ตอนที่ 2652 ทวีปด้านตะวันออก
God domain ทวีปด้านตะวันออก :
ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้นมันก็มีหลุมดำรัศมีหกเมตรก็ปรากฎขึ้น โดยมันทำให้มานาทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีห้าสิบหลานั้นพุ่งเข้าหามันราวกับเหล่ามานาถูกเรียก ในพริบตาพื้นที่รอบๆหลุมดำก็กลายเป็นพื้นที่ที่ไร้มานาทันที ซึ่งผู้เล่นทั่วไปจะไม่สามารถอยู่รอดในพื้นที่นี้ได้เลย
ในเวลาเดียวกันกับที่พื้นที่ไร้มานาก่อตัวขึ้น มันก็มีร่างคนโผล่ออกจากหลุมดำ และกระโดดลงไปบนพื้นทราย แม้ว่าบริเวณใกล้เคียงจะปราศจากมานา แต่ร่างของร่างนี้ก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยชั้นมานาที่หนาแน่น และยังคงได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงนี้
ในที่สุดฉันก็ออกมาได้ ซือเฟิงจ้องมองไปยังหลุมดำด้วยความรังเกียจก่อนที่มันจะสลายไป จุดเทเลพอร์ตแบบสุ่มของซากปรักหักพังโบราณนั้นมันเป็นเหมือนกับการหลอกลวงเท่านั้น จุดเทเลพอร์ตแบบสุ่มอื่นๆจะส่งผู้เล่นไปยังจุดหมายปลายทางโดยตรง แต่จุดเทเลพอร์ตแบบนี้จะส่งผู้เล่นไปยังเขาวงกตเชิงพื้นที่ก่อน ถ้าฉันบินไม่ได้ ฉันน่าจะติดอยู่ในเขาวงกตนี้ราวห้าถึงหกชั่วโมงเลยทีเดียว
เขาเคยใช้จุดเทเลพอร์ตแบบสุ่มใน God domain มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอจุดเทเลพอร์ตแบบสุ่มที่แปลกประหลาดเช่นนี้
การเข้าสู่หลุมดำนี้นั้นมันทำให้เขาได้เข้าไปสู่เขาวงกตเชิงพื้นที่ขนาดมหึมา และเขาก็ต้องค้นหาทางออกจากเขาวงกตด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามนั่นยังไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุด ส่วนที่แย่ที่ในนี้คือมันมีสิ่งมีชีวิตวอยจำนวนมากอยู่ในเขาวงกต โชคดีที่สิ่งมีชีวิตวอยเหล่านี้นั้นมีเลเวลอยู่ที่ราวหนึ่งร้อยยี่สิบเท่านั้น และส่วนใหญ่นั้นก็มีเพียงแค่มอนสเตอร์ระดับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีเกลโดเมน ซึ่งทำให้เขามีความสามารถในการบิน ดังนั้นเขาจึงสามารถจะสลัดมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเขา และค้นหาทางออกได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากบ่นพึมพำเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซือเฟิงก็หยิบม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมืองไวท์ริเวอร์ออกมา ตอนนี้เขาต้องการจะรีบกลับไปดูสภาพเมืองไวท์ริเวอร์ก่อนในทันที
อย่างไรก็ตามเมื่อซือเฟิงคลายม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมือง และเริ่มเปิดใช้งาน เสียงการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาที่หูของเขาทันที
….
ระบบ : พบพลังงานประหลาดปิดผนึกพื้นที่นี้ ไม่สามารถใช้งานการเทเลพอร์ตได้ทุกรูปแบบที่นี่
….
ฉันไม่สามารถจะเทเลพอร์ตที่นี่ได้ ? ซือเฟิงขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นการแจ้งเตือนนี้ นี่ฉันโชคไม่ดีและถูกเทเลพอร์ตมายังดินแดนต้องห้ามงั้นหรอ ?
ใน God domain นอกเหนือจากสถานที่พิเศษบางแห่ง ดินแดนต้องห้ามก็เป็นสถานที่เดียวที่ห้ามใช้ม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมือง ในขณะเดียวกันโอกาสที่จุดเทเลพอร์ตแบบสุ่มจะส่งผู้เล่นไปยังสถานที่พิเศษนั้นมันก็เป็นศูนย์ เพราะท้ายที่สุดแล้วการจะเทเลพอร์จไปยังสถานที่เฉพาะแบบนี้ได้มันต้องใช้วิธีการเฉพาะเช่นกัน สำหรับดินแดนต้องห้าม พวกมันจะแค่ป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเทเลพอร์ตเข้ามาในนี้ และเทเลพอร์ตออกไปได้อย่างง่ายดาย
ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบินออกไปจากสถานที่แห่งนี้ มันไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้แล้ว ซือเฟิงเก็บม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมือง ขณะที่เขาหยิบขลุ่ยอัญเชิญอินทรีสายฟ้าออกมา
อย่างไรก็ตามหนึ่งวินาทีหลังจากที่เขาพยายามอัญเชิญอินทรีสายฟ้าออกมา เขาก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง
….
ระบบ : พบพลังงานประหลาดปิดผนึกพื้นที่นี้ ไม่สามารถใช้งานอะเม้าท์บินได้ ได้ …
….
“ที่นี่มันอะไรกัน ?! มันกระทั่งห้ามใช้อะเม้าท์บินได้ด้วยงั้นหรอ ?!” ซือเฟิงรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง เมื่อเขาได้เห็นการแจ้งเตือนของระบบในครั้งนี้
เท่าที่เขาจำได้ ดินแดนต้องห้ามโดยทั่วไปจะไม่ได้ห้ามการใช้อะเม้าท์บินได้ ที่ๆจะห้ามการใช้อะเม้าท์บินได้มักจะเป็นดินแดนต้องห้ามเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบหรือมากกว่านั้น
แม้กระทั่งกับตัวเองในปัจจุบัน เขาก็ยังไม่กล้าจะก้าวเข้าสู่ดินแดนลับที่มีเลเวลสูงเกินกว่าตัวเขาเองมาก เหตุผลหลักนั้นมันไม่ได้เป็นเพราะเขาขาดเลเวล แต่มันมีความเป็นไปได้ที่บอสโลกขั้นห้าจะปรากฎตัวขึ้นในดินแดนต้องห้ามที่มีเลเวลสูงแบบนี้ และต่อหน้าบอสโลกขั้นห้านั้น ผู้เล่นในปัจจุบันก็ไม่ต่างจากมดปลวก
ในขณะที่ซือเฟิงกำลังปวดหัวกับเรื่องนี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงการกระเพื่อมของมานาที่อ่อนแอมาจากระยะไกล เขารีบหันไปมองที่มาของมันด้วยความประหลาดใจ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเห็นคือร่างคล้ายมดจำนวนมากกำลังต่อสู้กันในระยะไกล และจากการประมาณการของเขา ร่างเหล่านี้น่าจะอยู่ห่างจากเขาออกไปราวหนึ่งพันห้าร้อยหลา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ซือเฟิงรู้สึกมุนงงกับสถานการณ์นี้
สำหรับผู้เล่นขั้นสามนั้นระยะหนึ่งพันห้าร้อยหลาถือเป็นขีดจำกัดของการมองเห็นแล้ว ในระยะไกลแบบนี้ เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะใช้สกิล AOE ทำลายล้างขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลในรัศมีหลายร้อยหลา ผู้เล่นขั้นสามก็จะไม่สามารถรับรู้ถึงความผันผวนของมานาจากตำแหน่งนี้ของพวกเขาได้เลย อย่างไรก็ตามสกิล AOE แบบนี้ มันแทบไม่มีผู้เล่นขั้นสามคนใดในปัจจุบันใช้มันได้ และจากสิ่งที่เขาเห็นร่างเหล่านี้ก็ไม่ได้ใช้สกิลหรือเวทย์ที่มีพลังขนาดนั้นด้วย
นี่เป็นผลของการมีค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่มาตราฐานขั้นสี่งั้นหรอ ? หลังจากครุ่นคิดถึงสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว ซือเฟิงก็คิดออกเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาสามารถสัมผัสถึงเรื่องนี้ได้ การค้นพบนี้ทำให้เขาประหลาดใจ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในชีวิตที่ผ่านมาของฉัน ฉันถึงไม่สามารถหนีจากผู้เล่นขั้นสี่ได้เลยเมื่อฉันถูกค้นพบ
ระยะการรับรู้หนึ่งพันห้าร้อยหลา !!
ช่วงการรับรู้นี้มันอยู่ในระดับที่เหนือมนุษย์แล้ว ช่วงการรับรู้ที่ผู้เล่นขั้นสามมีอยู่นั้นไม่สามารถจะเทียบได้เลย
ก่อนหน้านี้มันไม่ได้มีการต่อสู้เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับเขา เมื่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขามาถึงที่มาตราฐานขั้นสี่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยมานา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆในการรับรู้มานา อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาถึงสถานที่ที่มีมานาเบาบางมาก เขาก็ค่อนข้างจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของมานาเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้เสียเวลาคิดเรื่องนี้นานนัก เขารีบเคลื่อนไหวเดินทางไปยังจุดที่เกิดความผันผวนของมานา เนื่องจากเขารู้สึกได้ว่าสาเหตุของความผันผวนของมานานี้คือผู้เล่น
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าถึงแผนที่ระบบได้ เขาจีงไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งปัจจุบันของเขาจึงมีความสำคัญสูงสุด ไม่งั้นเขาจะไม่รู้อะไรด้วยซ้ำว่าเขากลับมาที่อาณาจักรสตาร์มูนตรงไหน ในขณะเดียวกันผู้เล่นก็นับเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่นานหลังจากนั้น ซือเฟิงก็ได้มาถึงเนินทรายที่อยู่ห่างจากสนามรบไปประมาณสี่ร้อยหลา ซึ่งเมื่อเขายืนอยู่บนเนินทรายนี้ เขาสามารถจะมองเห็นทิวทัศน์ของสนามรบทั้งหมดได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง
แน่นอนเลยว่าพวกเขาคือผู้เล่น
ขณะนี้ทีมผู้เล่นสองร้อยคนกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์แปลกๆหลายสิบตัว ในขณะที่พวกเขาปกป้องรถม้า และกลุ่ม NPC ที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งโหล
….
[Faux Saint Saboteur] (สิ่งมีชีวิตสายธาตุ ลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่)
เลเวล 112
HP 120,000,000/120,000,000
[Faux Saint Destroyer] (สิ่งมีชีวิตสายธาตุ แกรนลอร์ด)
เลเวล 114
HP 450,000,000/450,000,000
…
ร่างของมอนสเตอร์เหล่านี้นั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์จนทำให้พวกมันดูเหมือนกับรูปปั้นสีขาว และมอนสเตอร์เหล่านี้ทุกตัวนั้นก็ล้วนมีอาวุธกับชุดเกราะ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้มีเลเวลสูงมากนัก แต่พวกมันทุกตัวก็สามารถใช้เวทย์ในการต่อสู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมาก และแม้แต่ที่อ่อนแอที่สุดของพวกมันก็ยังมีมาตราฐานการต่อสู้อยู่ในชั้นห้าของหอคอยทดสอบ
สำหรับผู้เล่นที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้ พวกเขาทั้งหมดนั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบหรือสูงกว่าขึ้นไปทั้งหมด แม้ว่าผู้เล่นเหล่านี้จะสามารถรับมือและยันมอนสเตอร์เหล่านี้ไว้ได้ แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังเสียเปรียบ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เชี่ยวชาญขั้นสาแปดคนของทีมกำลังช่วยกันตรึง Faux Saint Destroyers สองตัวไว้ ทีมของพวกเขาจะพบกับจุดจบไปนานแล้วแน่นอน
“รองผู้บัญชาการวินด์ เราไม่สามารถจะทนต่อไปแบบนี้ได้อีกนานนัก Faux Saint Destroyers สองตัวนั้นมันมีความสามารถสูงเกินกว่าพวกเราไปแล้ว” ชิลวอริเออร์ขั้นสามชาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำหน้าที่ตรึง Faux Saint Destroyers ไว้ กล่าวขณะที่มองไปยังนักดาบหญิงขั้นสามที่กำลังรับมือกับ Faux Saint Destroyers อีกตัว
ซึ่งนักดาบหญิงผู้นี้นั้นสวมชุดเกราะสีแดงเข้ม และใช้ดาบสองเล่ม และด้วยการอาศัยเทคนิคสเต็ปเท้าของตัวเอง เธอจึงสามารถจะหลบเลี่ยงการโจมตีจากเวทย์ส่วนใหญ่ของ Faux Saint Destroyers ได้ และในบางครั้งเธอก็ยังสามารถโจมตีโต้ตอบแกรนลอร์ด และสร้างความเสียหายกลับไปบางส่วนได้ ซึ่งจากการแสดงของเธอนั้นมันเห็นได้ชัดเลยว่าเธออยู่ในขอบเขตรวดเร็วดังสายน้ำ
หลังจากเว้นระยะห่างระหว่างเธอกับ Faux Saint Destroyers ออกมาได้ นักดาบหญิงก็กล่าวตอบว่า “ฉันรู้ ฉันได้ติดต่อผู้บัญชาการเพื่อขอกำลังเสริมแล้ว แต่ทีมของเขายังคงอยู่ห่างออกไปพอสมควร พวกเขาต้องใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงถึงจะมายังตำแหน่งของเราได้”
“สองชั่วโมง ? เราไม่สามารถจะทนได้นานขนาดนั้นหรอกนะ !!!” ชิลวอริเออร์ขั้นสามอุทานออกมาด้วยความหงุดหงิด
ขณะนี้แม้ว่าพวกเขาจะสามารถตรึง Faux Saint Destroyers ไว้ได้ แต่สมาชิกในทีมที่เหลือของพวกเขาก็จัดว่าตึงมือมากๆที่ต้องรับมือกับพวก Faux Saint Saboteur และโดยรวมแล้วทั้งทีมก็แทบจะไม่สามารถทำความเสียหายใดๆให้กับมอนสเตอร์เหล่านี้ได้เลย ในขณะเดียวกันค่าสตามิน่าของพวกเขาก็เหลือที่จะใช้รับมือกับมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่นักดาบหญิงเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด
ถ้ามันเป็นไปได้ เธอจะออกคำสั่งให้หลบหนี อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้นั้นมีขอบเขตการรับรู้ที่กว้างมาก และตราบใดที่ผู้เล่นเจอกับพวกมันเข้า มันจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนี และแม้ว่าผู้เล่นจะเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงนี้ โดยเลือกจะหลบหนี มันก็จะมีแต่ทำให้สิ่งต่างๆแย่ลงเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วทะเลทรายที่นี่นั้นเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ Faux Saint ซึ่งพวกเขาก็สามารถจะดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์พวกนี้กลุ่มอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยได้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรที่จะช่วยพวกเขาแก้สถานการณ์นี้ได้เลย
ในขณะที่ทั้งทีมกำลังสิ้นหวัง จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหูของพวกเขา
“ฉันจะตรึงแกรนลอร์ดสองตัวนี้ไว้ให้ !!! พวกคุณที่เหลือมุ่งเน้นไปที่การกำจัดลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ซะ !!!”