ตอนที่ 2663 เขากลับมาแล้ว
ป่าใบไม้ผลิ เมืองป่าหิน โรงแรมอิสระ :
ภายในห้องประชุมที่สวยงาม มันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายสิบคนที่แผ่ออร่าอันทรงพลังนั่งอยู่รอบๆโต๊ะกลม อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนจำนวนมาก แต่ห้องนี้ก็เงียบสงัดมากๆ
หากสังเกตอย่างรอบคอบก็จะได้พบว่ามีผู้เล่นจำนวนหนึ่งในหมู่คนเหล่านี้ที่แผ่ออร่าเลือดที่รุนแรงออกมา และร่างกายของพวกเขานั้นล้วนถูกปกคลุมไปด้วยพลังแห่งความมืดที่หนาแน่นมากๆ ผู้เล่นสายความมืดทั่วไปจะไม่สามารถเทียบกับคนเหล่านี้ได้ในสองแง่มุมนี้ คนเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพวกระดับสูงของดาร์ครัปโซดี้ และผู้บัญชาการทีมนักผจญภัยชั้นยอดจำนวนหนึ่งจากโลกแห่งความมืด
นอกเหนือจากผู้เชี่ยวชาญจากโลกแห่งความมืดเหล่านี้แล้ว ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามคนอื่นที่นั่งอยู่รอบๆโต๊ะก็ล้วนมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ในหมู่พวกเขานั้นมีตั้งแต่พวกระดับสูงของกิลชั้นยอดอย่างอันยีลดิ้งโซล หัวหน้ากิลชั้นสูงบางกิล รวมไปถึงผู้บัญชาการ และรองผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยชั้นยอดบางทีม
ในขณะเดียวกันตัวตนระดับ VIP เหล่านี้ทุกคนล้วนกำลังมองไปยังผู้หญิงที่ติดตราสัญลักษณ์ของปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงอยู่ที่หน้าอก และแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้แผ่ออร่าที่ทรงพลังออกมา แต่ทุกคนก็ยังปฎิบัติกับเธอในฐานะประธานของการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ผู้หญิงคนนี้นั้นดูซีดเซียวและเหน็ดเหนื่อยอย่างสุดจะพรรณนา
“ฉันหวังว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ในปัจจุบันจะสามารถเพิ่มการสนับสนุนของคุณเพื่อช่วยสภาสิบแปดปีกต่อต้านสตาร์ลิ้ง และมหาอำนาจต่างๆได้ และแน่นอนว่าสภาสิบแปดปีกจะให้ค่าตอบแทนกับทุกคนอย่างเหมาะสม นอกเหนือจากหัวข้อนี้แล้ว ยังมีใครต้องการเพิ่มอะไรอีกไหม ?” เมลานโครอิคสไมล์ถาม ขณะที่เธอกวาดสายตามองไปยังผู้เล่นทุกคนที่อยู่ที่นี่
นับตั้งแต่ที่ซือเฟิงและแกนหลักบางส่วนของสภาสิบแปดปีกออกเดินทางไปยังทวีปด้านตะวันตก สตาร์ลิ้งและมหาอำนาจต่างๆก็คอยตามรังควานเมืองป่าหินอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันมีทั้งการปราบปรามทางเศรษฐกิจ การปล้นไอเทม รวมไปถึงการซุ่มโจมตีที่แทบจะเกิดขึ้นทุกเวลา และเพื่อทำให้เรื่องแย่ลง เนื่องจากจำนวนผู้เล่นขั้นสามที่มหาอำนาจต่างๆครอบครองนั้นมีมากขึ้น มันจึงทำให้พื้นที่ที่กองอัศวินสามารถจะปกป้องได้นั้นลดลงเช่นกัน
นอกจากซือเฟิงแล้ว รองหัวหน้ากิลทั้งสองของสภาสิบแปดปีกก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน เป็นผลให้เมลานโครอิคสไมล์ต้องแบกรับภาระในการนำสภาสิบแปดปีกชั่วคราว
อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยที่ไม่เสถียรรอบเมืองป่าหินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันจึงทำให้จำนวนผู้เล่นที่กล้าจะเข้ามาที่เมืองป่าหินลดน้อยลง ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเมืองมากๆ และ ณ จุดนี้รายได้ต่อวันของเมืองยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรายได้ที่เมืองสามารถทำได้ในตอนที่เมืองเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดเลย ในขณะเดียวกันเพื่อรักษาความปลอดภัยของเมืองปีกสีเงิน เมืองสภาสิบแปดปีก และเมืองป่าหิน กิลจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัยเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งมันก็ทำให้ค่าใช้จ่ายรายวันของกิลเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“เราเองก็กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาบางอย่างในโลกแห่งความมืดเช่นกัน เมื่อเร็วๆนี้เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้เล่นขั้นสามในโลกแห่งความมืด มันจึงทำให้มหาอำนาจในโลกแห่งความมืดหลายกลุ่มได้ร่วมมือกัน และเปิดการโจมตีเข้าใส่ประตูเทเลพอร์ตหลายครั้งแล้ว แม้ว่าในขณะนี้เราจะยังสามารถหยุดการโจมตีพวกนี้ได้ แต่ฉันคิดว่าเราคงจะทำแบบนี้ต่อไปได้อีกไม่นานนัก” บลูเรนโบว์จาดาร์ครัปโซดี้กล่าวกับเมลานโครอิคสไมล์อย่างหมดหนทาง “นอกจากนี้เวิร์ลโดมิเนชั่นเองก็กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่เรารวบรวมมา เราเชื่อว่าเวิร์ลโดมิเนชั่นน่าจะกำลังเตรียมการสำหรับปฎิบัติการขนาดใหญ่ในไม่ช้า ดังนั้นเราจึงหวังว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถให้ทรัพยากรของโรงแรมอิสระแก่เราได้มากขึ้นเพื่อที่ว่าเราจะสามารถขยายฐานอำนาจในโลกแห่งความมืดของตัวเองได้มากขึ้น และสามารถยืนหยัดยึดประตูเทเลพอร์ตไว้ได้อย่างมั่นคง”
เมื่อได้ยินคำพูดของบลูเรนโบว์ เหลียงจิงที่นั่งอยู่ข้างเมลานโครอิคสไมล์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เมืองป่าหินสามารถรักษารายได้ในปัจจุบันไว้ได้คือโรงแรมอิสระ และเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของเมืองป่าหิน พวกเขาจึงได้รับความช่วยเหลือจากมหาอำนาจต่างๆ รวมไปถึงบรรดาทีมนักผจญภัยชั้นยอดเพื่อแลกกับห้องพักในโรงแรมอิสระ
จนถึงตอนนี้พวกเขาได้ทำการแจกจ่ายห้องพักไปจำนวนหนึ่งแล้ว หากพวกเขาให้มากกว่านี้ ไม่เพียงแต่สภาสิบแปดปีกจะมีห้องพักไว้สำหรับแจกจ่ายน้อยลงเท่านั้น แต่รายได้ของโรงแรมอิสระยังอาจจะลดลงอย่างมากเช่นกัน ซึ่งอาจถึงจุดที่งบประมาณของสภาสิบแปดปีกกลายเป็นอะไรที่ไม่มั่นคงได้
อย่างไรก็ตามประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดเองก็มอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับสภาสิบแปดปีกด้วย นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของคริสตัลเวทย์มนต์ และมันก็เป็นสิ่งที่สภาสิบแปดปีกไม่สามารถจะสูญเสียไปได้ในทำนองเดียวกัน
“ฉันเข้าใจ ฉันจะพิจารณาเรื่องนี้และให้คำตอบโดยเร็วที่สุด …” เมลานโครอิคสไมล์กล่าวขณะที่เธอนวดขมับของตัวเอง “หากไม่มีอะไรอื่นแล้ว ฉันจะขอปิดการประชุมในวันนี้ …”
หลังจากที่เมลานโครอิคสไมล์พูดจบ ทุกคนก็ลุกจากที่นั่งทันที และในตอนนี้เอง มู่หลิงชาจากอันยีลดิ้งโซลก็ได้เดินเข้ามาหาเมลานโครอิคสไมล์
“มิสเมลานโครอิค ไม่ต้องลังเลที่จะเอ่ยปากขอนะ หากคุณประสบปัญหาเรื่องเงินทุน อันยีลดิ้งโซลและสภาสิบแปดปีกนั้นเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกันมานาน แม้ว่าเราจะไม่สามารถจัดหากำลังคนเพิ่มเติมให้ได้ แต่เรายังจะสามารถจัดสรรเงินบางส่วนเพื่อช่วยสภาสิบแปดปีกได้ …” มู่หลิงชาพูดเบาๆ ขณะที่เธอมองไปที่เมลานโครอิคสไมล์ที่แสดงสีหน้ากังวล
“ขอบคุณ” เมลานโครอิคสไมล์กล่าว “ในความเป็นจริงเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินทุนหรอก ปัญหาสำคัญสำหรับเราจริงๆคือมหาอำนาจต่างๆที่กำหนดเป้าหมายมายังเมืองป่าหิน และมันก็ยังมีเรื่องการจัดการเรื่องของเราในอาณาจักรสตาร์มูนและจักรวรรดิมังกรดำอีก หากหัวหน้ากิลและแกนหลักที่ติดตามหัวห้ากิลไปอยู่ที่นี่ พวกมหาอำนาจนั่นก็คงจะอดทน และไม่ยินยอมร่วมมือกับสตาร์ลิ้งเพื่อเล่นงานสมาชิกสภาสิบแปดปีก ซึ่งตอนนี้มันส่งผลให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกพัฒนาตัวเองในอาณาจักรสตาร์มูนและจักรวรรดิมังกรดำยากขึ้นเรื่อยๆแล้ว …”
ปัจจุบันเรื่องการระดมทุนนั้นยังคงเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อยสำหรับสภาสิบแปดปีก เรื่องเร่งด่วนจริงๆตอนนี้คือการที่กิลขาดผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม หากไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้อันยีลดิ้งโซลได้ส่งผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนมากเข้ามาช่วยรักษาความปลอดภัยเมืองป่าหิน เมืองป่าหินจะต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชกว่านี้แน่นอน
“โอ้ใช่ รองหัวหน้ากิลมู่ แล้วยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน และปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนอีกงั้นหรอ ?” เมลานโครอิคสไมล์ถาม
สภาสิบแปดปีกเคยร่วมมือกับฟีนิกซ์เรนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้ และทั้งสองฝ่ายก็ถือได้ว่าเป็นพันธมิตรกันอย่างแน่นอน แถมเมลาน
โครอิคสไมล์กับฟีนิกซ์เรนก็ยังเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกัน เนื่องจากทั้งสองคนนั้นได้ติดต่อกันบ่อยครั้งจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างทั้งสองกิลของพวกเขา
ในตอนแรกที่มหาอำนาจต่างๆเริ่มตั้งเป้ามาที่เมืองป่าหินนั้น เมลานโครอิคสไมล์ได้ติดต่อไปยังฟีนิกซ์เรนเพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยแก้ไขปัญหาบางอย่างที่สภาสิบแปดปีกเจอในจักรวรรดิมังกรดำ อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะพยายามติดต่อฟีนิกซ์เรนอย่างไร เธอก็ไม่สามารถจะติดต่อได้เลย ซึ่งมันราวกับว่าฟีนิกซ์เรนได้หายออกไปจาก God domain ซะเฉยๆ อันที่จริงแม้แต่สมาชิกส่วนใหญ่ของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนก็ยังไม่รู้ที่อยู่ของฟีนิกซ์เรนด้วยซ้ำ
“เราได้ส่งคนจำนวนมากไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว มันนับเป็นเรื่องแปลกอย่างแท้จริง ไม่ต้องพูดถึงฟีนิกซ์เรนและลูกน้องของเธอ แม้แต่คู่หลง จักรพรรดิเก้ามังกร และพวกระดับสูงอื่นๆอีกมากมายของกิลก็ได้หายไปทั้งหมด ปัจจุบันดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นอาศัยบรรดาผู้อาวุโสสูงสุดบางส่วนเท่านั้นในการดำเนินการ และจากข้อมูลที่เราได้รับมา แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านี้ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น” มู่หลิงชากล่าว
“ ..!!” เมลานโครอิคสไมล์ตกตะลึงและพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำพูดของมู่หลิงชา
พวกระดับสูงของกิลชั้นยอดได้หายไปในชั่วข้ามคืนโดยไม่มีข่าวคราวใดๆเลย ใครจะกล้าเชื่อเรื่องนี้ ?
“อย่างไรก็ตามฉันยังได้ยินมาว่าไมโทโลจี้ได้เชิญให้ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนไปเข้าร่วมการพูดคุยเรื่องพันธมิตร Faux Saint ในจักรวรรดิมังกรไฟ เมื่อการพูดคุยนี้สิ้นสุดลง เราน่าจะได้รับข่าวคราวบางอย่างเกี่ยวกับปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนบ้าง …” มู่หลิงชากล่าว
“พูดคุยเรื่องพันธมิตร ?” ใบหน้าของเมลานโครอิคสไมล์ยิ่งซีดเซียวมากขึ้น เมื่อเธอได้ยินข่าวนี้ “ดูเหมือนว่าคราวนี้เราจะมีปัญหามากมายจริงๆ”
มองผิวเผินการพูดคุยเรื่องพันธมิตรครั้งนี้ของไมโทโลจี้จะเน้นไปที่ปัญหาเรื่องมอนสเตอร์ Faux Saint แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว ไมโทโลจี้เพียงแค่พยายามจะผูกมัดมหาอำนาจต่างๆไว้เพื่อเข้ายึดเมืองป่าหินก็เท่านั้น
และหากมหาอำนาจต่างๆตกลงกันแล้วว่าจะแบ่งผลกำไรเมืองป่าหินกันยังไงในระหว่างการพูดคุยกันครั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปที่จะเกิดขึ้น มันก็คือการโจมตีเมืองป่าหิน
แม้ว่าโครงสร้างการป้องกันในปัจจุบันของเมืองป่าหินจะสามารถป้องกันการโจมตีร่วมขอมหาอำนาจต่างๆได้ แต่มันก็จะทำลายเศรษฐกิจของเมืองลงอย่างย่อยยับแน่นอน
เมลานโครอิคสไมล์นั้นไม่ใช่คนเดียวที่ปวดหัวกับเรื่องนี้ มู่หลิงชาเองก็ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดการพูดคุยเรื่องพันธมิตรของไมโทโลจี้ในครั้งนี้จะไม่ได้กำหนดเป้าหมายมาที่สภาสิบแปดปีกเท่านั้น แต่มันยังจะรวมไปถึงอันยีลดิ้งโซลด้วย โดยนี่มันก็จะทำให้อันยีลดิ้งโซลตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมมากขึ้น แต่เธอกับไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย
ซึ่งนี่เป็นเพราะมันมีมหาอำนาจต่างๆมากถึงสิบห้ากลุ่มเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ และสามจากทั้งหมดก็เป็นซุเปอร์กิล โดยมันอาจกล่าวได้ว่าที่เป็นการประชุมพูดคุยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในทวีปด้านตะวันออกอย่างไม่ต้องสงสัย และหากมหาอำนาจทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกัน พวกเขาจะมีพลังที่น่ากลัวมากแน่นอน
ขณะที่เมลานโครอิคสไมล์และมู่หลิงชากำลังรู้สึกหมดหนทาง เหลียงจิงที่นั่งอยู่ข้างๆเมลานโครอิคสไมล์ก็ได้เผยรอยยิ้มที่หาได้ยากของเธอออกมา เมื่อเธอได้อ่านข้อความบางอย่าง
“ไม่ !! ตอนนี้มันจะไม่ใช่พวกเราที่เดือดร้อนแล้ว แต่เป็นพวกเขา !!!” เหลียงจิงอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
“เกิดอะไรขึ้นกัน ?”
ทั้งเมลานโครอิคสไมล์และมู่หลิงชาต่างรู้สึกประหลาดใจกับปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันของเหลียงจิง พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงมีท่าทีแบบนี้
“เขากลับมาแล้ว !!”
“เขา ?”
“หัวหน้ากิล !! หัวหน้ากิลกลับมาแล้ว !!!”