ตอนที่ 2638 ลิชโบราณ กับวิญญาณมังกรดำ
ตอนนี้อควาโรสและคนอื่นๆล้วนเต็มไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ขณะที่พวกเขามองไปยังแท่นบูชาที่สูงตระหง่านและทรุดโทรมซึ่งอยู่ห่างออกไปกลางอุโมงค์
สาเหตุที่ปฎิกิริยาของพวกเขาเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะบริเวณรอบๆแท่นบูชานั้นมันเต็มไปด้วยนักรบไทรออล กับไทรออลขั้นสูง มอนสเตอร์เหล่านี้มีจำนวนราวสามพันตัว และมันก็มีบอสในการทดสอบอยู่ใจกลางพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสี่มุมของแท่นบูชานั้นมันยังมีหอคอยมานาตั้งอยู่ด้วย โดยหอคอยมานานี้ไม่เพียงแต่มันจะปราบปรามศัตรูทั้งหมดที่มาอยู่ในระยะของมัน แต่มันยังป้องกันไม่ให้ผู้เล่นใช้สกิลและเวทย์ใดๆด้วย
“นี่มันโกงกันชัดๆ !!! ไม่เพียงแต่จะมีมอนสเตอร์มากมายอยู่รอบๆบอส !!! แต่มันยังมีหอคอยมานาอีกสี่แห่งด้วย !!! ด้วยสิ่งนี้นับประสาอะไรกับทีมสองร้อยคน แม้แต่ทีมสองพันคนก็ยังไม่สามารถจะเคลียร์มันได้เลย !!!” โฟลตติ้งไลท์อดไม่ได้ที่จะกล่าวสาปแช่งออกมา ขณะที่ตัวเขาเองมองไปยังหอคอยมานาทั้งสี่
หอคอยมานานั้นเป็นโครงสร้างการป้องกันระดับยุทธศาสตร์ เพราะมันไม่ใช่แค่สิ่งก่อสร้างทั่วไป แต่มันจัดอยู่ในระดับต้นๆของสิ่งก่อสร้างขั้นสูงเลย และพวกมันก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้เล่นในทวีปด้านตะวันตกนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี ….
เพราะท้ายที่สุดเมือง NPC ทุกแห่งของทวีปด้านตะวันตกล้วนมีหอคอยมานา แถมหอคอยมานาก็ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เมืองของ NPC ในทวีปด้านตะวันตกพัฒนาไปได้อย่างมั่นคง แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของกองทัพมอนสเตอร์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตปีศาจ
เดิมทีบอสในการทดสอบที่ถูกรายล้อมไปด้วยลูกน้องจำนวนมากขนาดนี้มันก็มีข้อได้เปรียบมากแล้ว แต่ตอนนี้มอนสเตอร์เหล่านี้ยังจะได้รับประโยชน์จากหอคอยมานาสี่แห่งอีก แล้วผู้เล่นอย่างพวกเขาจะไปเคลียร์การทดสอบนี้ได้อย่างไร ?
“แน่นอนเลยว่ามันยังเร็วเกินไปสำหรับเราที่จะมาที่นี่ ….” คริมสันสตาร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา ขณะที่เธอมองไปยังลิชที่อยู่บนแท่นบูชา
….
[โซล๊อค] (ลิชโบราณ ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย)
เลเวล 122
HP 3,700,000,000/3,700,000,000
….
ในขณะที่ HP ของโซล๊อคที่มีสามพันเจ็ดร้อยล้านนั้นไม่ได้จัดว่าสูงเป็นพิเศษสำหรับลิชโบราณ แต่จำนวนนี้มันก็มากเกินพอที่จะปลูกฝังความสิ้นหวังให้กับทุกคนได้
มันมีมอนสเตอร์ที่เน้นไปทางด้านเวทย์มนต์อยู่ไม่กี่ตัวเท่านั้นใน God domain อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ที่เน้นไปทางด้านกายภาพในเลเวล และระดับเดียวกัน มอนสเตอร์ที่เน้นไปทางด้านเวทย์มนต์นั้นจะยากที่จะจัดการมากกว่าราวสามสิบถึงสี่สิบเปอเซ็นต์เลย ซึ่งนี่มันก็คล้ายความแตกต่างระหว่าง NPC สายกายภาพ กับสายเวทย์มนต์ เนื่องจาก NPC สายเวทย์มนต์นั้นจะมีความเชี่ยวชาญในการโจมตีระยะไกลแบบ AOE และสามารถสร้างความเสียหายกับการทำลายล้างได้มากกว่าที่ NPC สายกายภาพจะทำได้
ในขณะเดียวกันลิชโบราณนี้ก็จัดว่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีความสามารถพิเศษในด้านเวทย์มนต์เหนือกว่าเอลฟ์ทั่วไป และสำหรับลิชโบราณ เวทย์หลายอย่างก็ไม่ต่างจากของเล่น ซึ่งมันสามารถจะเล่นกับเวทย์ได้ตามที่ตัวเองต้องการเลย
ก่อนหน้านี้ไวโอเล็ทซอร์ดเคยเจอกับลิชโบราณที่เป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลแปดสิบเจ็ดในแผนที่ล่ามาก่อน และเพื่อที่จะเอาชนะมันให้ได้ กิลได้ส่งกองกำลังห้าพันคนที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเลเวลมากกว่าเก้าสิบหรือมากกว่าขึ้นไป ผลัดกันเข้าโจมตีบอสเรื่อยๆ โดยแบ่งเป็นทีม ทีมละพันคน และในท้ายที่สุด พวกเขาก็สามารถจะฆ่าลิชโบราณได้ แต่มันก็ต้องจ่ายด้วยชีวิตผู้เชี่ยวชาญของพวกเขาเกือบสี่พันคน
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เพียงแต่ลิชโบราณตรงหน้าของพวกเขาจะเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบสอง ลิชโบราณตัวนี้ยังมีมอนสเตอร์หลายพันตัว พร้อมกับหอคอยโบราณอีกสี่แห่งคอยสนับสนุนมัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะฆ่าลิชตัวนี้ให้ได้ และต่อให้พวกเขามีกองกำลังผู้เชี่ยวชาญหนึ่งหมื่นคนในเลเวลเดียวกันกับลิชโบราณ พวกเขาก็ยังไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ
ในตอนนี้นับประสาอะไรกับสมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ด และหอการค้าอาซู แม้แต่อควาโรสและสมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นโซล๊อค เพราะท้ายที่สุดความยากในการจะฆ่าบอสตัวนี้ลงให้ได้นั้นมันมากเกินไป ในความคิดของพวกเขาโซล๊อคไม่ใช่บอสสำหรับผู้เล่นขั้นสามด้วยซ้ำ และพวกเขาจะสามารถท้าทายมันได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาไปถึงขั้นสี่แล้วเท่านั้น
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ความยากในการโจมตีบอสตัวนี้มันสูงเกินไป แม้ว่าเราจะยอมทิ้งชีวิตทั้งหมดของเราไว้ที่นี่ และใช้ไพ่ทั้งหมดของเรา แต่ฉันก็คิดว่าเราไม่น่าจะสามารถฆ่าบอสตัวนี้ได้อยู่ดี คุณยังต้องการจะสู้ต่อไหม ?” ไวน์ไฟเตอร์ถาม ในขณะที่เขาหันไปหาซือเฟิง ซึ่งพึ่งกลับมาเข้าร่วมทีมอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง
พวกเขาใช้ทั้งเวลาและความพยายามอย่างมากกว่าจะมาถึงตัวของบอสในการทดสอบ และหากมีโอกาสประสบความสำเร็จแม้เพียงน้อยนิด เขาก็อยากจะลองโจมตีบอสตัวนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร เขาก็ไม่สามารถจะมองเห็นความหวังใดๆได้เลย เพราะท้ายที่สุด หากพวกเขาต้องการจะโจมตีลิชโบราณตัวนี้ พวกเขาจะต้องทำลายหอคอยมานาสี่แห่งให้ได้ก่อน ไม่งั้นพวกเขาจะไม่แตกต่างไปจากมดปลวกที่ลิชโบราณจะสามารถฆ่าพวกเขาได้ง่ายๆเลย
อย่างไรก็ตามการจะทำลายหอคอยโบราณทั้งสี่แห่งให้ได้นั้น มันพูดง่ายกว่าทำ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องต่อสู้กับบอสในการทดสอบ และมอนสเตอร์อีกหลายพันคนกว่าพวกเขาจะสามารถฝ่าเข้าไปทำลายหอคอยมานาทั้งหมดได้
เพื่อทำให้เรื่องแย่ลง หอคอยมานั้นมีความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ การโจมตีที่อยู่ต่ำกว่ามาตราฐานของขั้นสี่จะไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้มันได้ อย่างไรก็ตามด้วยมีหอคอยมานาสี่แห่งคอยปราบปรามพวกเขาอยู่ มันก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถจะใช้สกิลหรือเวทย์ใดๆกับหอคอยได้เช่นกัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาจะต้องใช้การโจมตีปกติในการทำลายหอคอยนี้ ในขณะที่แม้แต่ค่าสถานะพื้นฐานกับร่างกายของพวกเขาก็ถูกปราบปรามให้อ่อนแอลง และในสถานการณ์เช่นนี้ มันจะมีผู้เล่นสักกี่คนในทีมกันที่จะสามารถโจมตีปกติไปถึงมาตราฐานของขั้นสี่ได้ ?
หากพวกเขาต้องพึ่งพาผู้เล่นแค่ไม่กี่คนในการทำลายหอคอยมานา มันก็มีสิทสูงมากที่พวกเขาจะถูกสังหารหมู่ก่อนที่จะสามารถทำลายหอคอยมานาได้สักแห่ง นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหอคอยมานาจะทำการโจมตีเป็นสกิลเวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่เป็นระยะๆ และเพียงแค่หนึ่งในสกิลเวทย์เหล่านี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายล้างพวกเขาทั้งทีม ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกต่อสู้แบบไหน พวกเขาก็จะต้องเจอกับฝันร้ายแน่นอน
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ ฉันจะแนะนำให้กิลของฉันแก้ไขข้อตกลงระหว่างเราให้เป็นการเคลียร์การทดสอบโหมดขั้นสูงแทน เพัยงแต่ว่าช่องที่คุณได้รับก็จะต้องลดลงไปด้วย คุณคิดอย่างไร ?” คริมสันสตาร์กล่าวแนะนำ
ขณะเดียวกันไวน์ไฟเตอร์ก็ไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของคริมสันสตาร์
ความแข็งแกร่งที่สภาสิบแปดปีกได้แสดงออกมาในระหว่างการต่อสู้ในการทดสอบโหมดฮีโร่นี้มันเกินความคาดหมายของพวกเขาไปอย่างแท้จริง และสำหรับไวโอเล็ทซอร์ด การได้ร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกก็เป็นเรื่องที่ดีแน่นอน
“คริมสันสตาร์นั้นช่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจริงๆ …” ต้วนฮันซานพึมพำด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำพูดของคริมสันสตาร์ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้เลย
ศักยภาพของสภาสิบแปดปีกนั้นมันชัดเจนสำหรับทุกคนที่ได้เห็น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด กิลๆนี้จะได้เติบโตขึ้นเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงในอนาคตแน่นอน เพราะท้ายที่สุด กิลนั้นทรงพลังมากเป็นพิเศษอันเนื่องจากความสามารถในการเลี้ยงดูผู้เล่น และหากรุ่นเยาว์ของไวโอเล็ทซอร์ดสามารถได้รับการฝึกฝนจากสภาสิบแปดปีก ในอนาคตไวโอเล็ทซอร์ทก็จะสามารถกลายเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้แน่นอน
หลังจากเห็นการกระทำของคริมสันสตาร์แล้ว ต้วนฮันซานก็รู้สึกว่าหอการค้าอาซูจำเป็นจะต้องกระชับความสัมพันธ์กับสภาสิบแปดปีกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามทันทีที่คริมสันสตาร์พูดจบ ซือเฟิงก็ส่ายหัว
“ถ้าปัญหาเป็นเรื่องช่องละก็ฉันสามารถจะช่วยเจรจากับคนอื่นๆในกิลให้ได้นะ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม …” ไวน์ไฟเตอร์กล่าวออกมา เมื่อเห็นซือเฟิงส่ายหัว
“ไม่ใช่ๆ คุณเข้าใจฉันผิดไปหน่อยรองผู้บัญชาการไวน์ไฟเตอร์ ฉันไม่ได้มีปัญหากับข้อเสนอของคุณ เพียงแต่ว่าฉันยังคงต้องการที่จะท้าทายบอส เพราะท้ายที่สุดแล้วการจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย มันจะเป็นการสูญเปล่า หากเรายอมแพ้โดยไม่พยายามเลย” ซือเฟิงกล่าว
เขามาถึงขนาดนี้ และเก็บเกี่ยวมาได้ก็มากแล้วจากศิลาจารึกโบราณ แม้ว่าการกลับออกไปตอนนี้ โดยที่ไม่ได้อะไรเลยจากไวโอเล็ทซอร์ด มันก็จะนับว่าคุ้มค่าอยู่ดีสำหรับสภาสิบแปดปีก แต่เขาก็ไม่อยากทำแบบนั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันเป็นโอกาสที่เกมมอบให้เพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้รอเขาอยู่แน่นอน หลังจากเขาฆ่าลิชโบราณได้
“แต่หอคอยมานาเหล่านั้น …” คริมสันสตาร์กล่าวขึ้นมาอย่างเป็นห่วง เมื่อได้รู้ถึงความตั้งใจของซือเฟิง
“จะเป็นยังไง ถ้าฉันบอกว่าฉันสามารถจะทำลายหอคอยมานาทั้งหมดนั่นได้ในระยะเวลาอันสั้น ?” ซือเฟิงถามหลังจากครุ่นคิด
“ทำลายหอคอยมานาทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น ?” คำพูดของซือเฟิงทำให้คริมสันสตาร์ตกตะลึง และเธอก็ถามอย่างสงสัยว่า “มันเป็นไปได้งั้นหรอ ?”
“ฉันมั่นใจห้าสิบ ห้าสิบน่ะ …” ซือเฟิงกล่าวหลังจากคำณวนโอกาสสำเร็จแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเขาด้วยความประหลาดใจ ครู่หนึ่งพวกเขาคิดว่าซือเฟิงกำลังล้อเล่นกับพวกเขา
นี่คือหอคอยมานาสี่แห่งที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!
การทำลายหนึ่งในหอคอยสี่แห่งนี้โดยไม่ใช้สกิลหรือเวทย์ใดๆ มันก็นับเป็นเรื่องยากที่ท้าทายสวรรค์มากแล้ว แล้วพวกเขาจะทำลายทั้งสี่แห่งให้ได้ในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร ?
“ถ้าคุณคิดว่ามันมีโอกาสจะประสบความสำเร็จจริงๆ เราก็สามารถจะลองทำตามแผนของคุณได้ …” คริมสันสตาร์กล่าว ขณะที่เธอหันไปมองสภาพแวดล้อมโดยรวมทั้งหมด
ไวน์ไฟเตอร์พยักหน้าเห็นด้วย
ส่วนที่ลำบากที่สุดในการจะฆ่าลิชโบราณตัวนี้ให้ได้ก็คือหอคอยมานาทั้งสี่แห่ง ถ้าเป็นไปได้ที่จะสามารถทำลายหอคอยมานาทั้งสี่แห่งได้ในเวลาอันรวดเร็ว มันก็คุ้มค่าที่จะลองดูแน่นอน
“เนื่องจากทุกคนเห็นด้วย งั้นฉันจะทำให้เรื่องนี้มันง่ายขึ้น ….” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าคริมสันสตาร์ และไวน์ไฟเตอร์เต็มใจจะไปต่อกับเขา “หลังจากนี้ฉันจะทำลายหอคอยมานาทั้งสี่แห่งเอง ฉันหวังว่าทุกคนจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของมอนสเตอร์ทั้งหมดออกไปให้ฉันได้”
“คุณจะทำลายหอคอยมานาทั้งสี่แห่งด้วยตัวคุณเองงั้นหรอ ?” คริมสันสตาร์อ้าปากค้าง และมองไปยังซือเฟิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แม้ว่าการโจมตีของซือเฟิงจะทรงพลังเท่ากับมาตราฐานของขั้นสี่ แต่เขาก็ไม่น่าจะสามารถทำลายหอคอยมานาทั้งสี่แห่งได้ในระยะเวลาสั้นๆ
“ใช่แล้ว ฉันจะทำลายพวกมันเอง ….” ซือเฟิงกล่าวอย่างจริงจังพลางพยักหน้า
“เอาล่ะ ถ้าคุณอยากจะลองก็เอาตามนั้น หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ….” คริมสันสตาร์ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อสัมผัสได้ถึงความจริงจังของซือเฟิง
ในตอนนี้เธอไม่ได้มีความหวังที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้อีกต่อไป แต่สำหรับเธอการยอมให้สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดตายสักครั้งเพื่อให้ได้กระชับความสัมพันธ์กับสภาสิบแปดปีกก็นับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากไม่นับการฟื้นคืนชีพที่ต้องใช้เวลานาน โทษจากการตายในดินแดนลับโบราณมันมีน้อยมากจริงๆ
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ และเข้าประจำตำแหน่งของตัวเองทันที โดยพวกเขานั้นล้วนเว้นระยะห่างออกมาจากผลของหอคอยมานา และเมื่อได้รับคำสั่ง พวกเขาก็จะพร้อมดำเนินการตามแผนของซือเฟิงทันที
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ทุกอย่างพร้อมแล้ว !!! คุณสามารถจะเริ่มได้ทุกเมื่อเลย !!!”
คริมสันสตาร์รายงานต่อซือเฟิง เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
“ดี !! งั้นฉันจะเริ่มเลย !!!”
หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็ชัก Abyssal Blade ออกจากฝัก และเปิดใช้งานวิญญาณมังกรดำทันที