ตอนที่ 2623 รากฐานที่แท้จริงของสภาสิบแปดปีก
ป้อมปราการแสงดาว คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการ :
ในฐานะที่เป็นหัวใจของป้อมปราการแสงดาว ความหนาแน่นของมาาภายในคฤหาสถ์นั้นมันเหนือกว่าภายนอกมาก ซึ่งหากมองจากภายนอกมันจะดูราวกับว่าคฤหาสถ์และสภาพแวดล้อมนั้นถูกห่อหุ้มด้วยคริสตัลอยู่หนึ่งชั้น โดยภาพนี้ก็ได้ดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมาทุกคน
“นี่มันน่าทึ่งมากๆ มานาที่นี่นั้นหนาแน่นกว่าโลกภายนอกอย่างน้อยห้าสิบเปอเซ็นต์ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงคิดว่าที่นี่เป็นสนามฝึกอันยอดเยี่ยม ผู้บัญชาการฟิธาเลีย ….” ต้วนฮันซานกล่าวอย่างชื่นชม และประหลาดใจ ขณะที่เขามองไปยังปราสาทระยิบระยับที่อยู่เบื้องหน้า
ความหนาแน่นของมานาภายในป้อมปราการแสงดาวนั้นไม่ธรรมดาเลย และมันสูงมากซะจนเรียกได้ว่าอาจจะเสมอหรือเหนือกว่าสนามฝึกของมหาอำนาจบางกลุ่มด้วย
อย่างไรก็ตามคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการกับมีมานาที่หนาแน่นขึ้นมามากกว่านั้นอีก มันคงยากมากที่จะหาสถานที่อื่นที่มีความหนาแน่นของมานาสูงแบบนี้ในทวีปด้านตะวันตก
หากผู้เล่นสามารถฝึกฝนในสถานที่แบบนี้ได้นั้น ความสัมพันธ์ของมานากับพวกเขาจะพัฒนาขึ้นในหลายๆด้านแน่นอน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนแบบต้วนฮันซานก็ยังจะได้รับประโยชน์มากมายแน่นอนจากสภาพแวดล้อมแบบนี้
อย่างไรก็ตามฟิธาเลียหัวเราะเบาๆตอบสนองให้กับคำพูดของต้วนฮันซาน ก่อนที่เธอจะนำทีมของหอการค้าอาซูเข้าไปในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา
เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาภายในคฤหาสถ์ ต้วนฮันซานและเหล่าสมาชิกของหอการค้าอาซูที่ติดตามเขามาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
นอกเหนือจากผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากของสภาสิบแปดปีกแล้ว มันยังมีองครักษ์ส่วนตัวมากกว่าห้าสิบคนยืนเฝ้าอยู่รอบๆลาน และแม้แต่องครักษ์ส่วนตัวที่อ่อนแอที่สุดก็ยังเป็นองครักษ์ส่วนตัวระดับลึกลับขั้นเงิน แถมในหมู่พวกเขายังมีองครักษ์ส่วนตัวระดับไฟน์โกลถึงแปดคน โดย NPC เหล่านี้นั้นจะสามารถทำลายทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนหนึ่งพันคนได้อย่างง่ายดายเลย
เมื่อความตกตะลึงหายไป เหล่าสมาชิกของหอการค้าอาซูก็ตระหนักว่าตอนนี้พวกเขารู้สึกสดชื่นและตัวเบาสบายมาก ราวกับว่าพวกเขาได้รับร่างใหม่เข้ามาแทนร่างเก่าของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้นกัน ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมร่างกายได้มากขึ้น ?” โซริทารี่ฟรอสต์อุทานออกมา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง “สภาพแวดล้อมที่มีมานาหนาแน่นไม่น่าจะให้ผลแบบนี้นี่นา !!!”
“มันไม่ใช่แค่การควบคุมทางกายภาพของเรา ฉันรู้สึกได้ว่าการควบคุมมานาของฉันนั้นก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน” หยานเซี่ยวเฉียนกล่าวในแชททีม “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมถึงมั่นใจมากว่าเขาจะสามารถช่วยเราปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเราให้ได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ด้วย …”
พวกเขาเคยสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีมานามากมายมาก่อน รวมไปถึงสถานที่ที่มีมานาหนาแน่นกว่าคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการ แต่มันก็ไม่มีสถานที่ใดที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาในลักษณะนี้
พวกเขายังไม่ได้เดินผ่านลานด้านหน้าของคฤหาสถ์ด้วยซ้ำ แต่หยานเซี่ยวเฉียนกับสัมผัสได้ว่าตอนนี้พลังการต่อสู้ของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว และถ้าเธอได้ฝึกที่นี่สักพัก เธอก็มั่นใจว่าจะสามารถไปถึงขอบเขตโดเมนได้ในเวลาไม่นาน ขณะที่การควบคุมมานาของเธอก็จะไปถึงระดับใหม่ทั้งหมดเช่นกัน
เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ต้วนฮันซานจึงหันไปหาฟิธาเลีย และถามว่า “ผู้บัญชาการฟิธาเลีย ข้อตกลงของเรากับหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมนั้นไม่ได้มีแค่สามช่องฝึกเท่านั้นหรอ ? มีอะไรผิดพลาดรึปล่าว ?”
ตามข้อตกลงที่หอการค้าอาซูทำกับซือเฟิง หอการค้าอาซูจะได้รับช่องเข้าสู่ดินแดนลับโบราณของไวโอเล็ตซอร์ดสี่สิบช่อง เพื่อแลกเปลี่ยนกับหลายสิ่งที่ซือเฟิงร้องขอไป และโบนัสเพิ่มเติมที่ซือเฟิงจะมอบให้กับหอการค้าอาซูนั่นก็คือเขาจะช่วยให้สมาชิกสามคนของหอการค้าอาซูสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ พร้อมกับทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ไปด้วย ซึ่งนอกเหนือจากซินฟูลเฟรม โซริทารี่ฟรอสต์ และหยานเซี่ยวเฉียนแล้ว สมาชิกของหอการค้าอาซูที่เดินทางมายังป้อมปราการแสงดาวได้ทำการฝึกแบบง่ายๆมาก่อนแล้วเพื่อเตรียมเดินทางเข้าสู่ดินแดนลับโบราณ
อย่างไรก็ตามฟิธาเลียกับนำทั้งทีมเข้ามาในสนามฝึกศักสิทธิ์นี้ มันจะต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่นอน
“มันไม่มีอะไรผิดพลาดหรอก พวกคุณทุกคนจะได้ฝึกที่นี่ในช่วงไม่กี่วันนี้ ส่วนสามช่องที่ว่านั่น ผู้ที่ได้รับเลือกจะได้ไปฝึกที่อื่น ซึ่งน่าเสียดายที่แม้แต่ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้ฝึกแบบพวกเขาหรือไปกับพวกเขา” ฟิธาเลียกล่าวพลางหัวเราะๆ
คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการนั้นเป็นสนามฝึกที่ไม่เหมือนใครและมีประโยชน์มากๆ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่ต้วนฮันซานจะเข้าใจผิดบางเรื่องไป
ถ้าเป็นไปได้เผ่าศักสิทธิ์อยากจะเจรจาเป็นพันธมิตรระยะยาวกับสภาสิบแปดปีกเลยเพื่อจะได้ฝึกฝนในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครอง แต่น่าเสียดายที่ห้องฝึกต่อสู้ของคฤหาสถ์นั้นมีจำกัด และเพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกของตัวเองจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ สภาสิบแปดปีกจึงปล่อยเช่าห้องแบบนี้มาแค่ไม่กี่ห้องเท่านั้น และเหตุผลเดียวที่ทำให้สภาสิบแปดปีกยอมให้สมาชิกหอการค้าอาซูใช้ห้องฝึกต่อสู้ทั้งหมดสี่สิบห้องนั้น ก็เป็นเพราะราคาที่สูงลิ่วที่หอการค้าได้จ่ายมา
“อะไรกัน ? ทั้งสามคนจะไม่ได้ฝึกที่นี่งั้นหรอ ?” ต้วนฮันซานตกใจเล็กน้อย
เขายังคงมีข้อสงสัยว่าซือเฟิงจะสามารถช่วยให้ซินฟูลเฟรม โซริทารี่ฟรอสต์ และ
หยานเซี่ยวเฉียน ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองให้ได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ในหนึ่งวันได้รึปล่าว ไม่ต้องพูดถึงการทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เลย
อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการแล้ว ต้วนฮันซานก็เลิกสงสัยทุกอย่างไปเลย เพราะท้ายที่สุดสภาพแวดล้อมนี้ทำให้การควบคุมทางกายภาพ และมานาของผู้เล่นดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งทั้งหอการค้าอาซูและไวโอเล็ตซอร์ดนั้นไม่มีอะไรแบบนี้เลย
อย่างไรก็ตามฟิธาเลียกับบอกว่าทั้งสามคนที่ได้รับเลือกจะไม่ได้ฝึกที่นี่ และเท่าที่เธอพูดดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะได้ไปฝึกในที่ที่ดีกว่า นี่มันทำให้ต้วนฮันซานแทบพูดไม่ออกเลย ….
แม้แต่โซริทารี่ฟรอสต์และหยานเซี่ยวเฉียนก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าฟิธาเลียกำลังเล่นตลกกับพวกเขา โดยใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้กับสภาสิบแปดปีกรึปล่าว
อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ พวกเขาก็เลิกคิดถึงสมมุติฐานนี้ไปอย่างรวดเร็ว
ฟิธาเลียไม่มีเหตุผลที่จะโกหกพวกเขา เธอไม่เพียงแต่จะเป็นผู้บัญชาการกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสองของเผ่าศักสิทธิ์ แต่เธอยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในทวีปด้านตะวันตกด้วย ดังนั้นทำไมเธอจะต้องมาโกหกเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ?
“ในที่สุดพวกคุณก็มาถึงแล้ว !!! หัวหน้ากิลของเรารอพวกคุณมาพักหนึ่งแล้ว !!! ทั้งสามคนที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึก โปรดตามฉันมา ส่วนคนอื่นรอข้างนอก …”
ขณะที่สมาชิกของหอการค้าอาซูกำลังเต็มไปด้วยความประหลาดใจและมึนงง ชายคนหนึ่งที่มีตราสัญลักษณ์กิลของสภาสิบแปดปีกติดอยู่ที่หน้าอกก็เดินมาหาพวกเขา อย่างไรก็ตามทั้งต้วนฮันซานและทีมของเขานั้นไม่ได้สังเกตเห็นถึงการปรากฎตัวของชายคนี้เลย และจริงๆต้องบอกว่ามันให้ความรู้สึกราวกับว่าชายคนนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง
หยานเทียนซิง ? ทำไมเขาแข็งแกร่งขนาดนี้กัน ? นี่โดยรวมแล้วพลังการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับสัตว์ประหลาดของเราทั้งสามคนแล้วหรอ ?
ต้วนฮันซานมองชายคนนี้อย่างสงสัย ตามรายงานที่เขาได้รับมาหลังจากทำการสืบข้อมูลของสมาชิกสภาสิบแปดปีกหลายคน หยานเทียนซิงนั้นเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากับมีความก้าวหน้ามากๆ และสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกับบัตเตอร์ฟลายเบลและคนอื่นๆที่เป็นสัตว์ประหลาดของหอการค้าอาซูได้
“ลุงฮันซาน เราควรไปไหม ?” หยานเซี่ยวเฉียนถาม
“ไปเลย แล้วก็เมื่อไม่มีฉันให้เชื่อฟังคำสั่งของผู้อาวุโสเฟรมอย่างเคร่งครัดล่ะ …” ต้วนฮันซานกล่าวพลางพยักหน้า
เขาเคยเห็นสภาสิบแปดปีกเป็นเพียงกิลที่ไม่มีรากฐานและต้องอาศัยหัวหน้ากิลปูทางไปสู่ความสำเร็จ และในความเป็นจริงมหาอำนาจส่วนใหญ่ก็ถือว่าพลังการรบโดยรวมของสภาสิบแปดปีกนั้นทัดเทียมกับมหาอำนาจทั่วไปเท่านั้น และเมื่อพูดถึงในแง่มุมอื่นๆ อย่างเช่นการดูแลผู้เชี่ยวชาญนั้นสภาสิบแปดปีกเทียบกับมหาอำนาจต่างๆไม่ได้เลย และกิลก็จะต้องพึ่งปาฎิหาริย์เลยทีเดียว หากต้องการจะกลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงในอนาคต
อย่างไรก็ตามตอนนี้ต้วนฮันซานตระหนักแล้วว่าเขาและมหาอำนาจต่างๆเข้าใจผิดไปมาก ซึ่งเขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนเลย หลังจากเดินเข้ามาในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครอง
“เข้าใจแล้ว !!” หยานเซี่ยวเฉียนและโซริทารี่ฟรอสต์ตอบรับด้วยความกระตือรือร้น
“โปรด นำทางไปเลย …” ซินฟูลเฟรมหันไปหาหยวนเทียนซิน เมื่อต้วนฮันซานออกคำสั่งกับรุ่นเยาว์ทั้งสองเรียบร้อยแล้ว
“ตามฉันมา” หยานเทียนซิงกล่าวพลางพยักหน้า
จากนั้นหยานเทียนซิงก็นำทั้งสามเข้าไปในห้องโถงของคฤหาสถ์ ก่อนจะนำพวกเขาทั้งหมดไปที่ห้องมรดกซึ่งอยู่ใจกลางคฤหาสถ์
ซึ่งห้องมรดกนั้นมันมีองครักษ์ระดับไฟน์โกล ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบสอง สองคนยืนเฝ้าอยู่ และแม้แต่ซินฟูลเฟรมนั้นก็ไม่กล้าจะขยับตัวมากนักเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าองครักษ์ทั้งสองคนนี้
เมื่อประตูเปิดออก ซินฟูลเฟรม และผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์สองคนก็สังเกตเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ในห้องมรดก โดยเขากำลังจัดการกับวงเวทย์ของห้อง ในขณะที่มานาธาตุทั้งหมดล้วนวนเวียนอยู่รอบๆตัวเขา ซึ่งในขณะที่ชายคนนี้ทำงานของเขาอยู่ มานารอบๆตัวเขาก็เริ่มก่อตัวอย่างหนาแน่นขึ้นจนในที่สุดมันก็กลั่นตัวเป็นหมอกสีขาว
“การควบคุมธาตุ ?! หมอกมานา ?! เป็นไปได้ยังไงกัน ?!” หยานเซี่ยวเฉียนจ้องมองไปยังชายในห้องด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง