ตอนที่ 2649 มรดกโบราณที่น่าอัศจรรย์
เมืองไลท์ฟอร์จ โรงแรมคริมสันซิลเวอร์ :
ในฐานะที่เป็นโรงแรมที่ทำหน้าที่รองรับขุนนางในเมืองไลท์ฟอร์จเป็นหลัก โรงแรมคริมสันซิลเวอร์จึงไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะผู้เล่น และ NPC ทั่วไป ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการเข้าพักที่โรงแรมนี้มันก็แพงกว่าโรงแรมทั่วไปมาก
ห้องพักทั่วไปทุกห้องภายในโรงแรมนั้นมีราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามร้อยชิ้น หรือไม่ก็คะแนนสะสมของเมืองสิบแต้มสำหรับราคาค่าเช่าต่อวัน ซึ่งแม้แต่คริมสันสตาร์และคนอื่นๆที่กลายมาเป็นขุนนางของเมืองไลท์ฟอร์จ เนื่องจากมีโทเค่นขุนนางก็ยังไม่เต็มใจจะจ่ายในราคานี้เพื่อพักที่นี่
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ซือเฟิงกับเดินเข้าไปในโรงแรมโดยไม่ลังเล ซึ่งมันทำให้สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ด และหอการค้าอาซูนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามร้อยชิ้น หรือคะแนนสะสมสิบแต้ม มันก็ล้วนไม่ใช่ราคาที่ถูกเลย การที่ยอมจ่ายในราคาแบบนี้เพื่อเข้าพักผ่อน มันออกจะดูฟุ่มเฟือยเกินไปหน่อย และแค่การเช่าห้องพักทั่วไปในโรงที่มีราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ราวสามสิบชิ้นนั้นมันก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“ท่านลอร์ด วันนี้มีอะไรให้ฉันรับใช้กัน ?” ผู้ดูแลหญิงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบกล่าวถามซือเฟิงด้วยความเคารพ ขณะที่เธอเดินเข้าหาซือเฟิง
“ฉันต้องการเช่าห้องพักทั่วไปที่นี่ ….” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขามอบคริสตัลเวทย์มนต์สามร้อยชิ้นให้กับผู้ดูแล
“ยอดเยี่ยม …” ผู้ดูแลหญิงกล่าวหลังจากตรวจสอบจำนวนคริสตัลเวทย์มนต์ที่ซือเฟิงชำระมาแล้ว จากนั้นเธอก็เดินไปหยิบกุญแจคริสตัลจากเค้าเตอร์ต้อนรับออกมา และยื่นให้กับซือเฟิง ก่อนจะพูดว่า “ท่านลอร์ด นี่คือกุญแจห้องของท่าน ท่านสามารถเลือกห้องว่างที่ชั้นบนได้เลย ….”
หลังจากรับกุญแจมาแล้ว ซือเฟิงก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสองทันที และเขาก็เลือกไขกุญแจเข้าไปในห้องที่ไม่มีใครอยู่
ซึ่งทันทีที่ซือเฟิงเข้าไปในห้องพักนั้น ความหนาแน่นของมานาภายในห้องพักก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่นานความหนาแน่นของมานาโดยรอบก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าแล้ว นอกจากนี้มานาที่นี่มันยังทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสงบมากๆ
“แน่นอนเลยว่าความหนาแน่นของมานาที่นี่นั้นมันสูงกว่าในโรงแรมทั่วไปมาก” ซือเฟิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงสภาพแวดล้อมของห้องพัก
ถ้าเขาแค่ต้องการพักผ่อนบ้าง เขาคงเลือกจะไปที่โรงแรมทั่วไป อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาพักผ่อน แต่เขามาเพื่อรับมรดกโบราณที่ถูกบันทึกไว้ในคริสตัลความทรงจำ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะประมาทได้
โรงแรมของขุนนางแบบนี้นั้นจะปลอดภัยกว่าโรงแรมทั่วไปในเมืองมากๆ จุดนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเพียงแค่มองไปที่พนักงานและองครักษ์ NPC ทุกคนที่นี่นั้นก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า พวกเขาล้วนมีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบและอยู่ในขั้นสามเป็นอย่างน้อย พวกเขาไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะสามารถยั่วยุได้เลย
นอกจากนี้โรงแรมของขุนนางแบบนี้ยังจะได้รับการปกป้องจากวงเวทย์ป้องกันขนาดมหึมาที่มีความซับซ้อนและซ้อนทับกันถึงสี่ชั้น ซึ่งมันทรงพลังอย่างน่ากลัว และภายใต้สถานการณ์ปกติ แม้แต่ตัวตนขั้นห้าก็จะไม่สามารถคุกคามวงเวทย์นี้ได้ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงตัวตนขั้นสามและขั้นสี่เลย
