ตอนที่ 2626 มานาโบราณ
การที่คริมสันสตาร์เป็นผู้นำทางทีมของสภาสิบแปดปีกผ่านเข้าสู่เมืองไวโอเล็ตไลท์ มันก็ทำให้เกิดการพูดคุยกันอย่างร้อนแรงระหว่างผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมือง
“พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกัน ? คริมสันสตาร์แห่งไวโอเล็ตซอร์ดกำลังเป็นผู้นำทางพวกเขาจริงๆ …”
“ไม่ใช่แค่คริมสันสตาร์นะ ฉันได้ยินว่าผู้ฝึกสอนทอร์เร้นของไวโอเล็ตซอร์ดนั้นก็ออกไปต้อนรับคนเหล่านี้เป็นการส่วนตัวที่หน้าประตูทางเข้าหลักของเมืองเลย”
“มหัศจรรย์มากๆ !! บางทีคนเหล่านั้นอาจเป็นพวกระดับสูงของซุเปอร์กิลบางกิลรึ
ปล่าว ?!”
….
สมาชิกของไมโทโลจี้เริ่มสงสัย เมื่อพวกเขาเห็นทีมของซือเฟิง ในทางกลับกันสมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดส่วนใหญ่ก็พบว่าเรื่องนี้น่าประหลาดใจมากๆ ….
คริมสันสตาร์นั้นเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดของไวโอเล็ตซอร์ด แม้ว่าหัวหน้ากิลของมหาอำนาจทั่วไปจะมาเยี่ยมเยียนไวโอเล็ตซอร์ด แต่เธอก็จะปรากฎตัวขึ้นและทักทายเพียงแค่สั้นๆเท่านั้น เธอจะไม่มีความคิดที่จะมาเป็นผู้นำทางให้พวกเขาแน่นอน
ในขณะเดียวกัน มันก็มีผู้เล่นจำนวนหนึ่งยืนอยู่บนกำแพงที่ทำหน้าที่ปกป้องปราสาทโบราณใจกลางเมืองไวโอเล็ทไลท์ โดยผู้เล่นเหล่านี้เป็นทีมที่มีผู้เล่นทั้งหมดสามสิบคน ซึ่งทุกคนกำลังเฝ้าสังเกตการมาถึงของซือเฟิงและทีมอย่างเงียบๆ โดยสมาชิกทุกคนในทีมนี้นั้นล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเลเวลหนึ่งร้อยสิบสาม หรือมากกว่าขึ้นไปทั้งหมด
“ในที่สุดสมาชิกสภาสิบแปดปีกก็มาถึงที่นี่ ….” แอสซาซินหนุ่มที่ถือดาบสั้นสองเล่มกล่าวอย่างเย็นชา ขณะที่เขาจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยเจตนาฆ่าฟัน
“แซนด์สตอร์ม อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ตอนนี้พวกเขาเป็นแขกของไวโอเล็ตซอร์ด …” หญิงสาวร่างสูงที่ถือค้อนสงคราม และโล่ที่แข็งแกร่งที่ยืนข้างๆแอสซาซินหนุ่มกล่าว
“ผ่อนคลายเถอะน่า ฉันรู้เรื่องนั้นดี ….” แซด์สตอร์มกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะปกปิดเจตนาฆ่าฟันของเขาไป “อย่างไรก็ตามข้อตกลงของเรากับไวโอเล็ตซอร์ดนั้นจำกัดแค่เฉพาะในเมืองเท่านั้น เมื่อพวกเขาเข้าสู่ดินแดนลับโบราณ มันจะกลายเป็นเกมที่ยุติธรรม และเราก็จะได้แก้แค้นสำหรับความอัปยศที่เราได้รับจากป้อมปราการแสงดาว !!! ฉันจะสอนให้สภาสิบแปดปีกรู้ว่าการทำให้รองผู้บัญชาการของเราขุ่นเคืองนั้นมันโง่เขลาเพียงใด !!!”
“แน่นอน” หญิงสาวร่างสูงกล่าวพลางพยักหน้า “แม้ว่าคำสั่งของรองผู้บัญชาการอย่างแรกจะเป็นการที่ต้องตรวจสอบว่าไวโอเล็ตซอร์ดกับสภาสิบแปดปีกเข้าไปทำอะไรในดินแดนลับโบราณ แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ออกคำสั่งอะไรเพิ่มเติม ซึ่งมันหมายความว่าเราจะสามารถทำอะไรก็ได้ โดยเทพปีศาจได้บอกไว้แล้วว่าการฆ่าแบล๊คเฟรมจะทำให้เราได้คะแนนสะสมจำนวนมาก และจะสามารถฝึกสนามฝึกของศาลเจ้าเทพโบราณได้เป็นเวลานาน แถมหากเรานำตัวแบล๊คเฟรมไปมอบให้เทพปีศาจได้ เรายังจะสามารถได้รับมรดกเทพปีศาจโดยตรงด้วย”
“ก่อนหน้านี้แบล๊คเฟรมสามารถเอาชนะเราได้เพียงเพราะเขามีร่างมานาที่ปลดล๊อคศักยภาพได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาจะไม่โชคดีแบบนั้นแน่นอน !!!” แซนด์สตอร์มกล่าวด้วยรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของเขา “คราวนี้เขาจะได้เรียนรู้ว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงเป็นอย่างไร !!!”
ศาลเจ้าเทพปีศาจนั้นเป็นสนามฝึกพิเศษที่มหาอำนาจทุกกลุ่มในทวีปด้านตะวันตกล้วนรู้จัก อย่างไรก็ตามมหาอำนาจส่วนใหญ่นั้นยังคงไม่ทราบว่าศาลเจ้าเทพปีศาจมีมรดกบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการปลดล๊อคศักยภาพร่างมานา ซึ่งมันมีสิทจะได้รับจากการทำหนึ่งในสิบเควสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาลเจ้า
ไมโทโลจี้นั้นเป็นหนึ่งในมหาอำนาจไม่กี่กลุ่มที่สามารถทำเควสหนึ่งในสิบเควสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้สำเร็จและได้รับมรดกร่างมานามา เป็นผลให้แซนสตอร์ม และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่งของไมโทโลจี้นั้นสามารถจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว และด้วยการสนับสนุนของวงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูงที่พิเศษของซุเปอร์กิล พลังการต่อสู้ของพวกเขาจึงจะขึ้นไปอยู่ในระดับที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และเพียงแค่ทีมสามสิบคนของพวกเขานี้ก็เพียงพอที่จะเอาชนะกองกำลังนรกทั้งหมดของจักรวรรดิโลกใต้พิภพได้แล้ว
ในช่วงเวลาที่แซนสตอร์มและสมาชิกคนอื่นๆของไมโทโลจี้กำลังคุยกันว่าจะโจมตีกลุ่มของสภาสิบแปดปีกอย่างไร ซือเฟิงและคนอื่นๆก็ได้มาถึงที่หน้าทางเข้าดินแดนลับโบราณซึ่งอยู่ภายในปราสาทกลาง
ทางเข้าสู่ดินแดนลับโบราณเป็นรอยแยกมิติที่จะนำไปสู่โลกอื่นที่เมืองโบราณตั้งอยู่ และโดยปกตินั้น รอยแยกมิตินี้ก็จะไม่เสถียรอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามมันก็มีการวางวงเวทย์ไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพในระดับหนึ่ง
น่าเสียดายที่เนื่องจากมันผ่านกาลเวลามายาวนาน วงเวทย์มันจึงไม่ทรงพลังเหมือนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้มันสามารถช่วยเทเลพอร์ตผู้เล่นแบบระบุพิกัดไปยังดินแดนลับโบราณได้เป็นจำนวนสูงสุดสี่ร้อยคนต่อวันเท่านั้น และผู้เล่นคนอื่นจะมีสิทเทเลพอร์ตไปได้ก็ต่อเมื่อคนที่อยู่ข้างในเดิมออกมาแล้วเท่านั้น
นี่คือดินแดนลับโบราณงั้นหรอ ? เมื่อซือเฟิงมาถึงรอยแยกมิติและสัมผัสได้ถึงมานาที่ไหลออกมา เขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา เขาเคยได้ยินและเห็นเพียงภาพของดินแดนลับโบราณของไวโอเล็ตซอร์ดเท่านั้น แต่เขาไม่เคยมีประสบการณ์ได้สัมผัสมันด้วยตัวเองเลย แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง เขาก็ได้รู้เลยว่าที่นี่มันจะมีประโยชน์ต่อเขาและกิลมากๆ เพราะตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกมีพลังขึ้นอย่างมาก จากการสัมผัสมานาที่รั่วไหลออกมาแค่เพียงเล็กน้อย
หากแม้แต่การได้สัมผัสมานาที่รั่วไหลออกมาแค่เล็กน้อยมันยังให้ผลมากขนาดนี้ ซือเฟิงก็แทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่า การได้เข้าไปอยู่ในดินแดนลับโบราณนั้นจะรู้สึกอย่างไร ครู่หนึ่งเขาหวังว่าจะได้อยู่ในดินแดนลับโบราณตลอดไปด้วยซ้ำ
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม นี่คือวงเวทย์เล่นแร่แปรธาตุของคุณ …..” คริมสันสตาร์กล่าว ขณะที่เธอยืนกระบอกสีดำให้ซือเฟิง “อย่าลืมใช้มันก่อนเข้าไป มันจะช่วยคุณขับไล่มานาที่แข็งแกร่งเกินไปที่อยู่ภายใน และป้องกันไม่ให้ตัวของคุณระเบิดจากปริมาณมานาที่มากเกิน ในขณะเดียวกันมันก็จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการไหลของมานาของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมันก็จะทำให้คุณไม่ได้จากการหมดพลังงานและมานาด้วย”
“ขอบคุณ”
ซือเฟิงพยักหน้าและรับกระบอกสีดำมาจากคริมสันสตาร์ จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานวงเวทย์บนไอเทม และอักษรรูนพิเศษก็ได้ปรากฎขึ้นบนร่างกายของเขาตามมาด้วยชั้นแสงจางๆที่ห่อหุ้มรอบตัวเขา
แม้ว่าดินแดนลับโบราณในปัจจุบันจะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฝึกฝนของผู้เล่นในปัจจุบัน แต่มันก็เป็นทั้งคำสาปและพรในเวลาเดียวกัน
มันมีมานาที่หนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่ออัดแน่นเต็มไปหมดในดินแดนลับโบราณ โดยมานาภายในนี้นั้นมันหนาแน่นมากซะจนผู้เล่นจะได้รับปริมาณมานาและอัตราการไหลของพลังเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่พวกเขาสูญเสียการควบคุมมานาของตนเอง เป็นผลให้อัตราการเผาผลาญทั้งหมดของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนมันจะทำให้ไปสู่การเหนื่อยล้าและตายได้ภายในครึ่งชั่วโมง หลังจากเข้าสู่ดินแดนลับโบราณ
หากผู้เล่นต้องการจะเอาชีวิตรอดในดินแดนลับโบราณให้ได้นาน พวกเขาจะต้องพึ่งพาวงเวทย์เล่นแร่แปรธาตุเพื่อควบคุมมานาของตน แต่ถึงกระนั้นผู้เล่นก็จะสามารถอยู่ในดินแดนลับโบราณได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้น
วงเวทย์เล่นแร่แปรธาตุนี้ก็เป็นไอเทมที่สิ้นเปลืองและใช้แล้วหมดไป ดังนั้นไวโอเล็ตซอร์ดจึงพยายามอย่างมากที่จะเพิ่มความเร็วและปริมาณในการผลิตวงเวทย์เล่นแร่แปรธาตุนี้ ไม่งั้นพวกเขาจะไม่อาจยึดครองดินแดนลับโบราณได้อย่างแท้จริง และทำได้เพียงแค่จ้องมองเท่านั้น
หลังจากซือเฟิงและทีมของเขาพร้อมแล้ว คริมสันสตาร์ก็พาพวกเขาเข้าสู่รอยแยกมิติ และหายตัวไปจากปราสาท
ทุกคนได้ถูกเทเลพอร์ตมายังป่าทึบทันที โดยรอบๆตัวของพวกเขานั้นมีต้นไม้โบราณที่สูงตระหง่านกว่าหนึ่งร้อยเมตร และมันก็มีคริสตัลโปร่งแสงประดับประดาต้นไม้เหล่านี้ ซึ่งมันทำให้ตนไม้และผืนป่านั้นมีความสวยงามชวนหลงใหลมากๆ แถมมานาในป่านั้นก็หนาแน่นซะจนมันกลั่นตัวเป็นหมอกสีขาว อย่างไรก็ตามแม้จะมีหมอกสีขาว แต่การมองเห็นของทุกคนก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์รอบๆตัวพวกเขา จู่ๆเสียงคำรามก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล และมันก็ดังก้องไปทั่วป่า
เมื่อหันไปหาต้นกำเนิดของเสียงคำราม ทุกคนก็สังเกตเห็นหมีตัวหนึ่งที่มีเขาเดียว และสูงสองร้อยเมตร กำลังต่อสู้กับลิงหกตาที่สูงเท่ากัน โดยทุกการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ทั้งสองนั้นมันทำให้พื้นดินทั่วป่าสั่นสะเทือน และทำให้ภูมิประเทศรอบๆบริเวณที่พวกมันสู้กันนั้นเปลี่ยนไปเลย
“แม่งเอ้ย !!! ทำไมหัวหน้าของสองภูมิภาคถึงสู้กัน ?!” คริมสันสตาร์ขมวดคิ้ว ขณะที่เธอเฝ้าดูการต่อสู้ของมอนสเตอร์ยักษ์ทั้งสอง
ดินแดนลับโบราณนั้นเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไม่เพียงแต่มันจะมีมอนสเตอร์มากมายที่นี่ โดยแต่ละภูมิภาคในดินแดนลับโบราณนั้นจะมีบอสที่ทรงพลังปกครองอยู่ โดยไวโอเล็ตซอร์ดกับไมโทโลจี้นั้นได้ทำการตรวจสอบบอสของภูมิภาคทั้งหมดมาแล้ว
ซึ่งบอสที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาหัวหน้าภูมิภาคทั้งหมดนั้นก็เป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแล้ว แถมมันยังมีมาตราฐานการต่อสู้อยู่ในชั้นหกของหอคอยทดสอบ นอกจากนี้มอนสเตอร์ทั้งหมดที่พบในดินแดนลับโบราณนั้นมันยังทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ และแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบที่นี่ มันก็ยังสามารถจะเทียบเคียงกับสายพันธุ์โบราณ ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบด้านนอกได้
โดยปกติทั้งสมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ด และไมโทโลจี้นั้นจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงหัวหน้าภูมิภาคเหล่านี้ เมื่อมาเยือนดินแดนลับโบราณ และเหตุผลนั้นไม่เพียงแค่มันเกิดจากอัตราการบาดเจ็บล้มตายที่สูงลิ่วซึ่งเกิดขึ้นจากการท้าทายหัวหน้าภูมิภาคเหล่านี้ เพราะมันยังมีข้อเท็จจริงในเรื่องที่ว่าการต่อสู้กับหัวหน้าภูมิภาคเหล่านี้จะดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆเข้ามาด้วย โดยผู้เล่นที่คิดจะต่อสู้กับหัวหน้าภูมิภาคจะต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดทั้งทีมก็จะต้องประสบกับความพินาศ
ขณะเดียวกันหัวหน้าของสองภูมิภาคปรากฎตัวขึ้นในสถานที่ที่พวกเขาเทเลพอร์ตมา และพวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ ซึ่งนี่มันถือได้เลยว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
ในโลกภายนอก มันมีบางกรณีที่ผู้เล่นจะสามารถใช้ประโยชน์จากการที่มอนสเตอร์ต่อสู้กันเองได้ อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์ในดินแดนลับโบราณแห่งนี้นั้นมันฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ตราบใดที่พวกมันรู้สึกได้ถึงตัวตนของผู้เล่น พวกมันก็จะหยุดต่อสู้กันทันที และหันมาร่วมมือกันเพื่อฆ่าผู้เล่นก่อน ก่อนที่จะเริ่มสู้กันต่อ พวกมันไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นใช้ประโยชน์ใดๆจากเรื่องนี้เลย
….
“ทำไมเราโชคร้ายแบบนี้กัน ?! เราดันมาเจอหัวหน้าภูมิภาคสองตัวที่กำลังต่อสู้แย่งอาณาเขตกันเนี่ยนะ ?!” แซนด์สตอร์มซึ่งปัจจุบันซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ห่างจากทีมของซือเฟิงไม่ไกลนักบ่นด้วยความหงุดหงิด เมื่อเขาได้เห็นฉากนี้
“เอาล่ะ ลืมเรื่องสภาสิบแปดปีกไปก่อน เราจำเป็นจะต้องออกจากที่นี่ให้ไวที่สุด เราได้จบสิ้นแน่นอน ถ้าหัวหน้าภูมิภาคสองตัวค้นพบเรา …” การ์เดี้ยนไนท์หญิงร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆแซนด์สตอร์มกล่าว
“ฉันรู้น่า !!!” แซนด์สตอร์มกล่าวพลางกัดฟันของเขา ก่อนที่เขาจะมองไปยังซือเฟิงเป็นครั้งสุดท้าย และเลือกจะถอยไป
….
ขณะที่ทีมของแซนด์สตอร์มกำลังเตรียมจะออกจากพื้นที่ คริมสันสตาร์ก็ได้ให้ทุกคนในทีมเตรียมพร้อมสำหรับการล่าถอยอย่างเร่งรีบเช่นกัน
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เราจะต้องออกจากที่นี่โดยเร็ว เราจะมีปัญหาค่อนข้างมาก หากอยู่ที่นี่ต่อไป ….” คริมสันสตาร์พูดอย่างรีบร้อนขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงที่ยังคงสังเกตการต่อสู้กันของหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองอย่างเงียบๆ
“ทางนั้นควรจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดที่ไปยังเมืองโบราณใช่ไหม ?” ซือเฟิงถามขณะที่เขาชี้ไปยังบริเวณที่หัวหน้าภูมิภาคทั้งสองกำลังต่อสู้กัน “ถ้าเรามัวแต่ไปอ้อม เราจะไม่เสียเวลาครึ่งวันเลยหรอ ?”
“ก็ใช่ที่นั่นเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดที่จะไปยังเมืองโบราณ แต่ถ้าเราถูกหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัวจับได้ เราจะตายที่นี่เลยนะ ยอมเสียเวลาสักหน่อยไม่ดีกว่าหรอ ?” คริมสันสตาร์อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธ เมื่อเห็นว่าซือเฟิงยังคงยืนยันจะไปทางเดิมที่มีหัวหน้าภูมิภาคสองตัวขวางทางอยู่
อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งเธอก็แอบเข้าใจความคิดของซือเฟิงอยู่เช่นกัน พวกเขานั้นสามารถจะอยู่ในดินแดนลับโบราณได้สูงสุดเจ็ดวันเท่านั้น และหากพวกเขาต้องเสียเวลาไปครึ่งวันเพื่ออ้อมผ่านไป เวลาในการเคลียร์โหมดฮีโร่นั้นมันก็จะลดลงไปอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วด้วยจำนวนของมอนสเตอร์ที่อยู่ในการทดสอบ พวกเขาจะต้องใช้เวลาห้าถึงหกวันเพื่อจะไปให้ถึงบอสของการทดสอบ ….
ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัวยังเป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ในโลกภายนอกการเจอมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายสองตัวพร้อมกัน มันก็คล้ายกับการเจอแจ๊คพอต
อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขานั้นอยู่ในดินแดนลับโบราณ และมอนสเตอร์ภายในนี้มันก็แข็งแกร่งกว่าที่โลกภายนอกมาก ดังนั้นการท้าทายมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายสองตัวพร้อมกันในนี้มันจึงจะเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ ไม่งั้นไวโอเล็ตซอร์ดคงจะไม่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการสำรวจดินแดนลับโบราณ ….
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เราไปกันเถอะ ถ้าเราไม่ไปตอนนี้ เราจะเข้าสู่ระยะการรับรู้ของหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัวนะ ….” ไวน์ไฟเตอร์แนะนำอย่างเร่งด่วน “เป้าหมายหลักของเราคือการเคลียร์การทดสอบ เราไม่จำเป็นจะต้องมาสู้กับหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัวนี้”
“ฉันก็คิดว่าคุณพูดถูก เราไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับสองตัวนั้น ….” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า จากนั้นเขาก็หันไปหาคริมสันสตาร์ และไวน์ไฟเตอร์พลางกล่าวเสริมว่า “ฉันจะล่อพวกมันให้ ใช้โอกาสนี้หนีผ่านทางนี้ไปแล้วกัน ….”
หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็พุ่งไปที่หัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัว ….