ตอนที่ 2653 ขับไล่ Faux Saints
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทีมผู้เล่นสองร้อยคนก็รีบหันไปหามองหาต้นตอของเสียงทันที
โดยสิ่งที่พวกเขาเห็นเข้ามาอยู่ในสายตาของพวกเขานั้นก็คือนักดาบที่สวมชุดเสื้อคลุมสีดำ และถือดาบสองเล่มอยู่ในมือ ซึ่งกำลังเข้ามาใกล้ตำแหน่งของพวกเขาอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแอสซาซินขั้นสาม
“เร็วมาก !!”
โซลิดวินด์ นักดาบหญิงเองก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน เมื่อเห็นร่างที่รวดเร็วนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะมาเจอผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆในทะเลทรายแห่งนี้
อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองกับสถานการณ์นี้ได้ นักดาบคนนี้ก็ได้มาถึงตรงหน้าของหนึ่งในสอง Faux Saint Destroyers แล้ว
เมื่อสังเกตเห็นซือเฟิงปรากฎตัวต่อหน้ามัน Faux Saint Destroyers ก็รีบยกดาบใหญ่ของมันขึ้น และฟันลงมาที่ซือเฟิงทันที โดยในระหว่างที่มันทำแบบนี้ ดาบใหญ่นั้นมันก็แยกออกเป็นสามดาบและพุ่งเข้าใส่ซือเฟิงอย่างรวดเร็วจากทิศทางที่แตกต่างกัน โดยการโจมตีแต่ละครั้งของสามดาบนี้มันก็ทำให้เกิดรอยแยกเชิงมิติในระหว่างที่มันพุ่งเข้ามาด้วย
“ระวังด้วย !!! คุณจะต้องไม่รับการโจมตีนั่นตรงๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น !!!” โซลิดวินด์เตือนอย่างรีบร้อน เมื่อเธอเห็นลำแสงดาบทั้งหมดกำลังโจมตีเข้าใส่ซือเฟิง
Faux Saint Destroyers นั้นเป็นแกรนลอร์ดที่แท้จริง ซึ่งสกิลและเวทย์ที่มันสามารถใช้ได้นั้นก็ล้วนแสดงพลังที่มาตราฐานของขั้นสี่ออกมาได้ทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีของมันโดยปกติยังแทบจะไม่สามารถถูกหยุดยั้งได้ และเมื่อมันเริ่มโจมตีแล้ว มันก็จะโจมตีเข้าใส่เป้าหมายที่มันล๊อคเป้าไว้แล้วครั้งแล้วครั้งเล่า และตราบเท่าที่ผู้เล่นเปิดเผยช่องโหว่ในการป้องกันของตัวเองออกมา Faux Saint Destroyers ก็จะใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดโจมตีไปที่ช่องโหว่นั่นทันที
ในขณะเดียวกัน การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของ Faux Saint Destroyers นั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามก็ยังหลบหลีกได้ยาก ซึ่งการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดนี้ก็สามารถจะฆ่าแท๊งเกอร์ขั้นสามได้สบายๆเลย
อย่างไรก็ตามเมื่อซือเฟิงเข้าปะทะกับ Faux Saint Destroyers เขาก็ไม่ได้แสดงเจตนาใดๆที่จะหลบหลีก แต่เขากับนำดาบยาวสีดำสนิทออกมาใช้แทนดาบเล่มหนึ่งของเขา และริเริ่มที่จะรับมือกับการโจมตีที่เข้ามาตรงๆ
“นี่เขาไม่ได้ยินคำเตือนของรองผู้บัญชาการวินด์งั้นหรอ ?”
ชิลวอริเออร์ขั้นสามซึ่งกำลังทำหน้าที่ตรึง Faux Saint Destroyers อีกตัวอยู่เต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นการกระทำของซือเฟิง
ในสถานการณ์นี้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามคนอื่นๆในทีมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว และถอยหายใจออกมา
แม้แต่ผู้บัญชาการของพวกเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมนักผจญภัยของพวกเขาก็ยังไม่กล้าจะรับการโจมตีแบบนี้ตรงๆ โดยเขาได้เลือกที่จะหลบมันก่อนที่จะทำการโต้ตอบกลับ เพราะท้ายที่สุดแล้วตราบใดที่ผู้เล่นคนหนึ่งปะทะเข้ากับการโจมตีแบบนี้ตรงๆ พวกเขาจะถูกบังคับให้ต้องถอยกลับไปหลายก้าว และได้รับค่าความเสียหายอย่างมากโดยที่ไม่สามารถจะตอบโต้ใดๆได้เลย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น แม้แต่ฮีลเลอร์สองถึงสามคน มันก็ไม่เพียงพอที่จะยื้อชีวิตผู้ที่โดนได้แน่นอน
แม้ว่าทุกคนจะอยากเข้าไปช่วยซือเฟิง แต่การโจมตีของ Faux Saint Destroyers นั้นมันก็รวดเร็วเกินไป มันจึงไม่มีใครสามารถจะช่วยซือเฟิงได้ทัน
“แม่งเอ้ย !!” โซลิดวินด์กัดฟันของเธอ เมื่อได้เห็นฉากนี้
พวกเขานั้นเพิ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม ซึ่งในขณะที่การมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเข้ามาเพิ่มหนึ่งคนจะไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงใดๆมากนัก แต่มันก็สามารถจะช่วยให้พลังต่อสู้ของทั้งทีมเพิ่มขึ้น และทำให้พวกเขาสามารถอยู่รอดได้นานขึ้น ซึ่งด้วยความช่วยเหลือของนักดาบผู้นี้ พวกเขาอาจจะสามารถตรึงกำลังไว้ได้จนกว่าผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยของพวกเขาจะนำทีมของตัวเองมาถึงได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้ ….
ตู้ม !!!
เสียงของโลหะกระทบกันนั้นดังกึกก้องไปทั่ว ในเวลาเดียวกันคลื่นกระแทกที่น่ากลัวก็แผ่ออกไปโดยรอบบริเวณ ซึ่งมันก็ทำให้โดยรอบนั้นเกิดพายุทรายเล็กๆขึ้นรอบศูนย์กลางของมัน
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความคาดหวังของทุกคน พวกเขาไม่ได้เห็นร่างของนักดาบปลิวกระเด็นออกมาจากพายุทราย แต่สถานการณ์ภายในพายุทรายกลับสงบลงอย่างน่าประหลาด หลังจากการปะทะกันครั้งแรก
เมื่อพายุทรายจางหายไป สิ่งที่เข้ามาสู่สายตาของทุกคนคือ ฉากที่ซือเฟิงยังคงยืนอยู่กับที่อย่างสงบ ขณะที่ดาบของเขาเข้าปะทะกับดาบใหญ่ของ Faux Saint Destroyer ซึ่งในขณะนี้ ไม่เพียงแต่ซือเฟิงจะไม่ได้รับอันตราย แต่เขายังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเขาอย่างสงบ
“เขาป้องกันมันได้ ?! เป็นไปได้ยังไง ?!”
ดวงตาของทุกคนแทบจะถลนออกจากเบ้า เมื่อพวกเขาเห็นซือเฟิงยังคงอยู่ดีและไม่ได้รับอันตรายใดๆ
การโจมตีเมื่อครู่ที่ Faux Saint Destroyer เพิ่งใช้ไปนั้น มันมีพลังอยู่ในมาตราฐานของขั้นสี่อย่างแท้จริง และแม้แต่แท๊งเกอร์ขั้นสามก็ยังถูกบังคับให้ต้องถอยไปหลายก้าว เมื่อรับการโจมตีนี้ด้วยโล่ของพวกเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้ ดาบใหญ่ของ Faux Saint Destroyer กับล้มเหลวในการจะทำอะไรแบบนี้กับซือเฟิง เมื่อซือเฟิงใช้ดาบของเขาตั้งรับการโจมตี และมันก็เหมือนกับว่าดาบใหญ่ของมันได้ชนเข้ากับกำแพงที่ไม่สามารถผ่านไปได้
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเรื่องนี้คือซือเฟิงใช้เพียงมือเดียวกับดาบเล่มเดียวในการหยุดการโจมตีของ Faux Saint Destroyer
“นี่ค่า STR ของเขาสูงแค่ไหนกัน ?!” หลังจากได้เห็นฉากที่น่าอัศจรรย์นี้ โซลิดวินด์ก็เริ่มมีความสนใจในตัวของซือเฟิงมากขึ้น
แม้แต่ผู้บัญชาการของเธอที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับดาร์คโกลครบเซ็ท และใช้อาวุธระดับอีปิคก็ยังไม่กล้าจะรับการโจมตีจาก Faux Saint Destroyer โดยตรง แต่ซือ
เฟิงกับทำมันได้แบบสบายๆ นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย
อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ได้ ซือเฟิงก็ได้ทำการเหวี่ยง Abyssal Blade ของเขาอีกครั้ง และส่งการโจมตีแบบจันทร์เสี้ยวเข้าใส่ Faux Saint Destroyer ตรงหน้าเขา ซึ่ง Faux Saint Destroyer นั้นก็ล้มเหลวในการที่จะป้องกันตัวเอง และเมื่อมันโดนการโจมตีของซือเฟิงมันก็ถูกบังคับให้ต้องถอยกลับไปห้าก้าว และในเวลาเดียวกันค่าความเสียหายมากกว่าสามแสนก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของมัน โดยความเสียหายที่ซือเฟิงทำได้จากการโจมตีนั้น มันสูงกว่าโซลิดวินด์และคนอื่นๆถึงห้าเท่า
ขณะเดียวกันซือเฟิงก็ใช้การโจมตีแบบเดิมโจมตีเข้าใส่ Faux Saint Destroyer ทันที ซึ่งในครั้งนี้นั้น แม้ว่า Faux Saint Destroyer จะยกดาบใหญ่ของมันเข้าป้องกันตัวเองไว้ทัน แต่มันก็ยังคงปลิวกระเด็นไปห้าหลาอยู่ดี
ในตอนที่ Faux Saint Destroyer กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง ความเงียบเข้าก็เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบ ขณะเดียวกันทีมของผู้เล่นสองร้อยคนที่เฝ้าดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างให้กับฉากนี้
แข็งแกร่ง !!
ซือเฟิงนั้นแข็งแกร่งเกินไป !!
แค่ Faux Saint Destroyer สองตัวเพียงอย่างเดียวนั้นมันก็มีความสามารถมากพอที่จะทำลายล้างทีมสองร้อยคนของพวกเขาได้แล้ว แต่ซือเฟิงกับปราบปรามทั้งสองได้ด้วยการโจมตีเพียงสองครั้ง พลังของเขามันน่ากลัวอย่างยิ่ง
“ปล่อย Faux Saint Destroyer สองตัวนี้ไว้ให้ฉัน !!! ส่วนพวกคุณที่เหลือรีบไปจัดการพวก Faux Saint Saboteurs ให้ได้เร็วที่สุด” ซือเฟิงตะโกน เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจ้องมองมายังเขาด้วยความตกตะลึง
“เข้าใจแล้ว !!”
เมื่อได้ยินคำเตือนของซือเฟิง ทุกคนก็หายจากอาการตกตะลึง และรีบหันกลับโจมตี Faux Saint Saboteurs อย่างไม่ลังเล
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากซือเฟิงได้ทำการตรึง Faux Saint Destroyers สองตัวไว้ให้ ทั้งทีมของพวกเขาจึงสามารถจะจัดการ Faux Saint Saboteurs ไปได้มากกว่าเจ็ดสิบเปอเซ็นต์แล้ว และหลังจากเห็นว่ากระแสการต่อสู้เริ่มเปลี่ยนไป มอนสเตอร์ทั้งสองชนิดนี้นั้นก็เลือกจะถอยหนีออกจากสนามรบอย่างไม่ลังเล
“พวกมันหนีงั้นหรอ ? มอนสเตอร์พวกนี้มันอะไรกัน ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นมอนสเตอร์ Faux Saint ที่เหลือหนีไป
เขาเคยเห็นมอนสเตอร์ละทิ้งการต่อสู้มาก่อน อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์โดยทั่วไปจะทำแบบนั้นก็ต่อเมื่อ HP ของพวกมันลดลงถึงระดับวิกฤตเท่านั้น ในทางกลับกันมอนสเตอร์ Faux Saint พวกนี้กับเลือกจะหนีทั้งๆที่ยังมี HP เยอะมาก โดยเฉพาะกับ Faux Saint Destroyers สองตัวที่ยังมี HP แทบเต็มด้วยซ้ำ
“เราไม่รู้เหมือนกันว่ามอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้คืออะไรกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้เลยก็คือพวกมันมาจากฝั่งอาณาจักรสตาร์มูน ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันทุกตัวยังมีสติปัญญาสูงมาก ซึ่งตราบใดที่พวกมันเห็นว่าไม่มีโอกาสชนะ พวกมันก็จะพากันถอยหนีทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวก Faux Saint Destroyers นั่น แม้กระทั่งตอนนี้เราก็ยังไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีทีมไหนฆ่ามันได้เลย” โซลิดวินด์อธิบาย เมื่อเธอเห็นความสับสนบนใบหน้าของซือเฟิง
“พวกมันมาจากอาณาจักรสตาร์มูน ?” คำพูดของโซลิดวินด์ทำให้ซือเฟิงประหลาดใจ เขาถามอย่างสงสัยว่า “รองผู้บัญชาการวินด์ นี่ตอนนี้เราอยู่ใกล้กับอาณาจักรสตาร์มูนใช่ไหม ?”
เท่าที่เขารู้ มันไม่มีแผนที่ใดใกล้กับอาณาจักรสตาร์มูนที่ห้ามการเทเลพอร์ตทุกรูปแบบ และห้ามการใช้อะเม้าท์บินได้
“อืมมม เมื่อเราข้ามพื้นที่ทะเลทรายนี้ซึ่งอยู่ในจักรวรรดิออร์คไป เราก็จะไปถึงชายแดนที่ล่มสลายของอาณาจักรสตาร์มูน” โซลิดวินด์กล่าวขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงอย่างแปลกประหลาด เพราะท้ายที่สุดเรื่องนี้มันเป็นความรู้โดยทั่วไปอยู่แล้ว
“จักรวรรดิออร์ค ? ชายแดนที่ล่มสลายของอาณาจักรสตาร์มูน ?” ซือเฟิงเริ่มสับสนมากขึ้นกับคำพูดของโซลิดวินด์ “มันไม่ได้มีแค่อาณาจักรเพอเพิ้ลธอร์นที่ล่มสลายงั้นหรอ ?”