ตอนที่ 2619 สภาสิบแปดปีกที่ไม่อาจหยั่งรู้
คำถามของหลงหวู่ชางทำให้อควาโรสและคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย พวกเขาไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะเสนอข้อเสนอทางธุรกิจกับสภาสิบแปดปีกเป็นการส่วนตัว
หลงหวู่ชางนั้นเป็นคนที่มีความภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะแสดงความแข็งแกร่งที่โดดเด่นออกมาในการแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซู แต่ทัศนคติที่เขามีต่อสภาสิบแปดปีกก็น่าจะแปรเปลี่ยนจากเฉยเมยเป็นปกติเท่านั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้ มันดูเหมือนว่าเขาจะมองว่าสภาสิบแปดปีกอยู่ในสถานะที่เท่าเทียมกัน
หอการค้าอาซูนั้นจัดเป็นคู่แข่งของซุเปอร์กิล และแม้ว่าหอการค้าจะไม่สามารถเทียบกับสภาสิบแปดปีกและไวโอเล็ตซอร์ดได้เลยในเรื่องการเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญ แต่ในด้านทรัพยากรและกำลังคนนั้นหอการค้ายังจัดว่าเหนือกว่าสภาสิบแปดปีกมาก
ยิ่งไปกว่านั้นในการแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซูปีนี้นั้นมันยังเกี่ยวข้องกับแค่สมาชิกรุ่นเยาว์จากห้าตระกูลที่เป็นผู้ถือหุ้นหลักเท่านั้น มันไม่ใช่รุ่นเยาว์ทุกคนที่มีพรสวรรค์ของหอการค้าอาซูจะได้เข้าร่วม และผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ส่วนใหญ่ของหอการค้าก็ไม่ได้มาจากห้าตระกูลผู้ถือหุ้นหลักด้วย ซึ่งในหมู่คนเหล่านี้นั้นมีบางคนที่แข็งแกร่งกว่าหยานเซี่ยวเฉียนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีคุณสมับติที่จำเป็นในการเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างรุ่นเยาว์ของตระกูลในปีนี้
“เนื่องจากหอการค้าอาซูยินดีที่จะทำธุรกิจกับเราแบบนี้ ฉันก็ไม่คิดมากอะไรหรอกนะที่จะขายช่องจำนวนหนึ่งให้ ว่าแต่ผู้อาวุโสหลงต้องการกี่ช่องกัน ?” ซือเฟิงถาม เขาไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยกับข้อเสนอของหลงหวู่ชาง ในทางกลับกัน อควาโรสและคนอื่นๆยังไม่ได้ตระหนักมากนักเลยว่ารุ่นเยาว์นั้นมีความสำคัญต่อมหาอำนาจต่างๆเพียงใด
สำหรับมหาอำนาจต่างๆเหล่ารุ่นเยาว์นั้นคืออนาคตของพวกเขา !!!
ยกตัวอย่างเช่นหอการค้าอาซู สาเหตุส่วนใหญ่ของความสำเร็จในปัจจุบันของกิลคือการทุ่มทุกอย่างเพื่อพัฒนาเหล่ารุ่นเยาว์ของตัวเอง ในทางตรงกันข้ามกิลชั้นสูงบางแห่งนั้นไม่เคยก้าวไกลไปกว่านั้นเลยเลย แม้จะมีประสบการณ์และประวัติมายาวนานหลายสิบปี ซึ่งนั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับสมาชิกรุ่นเยาว์ เว้นแต่ว่ากิลชั้นสูงกิลนั้นจะสามารถรับสมัครอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เข้ามาได้ ไม่งั้นพวกเขาก็จะยังคงจะต้องเป็นแค่กิลชั้นสูงต่อไปอีกนาน
เนื่องจากซือเฟิงได้เปิดเผยความจริงที่ว่าผู้เล่นสามารถจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้ผ่านการทดสอบในโหมดฮีโร่ของดินแดนลับโบราณ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่หลงหวู่ชางที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันจะเลือกยื่นข้อเสนอให้กับสภาสิบแปดปีก และละความภาคภูมิใจของตัวเอง
ซึ่งสัญชาตญาณของหลงหวู่ชางในฐานะหนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดของหอการค้าอาซูแบบนี้แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้ซือเฟิงถึงเลือกจะบอกความจริงของเรื่องนี้กับอควาโรสทันที ทั้งๆที่มีหลงหวู่ชางนั่งอยู่ข้างๆ …. และถ้าเขาไม่ได้ต้องการอะไรจากหลงหวู่ชาง เขาก็จะไม่ทำแบบนี้แน่นอน ….