ตอนนี้เมื่อซือเฟิงเข้ามาพักที่นี่นั้น เขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลถึงภัยคุกคามจากภายนอกอีกต่อไป และซือเฟิงก็ได้ทำการหยิบคริสตัลความทรงจำออกมาจากกระเป๋าของเขาทันที
คริสตัลความทรงจำที่เขาได้รับมานั้นจะยังคงสามารถรักษารูปลักษณ์ได้อยู่แค่สองวันตามธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งเขาก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเหลือเวลาอีกไม่ถึงสามชั่วโมงในการจะอ่านมัน
“ตอนนี้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของฉันได้มาถึงมาตราฐานของขั้นสี่แล้ว ฉันน่าจะอ่านมันได้ใช่ไหม ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า ขณะที่เขาแตะนิ้วของเขาบนคริสตัลความทรงจำ
การเดินทางมายังดินแดนลับโบราณในครั้งนี้นั้น การเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาได้รับก็คือคริสตัลความทรงจำ ในความเป็นจริงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้รับมาในครั้งนี้ มีมูลค่าไม่ถึงครึ่งหนึ่งของคริสตัลความทรงจำในมือเขาด้วย
หากเขายังคงไม่สามารถอ่านข้อมูลในคริสตัลได้ เขาคงจะได้ตายจากความเสียใจ
ในช่วงเวลาต่อมา เสียงการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาที่หูของเขา
….
ระบบ : คำเตือน !! คุณได้ค้นพบคริสตัลความทรงจำขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาล และตามค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของคุณในปัจจุบันนั้น คุณก็จะสามารถอ่านมันได้ทั้งหมด และหากคุณต้องการจะอ่านข้อมูลภายในจริงๆ คุณก็มีโอกาสเล็กน้อยที่จะตกอยู่ในสภาวะโคม่าได้ คุณต้องการจะอ่านมันหรือไม่ ?
….
“นี่ยังมีความเสี่ยงอยู่อีกงั้นหรอ ?” ซือเฟิงตกตะลึง เมื่อเขาได้เห็นการแจ้งเตือนของระบบ “ในนี้มันมีอะไรอยู่กันแน่ ?”
แม้ว่ามาตราฐานของขั้นสี่จะยังไม่นับว่าเป็นจุดสูงสุดใน God domain แต่มันก็นับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างแน่นอน และแม้แต่กษัตริย์หรือจักรพรรดิก็ยังจะต้องปฎิบัติต่อตัวตนระดับนี้อย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตามในตอนนี้แม้ว่าค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาจะเข้าสู่มาตราฐานของขั้นสี่แล้ว แต่การจะอ่านข้อมูลภายในคริสตัลความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้นั้นก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย
“แม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่ฉันก็อยากจะเห็นสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ภายในนี้ !!!” ซือเฟิงเลือกจะอ่านข้อมูลของคริสตัลความทรงจำอย่างเด็ดเดี่ยว
คริสตัลความทรงจำที่เป็นมรดกโบราณแบบนี้นั้นมันหายากมากๆใน God domain และในความเป็นจริง แม้แต่ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ซือเฟิงก็สามารถนับจำนวนที่มันปรากฎขึ้นได้ด้วยสองมือของเขาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เนื่องจากมันมีโอกาส “มาก” ที่ซือเฟิงจะตกอยู่ในสภาวะโคม่า เมื่อเขาทำการอ่านข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ภายใน ดังนั้นซือเฟิงจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง อย่างไรก็ตามตอนนี้ความเสี่ยงได้ลดลงเหลือ “เล็กน้อย” แล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติซือเฟิงจึงจะต้องลองดู เพราะท้ายที่สุด เขาจะไม่ได้รับโอกาสเช่นนี้อีกในอนาคต
หลังจากที่ซือเฟิงเลือกจะอ่านเนื้อหาภายในคริสตัลความทรงจำ คริสตัลขนาดใหญ่ในมือของเขาก็เริ่มรวบรวมมานาจากสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ปล่อยแสงระยิบระยับที่ส่องสว่างไปทั่วห้องออกมา
หลังจากนั้นลำแสงสีขาวก็พุ่งออกมาจากคริสตัลความทรงจำเข้าใส่หน้าผากของซือเฟิง
