ตอนที่ 2668 การรบปิดล้อมที่เมืองปีกสีเงิน
นี่ฉันสามารถอัพเกรดเมืองได้ ทั้งๆยังงี้เลยเนี่ยนะ ?
ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเขาได้อ่านการแจ้งเตือนจากอินเตอร์เฟซของระบบอีกครั้ง
แม้ว่าเมืองปีกสีเงินนั้นจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และการจะเลื่อนขั้นเป็นเมืองพื้นฐานได้นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น แต่การที่มันบรรลุคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในทันทีแบบนี้ มันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เขาประหลาดใจ เขาไม่นึกเลยว่าการเสริมพลังให้กับวงเวทย์หลักของเมืองจะให้ผลแบบนี้ได้ด้วย
โครงสร้างการป้องกันของเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานนั้นมันดีกว่าเมืองขั้นสูงอย่างมาก และจำนวนทหาร NPC ที่สามารถจะจ้างเข้าประจำการเพื่อป้องกันเมืองได้ก็จะเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่งเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้นั้นมันนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อฐานที่มั่นในจักรวรรดิออร์คแบบนี้
เมื่อไม่นานมานี้มันเริ่มจะมีผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆในจักรวรรดิออร์ค และเนื่องจากฐานที่มั่นของผู้เล่นที่นี่มีจำนวนน้อยมาก ดังนั้นฐานที่มั่นใดๆที่สามารถรับรองความปลอดภัยของผู้เล่นได้จึงจะเป็นที่นิยมอย่างมาก และมันก็แทบจะรับประกันการพัฒนาอย่างรวดเร็วได้
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับประโยชน์ที่ไม่คาดคิดนี้มา แต่ซือเฟิงก็ยังไม่ได้เลือกที่จะอัพเกรดเมืองปีกสีเงิน เขาได้มุ่งความสนใจไปที่เสาสีแดงเข้มที่ปรากฎอยู่ตรงกลางห้องแทน จากนั้นเขาก็หยิบคริสตัลเวทย์มนต์ออกมากองใหญ่ และเริ่มส่งมานาของเสาสีแดงเข้มนี้ไปยังวงเวทย์ต่างๆของเมืองปีกสีเงิน
แม้ว่าการอัพเกรดเมืองปีกสีเงินในตอนนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของโครงสร้างในการป้องกันเมืองได้อย่างมาก แต่การทำเช่นนี้ในตอนนี้มันจะไม่คุ้มค่านัก เนื่องจากมันจะทำให้ทุกคนถูกเทเลพอร์ตออกจากเมืองไปทันทีในระหว่างขั้นตอนการอัพเกรด และนี่มันก็จะทำให้พวกเขามีเวลาไม่มากพอในการวางแผนการป้องกันเมืองแต่ละจุด ….
แถมมันยังมีความเสี่ยงที่กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint จะเข้ามาถึงเมืองก่อนที่เมืองจะถูกอัพเกรดเสร็จสิ้น ซึ่งหากเป็นแบบนั้น กองกำลังสภาสิบแปดปีกก็จะต้องรับมือกับกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint นับล้านโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงสร้างการป้องกันเมือง
ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ เมื่อเขาได้ทำการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวงเวทย์หลักของเมืองแล้ว ประสิทธิภาพของมันจึงจะมากกว่าวงเวทย์ของเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานมาก ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้น
มานาที่อาละวาดภายในห้องโถงเริ่มไหลเข้าสู่วงเวทย์หลักพร้อมกับมานาจากคริสตัลเวทย์มนต์ที่ถูกปล่อยออกมา จากนั้นวงเวทย์หลักก็จะทำการถ่ายเทพลังของมันไปยังวงเวทย์ต่างๆทั่วเมืองปีกสีเงินเพื่อเสริมพลังให้กับมัน
สามวงเวทย์ … หกวงเวทย์ … เก้าวงเวทย์ …
เมื่อวงเวทย์ของเมืองปีกสีเงินค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นทีละวง มานาโดยรอบเมืองก็เปลี่ยนไป
ในตอนที่วงเวทย์ของเมืองปีกสีเงินถูกเสริมพลังไปครึ่งหนึ่งแล้ว ชั้นหมอกสีแดงก็ปรากฎขึ้นเหนือเมือง และมันก็ทำการห่อหุ้มเมืองไว้อย่างสมบูรณ์
“เร็ว !! ดูนี่สิ !!! เหตุใดถึงมีชั้นหมอกสีแดงปรากฎขึ้นเหนือเมืองกัน ?!”
“เกิดอะไรขึ้น ? นี่เป็นฝีมือของสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?”
“มีความเป็นไปได้สูง มานาโดยรอบของเมืองนั้นดูเหมือนจะดุร้ายขึ้นเล็กน้อย และตราบใดที่เราใช้มานานี้ พลังของสกิลกับเวทย์ของเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน ซึ่งด้วยสิ่งนี้ เราน่าจะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นในการขับไล่กองทัพ Faux Saint”
….
ผู้เล่นในเมืองปีกสีเงินนั้นสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของมานาภายในเมืองอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันสมาชิกของทีมนักผจญภัยหลายคนที่เตรียมจะต่อสู้ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เมืองปีกสีเงินนั้นเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นเพียงไม่กี่แห่งในจักรวรรดิออร์คที่เปิดให้ผู้เล่นอิสระเข้ามาพักผ่อนได้ ดังนั้นผู้เล่นอิสระหลายคนจึงตัดสินใจที่จะสนับสนุนสภาสิบแปดปีกเพื่อต่อต้านกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ที่กำลังใกล้เข้ามา นอกจากนี้สภาสิบแปดปีกยังได้สร้างระบบการสนับสนุนสำหรับผู้เล่นที่เข้าร่วมในการป้องกันเมือง ซึ่งด้วยระบบนี้ ผู้เล่นจะสามารถสะสมคะแนนผ่านการป้องกันเมืองและนำคะแนนไปแลกรางวัลได้ ดังนั้นมันจึงยิ่งทำให้มีผู้เล่นอิสระจำนวนมากเลือกจะอยู่และต่อสู้เพื่อเมืองปีกสีเงิน
“ดูเหมือนว่าแบล๊คเฟรมจะยังเตรียมการป้องกันเมืองไม่เสร็จสิ้นสินะ ….” อิลูซะรี่เวิร์ดซึ่งปัจจุบันยืนอยู่บนกำแพงเมือง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นชั้นหมอกสีแดงปรากฎขึ้นเหนือเมือง
หลังจากได้เห็นการแสดงก่อนหน้านี้ของซือเฟิงที่ฆ่า Faux Saint Devourer ไป จักรพรรดิคริมสันก็ได้ตัดสินใจที่จะเทหมดหน้าตักเพื่อช่วยสภาสิบแปดปีกปกป้องเมืองปีกสีเงิน อย่างไรก็ตามอิลูซะรี่เวิร์ดก็ไม่ได้รู้สึกมั่นใจในความสำเร็จมากนักเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วมอนสเตอร์ Faux Saint มันมีจำนวนมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่มอนสเตอร์ Faux Saint ที่อ่อนแอที่สุดก็ยังอยู่ในระดับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาน่าจะสามารถทำได้มากที่สุดก็คืออดทนต่อการโจมตีของมอนสเตอร์ Faux Saint
ใช่แล้ว !!
อดทน !!