การที่ต้องร่วมมือ และเป็นพันธมิตรกับหอการค้าอาซูให้ได้นั้นมีความสำคัญสูงสุดอันเนื่องมาจากสภาสิบแปดปีกแทบไม่มีอำนาจใดๆอยู่ในทวีปด้านตะวันตก นอกเหนือจากป้อมปราการแสงดาว หากสภาสิบแปดปีกต้องการฐานที่มั่นคงในทวีปด้านตะวันตก พวกเขาจำเป็นจะต้องร่วมมือและเป็นพันธมิตรกับมหาอำนาจอื่นในท้องถิ่น
แม้ว่าเผ่าศักสิทธิ์จะจัดว่าเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังมากแล้ว แต่ความสามารถทางการค้าของกิลนั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับหอการค้าอาซู แถมเผ่าศักสิทธิ์ก็ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือสภาสิบแปดปีกในการเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักสองด้านได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นสภาสิบแปดปีกยังได้รับการยอมรับจากหอการค้าอาซูแล้วในหลายๆสิ่งที่ผ่านมา แถมกิลยังมีเรื่องของไซเร้นวอร์นเดอร์ผูกติดอยู่กับหอการค้าอีก ดังนั้นการเป็นพันธมิตรกับหอการค้าอาซูจึงจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและสามารถเชื่อถือได้มากกว่า
“หากสามารถซื้อได้สามสิบถึงสี่สิบช่องนั่นจะยอดเยี่ยมมากๆ แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้ทางเราก็ยินดีกับสิบช่องเช่นกัน หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม …” หลงหวู่ชางกล่าวอย่างลังเลใจ หลังจากครุ่นคิด
หอการค้าอาซูนั้นจัดเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และกิลก็จำเป็นจะต้องบ่มเพาะรุ่นเยาว์ทั้งหมดที่ตัวเองมี โดยไม่ใช่แค่เฉพาะรุ่นเยาว์ของตระกูลผู้ถือหุ้นหลัก ซึ่งหากได้รับช่องที่เพียงพอ เขาก็น่าจะช่วยเหลือรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถของกิลได้อย่างมาก แต่แน่นอนว่าถ้าซือเฟิงปฎิเสธ อย่างน้อยเขาก็ต้องซื้อให้เพียงพอสำหรับตระกูลผู้ถือหุ้นหลักทั้งห้า
“สี่สิบ ?” หลังจากครุ่นคิดแล้วซือเฟิงก็พูดว่า “ไม่มีปัญหา แต่คุณจะต้องยอมรับเงื่อนไขของฉันสามข้อ ….”
“ไม่มีปัญหา …” ดวงตาของหลงหวู่ชางสว่างขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาพูดอย่างกระตือรือร้นต่อว่า “โปรดระบุเงื่อนไขของคุณมาเลย หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เรายินดีจะยอมรับเงื่อนไขสี่หรือห้าข้อด้วยซ้ำ …!!!”
ช่องทางการเข้าสี่สิบช่องนี้มันไม่ใช่แค่จะเพียงพอสำหรับรุ่นเยาว์ของตระกูลผู้ถือหุ้นหลักทั้งห้าเท่านั้น แต่มันยังจะเพียงพอสำหรับรุ่นเยาว์ และบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลทั้งห้าด้วย ซึ่งหากการเจรจาครั้งนี้สำเร็จ เหล่าผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดที่เป็นกลางของกิลบางส่วนก็มีสิทจะหันมาสนับสนุนตระกูลหลงในระยะยาวแน่นอน
“อย่างแรก ฉันต้องการให้หอการค้าอาซูช่วยในเรื่องหนึ่ง ฉันจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายสมาชิกสภาสิบแปดปีกมายังทวีปด้านตะวันตกภายในสามวัน ซึ่งฉันต้องการเคลื่อนย้ายจำนวนหนึ่งร้อยหรืออาจจะมากกว่านั้น”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา สามวันก็เป็นเวลาที่มากเกินพอแล้ว …. เมื่อถึงเวลาให้พวกเขาไปรวมตัวกันที่จักรวรรดินักบุญทั้งสิบเลย” หลงหวู่ชางตอบตกลงโดยไม่ลังเล
การเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักสองด้านอาจเป็นเรื่องยากสำหรับมหาอำนาจอื่นๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับหอการค้าอาซู และแม้แต่การเคลื่อนย้ายผู้เล่นสองร้อยคนก็ไม่ใช่ปัญหา ซึ่งเต็มที่พวกเขาก็จะต้องใช้คริสตัลเวทย์มนต์ในจำนวนที่มากขึ้นเท่านั้น
สำหรับเงื่อนไขที่สอง ฉันต้องการอู่ต่อเรือขนาดกลางและที่ดินทำเลทองในเมืองโอเชี่ยนไทน์ของจักรวรรดิจันทราสีเงิน” ซือเฟิงกล่าวต่อ
การค้าระหว่างทวีปหลักทั้งสองด้านในอนาคตจะต้องพึ่งพาการขนส่งทางเรือเป็นหลัก ในขณะเดียวกันเมืองโอเชี่ยนไทน์ก็เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิจันทราสีเงิน ซึ่งตราบใดที่สภาสิบแปดปีกมีฐานที่มั่นในเมืองนี้ การทำธุรกิจระหว่างทวีปหลักสองด้านนั้นก็จะเป็นเรื่องง่าย
“นี่ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน ฉันจะแจ้งพี่ชายคนโตของฉันในภายหลัง คุณสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจที่นั่นได้ทันทีที่ขั้นตอนการส่งมอบเสร็จสมบูรณ์” หลงหวู่ชางกล่าว เขาไม่ได้แปลกใจนักกับเงื่อนไขที่สองของซือเฟิง
สภาสิบแปดปีกแทบจะไม่มีอาณาเขตในทวีปด้านตะวันตกเลย หากต้องการได้มาซึ่งทรัพยากรของทวีปด้านตะวันตก วิธีที่เร็วที่สุดก็คือการสร้างฐานที่มั่นของตัวเองขึ้นในเมืองท่าทางทวีปด้านตะวันตก ด้วยวิธีนี้มันจะทำให้พวกเขาสามารถเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักสองด้านได้บ่อยขึ้น และขนส่งสินค้าได้ไกลขึ้น เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นจะสามารถขนส่งสิ่งของได้อย่างจำกัดผ่านประตูเทเลพอร์ต
ในตอนนี้ด้วยการติดต่อระหว่างทวีปหลักสองด้านเป็นเรื่องยาก ดังนั้นผู้ที่ทำแบบนี้ได้จึงจะสามารถนำสินค้าจากทวีปแต่ละด้านไปขายอีกด้านได้ในราคาสูงมาก อย่างไรก็ตามรายได้แบบนี้ก็จะลดลงมากในอนาคต เมื่อทวีปด้านตะวันออกกับตะวันตกสามารถติดต่อกันได้มากขึ้น ซึ่งนี่มันทำให้สภาสิบแปดปีกจะต้องเพิ่มปริมาณการขายเพื่อรักษารายได้ให้ได้เท่าเดิมหรือมากขึ้น ดังนั้นการได้รับฐานที่มั่นในเมืองท่าทางทวีปด้านตะวันตกจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกิล
“เงื่อนไขที่สามของฉันก็คือ ฉันต้องการมรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์ของหอการค้าอาซู” ซือเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง ขณะที่มองไปยังหลงหวู่ชาง
สภาสิบแปดปีกยังไม่มีมรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์ และด้วยเหตุนี้กิลจึงไม่พร้อมที่เลี้ยงดูผู้เล่นที่มีความสามารถต่างๆขึ้นมาในฐานะของมหาอำนาจอย่างแท้จริง ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกได้รับมรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์มา ความแข็งแกร่งของกิลก็จะขึ้นไปสู่ระดับใหม่ทั้งหมด และเข้าใกล้การเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงไปอีกนิด ….
“นั่น …” หลงหวู่ชางลังเล “มรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์เป็นหนึ่งในความลับหลักของกิล และเราใช้เวลาหลายทศวรรษในการปรับแต่งมัน ฉันคิดว่าฉันไม่มีอำนาจที่จะยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ …”
แม้ว่าช่องทางเข้าสี่สิบช่องจะมีค่า แต่มันก็เป็นเพียงโอกาสเท่านั้น การแลกเปลี่ยนความลับของกิลที่ใช้เวลาวิจัยและรวบรวมข้อมูลมานานกับโอกาสเพียงครั้งเดียว มันก็ออกจะเกินไปหน่อย ซึ่งเหล่าผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดของกิลจะไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขนี้แน่นอน
“ฉันรู้ว่ามันมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต คุณจะไม่ได้รับโอกาสที่สองอีก ยิ่งไปกว่านั้นเราก็กำลังพูดถึงมรดกที่อยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณ ฉัรับประกันว่ามันจะมีความลับเกี่ยวกับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่แน่นอน” ซือเฟิงอธิบายอย่างไม่เร่งรีบ “และหากเหตุผลนี้ไม่เพียงพอ ฉันสามารถจะเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้
ได้”
“สิทธิประโยชน์อะไร ?” หลงหวู่ชางถามอย่างสงสัย
มรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์ของหอการค้าอาซูนั้นเป็นหนึ่งในความลับที่ล้ำค่าที่สุดของกิล และการแบ่งปันความลับนี้กับกิลอื่นก็จะเท่ากับการทำให้รากฐานของกิลอ่อนแอลง โดยผลประโยชน์เล็กน้อยมันจะไม่เพียงพอแลกกับเรื่องนี้แน่นอน
“ฉันสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามคนของหอการค้าอาซู ทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของร่างมานาได้ แต่แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งสามนี้จะต้องเป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้วย ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปจะไม่มีคุณสมบัติ คุณคิดว่ายังไง ?” ซือเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม
“คุณกำลังบอกว่าคุณสามารถช่วยพวกเขาให้เติบโตอย่างทรงพลังและก้าวข้ามขั้นได้เหมือนไวโอเล็ทคลาวด์งั้นหรอ ?”
ข้อเสนอนี้ของซือเฟิงทำให้หลงหวู่ชางประหลาดใจ และครู่หนึ่งเขาก็สงสัยในคำพูดของนักดาบ
ใครก็ตามที่เคยดูการแข่งขันของไวโอเล็ตคลาวด์ กับซินฟูลเฟรมเฟเรมจะไม่มีวันลืมความแข็งแกร่งของเธอ เธอน่าเกรงขามเกินไป !!!
ความแข็งแกร่งของไวโอเล็ตคลาวด์ไม่ได้เป็นผลมาจากเทคนิคหรือมาตราฐานการต่อสู้ของเธออีกต่อไป เธอมีพลังดิบที่เหนือกว่า และแม้จะมีค่าสถานะเท่ากับซินฟูลเฟรม แต่เธอก็ยังได้รับชัยชนะ หากเธอมีค่าสถานะสูงกว่าซินฟูลเฟรมเล็กน้อย ชัยชนะของเธอจะดูน่าทึ่งยิ่งกว่านี้แน่นอน
แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับบอกเขาว่า สภาสิบแปดปีกมีวิธีเลี้ยงดูสัตว์ประหลาดแบบนี้ ….
“ถูกต้อง” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า “เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ ฉันจะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามคนของคุณปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาให้ได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ภายในหนึ่งวัน คุณยินดีที่จะรับข้อเสนอของฉันไหมล่ะ ผู้อาวุโสหลง ?
“โปรดรอสักครู่ ฉันต้องการเวลาในการเรียกประชุมเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดและทำการตัดสินใจ …” หลงหวู่ชางกล่าว แม้ว่าเขาจะมองว่าข้อเสนอของซือเฟิงดูเป็นไปได้ยาก แต่เขาก็ไม่สามารถจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้
ถ้าหอการค้าอาซูสามารถจะมีสัตว์ประหลาดสามคนเช่นเดียวกับไวโอเล็ตคลาวด์ได้ พวกเขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองเลย
“นั่นไม่ใช่ปัญหา …” ซือเฟิงกล่าว “ใช้เวลาของคุณได้เต็มที่ ฉันต้องการคำตอบภายในสองวัน”
“โปรดรอสักหน่อยหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันจะรีบติดต่อพี่ชายคนที่สามของฉันและผลักดันให้เรียกเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดมาประชุมเพื่อตัดสินใจโดยเร็วที่สุด” หลงหวู่ชางกล่าวพลางพยักหน้า จากนั้นเขาก็ติดต่อหลงเซี่ยงหลงและแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์
เมื่อหลงเซี่ยงหลงที่อยู่ในสถานที่พักกิลของหอการค้าอาซูได้ยินเกี่ยวกับข้อเสนอของซือเฟิง เขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากเช่นกัน
“น้องห้าพูดว่าอะไรนะ ? สภาสิบแปดปีกสามารถจะช่วยให้เราเลี้ยงสัตว์ประหลาดสามตัวที่เทียบเท่ากับไวโอเล็ตคลาวด์ขึ้นมาได้งั้นหรอ ? เป็นไปได้ยังไง ?”