร์เร้นไม่เพียงแต่จะแนะนำให้พวกเขาท้าทายโหมดฮีโร่เร็วกว่าที่วางแผนไว้ แต่เขายังขอให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกช่วยเคลียร์เรื่องนี้ด้วย แม้ว่าสมาชิกสภาสิบแปดปีกจะสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานากันได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว แต่มาตราฐานการต่อสู้ของพวกเขาก็ยังคงห่างไกลจากคำว่าน่าพึงพอใจมากๆ และการขอให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกทำการเคลียร์การทดสอบนี้มันก็น่าจะเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก

“ถ้าคุณล้มเหลวในการทดสอบโหมดฮีโร่ ฉันก็อยากให้สภาสิบแปดปีกละเว้นจากการเข้าสู่ดินแดนลับโบราณเป็นเวลาสิบวัน คุณยินดีจะรับคำท้าทายนี้ไหม หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?” ทอร์เร้นถามซือเฟิง

เมื่อทอร์เร้นกล่าวมาแบบนี้ คริมสันสตาร์และไวน์ไฟเตอร์ก็เข้าใจทุกสิ่งในทันที

แม้ว่าการทำแบบนี้มันจะฟังดูสิ้นเปลือง แต่มันก็เหมือนเป็นการตัดสภาสิบแปดปีกออกไปกลายๆ เพราะถ้าพวกเขาล้มเหลว พวกเขาจะถูกห้ามเข้าสู่ดินแดนลับโบราณเป็นเวลาสิบวัน ซึ่งในช่วงเวลาสิบวันนี้ มันจะทำให้ไวโอเล็ตซอร์ดสามารถเคลียร์การทดสอบโหมดทั่วไป และกลายเป็นพลเมืองของเมืองโบราณได้แล้วแน่นอน ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้นไม่ว่าสภาสิบแปดปีกจะทำอะไร พวกเขาก็จะไม่สามารถทำให้เกิดผลกระทบมากนักต่อไวโอเล็ตซอร์ดในดินแดนลับโบราณได้ และเผลอๆสภาสิบแปดปีกอาจไม่สามารถเข้าสู่ดินแดนลับโบราณได้ด้วยในตอนนั้น

แน่นอนซือเฟิงต้องยอมรับความท้าทายนี้ก่อน

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณกล้าที่จะรับคำท้าไหม ? ไวโอเล็ตซอร์ดใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อเข้าควบคุมดินแดนลับโบราณแห่งนี้ และเราก็ไม่สามารถจะมอบช่องที่มีอยู่ครึ่งหนึ่งของเราให้กับพัธมิตรที่ไร้ประโยชน์ได้ อย่างน้อยคุณจะต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าสภาสิบแปดปีกควรจะได้รับช่องเหล่านี้ …” คริมสันสตาร์ยิ้มเล็กน้อยให้กับซือเฟิง

“ดีล !!! ฉันตกลงตามเงื่อนไขนั้น !!!” ซือเฟิงตอบหลังจากครุ่นคิด “อย่างไรก็ตามฉันมีความต้องการเพิ่มเติม หากคุณตกลง เราก็สามารถจะเซ็นสัญญากันได้เลย ซึ่งมันก็เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าสภาสิบแปดปีกจำเป็นจะต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อเข้าไปในดินแดนลับโบราณนั่นแหละ …”

“ความต้องการอะไร ?” ไวน์ไฟเตอร์ถามอย่างสงสัย

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset