ตอนที่ 2660 ชื่อที่เป็นตำนาน
เมื่อซือเฟิงถอดเสื้อคลุมสีดำของเขาออก ความเงียบสงัดอย่างถึงที่สุดก็เข้าปกคลุมไปทั่วสนามรบ และถ้าไม่ใช่เพราะว่าชายเสื้อคลุมของเขาปลิวไสวไปตามสายลม ผู้คนในบริเวณนี้ก็คงจะคิดว่าเวลาถูกหยุดลงแล้วจริงๆ
“เขาคือ …. แบล๊คเฟรมตัวจริงงั้นหรอ ?!”
ดวงตาของเครซบลูแทบจะถลนออกจากเบ้า ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ร่างของซือเฟิง และอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นกับการค้นพบนี้
แบล๊คเฟรม !!
นี่เป็นชื่อที่มหาอำนาจทั่วทวีปด้านตะวันออกของ God domain ล้วนรู้จัก !!!
แบล๊คเฟรมนั้นเป็นตัวตนที่มีชีวิตที่สร้างปปาฎิหาริย์เอาไว้มากมายในการต่อสู้ และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังมีปัญหาในการจะรับมือกับเขา ในใจของผู้เล่นอิสระ เขาคล้ายกับตัวตนระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจเลย
แม้ว่าแบล๊คเฟรมจะหายตัวออกไปจากทวีปด้านตะวันออกในระยะหนึ่งแล้ว แต่เพียงแค่ศักศรีดิ์และชื่อเสียงของเขามันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้สภาสิบแปดปีกพัฒนาต่อไปได้ในทวีปด้านตะวันออกโดยที่ไม่ต้องกังวลใดๆ และแม้แต่มหาอำนาจที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจอย่างมือแห่งนักบุญ ก็ยังไม่กล้าจะยุ่งกับสภาสิบแปดปีก และทำเพียงแค่เฝ้าดูอย่างเงียบๆเท่านั้นขณะที่พวกมอนสเตอร์ Faux Saint ค่อยๆละลายกองกำลังของสภาสิบแปดปีก มือแห่งนักบุญนั้นไม่กล้ากำหนดเป้าหมายโดยตรงมาที่
เมืองกิล หรือเมืองใดเมืองหนึ่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของสภาสิบแปดปีกเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากชื่อของแบล๊คเฟรม มันก็ทำให้ไม่มีมหาอำนาจใดนอกจากสตาร์ลิ้ง และอีกแค่ไม่กี่กลุ่มที่กล้าขัดขวางสภาสิบแปดปีกในเชิงเศรษฐกิจ
“เขากลับมาแล้ว … ในที่สุดเขาก็กลับมา …”
เพอเพิ้ลอายนั้นไม่สามารถจะปกปิดความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ได้ เมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของซือเฟิง ในขณะเดียวกันความขมขื่นที่ไม่อาจจะพรรณนาได้ก็เข้าแทรกซึมจิตใจของเธอเต็มไปหมด
แม้ว่าช่องว่างระหว่างพันธมิตรดวงดาวกับสภาสิบแปดปีกจะกว้างขึ้นตลอดเวลา แต่เพอเพิ้ลอายก็ไม่เคยยอมแพ้ในการปรับปรุงตัวเอง เธอยังคงหวังว่าเธอจะเหนือกว่าอควาโรสและเสวี่ยเหวินโหรวได้ในสักวันหนึ่ง และพัฒนาพันธมิตรดวงดาวให้กลายเป็นกึ่งมหาอำนาจได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับมือแห่งนักบุญแล้ว พลังของเธอมันก็ชัดเจนว่าไม่มีอะไรเลย และในตอนท้ายเธอก็ทำได้แค่มองดูสำนักงานใหญ่หลักของพันธมิตรดวงดาวในอาณาจักรสตาร์มูนล่มสลายลงเท่านั้น ในความเป็นจริง เธอแทบไม่สามารถหยุดการโจมตีของมอนสเตอร์ Faux Saint ได้ด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกัน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆรวมทั้งสมาชิกของมือแห่งนักบุญที่เฝ้าดูอยู่ต่างก็หัวเราะออกมา
“แบล๊คเฟรม ? หัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก ?”
“เขากลับมาตอนนี้แล้วยังไงล่ะ ?”
“เขาได้หายไปจากทวีปด้านตะวันออกนานมากแล้ว นี่เขาคิดว่าทวีปด้านตะวันออกยังเหมือนเมื่อก่อนจริงๆหรอ ?”
พวกเขานั้นประหลาดใจมากกับการปรากฎตัวของซือเฟิง อย่างไรก็ตามนั่นก็คือหมดแล้ว และมันไม่มีอะไรอีก เพราะท้ายที่สุดซือเฟิงได้หายตัวไปจากทวีปด้านตะวันออกนานเกินไป เขาไม่ได้รู้เลยว่าสถานการณ์ของทวีปด้านตะวันออกในปัจจุบันนั้นเป็นยังไง
“คุณคือแบล๊คเฟรม หัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกสินะ …. ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณสามารถจะทำลายสกิลหลอมรวมขั้นสามของทั้งห้าคนนั่นได้ ….” เธ้าซั่นอายกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาปรบมือ ก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมาเขาจะกล่าวขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “แต่คุณกลับมาแล้วยังไงล่ะ ? ตอนนี้กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ได้ให้กำเนิดมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย Faux Saint Devourer ออกมาแล้ว แถมมอนสเตอร์ระดับนี้มันยังจะมีมากขึ้นในอนาคต ไม่มีใครสามารถหยุดกองทัพของมอนสเตอร์ Faux Saint ได้แน่นอน แล้วคุณคิดว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้เพราะว่าคุณกลับมางั้นหรอ ?”
เขานั้นคุ้นเคยกับชื่อของแบล๊คเฟรมดี นี่คือสัตว์ประหลาดที่หัวหน้ากิลของเขาเตือนให้เขาระวังเมื่อได้พบ
ถ้าเป็นไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขาก็คงจะกลัวซือเฟิงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงกลัวเลย เขาไม่ได้คิดว่าซือเฟิงเป็นภัยคุกคามด้วยซ้ำ
“บอส เราจะมาเสียเวลาพูดกับเขาทำไม ? เนื่องจากไอ้สัตว์ประหลาดเก่าแก่นี่เป็นแบล๊คเฟรมตัวจริง ดังนั้นเราก็ควรจะรีบสอนให้เขารู้หน่อยว่า เขาล้าสมัยไปแล้ว !!! และนี่มันไม่ใช่ยุคของเขาอีกต่อไป !!!” ไอรอนทูช ซึ่งเดิมเป็นหัวหน้าชิลวอริเออร์ ของกิลอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรเพอเพิ้ลธอร์นอย่างซินเรียมกล่าวขึ้น พลางยิ้มเยาะอย่างขี้เล่น ….
เขานั้นต้องการจะทำลายกิลที่รู้จักกันในชื่อสภาสิบแปดปีกมาโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นซินเรียมไม่สามารถจะแข่งขันกับสภาสิบแปดปีกได้เลย อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้เข้าร่วมมือแห่งนักบุญแล้ว และกิลๆนี้ก็ทำให้เขาคิดว่าสภาสิบแปดปีกไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป และกิลๆนี้ก็ควรจะกลายเป็นอีกหนึ่งก้าวสำหรับมือแห่งนักบุญในการเข้าครอบครองทวีปด้านตะวันออกทั้งหมด
“ฉันก็คิดงั้นนะ …” เธ้าซั่นอายพยักหน้าตอบรับคำพูดของไอรอนทูช จากนั้นเขาก็มองไปที่ซือเฟิงและพูดอย่างใจเย็นว่า “เนื่องจากคุณเป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก ดังนั้นวันนี้ฉันจะขอแสดงพลังที่แท้จริงของมือแห่งนักบุญให้คุณเห็นสักหน่อย !!!”
หลังจากพูดจบเธ้าซั่นอายก็มองไปที่ไอรอนทูชที่อยู่ข้างๆเขา
เมื่อเห็นท่าทีเชิงออกคำสั่งของเธ้าซั่นอาย ไอรอนทูชก็ได้รีบเดินไปที่ด้านหลังของ Faux Saint Devourer ที่อยู่ภายในบาเรียเวทย์มนต์สองชั้นอย่างตื่นเต้น
“นั่นเขากำลังพยายามทำอะไร ?” ท่าทางตื่นเต้นบนใบหน้าของไอรอนทูชทำให้เพอเพิ้ลอายรู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“มันก็ไม่มีอะไรมาก เขาก็แค่จะแสดงให้เห็นว่าพลังของยุคใหม่เป็นยังไง !!” เธ้าซั่น
อายกล่าวพลางยิ้มเยาะ ขณะที่เขามองไปยังเพอเพิ้ลอาย
เมื่อเธ้าซั่นอายกล่าวจบ ไอรอนทูชก็หยิบคริสตัลสีเงินขาว ออกมาจากกระเป๋าของเขา และเริ่มร่ายเวทย์
ทันใดนั้น Faux Saint Devourer ก็ส่งเสียงคำรามออกมา ก่อนที่ร่างของมันจะระเบิดออกเป็นอนุภาคแสงสีเงินขาวจำนวนนับไม่ถ้วน จากนั้นอนุภาคเหล่านี้ก็ได้ไปรวมเข้ากับร่างกายของไอรอนทูช
ในช่วงเวลาต่อมา ไอรอนทูชก็ได้กลายร่างเป็นยักษ์สูงหกเมตรที่อยู่ในชุดเกราะสีเงิน โดยออร่าที่เขาแผ่ออกมานั้น มันแข็งแกร่งกว่า Faux Saint Devourer ซะอีก
“นี่ … เป็นไปได้ยังไงกัน ?”
ทุกคนในปัจจุบันนั้นรู้สึกตกตะลึงกับฉากนี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้เล่นจะสามารถได้รับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ Faux Saint ได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเห็นได้ชัดจากสายตาเลยว่ายักษ์นี้คือไอรอนทูชแน่ๆ และตอนนี้ออร่าของไอรอนทูชก็แข็งแกร่งกว่า Faux Saint Devourer มาๆ
ก่อนหน้านี้แม้ว่า Faux Saint Devourer จะมีความสามารถในการเรียนรู้ที่น่าทึ่ง แต่มาตราฐานการต่อสู้ของมันก็ไม่ได้สูงขึ้นมากนัก และมันก็ไม่สามารถจะแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไอรอนทูชกับได้รับความแข็งแกร่งแบบนี้มาควบคุมแล้ว ดังนั้นพลังการต่อสู้ที่เขาสามารถจะแสดงออกมาได้นั้น มันก็จะเกินกว่า Faux Saint Devourer แน่นอน
“มหัศจรรย์มากๆ !!! สุดยอดจริงๆ !!! นี่คือความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายงั้นสินะ ?!!” ไอรอนทูชนั้นเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เขาได้รับมาในปัจจุบัน
ในตอนนี้สมาชิกของมือแห่งนักบุญคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาไอรอนทูช
ต่อหน้าความแข็งแกร่งแบบนี้นั้น ผู้เล่นจัดว่าไร้ค่าไปเลย !!!
หากพวกเขามีความแข็งแกร่งแบบนี้เช่นกัน พวกเขาจะสามารถทำลายกองทัพทั้งหมดของผู้เล่นได้ด้วยตัวเอง และพวกเขาก็จะไม่ต้องกลัว NPC ขั้นสี่เลยด้วยซ้ำ !!!
….
ในขณะเดียวกันสมาชิกของมหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าชมอยู่ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นไอรอนทูชกลายร่าง พวกเขาไม่คิดเลยว่ามือแห่งนักบุญจะซ่อนไพ่แบบนี้ไว้ตลอดเวลา
“นี่มันไม่ดีแล้ว !!! แม้ว่าไอรอนทูชจะอยู่ในขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำเท่านั้น แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ Faux Saint Devourer ที่เขาได้รับมา ไม่ต้องพูดถึงแบล๊คเฟรมแค่คนเดียวเลย แม้แต่องครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่ที่ทำหน้าที่ปกป้องเมืองป่าหินก็อาจจะยังไม่สามารถเทียบกับเขาได้ด้วยซ้ำ !!!” ใบหน้าของอิลูซะรี่เวิร์ดมืดมนลง เมื่อเธอได้เห็นร่างล่าสุดของไอรอนทูชผ่านกระจกเวทย์มนต์
เดิมทีการปรากฎตัวของซือเฟิงน่าจะเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขามีอยู่ มันจะสามารถช่วยสถานการณ์ในปัจจุบันได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตามอิลูซะรี่เวิร์ดไม่เคยคิดเลยว่ามือแห่งนักบุญจะมีไพ่แบบนี้อยู่ด้วย
ความแข็งแกร่งที่ไอรอนทูชมีในตอนนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นมีความหวังจะเทียบได้ และถ้าซือเฟิงถูกฆ่าในตอนนี้ การตายของเขาจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงมากๆแบบที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนต่อทั้งสภาสิบแปดปีกและอาณาจักรสตาร์มูน
….
ในขณะเดียวกันหลังจากไอรอนทูชได้สัมผัสกับพลังที่เขาพึ่งได้รับเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เขาก็ขยับไปปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของซือเฟิงทันที ซึ่งความเร็วของเขานั้นก็เร็วมากซะจน แม้แต่เพอเพิ้ลอายก็ไม่สามารถจะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของเขาได้ทันเวลา
“แบล๊คเฟรมคุณคือตัวระดับตำนานงั้นสินะ ? คุณทรงพลังมากงั้นสินะ ? คุณคิดจะหยุดมือแห่งนักบุญงั้นสินะ ? ฉันสงสัยจังว่าคุณจะทำยังไงกับสถานการณ์ตอนี้ !!!?” ไอรอนทูชกล่าวอย่างเยาะเย้ย ขณะที่เขามองลงไปยังซือเฟิง
เมื่อเห็นไอรอนทูชมาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของซือเฟิงอย่างกระทันหัน การแสดงออกของสมาชิกกองทัพลาดตระเวนทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และแม้แต่เพอเพิ้ลอายก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
ไอรอนทูชนั้นเร็วเกินไป !!!
เมื่อเธอรู้สึกได้ถึงการปรากฎตัวของไอรอนทูช ไอรอนทูชก็ได้มาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของซือเฟิงแล้ว เธอนั้นไม่กล้าที่จะจินตนาการเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากไอรอนทูชคิดจะเคลื่อนไหวโจมตีจริงๆ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าไอรอนทูชจะปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของเขาโดยไม่มีการเตือนใดๆ แต่ซือเฟิงก็ยังคงดูสงบมากๆ
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของคุณมันค่อนข้างจะน่าทึ่งมากๆ !!!” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปยังเธ้าซั่นอาย “อย่างไรก็ตามคุณคิดว่าคุณเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถกลายร่างได้งั้นหรอ ?”
“คุณหมายความว่ายังไง ?” เธ้าซั่นอายเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเขาได้เห็นความสงบของซือเฟิง
อย่างไรก็ตามก่อนที่เธ้าซั่นอายจะทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ซือเฟิงก็ได้นำ Abyssal Blade ออกมา และเริ่มร่ายเวทย์
วิญญาณมังกรดำ !!!