ซือเฟิงรู้สึกได้ถึงภาพและข้อความจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกถ่ายโอนเข้าสมองของเขา ซึ่งจำนวนข้อมูลนั้นมันน่ากลัวมากๆ จนทำให้ซือเฟิงรู้สึกว่าเขากำลังจมดิ่งเข้าไปในทะเลแห่งความรู้
สิบนาที …
ยี่สิบนาที …
หนึ่งชั่วโมง …
ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ซือเฟิงยังคงรู้สึกดี หลังจากที่ได้รับข้อมูลมากมายเข้าสู่สมอง อย่างไรก็ตามหลังจากกระบวนการถ่ายโอนดำเนินไปเป็นเวลาสี่สิบนาที เขาก็รู้สึกแสบในหัวราวกับมีใครใช้เข็มจิ้มสมองเขา ในขณะเดียวกันยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความรู้สึกแสบร้อนมันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
หลังจากผ่านไปแปดสิบนาทีของกระบวนการถ่ายโอน ซือเฟิงก็รู้สึกราวกับว่าสมองของเขากำลังจะระเบิด จากนั้นลำแสงที่คริสตัลแห่งความทรงจำปล่อยออกมาก็หายไป ก่อนที่คริสตัลจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และหายไปจากห้อง
สำหรับซือเฟิงตอนนี้เขารู้สึกหัวหมุนเล็กน้อย เนื่องจากจิตใจที่ยุ่งเหยิง และเมื่อเขาลืมตาขึ้น หลังจากได้รับข้อมูลจำนวนมหาศาลเข้าไป เขาก็แทบจะทรุดลงกับพื้น
เกือบไปแล้ว !!! หากกระบวนการถ่ายโอนยังคงดำเนินต่อไปอีกหน่อย ฉันได้เป็นลมแน่ๆ !!!
ในขณะนี้ซือเฟิงรู้สึกราวกับว่าระบบกำลังหลอกเขา แม้ว่าคำเตือนจะระบุว่าเขามีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะตกอยู่ในสภาวะโคม่า แต่จากความรู้สึกของเขา นี่มันแทบไม่ได้ลดลงจากโอกาสที่ระบบบอกว่า “มาก” แต่เดิมเลย และหากเขาต้องตกอยู่ในสภาวะโคม่าจริงๆ เขาก็คงจะได้เสียใจมากๆกับการกระทำของตัวเองแน่นอน
อย่างไรก็ตามหลังจากพักสักครู่หนึ่ง ซือเฟิงก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น และความเจ็บปวดในหัวของเขาก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันเมื่อเขาได้รับรู้ถึงข้อมูลที่เขาได้รับมา เขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ
“นี่ฉัน … ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ?!! แบบแปลน … ป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กงั้นหรอ ?!!”
ซือเฟิงนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง และตอนแรกเขาก็คิดว่าระบบกำลังเล่นตลกกับเขาด้วยซ้ำ
ใน God domain ป้อมปราการนั้นมีค่ามากกว่าเมืองทั่วไปอย่างมาก เพราะท้ายที่สุด นอกเหนือจากที่มันสามารถจะจัดหาสถานที่พักผ่อนให้กับผู้เล่นได้แล้ว มันยังมีความสามารถในการรุกและป้องกันที่มากกว่าเมือง ซึ่งมันนับเป็นที่พักพิงที่มีประโยชน์สำหรับสงครามทุกรูปแบบ
แม้แต่ป้อมปราการขนาดเล็กก็ยังจะสามารถป้องกันการโจมตีของสิ่งมีชีวิตขั้นสี่จำนวนมากได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นป้อมปราการยังมีต้นทุนในการสร้างและการดำเนินงานที่ต่ำกว่ามาก ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่มหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง โดยในชีวิตก่อนหน้านี้ของซือเฟิงที่พักพิงมากกว่าเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ที่พบในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่าล้วนเป็นป้อมปราการ
อย่างไรก็ตามแบบแปลนของป้อมปราการในปัจจุบันที่เขาได้รับมานั้น มันยังเหนือกว่าป้อมปราการทั่วไปด้วย ในความเป็นจริง แม้ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาก็แทบจะไม่เคยเห็นสิ่งก่อสร้างนี้เลย
สิ่งก่อสร้างนี้มันคือ ป้อมปราการเคลื่อนที่ !!!
มันเป็นป้อมปราการชนิดที่สามารถใช้ขับไล่มหาอำนาจต่างๆที่กล้าคิดจะรุกรานพวกเขาได้อย่างง่ายดายเลย และมันก็เป็นป้อมปราการที่มหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขาล้วนแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง เมื่อมีการปรากฎขึ้นของมัน ….