ด้วยกองกำลังในปัจจุบันที่พวกเขามี การขับไล่กองทัพ Faux Saint คงเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาทำได้คืออดทนเท่านั้น
โชคดีที่ซือเฟิงได้ฆ่ามอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยาย อย่าง Faux Saint Devourer ไปแล้ว ดังนั้นกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ที่จะเข้ามาโจมตีพวกเขาในครั้งนี้นั้น พวกที่แข็งแกร่งที่สุดจึงน่าจะอยู่ในระดับแกรนลอร์ดเท่านั้น ซึ่งวงเวทย์ป้องกันของเมืองปีกสีเงินนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆในการจะต้านทานการโจมตีของแกรนลอร์ดเหล่านี้ ในขณะเดียวกัน หากพวกเขาสามารถเติมพลังงานให้กับวงเวทย์ป้องกันเมืองได้เรื่อยๆ กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ก็ไม่น่าจะสามารถย่างกรายเข้าเมืองได้แม้แต่ก้าวเดียว
ซึ่งด้วยสติปัญญาและความชาญฉลาดของมอนสเตอร์ Faux Saint พวกมันจะไม่ยอมเสียเวลาอยู่กับงานๆเดียวมากเกินไปแน่นอน และหลังจากเห็นว่าพวกมันไม่สามารถจะฝ่าการป้องกันของเมืองเข้ามาได้เป็นเวลาหลายวัน พวกมันก็จะถอยกลับไปเองโดยธรรมชาติ
“ดูเหมือนว่าแบล๊คเฟรมจะยังคงมีลูกเล่นเหลือให้ใช้อยู่เล็กน้อย เขาสามารถทำให้มานาในเมืองบ้าคลั่งได้จริงๆ และด้วยเรื่องนี้ความแข็งแกร่งของวงเวทย์ป้องกันเมืองก็น่าจะเพิ่มขึ้นไม่น้อย”
“แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่คิดว่าวงเวทย์ป้องกันเมืองปีกสีเงินจะสามารถป้องกันกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ได้นานนักนะ คุณก็รู้นี่ว่ากองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint แบบนี้เคยทำลายเมืองขนาดใหญ่ของ NPC มาก่อน ดังนั้นเมืองกิลจะไปสามารถทนกองทัพแบบนี้ได้นานได้ยังไงกัน ?”
สมาชิกของมหาอำนาจที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองต่างพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เช่นกัน และพวกเขาก็คิดว่าซือเฟิงนั้นโง่มาก เพราะแม้ว่าวงเวทย์ป้องกันเมืองปีกสีเงินจะแข็งแกร่งขึ้น แต่มันก็ยังคงมีขีดจำกัดในด้านพลังงานอยู่ดี
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของ Faux Saint Destroyers ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับแกรนลอร์ดหลายหมื่นตัวพร้อมกัน พลังงานสำรองรวมไปถึงพลังงานทั้งหมดของวงเวทย์ป้องกันเมืองจะทนได้นานแค่ไหนกัน ?
แม้แต่วงเวทย์ป้องกันของเมือง NPC ขนาดใหญ่ก็ยังพังลงอย่างรวดเร็ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ของมอนสเตอร์ Faux Saint ในความเป็นจริง เมือง NPC ขนาดใหญ่หลายแห่งนั่นก็มีทหาร NPC เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ ไปจนถึงหนึ่งร้อยแปดสิบจำนวนมากคอยป้องกันอยู่ แถมนี่ยังไม่นับรวมผู้ปกครองเมืองขั้นสามหรือสี่ที่แข็งแกร่งด้วย แต่ในท้ายที่สุดมอนสเตอร์ Faux Saint ก็ยังคงสามารถระบายพลังงานทั้งหมดของวงเวทย์ป้องกันเมืองออกไปได้อย่างรวดเร็วและทำลายเมืองลงไปได้
….
หลังจากการเปลี่ยนแปลงของเมืองปีกสีเงินไม่นาน ข่าวคราวก็ไปถึงเมืองมังกรไฟ ในจักรวรรดิมังกรไฟอย่างรวดเร็ว
“น่าสนใจจริงๆ เมื่อคิดว่าเขาสามารถทำแบบนี้ได้ มันก็แปลว่าเขาไม่ได้ยั่วยุมอน
สเตอร์ Faux Saint และมือแห่งนักบุญโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลังสินะ …” รอยยิ้มเยาะปรากฎขึ้นบนใบหน้าของโคลท์ชาโด้ว เมื่อเธอได้อ่านรายงานที่พึ่งได้รับมา “แต่ช่างน่าเสียดาย เรื่องนี้อาจก่อปัญหาให้กับมอนสเตอร์ Faux Saint และมือแห่งนักบุญอย่างหนัก หากเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว และเดี๋ยวเขาก็จะได้เห็นเองว่าทุกอย่างที่เขาพึ่งทำไป มันไร้ประโยชน์”
หลังจากที่โคลท์ชาโด้วพูดจบ เธอก็หันไปจ้องมองวีดีโอที่กำลังสตรีมถ่ายทอดสดตรงหน้าเธอ
ซึ่งในสตรีมสดที่กำลังถ่ายทอดอยู่นี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ที่กำลังเดินทัพไปยังเมืองปีกสีเงิน และปัจจุบันกองทัพนี้ก็อยู่ห่างจากเมืองปีกสีเงินไม่เกินห้าพันหลาแล้ว และจากสิ่งที่เธอเห็นนั้น เธอสามารถบอกได้เลยว่ามันมี Faux Saint Destroyers อยู่ในกองทัพนี้มากกว่าหนึ่งแสนตัว ซึ่งมันมากกว่าการประมาณการเริ่มต้นของหลายฝ่ายถึงสองเท่า
ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจาก Faux Saint Destroyers แล้ว มันยังมีร่างขนาดมหึมาอีกจำนวนหนึ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางกองทัพนี้ ซึ่งมอนสเตอร์ Faux Saint จำนวนมากก็ได้มารวมตัวกันรอบๆร่างขนาดมหึมาเหล่านี้
ในขณะนี้เองไวท์เฟเธอร์ก็ได้เดินเข้ามาในห้อง VIP ที่โคลท์ชาโด้วนั่งอยู่ และกล่าวด้วยความเคารพว่า “รองหัวหน้ากิล ตัวแทนของมหาอำนาจต่างๆได้มาถึงแล้ว เราควรไปกันเลยไหม ?”
“อืมม ไปกันเลย …” โคลท์ชาโด้วพยักหน้า จากนั้นเธอก็ตัดการเชื่อมต่อสตรีมสดนี้ และออกจากร้านอาหารสกอร์ชชิ่งเฟรม
….
ในขณะเดียวกันผู้เล่นที่ยืนเฝ้าอยู่บนกำแพงเมืองปีกสีเงินก็ล้วนตกตะลึง เมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้าของพวกเขา
“นี่ …. เป็นไปได้อย่างไร ….”
“ไม่ !! นี่ไม่ใช่เรื่องจริง !! นี่ต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ !!”
เมื่อผู้เล่นที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองได้มองไปที่กองทัพขนาดใหญ่เบื้องหน้าพวกเขา ความกลัว ความสิ้นหวัง และความลังเลใจก็เข้าครอบงำพวกเขา
แปดตัว !!
มันมี Faux Saint Devourers แปดตัวที่เป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเดินทางมาด้วยในกองทัพนี้
“นี่คือความแข็งแกร่งที่มือแห่งนักบุญพึ่งพามาตลอดงั้นหรอ ?”
อิลูซะรี่เวิร์ดที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมาเช่นกัน เมื่อเธอได้เห็น Faux Saint Devourers แปดตัว
เธอนั้นคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่ามือแห่งนักบุญได้ซ่อนไพ่บางอย่างเอาไว้ ไม่งั้นพวกเขาคงจะไม่มีความมั่นใจที่จะมาปฎิบัติการอยู่ใกล้ๆและรอบเมืองปีกสีเงิน และไม่งั้นพวกเขาก็คงจะไม่ยอมให้มอนสเตอร์ Faux Saint Devourers ที่เป็นมอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายตกอยู่ในความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่คิดเลยว่ามือแห่งนักบุญจะสามารถสร้าง Faux Saint Devourers ได้แปดตัวแล้ว !!!
ในขณะนี้แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังตกตะลึงกับสถานการณ์นี้
แข็งแกร่งมากๆ !!
กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint กองทัพนี้ไม่เพียงแต่จะมี Faux Saint Destroyers มากกว่าหนึ่งแสนตัว แต่มันยังมี Faux Saint Devourers อีกแปดตัวด้วย ซึ่งด้วยพลังแบบนี้นั้น ไม่ต้องพูดถึงการทำลายเมืองปีกสีเงินเลย แม้แต่การทำลายเมืองหลักของ NPC อีกสักแห่งในอาณาจักรสตาร์มูนก็จะไม่เป็นปัญหาใดๆ เพราะท้ายที่สุดภัยคุกคามที่แท้จริงในเมืองหลักของ NPC นั่นก็คือ ผู้ปกครองเมืองที่มักจะมีขั้นสี่ และมีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ สำหรับ NPC ขั้นสอง และสามคนอื่นๆนั้น พวกนี้อาจจะเป็นปัญหาบ้าง แต่มันก็ไม่มากนักแน่นอน
….
ในเวลาเดียวกัน มันก็มีผู้เล่นหลายพันคนที่มีตราสัญลักษณ์ของมือแห่งนักบุญติดอยู่ที่หน้าอกกำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าห่างจากเมืองปีกสีเงินหลายพันหลา ซึ่งในหมู่พวกเขานั้นผู้เล่นนักเวทย์ราวหนึ่งพันคนก็กำลังวาดวงเวทย์ขนาดมหึมาและซับซ้อนที่ดึงมานาโดยรอบเข้ามารวมกันอย่างต่อเนื่องจนความหนาแน่นของมานาในบริเวณโดยรอบลดลง
“แบล๊คเฟรม !!! ฉันจะแสดงให้คุณเห็นว่าการกระทำครั้งก่อนของคุณนั้นโง่เขลาแค่ไหน และทำให้คุณเสียใจกับทุกสิ่งที่ทำไป !!!” เธ้าซั่นอายผู้ซึ่งตอนนี้ดูอ่อนแอมากๆ ได้หัวเราะเยาะออกมา ขณะที่เขามองไปยังเมืองปีกสีเงินที่แสดงผ่านกระจกเวทย์มนต์ “ไม่สิ ฉันควรจะบอกว่าคุณไม่มีเวลาเสียใจหรอก !!! เมืองปีกสีเงินจะกลายเป็นฝุ่นก่อนที่คุณจะรู้ตัวอีก !!!”
….
ในขณะเดียวกันภายในคฤหาสลอร์ดผู้ปกครองเมืองปีกสีเงิน ในขณะที่ซือเฟิงกำลังตรวจสอบพลังของวงเวทย์ต่างๆรอบเมืองอยู่ ยู่หลานก็พุ่งเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว และเป็นกังวลมากๆ
“หัวหน้ากิลตามข้อมูลที่เราได้รับมาจากบริเวณกำแพงเมือง มันมี Faux Saint Destroyers มากกว่าหนึ่งแสนตัวอยู่ในกองทัพนี้ แถมยังมี Faux Saint Devourers อีกแปดตัวด้วย ….” ยู่หลานพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว ขณะที่มองไปยังซือเฟิง
มันอาจจะดีถ้าในครั้งนี้มี Faux Saint Devourers แค่หนึ่งหรือสองตัวปรากฎขึ้นในกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint กองทัพนี้ เพราะในเวลานั้นพวกเขาจะสามารถให้เคร็ก มิดแลนด์ จัดการได้ อย่างไรก็ตามการปรากฎตัวของมอนสเตอร์ Faux Saint Devourers แปดตัว มันทำให้แผนของพวกเขายุ่งเหยิงไปอย่างสิ้นเชิง และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของ Faux Saint Devourers จำนวนมากขนาดนี้ ต่อให้ซือ
เฟิงกลายร่างเป็นมังกรดำอีกคน สถานการณ์มันก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
“พวกนั้นมาถึงแล้วงั้นหรอ ?” เมื่อเห็นหน้าตาที่เต็มไปด้วยความกังวล และหวาดกลัวของยู่หลาน ซือเฟิงก็กล่าวอย่างใจเย็นว่า “งั้นไปดูกันเลยดีกว่า ….”