ตอนที่ 2662 สั่นสะเทือนทั่วทั้งทวีปกับตัวตนทรงพลังที่กลับมา
เมื่อร่างที่สูงหกเมตรของไอรอนทูชเริ่มจะสลายตัวกลายเป็นอนุภาคแสง ทุกคนที่ยืนอยู่ในบริเวณนี้ทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
แม้จะดูดซับ Faux Saint Devourer ที่แข็งแกร่งเข้าไป แต่ไอรอนทูชก็ยังตายลงทั้งๆแบบนั้น
จนถึงตอนนี้ไม่มีมหาอำนาจแม้แต่กลุ่มเดียวหรือผู้เล่นแม้แต่คนเดียวที่สามารถฆ่ามอนสเตอร์ Faux Saint ที่เป็นระดับแกรนลอร์ดอย่าง Faux Saint Destroyer ได้ แต่ซือเฟิงกับประสบความสำเร็จในการฆ่า Faux Saint Devourer ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำสำเร็จในขณะที่มือแห่งนักบุญพยายามจะปกป้องมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายด้วย
ในขณะที่ร่างของไอรอนทูชหายไป วิญญาณของเขาก็กระเพื่อมและกระจายออกไปจากบริเวณซากศพกินรัศมีหลายพันหลา และทุกคนที่ได้สัมผัสกับวิญญาณที่กระเพื่อมนี้ล้วนตัวสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ชั่วครู่ต่อมา หมอกสีขาวหลายสายที่ออกมาจากศพของไอรอนทูช ก็ได้พุ่งตรงไปยังร่างของซือเฟิง และก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนองได้ หมอกนี้ก็รวมเข้ากับวิญญาณของเขาแล้ว
“แบล๊คเฟรม คุณจะต้องเสียใจกับการกระทำของตัวเองในวันนี้ !!! ตอนนี้คุณได้ฆ่า Faux Saint Devourer ไปแล้ว และตราประทับวิญญาณของมันก็ได้ไปรวมเข้ากับคุณ !!! อีกไม่นานมอนสเตอร์ Faux Saint ตัวอื่นๆจะมาตามหาคุณแน่นอน !!! และพวกมันก็จะกำจัดทั้งคุณ และเมืองปีกสีเงินออกไปจากจักรวรรดิออร์คแน่นอน !!!” เธ้าซั่นอายกล่าวอย่างเย้ยหยันขณะที่เขามองไปยังซือเฟิง
พวกระดับสูงของเขานั้นสั่งให้เขาปกป้อง Faux Saint Devourer เพราะการที่ Faux Saint Devourer จะเกิดขึ้นมาสักตัวมันมีโอกาสน้อยมาก และมันก็หาได้ยากมากๆ ซึ่งอัตราการเกิดของ Faux Saint Devourer จาก Faux Saint Destroyers นั้นมันไม่ถึงหนึ่งในหมื่นด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกัน Faux Saint Devourer มันก็จัดว่ามีประโยชน์อย่างมากทั้งกับมอนสเตอร์ Faux Saint และมือแห่งนักบุญ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงไม่เพียงแต่จะเพิกเฉยต่อมือแห่งนักบุญอย่างสิ้นเชิง แต่เขายังจัดการฆ่า Faux Saint Devourer ต่อหน้าต่อหน้าทุกคนด้วย การกระทำของเขานั้นมันจัดว่าเป็นการดูถูกมือแห่งนักบุญอย่างแท้จริง และจริงๆนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่เธ้าซั่นอายได้รับความอัปยศอดสูแบบนี้ นับตั้งแต่เข้าสู่ God domain มา
เนื่องจากตอนนี้ภารกิจของเขาล้มเหลวไปแล้ว ดังนั้นเธ้าซั่นอายจึงต้องการให้ซือเฟิงตระหนักว่าการกระทำของเขามันโง่เขลาขนาดไหน และเขาก็จะต้องเสียใจกับเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต
สมาชิกของมือแห่งนักบุญคนอื่นๆเองก็เริ่มมองไปยังซือเฟิงอย่างเย้ยหยันเช่นกัน
มอนสเตอร์ Faux Saint นั้นไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ทั่วไป มันมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดต่อกันและกันมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นความแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์นี้มันก็ยังสอดคล้องกับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ Faux Saint ด้วย
และเมื่อ Faux Saint Devourer ที่มีสถานะเทียบเท่ากับราชาในหมู่มอนสเตอร์ Faux Saint ถูกฆ่าไปโดยฝีมือของซือเฟิงตัวหนึ่ง มันก็เท่ากับว่าซือเฟิงได้กลายเป็นศัตรู
ของมอนสเตอร์ Faux Saint ทั้งหมดแล้ว
เว้นแต่ว่าซือเฟิงจะสามารถลบตราประทับวิญญาณของมอนสเตอร์ Faux Saint Devourer ออกไปได้ ไม่งั้นมอนสเตอร์ Faux Saint ทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีหนึ่งแสนหลาจะสามารถตรวจจับการปรากฎตัวของเขาได้และจะพยายามฆ่าเขาตราบใดที่เขามีตราประทับวิญญาณอยู่ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือถ้าซือเฟิงไม่สามารถลบตราประทับวิญญาณออกไปได้ มอนสเตอร์พวกนี้ก็จะกำหนดเป้าหมายมาที่เขาจนกว่าเขาจะลบไอดีของตัวเองและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง !!!
ใบหน้าของเพอเพิ้ลอายและคนอื่นๆมืดมนลงเล็กน้อย เมื่อพวกเขามองไปที่เธ้าซั่นอาย พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าการที่ทำการฆ่า Faux Saint Devourer จะต้องจ่ายด้วยราคาแบบนี้
….
“ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้แบล๊คเฟรมจะต้องตกตะลึงมากๆแน่นอน !!! ถ้าสิ่งที่เธ้าซั่นอายพูดเป็นความจริง งั้นตอนนี้แบล๊คเฟรมและเมืองปีกสีเงินก็จะถึงจุดจบแล้วแน่นอน !!!”
มหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าชมอยู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างสนุกสนานออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของเธ้าซั่นอาย
พลังการกลายร่างเป็นมังกรของซือเฟิงนั้นน่าตกตะลึง และอาจเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ และพวกเขาก็สามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า หลังจากเรื่องนี้สภาสิบแปดปีกจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามคำพูดของเธ้าซั่นอายช่วยขจัดความกังวลทั้งหมดของพวกเขาออกไป
โครงสร้างการป้องกันในปัจจุบันของเมืองปีกสีเงินนั้นมันจัดว่าแข็งแกร่งมากๆ เพราะท้ายที่สุดมันไม่ได้มีเพียง NPC ขั้นสี่ที่คอยปกป้องเมือง แต่มันยังได้รับการปกป้องจากผู้เล่นสัตว์ประหลาดอย่างซือเฟิงด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อถูกปิดล้อมโดยกองทัพนับล้าน หรืออาจจะเป็นสิบๆล้านของมอนสเตอร์ Faux Saint แม้แต่เมืองหลักขนาดใหญ่ของ NPC ก็จะล่มสลายลงอย่างรวดเร็วแน่นอน ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเมืองปีกสีเงินเลย
….
ในระหว่างที่ทุกคนคิดกำลังคิดว่า ซือเฟิงจะเปิดเผยท่าทีเสียใจหรือความกลัวออกมานั้น นักดาบผู้นี้กับยิ้มบางๆออกมาแทน และท่าทีของเขาก็ยังดูสงบมากๆ
“คุณอยากเห็นฉันเสียใจงั้นหรอ ? คุณจะต้องออกจากที่นี่ทั้งๆที่ยังมีชีวิตให้ได้ก่อนนะถึงจะทำแบบนั้นได้ !!!”
หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาเธ้าซั่นอายและทีมของเขา และแต่ละก้าวที่เขาก้าวไปนั้นมันทำให้พื้นแตก ซึ่งในขณะนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกกำลังโกรธเกรี้ยวเลย
เมื่อได้เห็นท่าทีแบบนี้ของซือเฟิง เธ้าซั่นอายและสมาชิกคนอื่นๆของมือแห่งนักบุญก็หน้าซีดลงอย่างมาก
“แบล๊คเฟรม …. คุณไม่ควรทำอะไรที่มันไปไกลเกินไปนะ !!!”
“พวกเราเป็นสมาชิกหนึ่งในกองกำลังหลักของมือแห่งนักบุญ !!! ถ้าคุณฆ่าเรา มือแห่งนักบุญจะไม่ยกโทษให้กับสภาสิบแปดปีกแน่นอน !!!”
“ถูกต้อง !! หากคุณต้องการจะรักษาชีวิตและสถานะของของเมืองปีกสีเงินไว้ ทางเลือกเดียวของคุณคือการทำงานร่วมกับมือแห่งนักบุญ !! ไม่งั้นทั้งคุณและสภาสิบแปดปีกจะถูกมอนสเตอร์ Faux Saint กลืนกินทั้งหมด !!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมังกรดำที่มีความสูงสี่สิบเมตร และมีออร่าที่ทรงพลังอย่างน่ากลัวมากๆ บรรดาผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของมือแห่งนักบุญไม่เว้นแม้แต่เธ้าซั่นอาย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็หวาดกลัวจนไม่สามารถจะทำอะไรได้ และจิตใจของพวกเขามันก็ว่างเปล่าไปทั้งหมด ทำให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายทางกายภาพของตัวเองให้ตอบสนองอย่างเหมาะสมได้เลย ซึ่งนี่มันก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารจะหลบหนีได้ แม้ว่าพวกเขาจะต้องการก็ตาม
ฉากนี้สร้างความสับสนและตกตะลึงให้กับมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก ชั่วครู่หนึ่งพวกเขาล้วนสงสัยว่าบรรดาผู้เล่นที่พวกเขาเฝ้าดูผ่านกระจกเวทย์มนต์นั้นจริงๆแล้วเป็นสมาชิกหนึ่งในกองกำลังหลักของมือแห่งนักบุญจริงรึปล่าว เพราะปกติแล้วสมาชิกระดับนี้ของมือแห่งนักบุญจะไม่แสดงความเคารพใดๆเลยแม้แต่กับมหาอำนาจต่างๆ
ก่อนที่สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆจะทันได้หายสงสัย ซือเฟิงก็ได้มาถึงตรงหน้าของเธ้าซั่นอายและค่อยๆยกกรงเล็บขนาดใหญ่ของเขาขึ้นมา
“พวกคุณไม่จำเป็นจะต้องมากังวลกับเรื่องนี้ !!!”
หลังจากที่ซือเฟิงพูดจบ เขาก็ส่งกรงเล็บเข้าโจมตีเธ้าซั่นอายและทีมของเขาทันที
ดาบที่หนึ่ง ไลท์ชาโด้ว !!!
ในช่วงเวลาต่อมาเงาของกรงเล็บมังกรขนาดมหึมาก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า โดยมันมีขนาดใหญ่โตและทรงพลังมากซะจนเธ้าซั่นอายกับคนอื่นๆนั้นไม่สามารถจะหลบหรือป้องกันตัวเองได้เลย และในพริบตาเธ้าซั่นอาย และทีมของเขาทั้งหมดก็ถูกฆ่าทันที
ความเงียบสงัด !!
การทำลายล้าง !!
ความตาย !!
ครู่หนึ่งเวลาในป่าทะเลทรายนั้นดูเหมือนจะหยุดนิ่ง และแม้แต่สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆที่กำลังเฝ้าดูผ่านกระจกเวทย์มนต์จากเมืองปีกสีเงินก็ยังเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ และพวกเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาของพวกเขาเลย
“พวกเขาถูกฆ่าทั้งๆอย่างนั้นเลยงั้นหรอ ?”
“นี่คือผู้เชี่ยวชาญที่มือแห่งนักบุญลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อเลี้ยงดูขึ้นมา !!! ด้วยเรื่องนี้มือแห่งนักบุญจะไม่ปล่อยให้สภาสิบแปดปีกหลุดไปจากเบ็ดแน่นอน !!!”
“นี่เขาคือ แบล๊คเฟรมจริงๆงั้นหรอ ?”
ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มาจากกองกำลังหลักของมือแห่งนักบุญนั้นแตกต่างจากผู้เล่นทั่วไป พวกเขาได้อาศัยวิธีการพิเศษเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าสถานะพื้นฐานอันน่าอัศจรรย์ ดังนั้นบทลงโทษที่พวกเขาจะได้รับจากการตายมันจึงสูงกว่าผู้เล่นทั่วไป
ซึ่งด้วยการฆ่าทีมของเธ้าซั่นอายนั้น มันก็เท่ากับว่าซือเฟิงได้ทำให้หนึ่งในกองกำลังหลักครึ่งหนึ่งของมือแห่งนักบุญพิการ ดังนั้นมันคงจะเป็นเรื่องแปลกมาก หากมือแห่งนักบุญไม่พยายามจะล้างแค้นสภาสิบแปดปีก
แม้ว่าชะตากรรมของสภาสิบแปดปีกจะแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้วจากการที่ต้องรับมือกับกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint แต่ซือเฟิงก็ยังเลือกที่จะเดินหน้าต่อและไปไกลกว่านั้นด้วยการฆ่าเธ้าซั่นอาย และทีมของเขา แทนที่จะพยายามซ่อมแซมความสัมพันธ์กับมือแห่งนักบุญ พวกเขานั้นไม่เข้าใจการกระทำของซือเฟิงเลยจริงๆ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ซือเฟิงกระทำทั้งหมดในวันนี้ มันผลักสภาสิบแปดปีกให้ไปสู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้ แม้หลังจากฆ่าเธ้าซั่นอายและทีมของเขาไปแล้ว ซือเฟิงก็ยังคงดูสงบนิ่งมากๆ และเขาก็ทำตัวปกติเหมือนกับว่า เขาพึ่งฆ่าแค่ฝูงมดปลวกไป โดยหลังจากให้คำแนะนำแก่เพอเพิ้ลอาย รวมทั้งมอบอาวุธและอุปกรณ์ที่สมาชิกของมือแห่งนักบุญดรอปออกมาให้กองทัพลาดตระเวนเรียบร้อย เขาก็ไดบินเข้าไปยังเมืองปีกสีเงิน
ไม่นานหลังจากที่ซือเฟิงออกจากสนามรบ ข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในป่าทะเลทรายนั้นมันก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า
การกลับมาอันน่าตกตะลึงของแบล๊คเฟรมที่เมืองปีกสีเงิน !!!
Faux Saint Devourer มอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายถูกฆ่า !!!
แบล๊คเฟรมได้ทำลายล้างทีมของหนึ่งในกองกำลังหลักของมือแห่งนักบุญด้วยตัวเอง !!!
ข้อมูลที่น่าตกใจนี้เริ่มแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในประเทศต่างๆทั่วทวีปด้านตะวันออก